สวัสดีค่ะ หายหน้าหายตาไปนาน วันนี้ กลับมาแล้วนะคะ


รีวิวนี้ เป็นรีวิวแรกของปี 2560 รีวิวนี้ จะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวรอบๆ เกาะสีชัง

แล้วนอนค้างที่ ปารีฮัท รีสอร์ท เกาะสีชัง กัน 1 คืน



รีวิวฉบับที่ 45 ( Vol.45) แวะให้กำลังใจ ทราย ทาง Facebook " S Travel My Story " ตามลิงค์ ข้างล่างนะคะ

https://www.facebook.com/pages/S-Travel-My-Story/310289235793445

หมายเหตุ : SR เฉพาะที่พักนะคะ เนื่องจากร่วมกิจกรรมหน้าเเฟนเพจของ " ปารีฮัท รีสอร์ท เกาะสีชัง "

แล้วได้รางวัล ห้องพัก 1 ห้อง / 2 คนพร้อมอาหารเช้า

ส่วนที่เหลือ เสียเงินเองตามปกติค่ะเธอ เธอ เธอ ไปเที่ยว "เกาะสีชัง" กับเราไหม???

เราจะพาเธอ นั่ง "รถสกายแลป" เที่ยวรอบๆ เกาะ หาของอร่อยๆ ทาน แล้วเราไปนอนที่ ปารีฮัท รีสอร์ท กันสักคืน

ค่ำๆ ออกมาหาของอร่อยๆ ทาน ที่ร้าน ร้านไอทะเล ณ เกาะสีชัง ก่อนเข้าที่พัก เราจะพาไปชม ประภาคาร ไฟ 7 สี

แล้วขึ้นไปชมวิวเกาะสีชัง ยามค่ำคืน กัน ก่อนกลับเข้าฝั่ง เราจะพาเธอไปทานพิซซาอร่อยๆ ที่ Somewhere เกาะสีชัง ...

(ประโยคชักชวนเพื่อนสาวให้ร่วมเดิมทางด้วย เนื่องจากเดินทางกัน 2 คนแม่ลูก อยากหาเพื่อนช่วยหารค่าเดินทาง กับค่าอาหาร .... อิอิ)



การเดินทาง

จาก กรุงเทพฯ นั่ง BTS ไปลง สถานี เอกมัย >>> เดินไปสถานีขนส่งเอกมัย

เราเลือกใช้บริการรถตู้ ค่ารถ 100 บาท/คน ปลายทางของเราคือ "ห้างโรบินสัน สาขาศรีราชา"

ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

หลังจากนั้น นั่งรถตุ๊กๆ หรือมอเตอร์ไซค์ ไปที่ "ท่าเรือจรินทร์" เนื่องจาก "ท่าเรือเกาะลอย" ปิดปรับปรุงค่ะ

"เกาะสีชัง" ตั้งอยู่ในอ่าวไทย นอกชายฝั่งอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี


"เกาะสีชัง" มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะเป็น สถานที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินถึง 3 พระองค์ คือ รัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5

และรัชกาลที่ 6

เห็นประภาคารสวยๆ แบบนี้ แปลว่าถึงแล้วค่ะ ...

การเดินทางภายในเกาะ เราใช้บริการ "รถสกายแลป" ค่ะ ค่าบริการโดยทั่วไปสำหรับ ผู้ที่ไปเช้าเย็นกลับ ก็ 250 บาท

รถจะพาเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเกาะ จำนวน 4 แห่งค่ะ

แต่สำหรับทริปนี้ เราค้างที่เกาะ 1 คืนค่ะ เราเลยเหมารถ 2 วัน ค่าบริการ 550 บาท ค่ะ

สถานที่ท่องเที่ยวที่แรกที่เราจะไปกันวันนี้ คือ


"หาดถ้ำเขาพัง" ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของเกาะ มีลักษณะเป็นป่าวโค้งมีชายหาดกว้าง ทรายละเอียด น้ำใสสะอาด เหมาะแก่การเล่นน้ำ

"หาดถ้ำเขาพัง" เท่าที่สังเกตุ เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ เยอะพอสมควร บางคนก็นอนอาบแดด บางคนก็เล่นน้ำ


นอกจากนั้น "หาดถ้ำเขาพัง" มีร้านอาหารบรรยากาศดีๆ ให้เลือกหลายร้านเลยค่ะ


อิ่มแล้ว ก็ออกสำรวจกันต่อค่ะ ด้านบนจะเป็นจุดชมวิวค่ะ จากมุมนี้ สามารถมองเห็น วิว "หาดถ้ำเขาพัง" จากมุมสูงได้ค่ะ
วิวมุมสูง "หาดถ้ำเขาพัง"
เดินสำรวจจนเหนื่อย เราก็โทรเรียก "รถสกายแลป" ให้มารับค่ะ
สถานที่ที่ 2 "พระจุฑาธุชราชฐาน"


เนื่องจาก ในอดีต รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชฐานบน "เกาะสีชัง" ขึ้นเป็นแห่งแรก เพื่อเป็นสถานที่ประทับในฤดูร้อน

และพระราชทานนามว่า "พระจุฑาธุชราชฐาน" ตามพระนามพระราชโอรสที่ประสูติบนเกาะสีชังแห่งนี้ ค่ะ

"เรือนไม้ริมน้ำ (เรือนเขียว)"


ในอดีต รัชกาลที่ 4 ทรงโปรดเสด็จมายังเกาะสีชัง เป็นประจำโดยเรือกลไฟ และทรงประทับแรมบนเรือพระที่นั่ง

โดยไม่ได้สร้างพลับพลาที่ประทับ แต่ในเวลานั้น ก็มีเรือนไม้พักผ่อนริมทะเล ปลูกสร้างอยู่แล้ว คือ "เรือนเขียว"

ปัจจุบัน ได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเป็นร้านกาแฟ ไว้บริการนักท่องเที่ยว ค่ะ

"เรือนผ่องศรี" เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติ และประวัติบุคคลผู้มีบทบาทสำคัญกับเกาะสีชังในอดีต


เดินมาเรื่อยๆ เพื่อนๆ จะพบกับ ฐานของ "พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์"


ซึ่ง ได้มีการรื้อถอน และย้ายมาไว้ ณ พระราชวังดุสิต หรือ "พระที่นั่งวิมานเมฆ" ในปัจจุบันค่ะ

เดินชมวิวมาเรื่อยๆ ค่ะ


สะพานไม้สีขาว ที่ทอดยาวออกไปกลางทะเล ดูแล้วสวยงามยิ่งนัก คือ "สะพานอัษฎางค์" ค่ะ


สะพานอัษฎางค์" เป็นสะพานที่ รัชกาลที่ 5 ทรงใช่เป็นท่าขึ้นเทียบเรีอ หลังจากที่เสด็จประพาสฝรั่งเศส
** ภายในบริเวณ "พระที่นั่งจุฑาธุชราชฐาน" ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกมากมายหลายที่เลยค่ะ


อยากแนะนำให้เพื่อนๆ เผื่อเวลาไว้เยอะๆ นะคะ

** ขออนุญาต บุคคลทั้งสองท่าน ที่ติดอยู่ในภาพนะคะ
สถานที่ต่อไปค่ะ "ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่"

"ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่" ตั้งอยู่บนเขาห่างจาก


ท่าเรือเทวงศ์ ไปทางด้านเหนือของเกาะ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือ

"ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่" มีลักษณะเป็นถ้ำดัดแปลงเป็นศาสนสถาน


จากบริเวณ "ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่" เพื่อนๆ สามารถมองเห็นวิว ด้านหน้า "เกาะสีชัง" ได้ชัดเจน ค่ะ


สถานที่ที่ 4 "ช่องเขาขาด" ตั้งอยู่ด้านหลังของ "เกาะสีชัง"


"ช่องเขาขาด" มีสะพานที่ทอดยาวยื่นออกไปยังแหลมให้เดินชมวิว รวมทั้งสามารถชนพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงาม


"ช่องเขาขาด" มีหาดหินกลม ซึ่งเต็มไปด้วยหินกลมๆ ขนาดต่างๆ มากมาย ค่ะ


หลังจาก ตะลอน ตะลอนกันมาทั้งวัน คืนนี้ เราจะพักกันที่ ปารีฮัท เกาะสีชัง ค่ะ


และนี่ หน้าตา "รถสกายแลป" พาหนะที่พาเราเที่ยวในทริปนี้ค่ะ ติดต่อเช่ารถเที่ยวรอบเกาะ

"คุณเมย์" 081-7580869

ถึงแล้วค่ะ ที่พักของเราคืนนี้


ที่พักสุดฮิพ บน "เกาะสีชัง" ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ "คุณนุช 091-5149156

ภายในห้องพักค่ะ ห้องนี้ จะกว้างหน่อย นอนกัน 3 คน ตัวใหญ่ ๆ กันทั้งนั้น ... อิอิ


ห้องน้ำ ไฟจะไม่ค่อยสว่างสักเท่าไร แต่ทางรีสอร์ท มีตะเกียงไฟฟ้าไว้ให้ค่ะ


บรรยากาศรอบๆ รีสอร์ทค่ะ เดินสำรวจไปเรื่อยๆ


มีสระว่ายน้ำด้วยนะคะ


เพลินมากมายค่ะ เดินไป เดินมา ฟ้ามืดไปเฉยเลย


เสียใจมาก ว่าจะมาเก็บพระอาทิตย์ตกที่นี่สักหน่อย ดวงไม่ดีจริงๆ ... 555
หิวแล้ว ก็ออกไปหาอะไรทานกันดีกว่า ทริปนี้ เราเหมา "รถสกายแลป" ไว้ค่ะ

เราให้พี่เขาเพิ่มพิเศษให้ ราคาอยู่ที่ตกลงกันนะคะ

" ร้านไอทะเล เกาะสีชัง" เป็นร้านอาหารที่ พี่เมย์ (คนขับรถสกายแลป) แนะนำค่ะ

เมนูไข่เจียวกุ้ง ไข่เจียวฟู อร่อยดีค่ะ

เมนูน้ำพริกไข่ปู


เมนูลาบทะเล


ไฮไลท์ ช่วงค่ำคืนของ " เกาะสีชัง " ค่ะ เรายอมเสียเงินค่ารถเพิ่มเพื่อสิ่งนี้เลยค่ะ ....


" ประภาคาร 7 สี " ดูแล้ว ชอบจัง (อาจเก็บไม่ไม่ครบนะคะ เพราะมีบางสีที่เปลี่ยนเร็วมากมาย)

หลังจากนั้น พี่เมย์ พาพวกเราขึ้นไปชม วิวมุมสูง ยามค่ำคืนของ " เกาะสีชัง "


ถ่ายจากด้านบน "มณฑปรอยพระพุทธบาท" ค่ะ แอบเสียดายที่ไม่ได้ขึ้นมาตอนกลางวัน

เนื่องจากจุดนี้ ไม่ได้อยู่ใน 4 จุด ที่ " รถสกายแลป " จะพาเที่ยวค่ะ



** ถ้าใครจะขึ้นมาตอนกลางคืน แนะนำให้พกไฟฉายไปด้วยนะคะ และให้มากับคนพื้นที่จะดีที่สุดค่ะ เพราะด้านบนไม่มีไฟเลย มืดมากกกกกก

นอนหลับสนิทมากมายค่ะ เช้านี้ ตื่นมาก็อาบน้ำแต่งตัว ไปหาอะไรทานกันดีกว่า


บรรยากาศ ทางเข้า - ออก รีสอร์ทค่ะ


ก่อนไปขึ้นเรือ เราขอแวะที่ Somewhere เกาะสีชัง ค่ะ


จริงๆ ตอนแรก เรากะว่าจะค้างที่นี่อีกคืน แต่ดันติดธุระ เลยขอแวะทานขนมก่อนแล้วกัน

และโอกาสหน้าค่อยมาค้างที่นี่ ตั้งใจไว้แบบนั้นนะคะ

ในที่สุด ก็ถึงท่าเรือค่ะ


ซื้อตั๋วแล้ว เตรียมตัวกลับ กทม. ค่ะ


หลังจากลงเรือที่ท่าจรินทร์ เพื่อนๆ จะเจอรถรับจ้างจอดรอค่ะ


ต่อลองราคากันได้เลยนะคะ เรามา 3 คน คุณลุงคนขับตุ๊กๆ คิดคนละ 20 บาท

เรานั่งมาลง ที่ " โรบินสัน ศรีราชา " เหมือนตอนขามาค่ะ

แล้ว ก็ขึ้นรถตู้ที่นั่นได้เลย มาลงสถานีขนส่งเอกมัย เหมือนตอนขาไปเลยค่ะขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ



S Travel My Story

 วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 15.34 น.

ความคิดเห็น