บุปเฟ่ อาหารทะเล เติมไม่อั้นทั้ง3มื้อ ในราคาหัวละ 1500 บาท รวมที่พักเป็นบ้านไม้ ที่ล้อมลอบไปด้วยป่าชายเลน

ด้วยอากาศที่แสนจะบริสุทธิ์ ชมวิถีชีวิตชาวประมงที่ออกเรือลำน้อยๆมาหาทุกอย่างในผืนน้ำแห่งนี้ สัญญานโทรศัพท์มีบ้างไม่มีบ้าง ทำให้บางค่ายต้องตัดขาดจากโลกภายนอก วางมือถือแล้วมาสัมผัสกับธรรมชาติอย่างถ่องแท้

ปล.ที่นี่ ทรูมูฟ แรงครับ

พวกเรามากัน 6คน ในราคาหัวละ 1500 บาท มาถึงที่ขลุงริเวอร์วิว ในเวลา เกือบ6โมงเย็น พระอาทิตย์กำลังหายไป เราใช้ GPS นำทาง ขับมาตามเส้นเลียบชายทะเล หาดแหลมสิงห์ขับผ่านโฮมสเตย์ที่พวกเราเจอใน Internet มากมาย ซึ่งอยู่ติดถนน ยังไม่เข้าถึงธรรมชาติเท่าที่ควร ตอนแรกเราก็คิดว่าขึ้นชื่อว่าโฮมสเตย์ จันทรบุรี กี่ที่ๆ ก็คงคล้ายๆกัน แต่ๆๆ

แต่เมื่อเดินทางมาถึงที่ ขลุงริเวอร์วิว มันแตกต่างจากที่อื่น โฮมสเตย์นี้อยู่ในป่า ป่าชายเลน เดินทางไม่ได้ลำบาก โฮมสเตย์จะให้เช็คอินตอนเที่ยง แต่เรามาช้า ช้ามากๆๆ มาถึงเกือบ6โมงเย็น ทางโฮมสเตย์ก็เลื่อนมื้อกลางวันของวันนี้ ไปเป็นตอนเที่ยงพรุ่งนี้แทน

บรรยากาศยามเย็น มันช่างเงียบสงบ มีลมพัดเบาๆก็เพียงพอ ไม่ต้องมีแอร์ ไม่ต้องเปิดพัดลม ไม่มีแม้แต่ยุง ซื้อยาทากันยุงมา3ห่อ ไม่ได้ใช้เลย

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการตกปลา คงต้องเตรียมอุปกรณ์มาเอง เพราะทางโฮมสเตย์ ไม่มีให้นะครับ ปลาในบ่อนี้เยอะมากๆ บ่อนี้เป็นของโฮมสเตย์ ถ้าตกปลาได้ก็ต้องเอาให้ทางโฮมสเตย์ แต่จะมีบ่อธรรมชาติด้านหลัง ถ้าตกในบ่อนั้นได้เอากลับบ้านได้เลยครับ

มานั่งรอที่โต๊ะอาหาร ประมาณ 18.30 สิ่งที่ทำให้อยากมาที่นี่จริงๆคงจะเป็นเพราะอาหารทะเลในมือเย็น คิดถึง ปู กุ้ง ที่เติมได้ไม่อั้น แต่ครัวปิด20.30นะครับ เดี๋ยวนะ ตอนแรกพวกเราก็คิดว่าปิด 20.30 เองหรอ ไวไปป่าว เราจึงรีบจัดการกับกองทัพปู กุ้ง ให้ไวที่สุด ปูในถาดวนเวียนกันมาเรื่อยๆ 4-5ถาด ปู กุ้งคงจะรสชาติ กร่อยๆถ้าขาดน้ำจิ้มซีฟู๊ด น้ำจิ้มที่นี่เด็ดมากครับ เติมแล้วเติมอีก พอๆกะเติมปูเลย 5555 เวลาผ่านไปซัก 20.00 อืมมม เริ่มอิ่ม แล้วก็คิดได้ว่า เวลาแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แต่สามารถนั่งดื่ม นั่งคุยกันต่อได้จนกว่าจะมีใครตายไปข้างนึง

ส้มตำ ตำเองปรุงเอง เอาตามที่ชอบกันเลยฮะ

ตั้งนาฬิกาปลุก เพื่อมารอเก็บภาพพระอาทิตย์ ได้มา1ภาพนี้

ต้องขอตัวไปนอนต่อ 5555 เมื่อคืนเราขนเสบียงกลับมากินที่ห้อง เลิกดึกไปหน่อย แต่ห้ามนำอาหารกลับมานะ น้ำแข็งฟรี น้ำเปล่า น้ำอัดลม ฟรีตลอดทริป แต่โซดาต้องซื้อครับ

เช้าแล้วจัดกันต่อเลย บรรยากาศแบบนี้หาไม่ได้จากในเมือง ซึมซับกับมันให้มากที่สุด สูดอากาศเข้าไปให้เต็มปอด

มีเสียง ก๊อก ก๊อก ก๊อก ดังที่ประตู พร้อมเสียงตะโกนว่าอาหารเช้าพร้อมแล้วค๊าาาา

ว้าวววว นึกภาพไป ข้าวต้มเนื้อปลากระพง กุ้ง มาพร้อมกับ ผัดไทเส้นจันใส่ปู

ไม่ค่อยประทับใจ ผัดไทเส้นจันซักเท่าใหร่ ก็แล้วแต่คนชอบนะครับ หันไปเบิ้ลข้าวต้ม เนื้อปลากระพงแบบเต็มๆคำ มื้อนี้ก็เป็นบุปเฟ่ นะครับ เบิ้ลได้ๆ

หนังท้องเริ่มตึง จึงเดินชิลๆ ไปอย่างช้าๆ สอดส่องบรรยากาศของโฮมสเตย์แห่งนี้

และเมื่อนักตกปลาผู้ไม่ยอมแพ้ จะต้องได้ปลามาประดับบารมีของคันเบ็ดให้ได้

เฮ้ๆๆๆ ในที่สุด ปลาที่ว่าแน่ๆ ยังคงต้องยอมแพ้ต่อคันเบ็ดเพชรฆาต

มาถึงมือเที่ยงที่เราเลื่อนมาจากเมื่อวาน เช่นเคย ทุกมื้อของที่นี่ เติมได้ตลอด พวกเราก็จะไม่ทำให้ทางโฮมสเตย์เสียน้ำใจ ขอปลาอีกครับพี่ ของต้มยำอีกครับพี่ ฮ๊าๆๆ

ที่นี่ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกเยอะ แต่เนื่องจากพวกเรามาถึงกันเย็นมากๆ จึงพลาดกิจกรรมไป แต่ก็ไม่ได้เสียดายอะไร เพราะที่ได้มานี้ มันคุ้มเกินคุ้มจริงๆ ในราคา 1500 บาท

กิจกรรมที่ทางโฮมสเตย์ลงไว้ครับ

- อาหารทะเล "ทานไม่อั้น!!" เต็มอิ่ม จำนวน 3 มื้อ

- ที่พักบรรยากาศธรรมชาติ ๆ ลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งวัน
- นั่งเรือชมหมู่บ้านไร้แผ่นดิน ดูวิถีชีวิตชาวทะเล
- มีเรือ ไว้บริการให้พาย
- สถานที่ สำหรับเล่นน้ำ พร้อมเสื้อชูชีพ
- มีสถานที่ให้ท่าตกปลา มีเหยื่อให้
- พาไปให้อาหารเหยี่ยว ดูเหยี่ยวแดง
- พาไปดักปู
- พานั่งแพเปียก ชมธรรมชาติป่าชายเลน
- พาไปดูหมู่บ้านไร้แผ่นดิน
- พาดูหิ่งห้อย





ความคิดเห็น