ตอนที่แล้วหนูเล็กพาตัวเองไปพบกับบรรยากาศโรแมนติกจนเกินทน ต้องรีบหันหลังกลับที่พัก
แต่เหตุผลจริงๆ คือมีนัดกับแขกคนสำคัญเพื่อจะพากันไปเที่ยวเกาะใกล้เคียงเวนิส ก็เลยต้องเร่งฝีเท้ากลับมาตามนัดค่ะ
การเดินทางสู่เกาะ Murano ของพวกเราเตรียมการกันไว้เป็นที่เรียบร้อยด้วยการซื้อบัตร One day pass ตั้งแต่เมื่อวานนี้ อุตส่าห์อดใจไม่ใช้เก็บเอาไว้ใช้วันนี้ เพราะมีโปรแกรมวันนี้เดินทางไกลกว่าเยอะค่ะ
บัตรเดินทางของเราวันนี้ค่ะ
ต้องอธิบายให้เข้าใจก่อนว่าสำหรับการเดินทางด้วยพาหนะต่างๆ ในเวนิส สามารถใช้บัตรนี้นั่ง water bus ได้ไม่จำกัดเที่ยว สามารถนั่งเรือไปเกาะ Murano และ Burano ได้ด้วย จะว่าไปแค่ไปเกาะ 2 เกาะนี้ก็คุ้มเกินคุ้มแล้ว เพราะนั่งเรือไปไกลพอควร จากนั้นกลับมานั่งเรือเที่ยวเล่นในเวนิสไปๆ มาๆ จากจุดนั้นจุดนี้ชมเมือง นั่งไปเลยค่ะได้จนมืดค่ำ คุ้มสุดๆ แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาซื้อตั๋วเดินทางทีละเที่ยวด้วย แสนสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวมาก
พร้อมที่ท่าเรือแล้วค่ะ
เริ่มออกเดินทางล่ะ
วันครึ้มฟ้าครึ้มฝนค่ะ
เกาะมูราโน (Murano) เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงเรื่องเครื่องแก้วมาก ผลิตภัณฑ์เครื่องแก้วจาก Murano โด่งดังไปทั่วโลก สมัยก่อนเกาะนี้เป็นเกาะธรรมดาที่มีรายได้จากการจับปลา การผลิตเกลือและการเป็นท่าเรือสำหรับค้าขาย ภายหลังผู้ปกครองของเวนิสเกิดหวาดกลัวขึ้นมาว่าจะทำให้เกิดไฟไหม้ เนื่องจากการเป่าแก้วต้องใช้ไฟในการหลอมแก้ว และบ้านบนเกาะเวนิสก็ทำจากไม้ทั้งนั้น ช่างเป่าแก้วจึงถูกไล่ให้มาอยู่ที่นี่จนถึงปัจจุบันนี้
เมื่อเราไปถึงเกาะ Murano เราเลือกไปลงที่ท่าเรือ Colonna ซึ่งจริงๆ เขามีท่าเรือหลายท่า ที่นิยมกันก็มักไปลงกันที่ท่า Faro เพราะจากท่า Faro จะมีถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยร้านรวงมากมาย แต่จากท่าเรือจุดนี้ก็สามารถเดินชมร้านขายเครื่องแก้วต่างๆ ไปได้เช่นกัน สินค้าแต่ละชิ้นสวยงามมากมาย งดงามเกินบรรยาย แต่นั่นก็หมายถึงราคาเกินบรรยายด้วยเช่นกัน
รูปสิงโตมีปีก
ภาพนี้บอกความเป็นมูราโนได้อย่างดีค่ะ
สวยงดงามทุกชิ้น
ประติมากรรมที่ทำจากแก้วค่ะ
พวกเราได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมโรงงานเป่าแก้ว Mazzega Glass Factory โดยการติดต่อของ Mr. Mariani จึงทำให้ไม่เพียงได้ชมแค่สินค้าต่างๆ ที่ทำจากเครื่องแก้วงามๆ แต่ยังได้ไปถึงหลังร้านที่พนักงานกำลังผลิตผลงานสวยๆ ได้เห็นขั้นตอนที่กว่าจะมาเป็นผลงานที่หน้าร้านให้ได้เลือกซื้อหา นับเป็นประสบการณ์ที่ดีอีกครั้งหนึ่งในชีวิต ทางร้านเชิญชวนให้ซื้อเครื่องแก้วในราคาพิเศษพร้อมมีบริการส่งทางเรือให้ด้วยอีก นับได้ว่าราคาถูกมากค่ะสำหรับราคาพิเศษที่ว่าเมื่อเทียบกับสินค้าที่เราจะได้มาเพราะเป็นของแท้ๆ จากเกาะมูราโนต้นตำรับจริงๆ แต่ลองนึกภาพว่าโคมแชนเดอเลียร์อันแสนสวยที่หนูเล็กหลงไหล เมื่อมาติดที่บ้านจัดสรรธรรมดาๆ คงไร้สง่าราศีในทันที รอให้นักท่องเที่ยวคนอื่นที่บ้านหรูๆ สวยๆ มาซื้อไปน่าจะเหมาะสมกว่า อย่าให้สินค้าเขาต้องหมองราคาลงเลย แค่เดินชมให้ตื่นตาตื่นใจก็พอแล้วว่างั้นไหมคะ
พวกเรายังคงสนุกกับการเดินชมสินค้าที่ทำจากการแก้ว มีทุกสิ่งจริงๆ ค่ะ ทั้งของใช้ ของประดับ สีสันสวยสดใส ช่วยให้วันฟ้าหม่นฝนพรำของมูราโนวันนี้ไม่รันทดหดหู่สำหรับพวกเราเกินไปนัก บ้านเมืองตึกรามบ้านช่องของที่นี่จะว่าไปค่อนข้างธรรมดา ดีว่ามาได้ผลงานเครื่องแก้วต่างๆ จึงทำให้นักท่องเที่ยวยังคงอยากมาเยี่ยมเยือนเพื่อจะได้ชมสินค้างามๆ จากแหล่งกำเนิดกัน
หากจะเอาสาระจากการเดินเที่ยวเล่นบนเกาะนี้คงจะไม่มีอะไรมากนัก เว้นแต่การแวะไปชมการเป่าแก้วตามโรงงานต่างๆ ก็จะได้เห็นขั้นตอนการผลิตที่ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้ผลงานสวยๆ มาสักชิ้น นอกนั้นแล้วสำหรับเกาะแห่งนี้ก็คงไม่มีอะไรน่าดึงดูดใจมากนัก
โบสถ์รูปทรงแปลกตา
เมื่อพวกเราเดินชมไปรอบๆ กันแบบลวกๆ เป็นที่เรียบร้อย ก็พากันเดินไปยังท่าเรือ Faro เพื่อนนั่งเรือต่อไปยังเกาะถัดไปที่ถือเป็นไฮไลท์ของวันนี้ค่ะ
นั่นคือเกาะ Burano ชื่อคล้ายๆ กัน แต่รับรองว่าเสน่ห์ทิ้งกันเลยทีเดียว ลงเรือไปด้วยกันค่ะ นั่งเรือไม่นานค่ะ เดี๋ยวก็ถึงแล้ว
แวะไปเยี่ยมชมภาพถ่ายจากการเดินทางและทักทายพี่ใหญ่กับหนูเล็กได้ที่
https://www.facebook.com/TravelWithPiyaiAndNoolek/
Piyai&Noolek
วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 21.43 น.