เมื่อน้ารูนชวนไปเดินป่าที่สตูล วันที่ 25-26/02/2016 เชก็รีบหาข้อมูลวันนี้เลย บรึ้ยยย!!!!!


ข้อมูลก็ไม่มีอีกแล้ว เพราะน้ารูนบอกเราจะเข้าไปเป็นคณะแรกๆ หัวกาหมิง พรมแดนมาเลย์ คาดว่าสภาพป่าชื้น ทาก ไปทางหลังน้ำตก วิวสวย ตั้งแค้มป์ริมลำธาร หาปลา เดินราว 8 กิโล มีลูกหาบ 4-5 คน

ทริปนี้ได้สมาชิกไปเดินป่าสตูลทั้งสิ้น 10 คน มี เช แม็กซ์ พี่แซม กุ้ง แทน เทิน นนท์ namo songgrig และน้ารูน (สตูล) ค่าใช้จ่ายในการเดินป่า หัวละ 1,000 บาท ไม่รวมค่าเดินทาง (ใครที่จะมาเดินป่าที่นี่ ติดต่อบังหมาด 084-8465480) บริการดูแลดีมากๆ เลยคะ สะพายเป้กับของส่วนตัวไปพอ อาหารการกินทุกมื้อ เขามีให้คะ



ช่างภาพ folk kamponsak sassadee ,danet bamrungtanakit,IamChe

การเดินป่าครั้งนี้เกิดจากการสนทนากับน้ารูนเพียงข้ามคืน ก็ได้รับคำยืนยันว่าโอเคร ตั้งทีมลงมาเดินได้เลย เพียงแค่นี้ก็เพียงพอให้ออกเดินละ เช ก็จัดการหาเพื่อนๆ ไปร่วมเดินด้วย หลังจากตกลงแผนการเดินทางและหาคนจบแล้วก็แยกย้ายกันไป เช ก็ไปเดินป่าของเช ในทริปอื่นๆ จนมาวันที่ใกล้ๆ จะเดินทางนี่แหละ ถึงได้มีเวลาหาข้อมูล และพึ่งรู้ว่าจังหวัดสตูลอยู่ไกลมาก



จังหวัดสตูล ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดทางด้านทิศตะวันตกของภาคใต้ของไทย ริมฝั่งทะเลอันดามัน มีอาณาเขตติดกับประเทศมาเลเซีย

พื้นที่ของจังหวัดทางด้านทิศเหนือ และด้านทิศตะวันออกเป็นภูเขาสลับซับซ้อน เทือกเขาที่สำคัญคือ เทือกเขานครศรีธรรมราช ซึ่งทอดตัวยาวลงจากทางทิศเหนือไปจดเทือกเขาสันกาลาคีรี ทำให้พื้นที่ของจังหวัดลาดเอียงไปทางด้านทิศตะวันตกและด้านทิศใต้ ลงสู่ทะเลอันดามัน มีที่ราบผืนแคบ ๆ ขนานไปกับชายฝั่งทะเล และมีป่าชายเลนตามแนวชายฝั่งทะเล จังหวัดสตูลไม่มีลำน้ำขนาดใหญ่ไหลผ่าน คงมีแต่ลำน้ำสั้น ๆ ที่มีต้นน้ำเกิดจากทิวเขาทางด้านทิศเหนือ และทิศตะวันออก

ภูเขาในเขตจังหวัดสตูล เป็นภูเขาที่อยู่ในทิวเขานครศรีธรรมราช และทิวเขาสันกาลาคีรี ภูเขาที่สำคัญพอประมวลได้ดังนี้

1. เขาวังหมัน เขาพ้อ

2.เขาจีน หรือบูเก็ตจีนา เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดสตูล ยอดเขาสูงประมาณ ๗๔๐ เมตร มีลักษณะเป็นทิวเขายาวเชื่อมต่อกับภูเขาอื่นอีกหลาย

3.เขาวังพะเนียด

____________________________________

4.เขากาหมิง อยู่ในเขตอำเภอควนกาหลง และอำเภอควนโดน ทอดยาวจากตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลงลงไปทางใต้ไปเชื่อมกับทิวเขาจีน ในเขตตำบลควนสตอ อำเภอควนโดน ยอดเขาสูง ประมาณ ๖๕๐ เมตร เป็นต้นกำเนิดของลำน้ำหลายสาย (เขาที่เราจะไป)



5.เขาค้อม เขาแดง

6.เขาเปรียง เขาแดง

ออกเดินทางเย็น วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 โดยรถโดยสารปรับอากาศ ส่วนวันกลับใช้บริการสายการบินนกเหลือง

18.30 น. รถโดยสารออกจากสายใต้ใหม่ ไปสอบถามมาว่าจะถึงละงูกี่โมง คนขับรถบอกว่า 9 โมงเช้า อะเฮื้อ!!!


นนท์ โดยสารไปก่อน รอบ 17.00 น. ส่วนคันของเราไปกัน 3 คน แม๊กซ์ เช แทน และเจ้าแทนก็ทำเรื่องวุ่น คือ คิดว่าขึ้นรถที่สายใต้เก่า เหลือเวลาอีก 2 นาทีรถจะออกแล้ว ไอ้บร้า

บขส 99 bkk -langu ราคา 646 บาท รถดีมาก มีเบาะนวดไฟฟ้าด้วย และด้านซ้ายจะมีช่องเสียบ USB สำหรับชาจไฟ

นั่งรถยาวนานจริงๆ น้ารูนบอกว่าถ้าถึงทุ่งหว้าให้โทหา แกจะมารับ

ถึงละงู ตอน 9.30 น. น้ารูนออกมารับ ที่จุดจอดรถ พี่แซม นนท์ ที่มาถึงก่อน ออกมารับด้วย

ถึงบ้านน้ารูน ที่ละงู (บ้านน้ารูนเปิดกิจการร้านอาหาร) ราว 9.50 น. มาถึงก็ทานอาหาร เปลี่ยนชุด ออกเดินทางต่อเลยคะ

10.30 น. ออกเดินทางจากบ้านน้ารูน จาก อ.ละงู ไปยัง อ.ทุ่งนุ้ย ระยะทาง (53.0 กม.) ผ่าน ทางหลวงชนบท อำเภอ ละงู 416 และ ถนนหมายเลข 4137

11.50 น. นำรถมาจอดที่กลุ่มท่องเที่ยวบ้านโตนปาหนัน โดยมีรองมนต์ชัย มาคอยต้อนรับ

12.20 น.นั่งรถปิคอัพออกจากกลุ่มท่องเที่ยวบ้านโตนปาหนันมายังจุดเดิน ทางเดินเริ่มต้นที่สี่แยกเหนือน้ำตกโตนปาหนัน

ทางช่วงแรกจะเป็นทางรถไม่กว้างนัก เป็นเนินไต่ระดับขึ้นไป เดินไปได้พอเหนื่อยก็ตัดลงหุบไปดูต้นไม้ยักษ์

เดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ สภาพป่าเขียว มีแหล่งน้ำตลอดแม้ในหน้าแล้ง

พี่หมาดหาสมุนไพรให้ดูหลายอย่าง ในภาพล่างพี่เขาเรียกมะแว้ง กลิ่นหอมๆ

มีต้นไม้ใหญ่เยอะทีเดียว และมีร่องรอยของต้นไม้ที่ถูกตัดเพราะเมื่อก่อนที่นี่เคยได้รับสัมปทานตัดไม้

เริ่มเจอทากแล้ว

เดินพอหอบ ก็แวะพัก

ทานขนมกันภาพแก ได้ยิยเจ้าแทนเรียกเย้วๆ ให้ไปกินแตงโม โห่ คิดว่าแตงโมจริงๆ


ส่วนภาพถัดมาพี่แซมกำลังอร่อยกับกล้วยทอดที่บังหมาดเอามาให้ชิม

ส่วนภาพสุดท้ายคือขนมพื้นบ้านทำจากแป้งรสชาติเค็มๆ ส่วนชื่อจำไม่ได้แล้ว

เดินป่าใต้ ดีตรงทีมีน้ำตลอด ป่าชุ่มชื้น ต้นไม้หลากหลายสานพันธุ์

เดินออกจากป่า ตัดเข้าทางสวนผลไม้ของชาวบ้าน

สวนผลไม้

เดินต่อมาก็จะถึงลานดินขาว


ดินขาว (แร่เคโอลิไนต์)ลักษณะดินขาวเนื้อเหมือนดินแต่สีขาว ถูกน้ำจะคล้ายดินเหนียวเป็นส่วนประกอบของดินเหนียวและหินดินดานเกิดจากการผุพังสลายของหินบางชนิด เช่น หินแกรนิต หินไรโอไลต์และหินทรายที่มีเฟลด์สปาร์อยู่ด้วย ดินขาวบริสุทธิ์มีสีขาว แต่มักมีสิ่งอื่นเจือปน ทำให้มีสีค่อนข้างเหลืองและพบดินขาวที่มีสีน้ำตาล เขียว หรือน้ำเงินบ้าง

นำไปใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผา เซรามิก ถ้วยชาม เครื่องสุขภัณฑ์ที่สวยงาม เครื่องกระเบื้องโมเสดลวดลายแปลกตาหลายชนิดน่าใช้ไม่แพ้ที่ผลิตจากต่างประเทศ และดินขาวยังสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเคมี ใช้ในการทำสี เครื่องสำอาง ยาฆ่าแมลง และวัตถุทนไฟ

เดินพ้นควนดินขาวมา จะเป็นสวนยางของชาวบ้าน ผอ.นนท์ สาธิตการกรีดยาง

หลังจากพ้นสวนยางมา ก็จะมาถึง คลองโตน คลองโตนคือลำห้วยสองสายไหลมาบรรจบกัน เราเดินทวนน้ำขึ้นไปตามห้วยฝั่งขวา

บรรยากาศดีมากคะแวะนั่งพัก ชมธรรมชาติกัน

ข้างคลองแรก เชก็ลื่นตกน้ำเลยจ้าเปียกยาวๆ ไป ดีหัวไม่แตก

หลังจากข้ามคลองก็ตัดเข้าป่า แต่ด้านขวามือมีก็มีน้ำตก ให้เห็นเรื่อยๆ อดใจไม่ไหว ออกนอกเส้นทางไต่หิน ไปถ่ายภาพ

กลับเข้าเส้นทาง แต่ก็ยังต้องข้ามห้วยอีก

เดินเพลินเพราะวิวสองข้างทางสวย

หลังจากข้ามห้วยมา จะเห็นพืชตระกูลหมากและปาล์มเยอะมาก สวยงะ

พี่หมาดพาดูสมุนไพร


ภาพบน ปลาไหลเผือกรากปลาไหลเผือก รสขมเมาเย็นเล็กน้อย ถ่ายพิษต่างๆ,ถ่ายฝีในท้อง,ถ่ายพิษไข้ พิษเสมหะและโลหิต,แก้ไข้,ตัดไข้ทุกชนิด,แก้ลม,แก้วัณโรคระยะบวม

ปลาไหลเผือก เป็นพืชที่มีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพร ใช้ รากถ่ายพิษต่างๆ ถ่ายพิษไข้พิษเสมหะ และโลหิต แก้ไข้ แก้ไข้มาลาเรีย ตัดไข้ทุกชนิด แก้ลม แก้วัณโรคระยะบวม ขับเหงื่อ ขับพยาธิ แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้เจ็บคอ ความดันเลือดสูง อัมพาต ขับถ่ายน้ำเหลือง แก้ท้องผูก

ใช้รากเป็นส่วนผสมของยาบำรุงกำลัง

ภาพล่าง ชิงดอกเดียว พบได้ที่ป่าภาคใต้ ลำต้นใช้ทำแรงสีฟันได้ เอามาถูๆฟัน ส่วน ราก ดองสุราขาวแก้ปวดเมื่อย

ภาพบน


คะน้าคอมฯ (ที่นี่เรียกแบบนี้เพราะสมัย พคท.เขาเก็บผักชนิดนี้ทานกัน)กินกับน้ำพริกหรือนำมาผัดอร่อยดี

ชื่อพื้นเมืองหรือชื่ออื่นๆ หูหมี คะน้าป่า สะเมาทะมอ เฒ่านางรุ้ง บูดูบูลัง

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ใบหูหมี เป็นผักป่า ใบและก้านใบอวบน้ำ ปัจจุบันไม่ค่อยมีมากนักเป็นพืชที่อยู่ในป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีความชื้นมาก ซึ่งเป็นที่วัดความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่นั้นๆ ส่วนใหญ่พบบริเวณที่มีความลาดชัน และอุดมสมบูรณ์

ประโยชน์ด้านอาหาร นิยมนำยอดอ่อนหรือดอกมาปรุงอาหารรสชาติคล้ายคะน้า

สรรพคุณทางยา รักษาต่อมลูกหมากอักเสบ และขับปัสสาวะ

15.00 น.เดินถึงน้ำตกโตนต้นหว้า ทานอาหารกลางวันกันที่นี่

หิวกันมากเลย หารมีมีคั่วกลิ้งไก่ น้ำพริก ไข่เจียว คะน้าคอม

บริเวณน้ำตกมีทากด้วยนะ

กินข้าวเล่นน้ำ พักสักงีบแล้วออกเดินทางต่อ

ที่มาของชื่อน้ำตก ต้นหว้าเพียบเลย

เดินดูนู่น ดูนี่ก็เพลินดี

ต้นหวายใหญ่มาก

เดินขึ้นเดินลงสลับกันไป

เสียงคนข้างหน้าบอกใกล้ถึงแล้ว

ก่อนถึงจุดตั้งแค้มป์ ต้องข้ามขอนไม้ไป

บริเวณที่พักแรมเป็นเกาะกลางน้ำขนาบด้วยลำห้วย

ไปถึงก็กางเปล กางเต็นท์ ตากผ้า อาบน้ำ

น้ำใสมาก วิ่งเล่นสนุกเลย

พี่บังหมาด หุงข้าวให้เราทานกันในกระบอกไม้ไผ่ ข้าวที่หุงห่อด้วยใบคลุ้ม เราแอบบดูพี่เขาหุงด้วย ไว้จะหัดทำบ้าง

วิธีการกรองน้ำแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน


ภาพล่างแปรงสีฟันที่ทำจากต้นชิงดอกเดียว ที่พี่บังลีทำให้ ผอ.นนท์ กับเช

ระหว่างที่หุงข้าวได้ยินพี่คนนำทางคุยกันว่าจะออกไปหาปลา เท่านั้นแหละหูพึ่งเลย ร้องตามเขาไปด้วย

ระหว่างทางเจอเต่า กบ ปลา เดินไกลพอสมควร เช เดินไปได้แค่กิโลเศษๆ ต้องกลับก่อน เพราะหินทิ่มเท้า เดินไปเห็นพี่ๆ เขาถอดรองเท้าเดิน เลยเอาตามอย่างบ้าง อยากจะร้องให้เดินไปนี่เจ็บมาก เป็นหินคมๆ ตลอดทางเลย

ทานอาหารค่ำกันตอน ห้าทุ่มได้คะ

ฟังเรื่องเล่าจากน้ารูน

เล่าย้อนกลับไปนิดหนึ่ง เวลาที่พวกพี่ๆ เขาละหมาดกันเราควรงดใช้เสียง เพื่อไม่ให้เป็นการรวบกวน ในระหว่างที่เขาทำการละหมาด

ราวเที่ยงคืน พี่ๆบอกว่าอย่าพึ่งนอนนะเดี๋ยวจะทำขนมให้กิน ขนมเรียกว่าขนมโค ขนมโคทำจากแป้ง ห่อไส้ด้วยน้ำตาลมะพร้าว บางลูกเช กับผอ. วางแผนแกล้งคนอื่นๆ โดยการใส่พริก และชิงดอกเดียว ลงไปด้วย ตอนกินเห็นร้องโวยวายกันใหญ่เวลาเจอพริก

เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยวิวสวยๆ พร้อมอาหารเช้าที่แปลกจากปกติ เป็นข้าวเหนียว โรยหน้าด้วยมะพร้าวขูด เช้านี้ไม่เห็นผอ.นนท์ร้องขูดมะพร้าวอีกเลย

ทานข้าวอิ่ม นั่งกินกาแฟ ฟังเรื่องราวจากป่า ฟังเขาเล่าแล้วสนุกดี ถือเป็นความรู้ใหม่

เก็บของ แล้วเดินทางกลับ กลับคนละทางกับตอนขามา

บรรยากาศสวยมากคะ

ระหว่างทางก็เล่นสนุกกันไป เดินไป คุยไป จนออกจากป่า

กลับออกจากป่า รีบถอดรองเท้าเช็คแผล น้ำตาจะไหล

รอทุกคนมาครบ ก็นั่งรถกลับ มาถึงมีอาหารไว้คอยต้อนรับแล้ว ดีจริงๆ เลย

หลงจากทานข้าวอิ่มก็ร้องให้พี่หมาดพาไปตีผึ้ง ตีผึ้งต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวห้ามทำตามนะ ในหมู่บ้านมีคนตีเป็นแค่ 6 คนเอง

พอพี่บังหมาดรมควันพวกเราก็เผ่นป่าราบจ้า เหลือ ผอ.นนท์ ยืนเท่อยู่คนเดียว

หมั่นไส้ จริงๆ

ได้กินน้ำผึ้งกันสมใจละ หลังจากนั้นก็ไปเที่ยวบ้านพี่ฟลุ๊ค แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน

ทริปนี้ต้องขอบคุณทุกคนมากนะคะที่มาสนุกด้วยกัน เดินทางกันมาไกลมาก หมดค่าใช้จ่ายกัยก็หลายบาท แต่มันก็คุ้มค่ามากกับสิ่งที่ได้รับกลับมา ยินดีที่ได้พบเจอ

ขอบคุณที่ดูแลนะคะ

I'm Che

 วันพฤหัสที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.54 น.

ความคิดเห็น