ห่างหายไปนาน ไม่ได้เลิกเที่ยว แต่เที่ยวจนไม่มีเวลาว่างพอว่างก็ต้องออกหาตังเดียวไม่มีตังเที่ยว เลยไม่ว่างเขียนเสียที ทริปนี้เป็นทริปสุดท้ายของปี 2559 ไปกันตั้งแต่ 17-19/12/2559 แต่พึ่งจะว่างมารีวิว กับสถานที่ที่ใครๆก็ว่าสักครั้งในชีวิตให้ไปกันนั้นคือภูกระดึง จังหวัดเลย นั้นเอง จังหวัดเลยนี้มาบ่อยมาก ในรอบ 6 เดือนนี้ 3 ครั้งแล้ว ที่เขียนรีวิวนนี้ก็ไปภูบักไดภูลมโลพึ่งกลับมาเมื่อต้นกุมภา ทริปนนี้ งบประหยัดเช่นเดิม หมดไป2500 บาท ต้องประหยัดเลยไม่ได้เช่าจักรยาน ระยะทางตั้งแต่ต้นจนจบ เลย 50 กว่ากิโล เอาละไปดูกันเลย
รูปทั้งหมดถ่ายจาก Nikon D5300 18-140 เลนส์เดียวเที่ยวทั่วไทย
ทริปนนี้ไม่รูปและวิดิโอจากโกโปร เพราะว่าดันลืมฟอแมตเมมโกโปรจะไปถ่ายทริปต่อไปนึกว่าเอาลงเครื่องแล้ว น่าเศร้าเสียจริงๆไว้มีโอกาศค่อยไปถ่ายใหม่ แต่ยังไงเรื่องราวต่างๆยังคงจำได้ดี
ฝากติดตามเพจเล็กด้วยครับ ไม่ค่อยมีเวลาอัพแต่ก็พออัพบ้าง555 เหลี่ยมพาเที่ยว
โปรแกรมคร่าวๆ 3วัน2คืน
สูตรเดิม ออกจากกทม กลางคืนมาเช้าที่เลย รอบนนี้มาลุ้นทะเลหมอกภูทอกเชียงคานอีกแล้ว แล้วก็มากินข้าวเปียกปากหมาในเมือง แล้วมาภูกระดึง วันแรกเดินถึงจุดกางเต็นท์แล้วเดินมาผาหมากดูก เช้าอีกวันที่สองตื่นตี5มาดูพระอาทิตย์ผานกแอ่น วันนนี้เดินทางไกลอีก 30 โล เก็บน้ำตกต่างๆตามหาเมเปิ้ล แวะกินข้าวสระอโนดาด ยิงออกเลาะริมผาเหยียบเมฆ-ผาแดงปิดท้ายผาหล่มสัก เดินกลับพร้อมดวงดาวเต็มท้องฟ้า เช้าที่ 3 เดินไปผานกแอ่นอีกรอบ และเดินลง
ทริปนนี้ไปวันที่17-19/12/2559 เริ่มเดินทางทริปออกกันกลางคืนศุกร์เหมือนเดิม ทริปนี้ผู้ร่วมทริป6คน แต่แยกทางไปเจอที่ภูดึงหมดเลย 2คนอยุ่ขอนแก่น อีก2คนออกแต่เย็นมานอนแถวภูดึง ส่วนกระผมเช่นเดิมขับรถมันทั้งคืน 555 แต่ทริปนนี้ต้องนอนเอาแรงเลยออกแต่หัวค่ำ มาถึง ปตท.เชียงคานตี 2.20 นอนเอาแรง กะหมายมั้นปั้นมือจะมาเก็บทะเลหมอกที่ภูทอกให้ได้ รอบที่ 3แล้ว คราวนี้ลงทุนขับรถเลยมาอีกตั้งหลายกิโล แต่สุดท้ายที่สุด ก็ยังแห้วเหมือนเดิม ตื่นตี5 รีบขับไปขึ้นภูทอก รอจนเกือบ 6 โมง จนแน่นอนไร้วี่แวว เลยลงเลยไม่รอให้สว่างเพราะเคยมาถ่ายตอนสว่างแล้ว 2 รอบ เลยแวะใส่บารตถนนคนเดินเชียงคาน
จอดรถไว้ข้างวัดแล้วเดินข้ามฝั่งทะลุซอยมาถนนคนเดิน ทริปนนี้เจ้าถิ่นวีออสมาต้อนรับอีกแล้ว แต่ไม่ขอไปเดินภูกระดึงด้วยบอกเคยไปแล้ว555 ไว้เจอทริปภูบักได
ออกจากเชียงคานในที่สุดก็ได้มาลองข้าวเปียกปากหมาเสียที หลังจากได้ยินชื่อมานาน แต่มาทีไรนอนวันเสาร์เช้าอาทิตย์ร้านเขาปิดตลอดเลยอด รอบนนนี้มาเช้าเสาร์เลยได้กิน ร้านนี้อยู่ในเมืองนะครับหาไม่ยากแต่อยู่ตรงไหนไม่แน่ใจขับตามพี่เขามา
บรรยากาศในร้านห้องแถวสองคูหา ประดับประดาไปด้วยรูปฝาผนังเหล่าคนดังที่มาลิ้มลองข้าวเปียก
พูดถึงข้าวเปียก มันคือก๋วยจั็บญวน นั้นเอง รสชาติดีมากจริงๆ เส้นเหนี่ยวนุ่มหนึบ หยึบๆตามร่องฟัน น้ำอร่อย ไข่ลวกกำลังดี ถูกใจนักแล ใครผ่านมาก็มาลองกันนะครับ
แยกย้ายกับเจ้าถิ่นเดี่ยวมาเจอกันใหม่ทริปภูบักได มาเที่ยวเลยนี่บ่อยกว่าไปเดินพารากอนอีก ทำเหมือนใกล้ๆเลยนะ 555
ออกจกาตัวเมืองเลย 7 โมงกว่าๆดิ่งมาไม่นานนักชั่วโมงนิดๆก็ถึงอุทยานแห่งชาติภูกระดึง
หลังจากถึงแล้วก็ทำธุระยามเช้าส่วนตัวให้เรียบร้อย จัดกระเป๋าแพคของเอากระเป๋ามาให้ลูกหาบชั่งน้ำหนัก ทริปนนี้ให้ลูกหาบยกเกือบทั้งหมด กระจายรายได้อิอิ ขอเดินปลิวๆหน่อย ค่าลูกหาบกิโลละ 30 บาท
หลังจากพร้อมทุกอย่างแล้วได้เวลาลุย เริ่ม 9.30น.
เริ่มช่วงแรก 9 กิโลเมตร
ใน9กิโลเมตรนนี้แบ่งเป็นจุดต่างๆตามรูปด้านล่างเลย
ลูกหาบแต่ละคนนี้ไม่ต่ำกว่า 50 กิโลได้สุดยอดจริงๆ
ระหว่างทางจนถึงซำแฮก 1 กิโลเมตร ช่วงนนี้ละถือว่าชันพอสมควร แต่ก็ไม่หนักมาก เดินไปพักไปได้เรื่อยๆทางเดินง่ายกว้างขวางสบาย
เวลามีเยอะไม่ต้องรีบเดินไปถ่ายไป เครื่องยังไม่ร้อน เดินแปบเดียวก็หอบแล้ว 55
เดินได้ 1 เหนื่อย เหงื่อซึมออกทุกรูขุมขนแต่ยังไม่ถึงกับหลังเปียก เราก็มาถึงซำแฮก
ดูจากแผนที่เราได้ผ่านจุดที่ชันเยอะๆกันไปแล้ว จะไปชันกันอีกที่ช่วงซำสุดท้าย
เดินมาพักทางฝั่งขวาแถวป้ายคนเยอะมาก วิวสวยๆรอต้อนรับแล้ว
รวมหมู่สักนิด ผู้พิชิตภูกระดึง
พักชมวิวให้หายเหนื่อย อาหารน้ำเครื่องดื่มมีพร้อมทุกซำ เลือกซื้อกันได้เลย
วิวสวยแบบนนี้ต้องคู่สักหน่อย รองเท้าในการเดินภูกระดึง ครั้งนนี้ ถ้าไม่ใช่ช่วงมีฝนรองเท้าผ้าทั่วไปก็ได้ดอกเยอะๆหน่อย แต่ถ้าสตั้ดดอยก็ยังทำหน้าทีไ่ด้ดีทริปนนี้เดินจิกกันมัน ขาลงช่วยเบรคได้เยอะครับ
ไปต่อๆ จากซำแฮกทางเดินชิวๆแล้วครับเป็นทางเนินขึ้นบ้างไม่ได้ชันอะไรมากมาย เดินไปเล่นไป
เดินกันแปบๆไม่ทันเหนื่อยดีก็ถึงซำอีกแล้ว จริงๆซำนี้มีถี่เกิน เราก็ใจง่ายกันพอเห็นซำจริงๆยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่ แต่พอเห็นแล้วก็ เอาวะพักสักแปบ ก็เลยพักมันเกือบทุกซำ 555 เสียเวลาไปอีก
เดินจนถึงซำกกโดน เลยแวะกินข้าวกันราคาอาหารแพงขึ้นตามลำดับความสูง ซำนนี้ถือว่าทั่วไปไม่แพงมาก 50-60 บาท
ลมเย็นสบายนั้งพักกินข้าวกันนานมากเกือบ ชั่วโมง เกือบจะหลับลมมันเย็น
ออกเดินทางต่อ ช่วงสุดท้ายการจราจรค่อนข้างหนาแน่นเพราะเจอนักท่องเที่ยวที่กำลังลงมาด้วย
ในที่สุดเราก็มาถึงหลังแป ใช้เวลาไปทั้งหมด 4.15 ชม ที่จริงไม่ได้ยากเลยสำหรับภูกระดึงแต่เราพักกันบ่อยเองและหยุดกินข้าวเป็น ชม ถ้าคนที่เดินเรื่อยๆไม่ได้แวะบ่อย ไม่เกิน 3 ชมก็ถึงครับ
พักชมวิวแก้เหนื่อยสักแปบค่อยเดินต่อ ยังเหลืออีก 3.5 กิโลทางราบ
วิวสวยหายเหนื่อย
ดูแผนที่บนภูดึงหน่อย
เดินต่อ 3.5กิโลทางราบ
ถึงต้นนี้พี่ลูกหาบบอก1กิโลพอดีจากหลังแป
เดินมาอีกเกือบ ชม. ก็มาถึง ศูนย์บริการลานกางเต็นใครจะเช่าอะไรติดต่อเลย
ลานกางเต็นกว้างใหญ่มากมาย ถึงคนจะเยอะมากแต่ก็มีที่เพียงพอ พวกผมเอนเต็นกันมาเอง เลยต้องรอลูกหาบซึ้งก็ไม่รู้ว่าจะมาถึงกี่โมง
รอแล้วรอเล่าด้วยความหวังลูกหาบของเราก็ยังไม่มา ไปถามพีู่กหาบคนอื่นบอกว่าเดินไปดูพระอาทิตย์ตกก่อนลูกหาบเรามาถึงเย็นๆพอดี
เริ่มช่วงสอง อีก 4.5 กิโลเมตร
ไปกลับ ผาหมากดูก หลังจากผ่านมา 9 กิโล ความเหนื่อยได้หายไปแล้วแต่ความเมื่อยปวดขาเริ่มมีนิดๆ 555
ถึงผาหมอกดูกปะมาณ 5โมงกว่า แสงส้มๆมาแล้ว
วิวสวยใช้ได้
รออยู่สักพักจนคิดว่าคงไม่ได้เก็นพระอาทิตย์วันนี้เมฆค่อข้างเยอะเหลือเกิน เลยเดินกลับดีกว่าเพราะว่ายังไม่ได้กางเต็นกันเลย เดี่ยวจะไม่มีที่เอา
แต่พอเดินกลับมาถึงลานกางเต็นเห็นแสงทองแบบนนี้
และฟ้าระเบิดแบบนนี้ วู้วสวยงามมาก
ฟ้าระเบิดระเบ้อสุดๆ
หลังจากเจอลูกหาบแล้วก็จ่ายเงินเรียบร้อยก็มากางเต็นพอกางเต็นเสร็จก็ได้เวลาหมูกระทะแล้วว อากาศหนาวๆกำลังดี เย็นๆ กินหมูทะร้อนๆฟินมาก ส่วนราคาหมูทะมี 300-500 ลองเดินเลือกกันดูครับปริมาณไม่แตกต่างกันมาก ผมเอาหมูหมักมาจากบ้านอีกโลนึง จบคืนแรกนอนพักผ่อนเช้าต้องตื่นตี5ไปผานกแอ่น คืนนี้ไม่มีดาวเมฆเยอะมาก
วันที่สอง วันนี้ 27 กิโลเมตร
ช่วงแรกเช้านนี้ไปกลับผานกแอ่น 4.5 กิโลเมตรเช้านนี้คนเนืองแน่นมากมาย รอรับแสงแรกกัน
แสงแรกมาแล้วเช้านนี้
มีหมอกอยู่ไกลๆบางๆ
ไข่แดงมาเชียว
หมอกจางๆบางๆของเช้านนี้พอได้ชื่นใจเดินกลับไปกินข้าวเตรียมลุยอีก30กิโล
กลับมาที่กางเต็น ทำไมเต็นเรามันช่างน่าสงสารเล็กแบบนนี้ แต่ขอบอกเต็นชิว 199 ซื้อมาจากบิ้กซีตอนนี้ใช้งานมา 5 ทริป 7คืนแล้วแล้วใช้การได้ดีอยู่คุ้มแล้ว ทริปนนี้เอาผ้าใบมากางคลุมแต่ดันปักสมอไม่ดีกลางดึกลมแรงมากพัดซัเปิดกระจาย แต่ยังดีน้ำไม่รั่วมีแค่เปียกชุ่มรอบเต็น อิอิ
จากนั้นก็ทำธุระตอนเช้าและไปกินข้าวร้านป้าร้านเดิม มื้อเช้านนี้โดนไป ข้าวแกง2อย่าง 70 แต่รสชาติกับปริมาณถือว่าเยอะอยู่ พร้อมจัดข้าวเหนี่ยวหมูไปกินมื้อกลางวันอีกชุดละ60 บาท ได้เยอะดีครับ กินอิ่มแน่นเลย
หลังจากพร้อมแล้วเราก้จะมาลุยกันเนื่องจาก มาแบบประหยัดทริปนนี้เลยจะไม่เช่าจักรยาน ราคาจักยานก็350 บาท แต่พี่อีก2คนบอกขอเช่าเลยจะไปเจอที่น้ำตกถ้ำใหญ่ แต่บอกไว้หน่อยนะครับถ้าจะเที่ยวน้ำตกให้ครบ จักยารจะขี่ได้ไม่สุดนะครับต้องเดินเท้าเข้าอีกแล้วย้อนออกมา แต่ถ้าเดินนี้จะสามารถเดินรอบเป็นวงกลมได้เลย
โปรแกรมวันนี้ 30 โล องค์พระพุทธเมตตา-น้ำตกเพ็ญพบใหม่-น้ำตกโผนพบ-น้ำตกเพ็ญพบ-น้ำตกถ้ำใหญ่ตามหาเมเปิ้ลแดง-น้ำตกธารสวรรค์-สระอโนดาด-ผาเหยียบเมฆ-ผาแดง-ผาหล่มสัก-และเดินกลับเลาะริมผามาทางผาหมอกดูดและกลับจุดกางเต็น แค่เห้นโปรแกรมขาก็แทบอ่อน แต่ไม่ได้มาแล้วต้องลุยย
เส้นทางที่เดินวันนี้ตามเส้นสีแดงเลย
สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เดินครบ30โลแบบขาไม่หลุดกันก่อน
เลี้ยวขวาเก็บน้ำตกฝั่งนนี้มห้หมด จุดนนี้จักยานขี่เข้าไม่ได้นะครับถ้าจะไปต้องจอดไว้ตรงนนี้แล้วเดินเข้าไปแนะนำว่าถ้าจะไปน้ำตกให้ไปจอดที่น้ำตกถ้ำใหญ่แล้วค่อยเดินเข้าไปน้ำตกเพ็ญพบใหม่แล้วย้อนกลับจะได้ไม่ต้องย้อนไปน้อนมาสองรอบ
ทางเดินง่ายๆบนภูกระดึงนนี้ทางราบทั้งหมดครับ เดินง่ายมีแค่ช่วงน้ำตกต้องขึ้นลงบ้างนิดหน่อย ความยากไม่ได้อยู่ที่ทางเดิน แต่อยู่ที่ระยะทาง
แวะเจออะไรก็ถ่ายกันหน่อย
ไม่ต้องรีบเวลามีเยอะ ค่อยๆเดิน
ช่วงที่ไปน้ำตกเริ่มน้อยแล้วครับ หลอมๆแหลมๆ แต่ก็ได้ใบเมเปิ้ลแดงแล้วเดี่ยวไปดูกันดูรูปยาวๆเลยนะ
จะทำเป็นรุปหัวใจดูๆไปทำไมเหมือนเมดูซ่า55
และแล้วก็เจอเมเปิ้ลแดง
มีความขยัน เก็บใบที่ร่วงเอามาโยน
ตรงที่เจอนนี่เป็นระหว่างทางที่จะถึงน้ำตกถ้ำใหญ่ เยอะสุดแล้วที่เจอตอนที่ไปนนี้
เดินมาจนถึงน้ำตกถ้ำใหญ่ใช้เวลาไปชั่วโมงกว่าๆ
เดินออกมาถึงน้ำตกธารสวรรค์ ตรงนนี้เข้าไปแล้วไม่ได้ไต่ลงไปข้างล่างเลยไม่ได้เก็บบรูปมา
หมดโซนน้ำตกแล้ววันนี้ ที่จริงมีอีกแต่เราจะเดินเก็บผาต่างๆเลยไม่ได้ไป
จุดหมายต่อไปจะไปกินข้าวเที่ยวที่สระอโนดาด
ระหว่างทางรายล้อมไปด้วยทุ่งหญ้าสะวันนา ใช่มะ สวยงามตระการตาแต่ก็แฝงไปด้วยความร้อนระอุจากแดด แต่ลมเย็นยุนะ
ตรงยาวๆจักรยานคันแล้วคันเล่าแซงไป
แต่ไม่เป็นไรเรามีลำโพงบลูทูด เปินเพลงฟังเพิ่มความสนุกในการเดิน ช่วยให้การเดินไวขึ้นมากเดินไปร้องเพลงไปเพลินๆแปบเดียวถึง
อย่าว่าแต่เดินต้องพักจักรยานยังจอดพักกันเลย
ถึงแล้วสระอโนดาด
เติมพลังกันหน่อย
กินอิ่มก็ถ่ายรูปเช็คท่าคู่หน่อย
เสร็จแล้วก็ไปต่อ ไปต่อผาเหยียบเมฆ
ตลอดทางยังคงเป็นทุ่งสะวันน่าสวยงามเช่นเดิม
เดินกันไม่นานนักจบไปประมาณ 8 เพลง เราก็มาถึงผาเหยียบเมฆด้วยที่เราทำเวลาได้ดีมาถึงพึ่งจะบ่ายโมงกว่าๆ
เลยซื้อแปบซี่ร้านค้า 60 บาท ขวดใหญ่พร้อมแถมเสื่อฟรีเลยถือโอกาสนอนกันซะเลยอาหารมันย่อยเด็กดีต้องนอนกลางวันเพื่อร่างกายที่แข็งแรง อิอิ นอนกันถึงบ่าย2กว่าๆ ก็ตื่นมาถ่ายรูปกันและไปต่อ
วิวของแต่ละผาที่นี้คล้ายๆกันครับ แต่ต่างการที่ลูกเล่นของแต่ละผา
อย่างผาเยียบเมฆนี่เวลาถ่ายรูปออกมาแล้วจะดูเหมือนเหยียบเมฆจริงๆสวยงามครับ
ต่อไปเป็นผาแดง จุดนนี้ต้นไม้ใหญ่เยอะวิวคล้ายกันเลยไม่ได้ถ่ายมา
ถึงผาหล่มสักประมาณ 4โมงหน่อยๆ คนเยอะเลย
มาถึงก็จัดกาแฟและขนมหวานชื่อดังที่ผาหล่มสักหน่อย
หลังจากพักกันแล้วปรึกาากันว่าที่นี้คนเยอะมาก ถ้ายิ่งรอพระอาทิตยย์จะยิ่งแน่นเลยตัดสินใจไปถ่ายรูปที่ผาหล่มสักแล้วเดินกลับไปดูที่พระอาทิตย์ตกที่ผาเหยียบเมฆดีกว่า จะได้กลับถึงเต็นไม่ดึกด้วย
ว่าแล้วก็ไปต่อคิวถ่ายรูปตรวนนี้กันแถวยาวเหยียด
เป็นอันเรียบร้อยเดี่ยวจะหาว่ามาไม่ถึงภูกระดึง
จากนั้นเดินกลับจ้ำเอ้ากันมามีเวลา ชั่วโมงนิดๆต้อให้ถึงผาเหยียบเมฆดูพระอาทิตย์ตก
แสงเริ่มหมดลงๆขึ้นทุกก้าว
เดชะบุญวิ่งบ้างเดินบ้างในที่สุดก็มาถึงทันเวลาพอดีไข่แดงโผล่มาแค่ไม่ถึง5นาทีก็ลับฟ้าไป
หลังจากตะวันลับฟ้าไปแล้ว หลงเหลือยานอวกาศรอรับพวกเรา
เย็นนี้แสงสวยจริงๆ
จังหวะได้พอดีมุมนี้
เมื่อสิ้นแสงความหนาวเย็นก็เข้ามาเยือนท้องฟ้ามืดสนิท ทำให้เราได้มองเห็นดวงดาวนับหมื่นล้านดวง วันนี้ดาวชัดมากฟ้าใสเคลียร์ พยายามจะถ่ายช้างแต่ไม่รู้ทำไมถ่ายไม่ค่อยติด ก็ว่าช่วงที่ไปน่าจะขึ้นช่วงทุ่มกว่าๆ แต่ก็ได้มาประมาณนนี้ มือใหม่หัดล่าช้าง 5555
ยังดีที่มีนักท่องเที่ยวเยอะเพระาระหว่างทางช่างมืดมัวน่ากลัว แต่ดีมีคนปั่นจักรยานมาเป็นระยะและนักเดินเท้าไฟที่แซงเราไปหลายกลุ่มอยู่
หลังจากเดินกลับมาถึงเต็นเรามาดูกสภาพหนังส้นตีนผมกันเถอะ ขออภัยที่ไม่สุภาพ หลายคนบอกตัดทิ้งเถอะ555 ใส่แตะมันก็เลยฝุ่งเยอะไปหน่อย หลังจากมาถึง ปวดขามากๆปวดเหมือนจะหลุด พอนักพักกินข้าวพอตอนลุกจะเดินนะก้าวแทบไม่ออก สุดยอดจริงๆ ปวกจี็ดๆ
หลังจากถึงเต็นก็เดินหาร้าวข้าวมื้อนนี้ขอเปลี่ยนเป็นจิ้มจุ่มมั้ง
ชุดนนี้ 500 พอได้อิ่มหนำ
หลังจากเมื่อวานไม่ได้อาบน้ำวันนี้เดินมาทั้งวันเลยขออาบน้ำหน่อยเถอะจะหนาวแค่ไหนก็ยอม แต่ที่นี้หนาวแค่ตอนแรกพออาบไปแล้วรู้สึกดี ยิ่งอาบเสร็จรู้สึกอุ่นๆ เอ๊ะหรือจะเป็นไข้วะ 555 ไม่ๆแค่นนี้ไม่มีปัญหา น้ำเย็นสะใจแต่ทำไมเวลาอาบน้ำบนดอยทีไรล้างสบู่ออกยากทุกที เป็นที่เลยบนดอยสูงๆใครทราบบอกด้วย ยิ่งหนาวๆมันก็ล้างไม่ออกต้องล้างนาน
ปิดท้ายคืนนี้นั้งเม้ามอยกันจนเกือบ 5 ทุ่ม ก็เข้าเต็นนอน
ผ่านไปแล้ว 48.5กิโลเมตร หลังจากเข้าเต็นพรุ่งนนี้ไม่มีใครจะไปผานกแอ่นเลย มีผมคนเดียวอยากจะไปไหนๆก็มาแล้วเผื่อพรุ่งนนี้จะมีหมอกสวยๆ เถียงกะแฟนกันสักพักหาเพื่อนไปด้วย 555 สรุปว่าไปกันสองคน แต่ไปสายหน่อยพระอาทิตย์เห็นเยอะแล้ว
เช้าที่สาม ช่วงนี้อีก 4.5 กิโลเมตร
เราตื่นกัน6.30 หวังให้พรอาทิตย์ขึ้นแล้วเพราะตอนขึ้นใหม่ๆแสงมันย้อนถ่ายยากกะไปถึงพระอาทิตย์ขึ้นสูงๆ แล้วก็เดินมาถึง 7โมงกว่าๆ
เป็นไปตามคาดวันนี้ทะเลหมอกเยอะกว่าเมื่อวานและเห็นชัด แถมคนเบาบางกว่าเมื่อวานเยอะมาก และตอนที่ผมมาถึงคนทยอยกลับเกือบหมดแล้ว
ถึงจะอยู่ต่ำไปหน่อยแต่ก็สวยใช้ได้เลย
เกือบ 8 โมงคนหายเกลี้ยงถ่ายรูปง่ายเลย
ระหว่างทางเดินกลับแวะถ่ายยนั้นนี่ไปเรื่อย
เจอรอยเท้าสัตว์อะไรสักอย่างง
กลับมาเก็บเต็นเก็บของรีบเอาของไปลูกหาบเลย ใครให้แต่เช้าๆได้ยิ่งดีเพราะลูกหาบขาลงเราจะไวกว่า อาจจะต้องไปรอนาน
หลังจากเอาของให้ลูกหาบเสร็จมื้อเช้าแสนอร่อยของเราไม่พลาดที่จะเป็นมาม่าคัฟ+ปลากระป๋องผู้สนับสนุนหลักทุกการเดินทาง อิอิ
ช่วงสุดท้าย 9 กิโลเมตร
ได้เวลากลับบ๊ายบายภูกระดึง
ขาลงก็ทางเดิมง่ายๆ เปิดเพลงไปเดินลงตามจังหวะ แต่ผมชอบวิ่งลงมันสนุกดีและอีกอยากถ้าค่อยก้าวๆมันต้องเบรคบ่อยจะปวดหัวเข่ามาก วิ่งไหลลงพักเป็นจุดๆดีกว่าไวด้วย ทั้งนนี้รองเท้าต้องจิกพื้นดีๆไม่งั้นจะลื่นล้มกันได้ เพลงยิ่งมันส์ยิ่งลงไวแต่เอาแค่เพลงจังหวะกลางๆพอ เพลงเร็วมากเดี่ยวจะเหนื่อยเกิน 555
นั้งเล่นนั้งกินกันไม่ต้องรีบเพราะลูกหาบกว่าจะถึงนานมาก แวะกินข้าวกันซำที่ก่อนจะถึงซำแฮกไปชั่วโมงกว่า ไม่ใช่อะไร รออาหารนานแต่อร่อยถูกใจ555
ลุงใจดีแถมผลไม้อีกสงสัยจะเป็นว่านาน
แล้วก็ลงมาถึงอย่างปลอดภัย ปวดหัวเข่าใช้ได้ 555 ครบ 54 กิโลเมตรกับภูกระดึงงง
ลงมาถึงอาบน้ำอาบท่าเสร็จลูกหาบยังไม่มาถึงรอเป็นชั่วโมง แนะนำใครจะจ้างลูกหาบรวมให้ได้ถุงน้อยที่สุดครับเพราะบางชุดของเราแต่ไม่ใใช่ลูกหาบคนเดียวเขาแบ่งไป 2 3คน ต้องรอกันนาน ผมกะแฟนใช้กระเป๋ารวมและใส่ถุงสีรุ้งอีกที ใบเดียวจบ หาง่ายด้วย
หลังจากได้กระเป๋าครบหมดแล้วได้เวลาแยกย้าย กลับบ้านตามภูมิลำเนาของตัวเอง ผมกลับดอนเมือง คันกลางง่ายเลยกลับขอนแก่น คนขวานี้กลับอ่อนนุช หลากหลายที่มาแต่จุดหมายเดียวกัน แล้วพบกันใหม่ทริปหน้า
ออกจากภูกระดึงประมาณ 4โมงกว่า ยิงยาวเข้ากทม. ถึงบ้านประมาณ 5 ทุ่ม ปลอดภัยสวัสดิภาพทุกคน
สรุปค่าใช้จ่ายโดยประมาณบางอย่างก็มีลืมบ้างนิดหน่อย เฉพาะคันผมนะ2คนวีออส
ค่าน้ำมัน+แก้ส 1800/2
ค่าภูทอก+มื้อเช้า 150/2
ค่าลูกหาบ ค่า ขาละประมาณ 300บาทต่อคน ไปกลับคนละ 600
มื้อกลางวันแรก คนละประมาณ 80
ค่ากินบนภู มื้อเย็นแรก หมูทะ ไข่ปิ่ง คนละประมาณ 200
มื้อเช้า+กลางวัน+น้ำเปล่า 70+60+50 คนละประมาณ 180
ค่าน้ำแปปซี่กลางวันค่าขนมน้ำชาร้านที่ผาหล่มสัก ประมาณคนละ 80
มื้อเย็นที่สอง คนละประมาณ 150
มื้อเช้าที่3 มาม่า+น้ำเปล่า คนละประมาณ 50
มื้อกลางวันขาลง คนละประมาณ 70
แล้วก็ค่าใช้จ่ายยิบย่อยอีก รวมๆแล้วผมกะแฟนหมดกันคนละ 2500 โดยประมาณ หลักๆจะหมดค่าเดินทางกะลูกหาบที่เหลือไม่มีไรมาก
แล้วพบกันใหม่กับคู่รักตะลอนทัวร์ ทริปหน้ายังคงอยู่จังหวัดเลย ภูบักได แล้วพบกันใหม่สวัสดีครับ
เหลี่ยมพาเที่ยว
วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 01.17 น.