ในวันที่สิ่งรอบตัวมีแต่ควา มยุ่งเหยิงวุ่นวาย ถ้าได้ไปพักกายพักใจที่ไหนสักที่ ที่มีความเงียบสงบ ได้ปล่อยกายปล่อยใจไปกับธรรมชาติคงจะดีไม่น้อย

ลั่นเจีย ลอดจ์ (Lanjia Lodge) เป็นที่พักเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางขุนเขาที่สลับซ้อน

นอกจากเป็นที่พักกายแล้ว แต่ลั่นเจีย ลอดจ์ ยังทำหน้าที่เป็นที่พักใจสำหรับใครที่เหนื่อยล้าให้รู้สึกมีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง ตั้งอยู่ในโครงการหมู่บ้านท่องเที่ยวโดยชุมชนมีส่วนร่วมบ้านกิ่วกาญจน์ มีประชากรเป็นชาวม้งและลาหู่

ก้าวแรกที่เข้าเช็คอินที่ ลั่นเจีย ลอดจ์ คือ เรารู้สึกเลยว่าที่พักมันสวยมากๆ เน้นวัสดุจากธรรมชาติ เงียบสงบ เหมาะกับการะพักผ่อน ในโซนที่พักก็ร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้หลากหลายชนิด

Welcome drink เป็นน้ำใบเตยหอมๆ

มื้อแรกของเราวันนี้คือหมี่ซั่ว

ตบท้ายด้วยผลไม้หวานๆ


ไกด์ตัวน้อยประจำทริปของเรา น้องลั่นเจีย ชื่อที่พักของเราก็มาจากชื่อสาวน้อยคนนี้ "ลั่นเจีย" เป็นภาษาม้ง แปลว่า ที่สงบ ที่ร่มเย็น ที่ชื่นใจ

หลังจากเก็บของเข้าที่พักกันแล้วเราก็จะเดินชมรอบๆหมู่บ้าน

วิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านส่วนใหญ่จะเป็นการทำไร่ มีการตัดไม้ในป่า แต่ต่อมาเมื่อชาวบ้านตระหนักถึงคุณค่าของป่าและสิ่งแวดล้อม จึงพยายามลดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ สุดท้ายจึงนำการท่องเที่ยวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ดูแล และส่งเสริมให้มีการทอผ้า ทำผ้าบาติก และของที่ระลึกจากผ้า เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

กิจกรรมแรกของเราในวันนี้คือทำผ้าบาติกชาวม้ง

น้องลั่นเจียจะเอาแบบลายผ้าต่างๆที่ร่างไว้มาให้เราเลือกเป็นแบบ หรือเราจะร่างลายของเราเองก็ได้

หลังจากร่างลายขึ้นมาแล้วก็จะเป็นขั้นตอนการลงขี้ผึ้ง

ทุกคนตั้งหน้าตั้งตาทำกันอย่าขมักเขม้น อาจจะดูเหมือนง่ายนะคะ แต่เอาเข้าจริงๆยากมากก แต่สนุกดีค่ะ ได้ฝึกสมาธิไปในตัว

อากาศเย็นสบายกับการเรียนทำผ้าบาติกเป็นอะไรที่เข้ากันได้อย่างลงตัว ทุกคนสนุกสนานไปกับงานศิลปะ บางคนก็กลายเป็นศิลเปรอะ 5555


ทาดาาา ผ้าบาติกลาย Dream Catcher ฝีมือเราเองง


ด้านข้างจะมีงานหัตถกรรมต่างๆของชาวม้งมาให้เลือกซื้อกันด้วยนะคะ มีให้เลือกหลายอย่างมากมาย

กระเป๋าสวยๆ พวงกุญแจน่ารักๆ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอซื้อเป็นของฝากได้เลย

หลังจากทำผ้าบาติกเสร็จแล้วเราก็จะไปปลูกป่ากันค่ะ

ก่อนอื่นเราจะมาเลือกต้นไม้ไปปลูกกันก่อนค่ะ

ต่อด้วยรับบัวรดน้ำคนละอัน

เพื่อนร่วมทริป

เส้นทางเดินป่าไม่ไกลมากนะคะ เดินได้สบายๆ

เลือกจุดที่เหมาะๆแล้วลงมือกันเลยย

วันนี้เราปลูกต้นมะขามไปค่ะ ไว้ปีต่อๆไปจะกลับมาเยี่ยมนะ

เจ้าตูบที่ตามมาปลูกต้นไม้ด้วย

เสียเหงื่อจากการเดินป่ามาแล้วเราจะไปชิมชาออแกร์นิกจากไร่ชา Tea'cher organic farm ค่ะ


ก่อนอื่นคือต้องอุ่นมือด้วยถ้วยชากันก่อน สูดกลิ่นหอมๆ

ที่ฟาร์มจะเจอเจ้าตัวแสบ 2 ตัวนี้ด้วยค่ะ ซนมากกกก

ชาที่นี่รสชาติดีมากก ไม่แต่งสี ไม่แต่งกลิ่น มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วยเรื่องสุขภาพหลายอย่างมากๆ แนะนำว่าต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับมานะคะ ไม่ผิดหวังแน่ๆ


เมนูพิเศษจาก Tea'cher Organic Farm ตอนนี้ยังไม่มีขายแต่คุณครูเจ้าของฟาร์มใจดีทำมาให้เราชิมค่ะ

หมดไป 1 วัน ได้เวลาพักผ่อน บ้านพักของลั่นเจีย ลอดจ์จะสร้างมาจากวัสดุธรรมชาติทั้งหมด ลักษณะเป็นเรือนไม้ไผ่สไตล์ชาวไทยภูเขา ยกพื้นสูง

มีห้องน้ำส่วนตัววิวสวยๆแบบนี้ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก พัดลม


และเพื่อให้เราได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ที่นี่จะไม่มีทีวีให้บริการ


ระเบียงบ้านสามารถนั่งพักผ่อนชมวิวได้ 180 องศา มองเห็นแม่น้ำโขงและเทือกเขาสลับซับซ้อนสุดลูกหูลูกตา ถ้ามาช่วงฤดูหนาวที่นี่จะมีทะเลหมอกด้วยนะคะ

ห้องนอนของเราคืนนี้

ห้องน้ำตกแต่งสวยงาม สะอาด เป็นสัดส่วน

มื้อเย็นของเราวันนี้

เราชอบการตกแต่งและวัสดุต่างๆของ ลั่นเจีย ลอดจ์มากๆ เค้าดูใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ โถข้าวทำจากกระติ๊บเก๋มากๆ

ของหวานตบท้าย มันเผือกทอด ตอนแรกกะว่าจะไม่กิน แต่รู้ตัวอีกทีคือเกลี้ยงจานเลย 555


การแสดงพื้นเมืองมี 2 ชุด ทั้ง 2 ชุด ชาวบ้านจะเดินมาแสดงให้บ้านพักแต่ละหลังเลยค่ะ

หลังจากชมการแสดงเสร็จเราสามารถออกไปดูดาวที่ลานด้านหน้ารีสอร์ทได้นะคะ เพราะที่หมู่บ้านแสงรบกวนน้อย เห็นดาวชัดสุดๆ

ได้เวลาเข้านอน

ตื่นเช้ามารับอากาศบริสุทธิ์กับวิวหลักล้าน จากระเบียงบ้านเรามองเห็นวิวแม่น้ำโขงและฝั่งลาวได้เลย ถ้าโชคดีจากตรงนี้จะมองเห็นทะเลหมอกด้วยนะคะ

หลังจากนั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นจนอิ่มใจแล้วท้องก็เริ่มหิว

มื้อเช้าวันนี้ ส่วนมากจะเป็นเมนูไข่นะคะ แต่รสชาติดีงามเหมือนเดิม

เมนูเพิ่มนอกเหนือจากที่เราสั่งที่ทาง ลั่นเจีย ลอร์ด เตรียมมาให้

เช้าวันนี้เราจะไปเดินสำรวจหมู่บ้านกัน ก่อนอื่นมาฟังประวัติความเป็นมากันก่อน จะมีเฉพาะเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษนะคะ

หมู่บ้านแรกที่เราจะไปเดินเล่นกันคือหมู่บ้านม้ง

เด็กๆบางคนขี้อายมาก วิ่งหลบกันเป็นแถว ฮ่าๆๆ


บ้านหมอผีประจำหมู่บ้านม้ง

เครื่องรางและอุปกรณ์ประกอบพิธีกรรมของหมอผี

ในหมู่บ้านสะอาดสะอ้าน ไม่มีขยะเลย เราชอบแนวคิดถังขยะยกสูงมาก ป้องกันน้องหมามาคุ้ยรือค้นได้ดีทีเดียว

ระหว่างทางเดินไปหมู่บ้านลาหู่เจอหนุ่มน้อยอารมณ์บูดที่อาจารย์งดสอน


คุณป้าแข็งแรงมากๆ แบกฟืนเดินขึ้นเนินชิลๆ

คาเฟ่ประจำหมู่บ้าน

คาเฟ่อีกที่ของหมู่บ้าน

โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน

เด็กๆกำลังท่องหนังสือเตรียมตัวสอบ


มาเจอเจ้าตัวน้อยกับคุณยายและพี่สาว เจ้าตัวน้อยน่ารักมากกก คุณยายเล่าว่าน้องเพิ่งจะ 6 เดือน แต่เดินได้แล้ว หูยย เก่งแต่เด็กเลยยย เราจะไปหมู่บ้านลาหู่กันต่อ

เดินสำรวจหมู่บ้านสักพักเราจะเจอกับบ้านไก่

จากในหมู่บ้านจะมองเห็นที่พักของเราได้เลย


มาถึงปุ๊บหมอผีก็เสิร์ฟชาร้อนๆให้พวกเรา ต้องดื่มด้านที่ไม่มีรอยผ่านะ

หมอผีบอกว่าการไปปราบผีต้องใช้ผ้าปิดหน้าเพื่อไม่ให้ผีจำเราได้

อุปกรณ์ที่ใช้ในการปราบผี

ลั่นเจีย ลอดจ์ อาจเป็นที่พักธรรมดาๆ ที่หลบซ่อนอยู่ท่ามกลางขุนเขาที่น้อยคนนักจะรู้จัก แต่ถ้าได้มาเยือนสักครั้ง รับรองว่าจะต้องหลงรักอย่างแน่นอน


โปรแกรม 2 วัน 1 คืน 2400 บาท / คน (เข้า

– พักที่ Lanjia Lodge
– สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน 2 หมู่บ้าน ม้งและลาหู่
– เรียนรู้การทำผ้าบาติก
– อาหาร 2 มื้อ
– การแสดงพื้นเมือง
– ประกันอุบัติเหตุ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
FB : Local Alike
Website : http://www.localalike.com

ความคิดเห็น