" Philippines "

ประเทศ ที่ใครหลายๆ คน ไม่เคยคิดที่จะไป

ประเทศ ที่ใครหลายๆ คน บอกว่าอันตราย ทั้งโจร ขโมย ไหนจะ ลม พายุ มรสุม


" แล้วมะรึง จะไปทำไม 55+ "


ทริปนี้จุดเริ่มต้นมาจาก ตอนแรก ผมตั้งใจว่าจะไป trekking ที่ ABC ครับ ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา

แต่ที่ทำงานเจ้ากรรม ดันไม่ให้ลาครับ 55+ บอกว่าลาเยอะไป แง่ว.. อดเลย 55+


เค้าให้ลา รวมๆ ได้แค่ 7 วัน เอาไงละทีนี้ ไปไหนดี หน้าร้อนแบบนี้ ต้องทะเล เท่านั้น

แล้วก็อยากลอง ไปต่างประเทศ คนเดียวสักครั้ง ดูซิ มันจะเป็นยังไง ภาษาก็ไม่ได้เก่ง


อยากลองไปเมืองแปลกๆ ที่ไม่ค่อยมีคนไทยไป อยากรู้ว่าเรา จะอยู่ยังไง จะเอาตัวรอดได้มั้ย

อยากลอง มีรอยเท้าใหม่ๆ เป็นของตัวเองบ้าง บทสรุป เลยมาลงที่ประเทศนี้แหละครับ


" Philippines "


เป็นประเทศ ที่ผมคิดว่า ยังใหม่ดี แถมมีตั้ง 7 พันกว่าเกาะ แล้วไอ้ 7 พันกว่าเกาะเนี่ย มันจะไม่มี เกาะที่สวยๆ เลยเหรอฟร่ะ

งานอยากรู้ต้องมา ว่าแล้วก็ Search ถามพี่ goo เลยครับ


คำตอบที่ได้


เห้ย มันมีเกาะ ที่เคยได้รับการโหวต ว่าดีที่สุด อันดับ 1 ของโลกด้วย เกาะนั้นมันชื่อ " Palawan " ครับ

ที่ไหน อะไร ยังไง ได้มายังไง เห้ย อันดับที่ 1 ของโลกเลยเหรอฟร่ะ แล้วทะเลไทยละ


งานนี้ต้องไปดูด้วยตา พิสูจน์ด้วยใจ ละครับ ว่ามันได้อันดับ 1 ของโลกมาได้ไง จะสวยกว่าทะเลบ้านเรารึป่าว

ว่าแล้วก็เก็บกระเป่า เตรียมออกเดินทางกันได้เลยครับ

ผมจะพาคุณไป พิสูจน์กันว่า


" World's Best Islands 2013 "

No.1 Palawan Philippines


มันได้มายังไง จะสวยงาม อลังการ มหัศจรรย์ ขนาดไหน

จะสมกับที่ได้รับการโหวต ให้เป็นอันดับ 1 ของโลก เมื่อปี 2013 รึมั้ย


และการเดินทาง ตะลุยเดี่ยว ครั้งนี้ จะมีเรื่องราว สนุกสนาน ประทับใจ อะไร

บอกได้คำเดียวว่า ทริปนี้ คือที่สุด ตั้งแต่ผมเริ่มออกเดินทางมาเลยครับ

จะสนุกสนาน สวยงาม และเจอกับอะไรบ้าง มาติดตามกันได้เลยครับ ลุย เย้ๆๆๆ


ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จัก กับ เธอ เอ้ย กับเจ้าเกาะ Palawan กันก่อนครับ

Palawan เป็นจังหวัดหนึ่ง ของประเทศฟิลิปปินส์ครับ

โดยเจ้าเกาะ Palawan นี้ จะมีเมืองดังๆ อยู่ 3 เมือง คือ


1. เมือง Puerto princesa ซึ่งมีถ้ำลอด ที่ได้รับการจัด ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี ค.ศ. 1999

แต่ผมไม่ได้ไปนะครับ 55+ เพราะอ่านบางรีวิว บอกเหมือนถ้ำลอดบ้านเรา เพราะงั้น เราไปทะเลกันดีฟ่า 55+

2. เมือง El nido ซึ่งเมืองนี้บอกเลย เป็นอีกเมืองที่ ว้าว...มาก แทบจะเป็น Hilight ของ palawan เลยทีเดียว

3. เจ้าเมือง Coron นี่แหละครับ เมือง Hilight ของทริปนี้ ที่ผมตัดสินใจมา เรียกว่า เป็นเมืองที่คนฟิลิปปินส์เอง ยังบอกว่า

The best เพราะงั้น ทริปนี้ต้องจัดละครับ อิอิ

ตามรูปเลยครับ

ทริปนี้ผมเลือกที่จะไป 2 เมืองคือ Coron และ El nido

โดย El nido นี้ เป็นเมืองหลักๆ ของ Palawan ที่ใครมา ต้องมาที่เมืองนี้เลยครับ

ส่วน Coron เป็นเกาะหนึ่ง ของ Palawan ที่ยังไม่ค่อยมีคนไป แต่ถามเพื่อนชาวฟิลิปปินส์ เค้าบอกที่นี่ก็ The best

แถมมา Search รูปใน Internet แล้วเจอวิวที่ kayangan Lake โอ้ว.. แม่เจ้า สวยมากกก ต้องจัด

โดย เจ้าเกาะ Coron เนี่ย ผมเขียนรีวิวแบบละเอียดไปเรียบร้อยแล้ว ติดตามอ่านกันได้ที่นี่เลยครับ

https://pantip.com/topic/3635384

สาเหตุที่เขียนแยกจากรีวิวนี้ เพราะมันเป็นเกาะที่ ยังใหม่ รีวิวน้อยมากก

ผิดกับ El nido ที่มีคนมาที่นี่ กันพอสมควรละ แล้วก็มีรีวิว ให้อ่านกันพอสมควร


แต่เดี๋ยวผมจะเล่าแบบคร่าวๆ ในนี้ด้วยนะครับ

ทริปนี้เราเดินทางกันตามนี้นะครับ ใช้เวลาทั้งหมด 7 วัน

เริ่มจาก Bangkok -> ต่อเครื่องที่ Manila -> บินไปเกาะ Coron เที่ยวที่นี่ 2 วัน ->

นั่งเรือ Ferry ไป El nido เที่ยวเมืองนี้อีก 3 วัน ->เดินทางมาขึ้นเครื่อง เมือง Puerto princesa ->

บินกลับมาต่อเครื่อง Manila -> บินกลับ Thailand

ส่วนใครที่ไม่มีเวลามาก เลือกเอาสักเมืองก็ได้ครับ จะเน้นไปที่ Coron หรือ El nido ก็ได้

อาจใช้เวลาแค่ 3 วัน หรือ 4 วันก็ได้ครับ

รู้รายละเอียด การเดินทาง ทรืปนี้กันคร่าวๆ ละ ได้เวลาลุยกันละครับ เย้ๆ..

ผมขอข้าม ขั้นตอนการเดินทาง ตั้งแต่ในประเทศไปละกันครับ คิดว่าคงพอทราบกันแล้ว


ไปดู จุดหมายแรกของเรากันดีกว่า เกาะ Coron ครับ

การเดินทางมาที่เมือง Coron (Busuanga) มี 2 วิธีนะครับ 1. เครื่องบิน 2. ทางเรือ

1. ทางเครื่องบิน เราต้องไปที่กรุงมะนิลาก่อนนะครับ จากกรุงมะนิลา แล้วค่อยบินตรงมาลงที่สนามบิน Coron (Busuanga)

2. บินไปลงที่เมือง Puerto Princesa บน เกาะ Palawan ก่อน แล้วนั่งรถไปที่เมือง El nido แล้วค่อยนั่งเรือ

จากเมือง El nido ไปอีกที

ก็แล้วแต่ความถนัด และช่วงเวลา ของแต่ละคนครับ แต่ผมเลือกวิธีบินตรงจากมะนิลาไปเลย

อยากไปที่เมืองนี้ก่อน เพราะ Hilight ของทริปนี้ คือที่ Kayangan Lake บนเกาะ Coron นี่แหละครับ



วันแรก ในฟิลิปปินส์ 11/04/2017

เราไปดู สถานที่สำคัญต่างๆ ในเมือง Coron ตามรูปเลยครับ


อย่างที่บอกนะครับ เมือง Coron ผมเขียนรีวิวแบบละเอียดไปเรียบร้อยแล้ว

เพราะงั้น เราไปชมบรรยากาศ สวยๆ ของเมืองนี้กันเลยดีกว่าครับ

ท่าเรือของเมือง Coron วิวดีมาก..

วิวสวยๆ บนจุดชมวิว Mount Tapyas View Deck


อีกมุมสวยๆ ครับ


เดินอ้อมมาข้างหลัง วิวอย่างสวย


บรรยากาศ พระอาทิตย์ตก บน Mount Tapyas View Deck



วันแรก ที่มาถึง ก็มีเที่ยวแค่จุดเดียว คือ Mount Tapyas View Deck นี่แหละครับ





วันที่ 2 ในฟิลิปปินส์ (12/04/2017)


วันที่ 2 ผมซื้อ Tour แบบ Ultumate Tour คือครอบคลุม จุดสวยๆ หมดละ ราคา 1,500 php ราวๆ 1,200 บาท

ไปดูทะเลสวยๆ ของเกาะ Coron กันเลยครับ

จุดจอดเรือ kayangan Lake แค่จุดจอดเรือ ก็ว้าวละครับ น้ำใส สวยมาก



อีกมุม ของจุดจอดเรือ



ทางขึ้นไป Kayangan View Deck และ Kayangan Lake



เดินขึ้นมาสักพักจะเจอป้าย ทางแยก ไปจุดชมวิว Kayangan View Deck หรือจะลงไปเล่นน้ำที่ Kayangan Lake ก่อนก็ได้ครับ



และนี่คือ Hilight ของทริปนี้ครับ


" KAYANGAN VIEW DECK "

สวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ต้องรอคิวพอสมควรครับ เพื่อจะถ่ายวิวนี้ ไม่งั้นจะถ่ายติดกิ่งไม้แบบนี้ครับ


ยืนดูวิวอลังการแบบนี้ จนสาสมใจ 55+ ก็ไปต่ออีกจุดกันครับ Kayangan Lake

เราก็เดินลงมานิดเดียวครับ แล้วก็จะเจอกับวิวนี้

ว้าว.........


สวยไม่แพ้จุดชมวิว เลยครับ น้ำใสมาก สีฟ้า สวยจริงๆ



อย่าลืมเอาเสื้อชูชีพมาด้วยนะครับ เค้าบังคับให้ใส่ทุกคน ไม่งั้นอดครับ ผมดันไม่ได้ฟังไกด์บอก เลยอดเล่นเลย



จากจุดนี้ kayangan lake เราก็ไปต่ออีก 2 เกาะครับ

Beach 91 ที่พักกินข้าวเที่ยง น้ำสีฟ้าเลย สวยดี



CYC Beach อีก 1 หาดน้ำใสๆ



ที่สุดท้าย Twin Lagoons ต้องว่ายน้ำเข้าไป หรือ พายเรือคายัพ น้ำค่อนข้างลึกนะครับ ข้างใน ควรใส่เสื้อชูชีพด้วย



วิวเมือง Coron สวยๆ ยามเย็น ที่ท่าเรือ


แล้วก็นี้ครับ สาเหตุที่ว่า ทำไม ฟิลิปปินส์ ถึงเก่ง บาสเก็ตบอลกัน เพราะประเทศนี้ ไปที่ไหนก็มีแต่แป้นบาสครับ

นี่ถึงขนาด เล่นกันบนพื้นดิน เลยทีเดียว แม่เจ้า บร้าเข้าขั้นมาก เล่นกันไปได้ไง 55+


เป็นอันจบทริป Coron เรียบร้อย เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะเดินทางไปเมือง El nido กันต่อครับ



วันที่ 3 ในฟิลิปปินส์ ( 13/04/2017 )


มาเข้าสู่การเดินทาง ของเรากันต่อดีกว่าครับ

หลังจากเชคเอ้าท์ ที่โรงแรมเสร็จ ก็ได้เวลาออกเดินทางกันต่อครับ อ้อ ลืมบอกไป ตั๋วเรือ Ferry ถ้าไม่ได้จองล่วงหน้า
เราบอกให้ทางโรงแรม จองให้ได้นะครับ แต่อาจได้ที่นั่ง VIP แบบผม เดี๋ยวไปดูกันว่า VIP ยังไง 55+

การจองตั๋วเรือ ferry ในตัวเมือง Coron มีหลายร้านครับ เดินเลือกเอาได้เลย

ราคาจะอยู่ที่ ราวๆ 1,760 php ใช้เวลาราวๆ 4 - 5 ชม.

แล้วก็จะมีเรืออีกแบบ เป็นเรือโดยสารปกติ ซึ่งใช้เวลามากกว่า ราวๆ 6 - 7 ชม.

แต่ราคาจะถูกกว่า ราวๆ 1400 php ก็เลือกกันตามถนัดครับ

จากที่พัก เราก็ต้องนั่งเจ้ารถ Taxi ฟิลิปปินส์ หรือเจ้า tricycles ครับ ซึ่งเป็นที่นิยมมากใน ฟิลิปปินส์

หน้าตาเป็นแบบนี้แหละครับ

ก็บอกเค้าไป Ferry station ราคาเหมาคนเดียว 50 Php ก็ไม่แพงนะครับ (ราวๆ 34 บาท)


นั่งสักพักก็มาถึงละครับ ท่าเรือ Ferry ให้เดินเข้าไป ตามลูกศรนะครับ


เดินเข้ามา เค้าจะขอดูตั๋ว หน้าตาเป็นแบบนี้นะครับ


เสร็จแล้วเราต้องจ่ายค่า เข้าท่าเรือเค้า ราคา 20 php


เสร็จแล้วก็เดินเข้ามารอข้างในตึกครับ พอถึงเวลาเค้าก็จะเรียกให้ไปขึ้นเรือ

ก็เป็นผู้ตาม ที่ดี เดินตามเค้าไปครับ 55+

นี่เรือของเรา


และเหตุการณ์ ที่ไม่คาดคิด ก็มาอีกละครับ 55+

เนื่องจากผมให้ทางโรงแรม จองตั๋วเรือให้เมื่อวาน แล้วเดินทางวันนี้ ทำให้ ในตั๋ว ไม่มีที่นั่งครับ 55+

จากที่จะได้นั่ง ในห้องแอร์เย็นๆ ผมเลยได้นั่ง ที่นั่ง VIP แทนครับ

นี่แหละครับ ที่นั่ง VIP 55+


แหมเอากันข้างถังขยะเลยทีเดียวเชียว 55+ แต่มันก็เป็นข้อดีอีกอย่างนะครับ

เพราะนั่งตรงนี้ ได้เห็นวิว ระหว่างทาง เต็มๆ เลยครับ ชิลไปอีกแบบ


แค่เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนความคิด อะไรๆ ก็ดีขึ้นครับ อิอิ นั่งชิลๆ กันไป 5 ชม. 55+



ผ่านไป 5 ชม.ในที่สุด เราก็มาถึงเมือง El Nido กันละคร๊าบ เย้ๆๆ



" El Nido "

El Nido จะเป็นเมือง ที่อยู่ทางตอนเหนือของเกาะ Palawan นะครับ เรียกว่าเป็นเมืองท่องเที่ยว ของเกาะ Palawan เลยก็ว่าได้


การเดินทางไปเมือง El Nido มี 2 วิธีเหมือนกันนะครับ


1. โดยเครื่องบิน เราต้องไปลงที่เมือง Puerto princesa ก่อนนะครับ ซึ่งจะเป็นเมืองใหญ่เลย ของ Palawan

จากนั้นจึงค่อยนั่งรถบัส หรือรถตู้ มาที่ El Nido

2. โดยเรือ Ferry เราสามารถนั่งเรือมาจากเกาะ Coron โดยใช้เวลาราวๆ 5 ชม. ครับ ราคา 1,760 php (ราวๆ 1,200 บาท)


โดยทริปนี้ ผมเริ่มจากการไปลงที่เมือง Coron ก่อน แล้วค่อยนั่งเรือมาที่เมือง El Nido อีกที

เมือง El Nido อารมณ์แบบ แนวๆ เกาะหลีเป๊ะ บ้านเรานะแหละครับ แต่ยังไม่เจริญขนาดนั้น

ดูเหมือนไฟฟ้า จะมีเป็น Zone ไม่ได้ทั่วทั้งเมือง เพราะบางรีสอร์ท ก็ต้องมีเครื่องปั่นไฟเอง

ใครจะไปที่เมืองนี้ ก็เชคกับทางโรงแรมด้วยนะครับว่า มีไฟฟ้า ตลอด 24 ชม.รึป่าว


ตัวเมือง El Nido ครับ กับสถานที่สำคัญหลักๆ


ผมก็ยังแปลกใจ ทำไม เกาะ Coron ที่ต้องนั่งเรือไปอย่างไกล กลับมีไฟฟ้าใช้ทั้งคืน

แต่เมือง El nido ซึ่งน่าจะเป็นเมืองหลักๆ ในการท่องเที่ยว ดันไม่มีโรงไฟฟ้าใหญ่ๆ ซะงั้น 55+ อารายของเค้า

แต่ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นครับ ถ้ามาพักในตัวเมืองหน่อย ผมว่าน่าจะมีไฟฟ้าใช้กันหมดแหละ

ส่วนตามรีสอร์ท ก็จะมีเครื่องปั่นไฟ สำรอง อยู่แล้วครับ หายห่วง

มาต่อกันกับการเดินทางของเราดีกว่าครับ หลังจากแนะนำเมือง El nido ไปแล้ว

มาถึงท่าเรือ ก็เดินออกไปเรื่อยๆ ครับ กะว่าจะเดินไป ที่โรงแรม ดูจากแผนที่ ราวๆ กิโลกว่า เอาน่าประหยัดๆ 55+

ตอนแรกกะไม่จองที่พัก กะมาเดินหาเอาเอง แต่คิดอีกที เรือต้องมาถึงเย็นๆ แน่เลย

เลยจองที่พัก วันแรก ไว้ก่อน จาก Agoda ถ้าไม่เวิร์ค ค่อยเปลี่ยนใหม่

จากท่าเรือไปที่พัก ราวๆ 1.8 กิโล เอาว่ะ เดินก็เดิน


แต่ไปได้ครึ่งทางก็ถอดใจครับ 55+ นั่งเจ้า tricycles ดีกว่า 55+ ราคาก็ มาตรฐานครับ 50 php


และนี่ที่พักคืนแรกของเราครับ ราคา 356 บาท 55+ ครั้งแรกเลยกับการนอน โฮสเทล แปลกดีเหมือนกัน


ถึงว่าราคาถูกจัง ทุกอย่างโอเครนะครับ เสียอยู่ 2 อย่างจริงๆ คือ


1. ห้องน้ำ เอิ่ม.. คือ ตอนแรกผมคิดว่า ห้องน้ำเสีย เพราะชักโครก มันไม่มีฝารองนั่ง แต่ผมเข้าใจผิดครับ

ที่ฟิลิปปินส์ ห้องน้ำตามนอกเมือง ส่วนใหญ่ ไม่มีฝารองนั่งนะครับ 55+ แล้วมันทำธุระกันยังไง ฟร่ะ นึกภาพไม่ออก

2. ไฟฟ้า อุตส่าเลือกห้องที่มีแอร์ แต่... ที่นี่ ดันไฟดับหลังเที่ยงคืนครับ อืม..แล้วจะมีเพื่อ หลังเที่ยงคืนมา นรกเลยครับ อย่าง ร้อน 55+ นี่ดีนะผมจองไว้แค่วันเดียว พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่

ก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็ลงมานั่งกินเบียร์ ข้างล่างครับ น้องที่ทำพนักงานตอนรับ ก็เฟลนลี่มาก

มานั่งเป็นเพื่อนคุย ถามนั่นโน้นนี่ อืมดีเหมือนกัน คุยกันรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็โอเคร ครับ สนุกดี 55+

แล้วผมก็ได้เจอกับเพื่อนใหม่ ชาวฟิลิปปินส์ 2 คน ที่พักห้องเดียวกัน เค้ามากัน 3 คน ญ 2 กึ่ง ช กึ่ง ญ อีก 1 คน 55+

น้องที่โรงแรม ก็แนะนำให้รู้จักกันครับ ผมก็แนะนำตัวว่ามาจากไทย ว้าวกันใหญ่เลย สงสัยไม่คิดว่าจะมีมา


เพราะที่โรงแรมก็บอก ผมน่าจะคนไทยคนแรก ด้วยซ้ำที่มาพักที่นี่ 55+

มาคนแรก ก็เจอตัวโง่ พูดอังกฤษไม่ได้ ซะละ เป็นอีกเรื่องที่รู้สึกอายขึ้นมาทันที


คนฟิลิปปินส์ เก่งภาษา อังกฤษ กันเกือบทุกคนเลยนะครับ อ่านได้ เขียนได้

เรียกว่า ตั้งแต่ระดับ เด็กตัวเล็กๆ ยัน อาม่า เลยทีเดียว ยอมจริงๆ ครับ เรื่องนี้


ก็นั่งคุย กินเบียร์ กันไป กับเพื่อนใหม่ 2 คน อีกคน ชิงหลับไปก่อนละ เลยยังไม่ได้เจอ

ก็ได้คำแนะนำ สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ในฟิลิปปินส์ มาเพียบเลยครับ

คุยกันจนราวๆ 4 ทุ่ม พวกเราก็พากันขึ้นไปนอนครับ ก็นอนสบาย เปิดแอร์ เย็นฉ่ำ เผลอหลับไปไม่รู้ตัวครับ


มารู้ตัวอีกที ตอนเจ้าแอร์ มันดับนี่แหละครับ เวงละ ... ใช่ครับ เที่ยงคืนปุ๊บ ไฟดับทันที

แต่ยังมีไฟ สว่างนะครับ แต่แอร์ดับเฉย ติดแต่พัดลมเพดาน ซึ่งผมนอน ชั้น 2 ไม่โดนพัดลมครับ กำ คูณ 2


เอาไงละตรู ก็พยายาม ข่มตาหลับครับ แต่นอนยังไงก็ไม่หลับ เลยกะลงมาหาเบียร์กิน อีกสักหน่อย จะได้หลับสบาย

ลงมาก้ไม่เจอใครละครับ มีพนักงาน โรงแรม ผู้ชาย อยู่ 4 คนนั่งเมากันอยู่


ผมก็สั่งเบียร์มานั่งกินคนเดียว สักพัก น้องๆ ก็มาชวนไปนั่งกินด้วยกันครับ

เอาละซิ ลองดูฟร่ะ ถึงจะคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่เรามี แอลกอฮอล์ เป็นตัวเชื่อม สัมพันธ์อยู่แล้ว กลัวอะไร 55+

ก็เลยลองไปนั่งกิน นั่งเล่น กะคน พื้นเมืองที่นี่ดูครับ แต่..ผิดคาด


จากที่นึกว่า เราจะคุยกันไม่เข้าใจ สื่อสารกันไม่ได้ มันจะสนุกเหรอ ผิดเลยครับ...

กลายเป็นว่า สนุกมากกกกกกกกก


ทุกคน เค้ามีพื้นฐานภาษาอังกฤษ ที่โอเครกว่าผมอีก เค้าก็พยายาม สื่อสาร จนผมเข้าใจบ้าง

วิธีการ ส่วนใหญ่ ก็คือ พิมพ์ใน โทรศัพท์ เอานะแหละครับ Google translate นี่แหละ ตัวช่วย สุดยอดแล้ว 55+


คืนนั้น ยอมรับเลยว่า สนุกมาก ภาษา ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ ของการสังสรรค์ ในวงเหล้าเลยครับ

ไม่ว่าเราจะเชื้อชาติอะไร มาจากที่ไหน เมาได้เหมือนกันครับ 555+

ทั้งร้องเพลงกัน เล่นกีตาร์ เมา สนุกมากครับ เป็นบรรยากาศ ที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเจอ ที่นี่

มันเป็นเสน่ห์ของการเดินทางจริงๆ ซึ่งเงินก็ซื้อไม่ได้ คุณต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองเท่านั้น

ที่เค้าว่าชาวฟิลิปปินส์ มีเพลงในหัวใจ นี่ใช่เลยครับ

แล้วคืนนั้น ผมก็สอน ภาษาไทย ให้กับชาวฟิลิปปินส์ไปหลายคำเลย 1 ในนั้นคือ คำว่า " ชนแก้ว " 55+



นี่คงเป็นอีกเหตุผลหลักๆ ที่นักเดินทาง ส่วนใหญ่ หลงรัก มันไม่ใช่แค่ จุดหมายปลายทาง ที่เรา ตั้งใจมา

แต่เสน่ห์อีกอย่าง ของการเดินทาง มันคือ มิตรภาพ นี่แหละครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร จะพูดภาษาอะไร เชื้อชาติอะไร

คำว่า มิตรภาพ ไม่เคยมีแบ่งแยก ไม่เคย มีขอบเขตครับ มันมีอยู่ในตัวเราทุกคน เพียงแค่คุณลองเปิดใจ

จงกล้า แล้วออกเดินทาง คุณจะพบกับมันครับ แล้วมันจะทำให้คุณรู้ว่า ความสุข อยู่ไม่ไกลเลย จริงๆ ครับ


คืนนั้นก็ดื่มกันจน คอพับกันไป ตี 1 กว่าผมก็ขอขึ้นมานอน แต่ก็ยังนอนไม่ได้ ร้อนมากครับ 55+

เลยแก้ปัญหา เอาที่นอนลงมาปูนอนบนพื้นมันซะเลย 55+ เย็นสบายเลยทีนี้ ค่อยยังชั่ว ได้นอนซะที


มาต่อกันครับ จากเมื่อวาน ที่เรามาถึงโรงแรม ที่พักในเมือง El Nido เรียบร้อย พร้อมปัญหาใหญ่ ไฟฟ้า และห้องน้ำ 55+

แหม คิดแล้วก็เสียดาย เพราะผมชอบ การบริการ และพนักงานของที่นี่มากๆ เลยครับ ทุกคน เฟลนลี่มากกกกก

เสียดายแค่ ห้องน้ำ กะไฟฟ้า นี่แหละ แต่ถ้าใครไม่ซีเรียส 2 เรื่องนี้ แล้วอยากได้ที่พักราคาถูก ไม่ไกลจากตัวเมืองมาก
ผมแนะนำที่นี่เลยครับ Tres Verdes Resort & Resto-Bar จองได้จาก Agoda เลยครับ

มาต่อกันดีกว่า หลังจากเมื่อวาน มาถึงที่พัก ซึ่งยังไม่มืดมาก ผมก็เลยกลับเข้ามาตัวเมืองอีกรอบครับ
เพื่อหา One day trip สำหรับพรุ่งนี้ ซึ่งโปรแกรมหลักๆ จะมี อยู่ 4 แบบนะครับ

1. Tour A ราคา 1,200 php ราวๆ 830 บาท เท่านั้นเองครับ
2. Tour B ราคา 1,300 php ราวๆ 899 บาท
3. Tour C ราคา 1,400 php ราวๆ 969 บาท
และ 4. Tour D ราคา 1,200 php ราวๆ 830 บาท

ซึ่งราคา จะเท่าๆ กันทุกร้านเลย เพราะงั้น ถูกโฉลก ร้านไหน ก็เดินเลือกจิ้มกันได้เลยครับ
อ้อ แต่ผมพลาดไปอย่างนึง มันมีแบบ Combo ด้วยครับ คือ เหมา 2 เลย

1. Combo Tour A & B ราคา 1,900 php ครับ ราวๆ 1,315 บาท
2. Combo Tour A & C ราคา 2,000 php ครับ ราวๆ 1,384 บาท
3. Combo Tour C & D ราคา 1,800 php ครับ ราวๆ 1,245 บาท

ซึ่งจะมีเป็นบางร้าน ต้องเดินหาเอาหน่อยนะครับ แต่เพื่อนชาวฟิลิปินส์ ที่พักห้องเดียวกัน ก็แนะนำว่า
ให้ไปแบบ เป็น A , B , C , D ล้วนๆ ดีกว่า เพราะ ยิ่งไปเยอะ ก็อยู่ตรงนั้นได้น้อย คือ รีบกินรีบเที่ยว นะแหละครับ

ก็แล้วแต่ความชอบแต่ละคนครับ ผมมีเวลาอยู่ที่ El nido 3 วัน ก็แพลนไว้ตามนี้ครับ
วันแรก Tour A วันที่ 2 Tour C และวันที่ 3 Free day ครับ

เอ้า ได้เวลาลุยกันแล้ว ไปพิสูจน์กัน ว่าทำไม เกาะ Palawan
ถึงเคยได้รับการโหวตให้เป็นเกาะที่ดีที่สุดของโลก เมื่อปี 2013 ลุยกันเล๊ย 555+



เช้าวันที่ 4 ในฟิลิปปินส์ ( 14/04/2017 )

ตอนเช้า เค้าก็จะมีรถ เจ้า Tricycles มารับเราที่โรงแรมเลยครับ เราก็บอกเค้าไว้ว่าพักที่ไหน ตอนจอง ทัวร์
เดี๋ยวเค้ามีรถมารับเองครับ ไม่ต้องห่วง

บรรยากาศเช้านี้ ที่ชายหาดเมือง El Nido หลายๆ บริษัททัวร์ ก็จะพานักท่องเที่ยวมาขึ้นเรือที่นี่แหละครับ

แล้วตอนกลางคืน ชายหาดที่นี่ ก็เหมือน บ้านเรานะแหละครับ

มีร้านอาหาร ผับ บาร์ เต็มเลย เลือกเมา กันได้ตามใจชอบเลยครับ อิอิ

ได้เวลาก็ขึ้นเรือกันครับ สมาชิกบนเรือ ฝรั่งล้วนๆ มีชาว ฟิลิปปินส์ 4 คน ไม่ต้องถามหาคนไทย

ตั้งแต่มาที่นี่ 4 วันผ่านไป ยังไม่เจอ คนไทย สักคน เลยครับ 55+


เกาะแรกสำหรับ Tour A ของเราวันนี้ 7 Commando Beach ครับ


เนี่ยครับที่มาของเกาะนี้ เจ้า ทหาร 7 คนนี้แหละครับ


มุมสวยๆ ของ เกาะนี้ครับ มีรีสอทร์ท บนเกาะนี้ด้วย แต่ดูท่าจะแพง 55+



จุดหมายต่อไป Small Lagoon ครับ เป็นอีก Hilight นึงของ ที่ El Nido เลยครับ สวยมากกก

มาถึงเรือจะจอดด้านนอก เราต้องเช่า เรือคายัพ พายเข้าไป หรือว่ายเข้าไปเท่านั้นครับ

ให้ผมแนะนำ เช่าไปเถอะครับ ไกลพอสมควร แต่ฝรั่งบางคน โห.. มันว่ายครับ อึดมาก ยอมจริงๆ


ราคาเช่าเรือคายัพก็ 300 php ราวๆ 207 บาท ต่อลำครับ ไปหลายคนก็ไม่แพง นั่งได้ 3 คน

แต่ผมนี่จิ ดันไปคนเดียว แถมตรูไม่รู้ จะชวนใคร ไปมานคนเดียวเนี่ยแหละครับ 55+

ที่เห็นเรือ ออ ออ กัน ตรงนั้น นั่นแหละทางเข้าครับ เล็กมากกกก


เล็กมากจริงๆ เข้าได้ที่ละลำ ต้อง พลัดกันเข้า ออก เอาเองครับ



แต่..พอเข้ามาได้ ต้องร้องว้าว... กันเลยทีเดียวครับ มันสวยมากกกกก


คือเข้ามาข้างใน น้ำในนี้จะเป็นสี เขียวมรกต เลยครับ สวยมากจริงๆ


อยู่ได้สักพักก็ต้องไปต่อครับ เดี๋ยวเราจะไปเวาะกินข้าวกัน ครับ

ที่พักกินข้าวเที่ยงเรา วันนี้ครับ Secret Lagoon


เดินไปทางขวาของรูป จะมีทางเข้าไปข้างใน Secret Lagoon ครับ ทางเข้าอยู่ตรงลูกศรครับ


เข้าไปข้างในก็จะเหมือน แอ่งน้ำเล็กๆ ครับ มีภูเขาล้อมรอบ แต่น้ำไม่สวยเท่าไหร่

เลยเดินกลับมากินข้าวเที่ยงกันดีกว่า อาหารเที่ยงก็จะแนวๆนี้ครับ เหมือนๆกันทุกวัน ทุกทัวร์เลย


กินข้าวเที่ยงเสร็จ พักกันสักนิด ก็ได้เวลาไปดำน้ำกันต่อครับ ถามว่าใต้ทะเลที่นี่ เป็นยังไง ไปดูภาพกันครับ



ผมก็ไม่ค่อยถนัดเรื่องปะกาลัง แต่พอเรียกได้ว่า น้ำทะเลที่นี่ ใสสะอาดมาก ปะกาลังสีๆ ก็มีเป็นบางจุด

ยังมีความสมบูรณ์มากครับ เราจะได้เห็นปลาแปลกๆ หลากสี เต็มไปหมด ถือว่าโอเครเลย สำหรับการดำน้ำตื่นครับ

เสร็จจากดำน้ำ เราก็จะไปกันต่อ จุดสุดท้ายของวันนี้ กับ Big lagoon ครับ

แค่เรือมาจอด ตรงทางเข้า ก็ว้าวละครับ น้ำใสมากกกกกกกกกกกกกก


เนี่ยครับ ทางเข้า Big Lagoon


ตรงทางเข้าช่วงนี้ น้ำใสมากกก เราสามารถเดินได้นะครับ แต่ถ้าเข้าไปข้างในตัว Lagoon จะกว้างมาก น้ำลึก

ทางที่ดี ก็เช่าเรือคายัพ อีกนะแหละครับ 300 php โดนอีกละครับ ไปคนเดียว 55+ เอาน่า มาแล้วต้องลุยครับ

เข้ามาข้างใน Big Lagoon ก็จะ คล้ายๆ Small Lagoon ครับ แต่จะกว้างกว่ามาก

น้ำก็จะสีเขียวมรกต คล้ายๆกัน เรียกว่าสวยคนละแบบครับ ไปชมภาพกันครับ


น้ำสีสวยจริงๆ สีเขียวมรกต แถมใสมาก ใสจนมองเห็นพื้นเลยครับ



ขาออก สังเกตดูครับ ความใสของน้ำ มองเห็นพื้นกันเลยทีเดียว



และนี้ก็คือจุดสุดท้ายของวันนี้ครับ เรียกว่า ประทับใจมาก กับ Tour A ของ El Nido

โดยเฉพาะ Small Lagoon และ Big Lagoon ครับ ที่ผมชอบมาก เรียกว่าเข้าไปแล้ว ต้องร้อง ว้าว.. กันเลยทีเดียว

ด้วยความใสของน้ำ สีของน้ำ ที่เขียวมรกต บางจุดก็สีฟ้าไปเลย บวกกับรูปทรงของภูเขาที่ดูแปลกตา

ทำให้ Small Lagoon และ Big lagoon เป็นอะไรที่สวยมากกกกก ครับ แนะนำเลยว่าต้องมากัน


จบทริปเรือก็มาส่งเราที่เดิมครับ เมื่อเช้า ผมตัดสินใจ ไม่พักต่อที่โรงแรมเดิม

(รับไม่ได้ตรงห้องน้ำ นี่แหละครับ เมื่อเช้า เลยยังไม่ได้ทำธุระหนักเลย 55+)

ผมเลยเชคเอ้า แล้วฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม กะกลับมาแล้วค่อยไปเดินหาที่พักอีกที

พอเรือมาส่ง ก็เดินไล่ถามที่พักไปเรื่อยๆ ครับ แต่ความซวย มาเยือนอีกละครับ


ที่พักเต็มเรียบ แถมไอ้ที่มี ก็ราคา 1,500 php ขึ้นไป (ราวๆ 1,035 บาท ต่อคืนครับ)

เอาไงดีฟร่ะ กะนอนแค่คืนละ 500-600 ก็พอ ก็เดินหาไปเรื่อยๆ ครับ


เดินไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่เจอ สุดท้ายเลยใช่วิธีเดิม ผมก็เลยส่องที่พักจาก Agoda เหมือนเดิมครับ 55+

ไปเจอว่า ยังมีที่พักราคาถูก เป็นห้องเดี่ยว ห้องพัดลม ห้องน้ำในตัว อยู่ใกล้ๆ ที่พักเดิมนี่น่า เอาว่ะ อยู่ๆ ไปก่อน พรุ่งนี้ว่ากันใหม่


ก็จองเลยครับ แต่นะ บัตรเครดิต ผมก็ไม่มี 55+ จะตัดบัตรเดรบิต ก็ดัน ส่งข้อความมายืนยัน การตัดบัตร จากเบอร์เดิมไม่ได้

เอาไงละทีนี้ ก็เลย วานให้น้องที่อยู่ไทย จองให้แทนครับ 55+ แล้วเดี๋ยวค่อยโอนตังไปให้

ก็รอดไปอีก 1 คืน 55+ นี่ไง วิถี backpacker เฮ้อ.. แต่มันก็สนุกไปอีกแบบนะครับ

เพราะเราไม่รู้ว่า เราจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เราต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ให้ได้ ตลอดเวลา


ได้ที่พักแล้ว ก็กลับไปเอากระเป๋า ที่โรงแรม ที่พักใหม่ ก็ราคา 600 กว่าบาทครับ

อยู่ไม่ไกลจากที่เดิมมาก ก็พอเดินได้ 300 เมตรเท่านั้น แต่ทางเข้าจากถนนใหญ่ ค่อนข้างจะชนบทมาก

เรียกว่า เป็นทางเดินแคบๆ เข้าไปตามบ้านเรือน ชาวบ้านแถวนั้นเลยครับ

ถามว่าอันตรายมั้ย ก็ไม่นะครับ ดีที่คนที่นั้น ส่วนใหญ่ คิดว่าผมเป็นคน ฟิลิปปินส์ 55+


คือคนไทย กะคน ฟิลิปปินส์ นิ เหมือนกันยังกะแกะ เลยครับ 55+

ตั้งแต่มาวันแรก มีแต่คนคิดว่าผม เป็นคนฟิลิปปินส์ พูดภาษาพื้นเมืองใส่ซะงั้น 55+


เข้าที่พัก ดูสภาพห้องพัก ใหม่เลยทีเดียว สะอาด ใช้ได้ ห้องน้ำมีชักโครก อย่างดี สายฉีด แต่.......

เราก็เจอปัญหาใหม่อีกละครับ 555+

คือน้ำที่นี่ มีกลิ่นครับ เป็นกลิ่นดิน คือเหมือนเค้าสูบน้ำบาดาล มาใช้ แต่น้ำมันยังขุ่นอยู่

คือเปิดน้ำมา ยังเป็นสีน้ำตาลอยู่เลย กำ... หนีเสือปะจรเข้ อีกละ 555+


แต่อนาคต อาจจะดีขึ้นก็ได้ครับ ใครสนใจก็ลองจอง จาก Agoda ได้ครับ

ที่นี่ ALESTON SECRET Apartment Breakfast incluse ครับ คืนละ 600 กว่าบาท


ไม่มีทางเลือกละ ยังไง ก็ต้องอาบ ต้องนอนที่นี่แหละครับ เอาน่า อย่างน้อยมีพัดลม มีไฟฟ้าใช้ทั้งคืน

คืนนั้นก็นอน แบบมีกลิ่นตัว แปลกๆ นะแหละครับ กลิ่นมันเหมือน เราไปอาบน้ำคลอง บ้านเรามานะแหละครับ 55+


อ้อ ลืมเล่าไปว่า ตอนไปเอากระเป๋า ผมให้น้องที่โรงแรมแรก จอง Tour พรุ่งนี้ให้ เป็น Tour C

เพราะมีเพื่อนๆ พนักงานในโรงแรม แนะนำให้ ว่าสวย ต้องไป ผมเลยนัดกะน้องเค้าไว้ว่า พรุ่งนี้ จะมารอที่โรงแรมครับ


คืนนั้นก็นอนหลับ สบายกว่าคืนแรก เพราะมีพัดลม ส่วนตัวละ ค่อยยังชั่วหน่อย

แล้วเดี่ยวมาต่อกันพรุ่งนี้ กับการผจญภัยใน ฟิลิปปินส์ กันครับ




เช้าวันที่ 5 ในฟิลิปปินส์ (15/04/2017)

จากพี่บอกไปนะครับ วันนี้เราจะไป Tour C กัน แต่เราจะไปกับ Tour ที่ทางโรงแรม จองให้ ราคา 1,600 php
ถึงว่าทำไมราคา เหมือนจะแพงไปนิดนึง จากที่ดูส่วนใหญ่ ราคาแค่ 1,400 php เพราะวันนี้เราไป เรือใหญ่ครับ

คือตั้งแต่วันแรก ที่ซื้อ One day trip มา จะมีแต่เรือลำเล็กๆ จุได้ 9 - 15 คน
แต่วันนี้ เจอลำใหญ่เลยครับ 30 กว่าคนได้ หืม.. สนุกละซิ มะรึงงานนี้ แค่ฝรั่งไม่กี่คน ยัง งงเด้ งงเด้ 55+

เอาครับไปลุยกัน ไหนๆ ก็ มาละ ไปดูกันว่า วันนี้เราจะเจอกับอะไร กันบ้างครับ ลุย... 55+

วันนี้เราไม่ได้ไปขึ้นที่ หน้าหาดเหมือนเดิมครับ แต่ขึ้นตรง Zone ที่พักริมทะเล กันเลย

เดินออกจากโรงแรมเดิน ทะลุ ออกมา จะเจอชายหาดครับ ตามลูกศร เลยครับ เราจะเดินออกมาโผล่ตรงนี้

จากนั้น เค้าก็จะเอา เรือคายัพ มารับเราไปขึ้นเรือใหญ่อีกทีครับ วิวตรงนี้สวยมากเหมือนกันนะ ตอนเช้า



อ้อ แล้ววันนี้ ผมก็ได้เพื่อนใหม่ อีกคนละครับ เป็นชาวสเปน เค้ามาพักที่โรงแรม ที่ผมพักวันแรก

น้องที่โรงแรม เลยแนะนำให้รู้จักกัน เพราะเรา 2 คน จองทัวร์มาจากโรงแรมเดียวกันครับ

ทำให้เหมือนเราเป็น บัดดี้ กันไปเลยครับวันนี้ คือมะรึงไปไหน ตรูไปด้วย 55+

ก็ดีครับ ในชีวิตไม่เคยคิดว่าจะมีเพื่อน เป็นชาวต่างประเทศ กับเค้าสักที แหม จะว่าไปแล้ว ก็รู้สึกดีนะ 55+


นี่ครับ เพื่อนใหม่ ชาวสเปน ดีนะ ชอบฟุตบอลทีมเดียวกัน เรอัล มาดริดครับ ชอบ บาซ่า คงไม่สนิทกันเร็วขนาดนี้ 55+


สมาชิกบางส่วนวันนี้ครับ ฝรั่งทั้งนั้น 20 กว่าคน อืม..



รวมกับครอบครัว ของกัปตัน ที่น่าจะอาศัย อยู่กันบนเรือเลย ทำให้สมาชิกวันนี้ 30 กว่าชีวิตได้ครับ



แต่ข้อดีของเรือใหญ่วันนี้ก็คือ มีเพลงฟังด้วยครับ 55+ เจ๋ง


ปะได้เวลาออกเดินทางกันละครับ ลุย...


ที่แรกของวันนี้ คือ Secret Beach ครับ เรือจะมาจอดตรงนี้ เราต้องว่ายน้ำ เข้าไปตรงรูแคบๆ ครับ

แล้วแหม ฝรั่งทั้งลำ ไม่มีใคร ใส่ชูชีพสักคน แถมถอดเสื้อกันหมด ไม่ได้ เราจะให้เสียชื่อ คนไทยไม่ได้

ถอดก็ถอดว่ะ 55+ นาทีนี้ โชว์พุง กะต้องยอมละ มันก็พากันกระโดด ตูมๆ ว่ายมือเปล่ากันเข้าไป

ไอ้เราก็แชมป์ว่ายน้ำ คลองอีสาณเขียว สมัยเด็กๆ เรื่องอะไรจะยอม โดนตามแม่มเลย ซิครับ ลุย 55+



ตรงทางเข้านี้ อันตรายพอสมควรนะครับ คือน้ำตรงนี้ ลึก นะครับ ต้องว่ายเข้าไปเกาะผนัง ซึ่งดันมีคลื่นด้วย

แล้วคลื่นก็แรงพอสมควร ตอนเข้า ต้องเข้าทีละคน แล้วก็ระวัง หัวให้ดีครับ เพราะคลื่นจะซัดเราไปชนกะผนังทางเข้าได้

เข้ามาข้างในก็จะเจอวิว ประมาณนี้ครับ


ถามว่าสวยมั้ย ก็ไม่เท่าไหร่ครับ แต่หินของที่นี่ จะรูปร่างแปลกๆ ก็สวยไปอีกแบบนะผมว่า คือจะเรียวๆ แหลมๆ คมๆ นะครับ

แปลกตาดี ก็อยู่เล่นน้ำกันสักพักครับ เนื่องจากคนเราเยอะ เค้าก็ให้เวลา พอสมควร ผมก็อยู่กะบัดดี้ ชาวสเปน ไปเรื่อยๆ

แต่ผมว่า คนเยอะเนี่ย ไม่ใช่ดีนะครับ ผมว่า มันทำให้เหมือน ต่างคน ต่างเที่ยว กลุ่มใคร กลุ่มมัน ซะมากกว่า

ไม่ค่อยทักทายกัน เหมือนเรือเล็กๆ ที่ดูจะสนิทสนมกัน เฟลนลี่ กันมากกว่า คุยกันได้ ทั่วถึงกว่า

ถ้าเลือกกันได้ ผมแนะนำ ไปเรือ เล็กๆ สมาชิกไม่เยอะ จะเวิร์คกว่าครับ ก็แล้วแต่คนชอบครับ

อยู่สักพักก็ได้เวลาไปต่อครับ Tour C นี่ แต่ละเกาะ จะไกลกว่า Tour A เยอะครับ เหมือนจะเป็นคนละ Zone กันเลย


เพราะงั้นไปแต่ละที่ ก็ใช้เวลานิดนึงครับ ตอนออกจากชายหาด ในเมืองมา กว่าจะถึงจุดแรกนี่ก็ปาไป 40-50 นาที ได้ครับ

สักพักเราก็มาถึงจุดที่ 2 กันละครับ ซึ่งเป็น Hilight ของ Tour C เลยก็ว่าได้


ที่นี่ คือ Matinloc Shrine ครับ มาถึงเรือก็จะเข้าไปจอด ตรงนี้ครับ


เราต้องลงเดิน เข้ามาข้างใน ก็จะเจอเหมือน สถานประกอบพิธีทางศาสนาเก่าครับ



เดินผ่านตรงนี้ไป ทางซ้ายจะมีทางขึ้นไปจุดชมวิว ซึ่งสวยมากกกกกกก ครับ


ไปดูกันว่าวิวเจ้า Matinloc Shrine จะสวยขนาดไหน


หินตรงนี้แหลมคมเลยทีเดียว เอารองเท้ามาด้วยก็ดีนะครับ ผมไม่รู้เลย ทนเจ็บๆ เอา ร้อนเท้าด้วย 55+


ถ่ายให้เพื่อนใหม่ชาวสเปน สักหน่อย


อืม..หุ่นมะรึง จะดีไปไหน เกรงใจตรูบ้าง เดี๋ยวเค้าจะงง

มาเป็นเพื่อนกะตรูได้ไง 55+ เอาน่า.. อย่าไปอายครับ ลุย อิอิ


มาดูวิวแบบเต็มๆ ของที่นี่กันบ้างครับ Matinloc Shrine สวยมากกกกก

น้ำเป็น 2 สีเลย ผมว่าที่นี่แหละ Hilight ของ Tour C #Matinloc Shrine


มุมอื่นๆ ก็สวยนะครับ เดินลงมาจาก จุดชมวิว แล้วเดินตรงไปอีกหน่อย จะเจอท่าเรือเล็กๆ


วิวตรงนี้ก็สวยมากครับ น้ำใสมากกก ไปดูกันครับ


ก็อยู่ที่นี่ กันพักใหญ่ๆ ก็ได้เวลาไปต่อครับ วิวตรงที่จอดเรือ ก็สวยใช่เล่นนะ



จุดต่อไป เราจะเวาะไปพัก กินข้าวเที่ยงกันครับ อันนี้ ผมจำชื่อไม่ได้ ว่ามันชื่ออะไรนะครับ

แต่คาดว่าน่าจะ Star Beach ครับ ซึ่งเป็น ชายหาดสั้นๆ แต่ก็สวยดีครับ


เกาะนี้จะมีห้องน้ำ แบบส้วมหลุม ก็พอได้ เบา กันครับ หรือจะลงทะเล ก็ตามสบายครับ 55+

เราก็พักที่นี่กันค่อนข้างนาน กว่าจะทำอาหารเสร็จ สำหรับ 20 กว่าคน ก็นั่งเล่น นอนเล่น หรือจะไปว่ายน้ำเล่นกัน ก็ได้ครับ

ลองเดินมาเรื่อยๆ น้ำทะเลที่นี่ ยอมเรื่องความใส เลยครับ ใสสะอาดดีจริงๆ


ก็พักทานข้าวเสร็จ แถมเบียร์ นิดหน่อย อ้อ แต่ละเกาะของที่นี่ จะมีบริการขาย น้ำอัดลม ขายเบียร์ อยู่เรื่อยๆ นะครับ

ราคาเบียร์ก็กระป๋องละ 60 php ราวๆ 41 บาท ก็โอเคร พอรับได้นะครับ ไม่แพง แลกกับความฟิน 55+

ไปต่อกันครับ จุดต่อไป Hidden Beach ครับ ทางเข้านี่คล้ายๆ Big Lagoon เลย คือต้องเดินลุยน้ำตื่นๆ เข้าไป

แล้วตรงทางเข้านี่ น้ำใสมากกก ใส พอๆ กะ Big lagoon เลยครับ ที่นี่เดินเข้าไปได้นะครับ น้ำไม่ลึก


ถ่ายตอนขาออก ขาเข้า กล้องดันขึ้น เมมมอรี่ เต็ม 55+ แต่น้ำใสมากก ขาวจริงๆ เอ้ย ใส จริงๆ 55+


เข้ามาก็จะเจอ ชายหาด แบบนี้ครับ


แล้วก็นะ การมีเพื่อนเป็นฝรั่ง มันก็ดีนะครับ แต่ข้อเสียก็คือ ฝรั่งมันชอบอาบแดดมากกกกกก

คือไปตรงไหน มันก็จะนั่งอาบแดด อืม... อ้ายฟาย.. มะรึงถามกรูมั้ย

Thailand not like sunlight , you know. แฮ่....

คือจะไม่ไปนั่ง เป็นเพื่อนมัน เดี๋ยวมันก็ว่าเรา ทำไมต้องตีตัวออกห่างฟร่ะ มาก็มาด้วยกัน

พอมาถึงตรงนี้ มันก็ล้มตัวลงนอน ตากแดดเลย อืม.. งั้นเชิญ You ตามสบายนะ ไอ ขอหลบแดดแพ๊บ 55


แล้วมันก็หลับไปเลยครับ กลางแดด นะแหละ อืม.. เข้าใจละ ว่ามันชอบจริงๆ 55+

ส่วนผมนะเหรอ หลบมานั่ง ในร่มซิครับ 55+


นั่งเล่นพักใหญ่ๆ สักพัก ไกด์ ก็ ให้สัญญาณ ไปต่อ ส่วนไอ้หนุ่มสเปนนะเหรอ

มันหลับ กลางแดดครับ ห่วย... ต้องเดินไปปลุก จริงจังครับ มันถึงตื่น ชอบแดดขนาดนี้ ไปอาบแดดบ้านตรูมั้ย 55+


แต่ผมก็ถามแล้ว ว่า you เคยไปประเทศ ไอ รึยัง มันบอกไปมาแล้ว ชอบมากกก ไปกระบี่ กะภูเก็ต มาสวยมาก

แล้วสาวไทยละ แหม.. แทบจะคำตอบ เดียวกัน ทุกประเทศ ชอบซิเห้ย Man 55+ อืม ตรูก็ชอบ


จุดต่อไป ของเรา เป็นจุดสุดท้ายของวันนี้ละครับ นั่นคือ Helicopter Island

ชื่อเกาะ มันจะบินได้มั้ย ไปดูกันครับ 55+


เนี่ยแหละครับ เจ้า Helicopter Island สวยดีเหมือนกันนะ


เสียดายเรามาเย็นไป น้ำทะเล บางส่วนโดนเงาภูเขาบัง ทำให้น้ำไม่เป็นสีฟ้าแล้ว

ก็จะเห็นเป็นสีฟ้า แค่ตรง ที่โดน แสงแดด นั่นแหละครับ

มาถึงกลุ่มใหญ่ๆ เค้าก็เล่นเกมส์ กินเบียร์กัน ไอ้เราก็ไม่รู้จัก บางกลุ่ม สาวๆ ก็ นอนอาบแดด

ส่วนผม กะหนุ่ม ชาวสเปน ก็เหมือนเดิมครับ

ช่าย.... มันชวนไปนั่งอาบแดด อีกแล้วครับ เฮ้อ..

รอบนี้ไม่ไหวละครับ ตากแดด มาทั้งวัน หลังกะคอ เริ่มแสบละ เลยถามมันว่า You อยาก Snorkel มั้ย

มันก็บอก ไอ ม่ายมี แว่นตา ดำน้ำ โอ้ว ไม่เป็นไร เดี๋ยวตรูไปหาให้ ผมก็เลยเดินกลับมาที่เรือ ขอยืมมา 2 อัน


คือขอตรูไปดำน้ำดีกว่า ไม่ร้อน ดีก่านั่งตากแดด แล้วก็เลยได้ Snorkel กันครับ เพราะทั้งวัน ไม่มีจุดให้ดำน้ำเลย

เพราะงั้น ใครเลือก Tour C ไม่มีดำน้ำเลยนะครับ มีแต่ต้องไป ขอดำกันเอง หรือมากะแก๊งนี้ ไม่ชอบดำกันฟร่ะ อืม..


แล้วก็เพิ่งรู้ว่า ฝรั่งเนี่ย มันว่ายน้ำกันเก่งมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ว่ายแบบไม่ต้องมีชูชีพ ได้เป็น ครึ่ง ชม. ทามได้ไงฟร่ะ

ผมนี่ดำได้ 10 ก่านาที ก็เริ่มเหนื่อยละ เอ๊ะ รึเราแก่ 55+

มันก็สนุกใหญ่เลยครับ ขอบคุณผมเป็นการใหญ่ บอกขอบใจมากที่ไปหา แว่น Snorkel มาให้


อืม... ปกติ ทุกทัวร์ มันก็มีให้ยืมป่าวว้า มะรึงไม่ได้ถามไกด์เองนี่น่า

เอาน่า ไม่เป็นไร ไอ ชอบ ดีก่า You ชวน ไอ ไปนั่งตากแดดนะ 555+


สรุปทัวร์วันนี้ ก็จบลงที่เกาะนี้ครับ แล้วก็ได้เวลากลับ เรือก็ไปส่งเราที่เดิม แต่ดันไกลกว่า จุดที่รับมาเมื่อเช้า

ผมมองแล้ว เห้ย เดินกลับก็ได้นะ เดินเล่นริมหาดไปเรื่อยๆ ซึ่งมันไม่ไกลเท่าไหร่ 400-500 เมตรเอง


ก็เลยบอกหนุ่มสเปนว่า เราเดินกลับกันดีกว่า ชิลๆ แล้วก็คิดถูกมากๆ ครับ

เพราะวิว ตอนเย็นของชายหาดตรงนี้ สวยมากกกกกกก


ดูเหมือนน้ำจะลง ไปเยอะมาก ไม่เหมือนเมื่อเช้า ไปดูบรรยากาศ ยามเย็นของชายหาด ที่นี่กันครับ



เดินมาสักพัก เจอวิว แบบนี้ ต้องจัดมาให้ชมกันครับ


มันสวยมากจริงๆ ไม่คิดว่าจะมาเจอ อุตส่ามาอยู่ตั้งหลายวัน แหม เสียดายเพิ่งมาเจอวันนี้


เพื่อนชาวสเปน ก็ชวนดริ้ง ต่อ แต่ผมบอกว่า ยังไม่มีที่พักเลย

เพราะเมื่อเช้าผมเชคเอ้า ออกมาแล้ว ไม่ไหวกะกลิ่นน้ำ จริงๆ 55+

หาที่พัก ได้แต่ละที่ เฮ้อ.. ทำไม ไม่มีที่ดีๆ มั่งฟร่ะ 55+ เอาน่า นี่แหละครับ รสชาติของชีวิต


ก็ร่ำลา เพื่อนใหม่ชาว สเปน ก็ขอ Facebook กันไว้ เผื่อ you ได้ไปเมืองไทยอีก

ติดต่อมาได้ ไอ จะพา you เที่ยวไทยเอง 55+ Unseen แน่นวล อิอิ


ก็ลาเพื่อนใหม่เสร็จ ก็เดินไล่ถาม โรงแรม ริมหาดไปเรื่อยๆ ครับ เผื่อจะ ฟลุ๊ค ได้สักที่

แต่ก็ทำใจ ริมชายหาดแบบนี้ เต็มเอี๊ยดเลยครับ แถมราคา บางที่ก็แพงเอาเรื่อง


สุดท้ายมาเจอที่นึง คืนละ 1,200 php เป็นห้องพัดลม ราวๆ 800 กว่าบาท

อืมรึจะเอาดี คิดไปคิดมา ไม่เอาดีกว่า คืนนี้ คืนสุดท้าย ที่ El Nido แล้ว


อยากลองไป นอนในตัวเมืองแล้ว Hang Out สักคืนมั่งจิ อิอิ

เผื่อจะได้ Go Inter กะเค้าบ้าง 55+ ตื่นๆๆ แค่คุย มะรึง ยังคุยไม่รู้เรื่องเลย แหมจะ Go Inter 55+


สรุปเลยไม่เอา เดินกลับมาเอากระเป๋า ที่โรงแรม แล้วโบก Tricycles เข้ามาตัวเมือง

ในสภาพที่ ลุยทะเลมาทั้งวัน แล้วยังไม่ได้อาบน้ำ นะแหละครับ 55+ นี่ไง วีถึ Backpacker

หลังจากตัดสินใจ ไม่เอาที่พัก ริมทะเล เลยแบกกระเป๋า หอบร่าง โซซัด โซเซ เข้ามายังเมืองกรุง

ไม่ช่ายละ 55+

ก็นั่งรถมาลง ในย่านตัวเมืองครับ แล้วก็เดินหาที่พัก แบกเป้ใบใหญ่ พร้อมกลิ่น ลาเวนเด้อ 55+
กลิ่นทะเล เค็มๆ นี่แหละครับ 55+ อย่ามีใคร มาเดินเฉียดตรูละ รับรอง กลิ่นมาดาม หอมชื่นจาย อิอิ

ก็เดินหาที่พัก ไปเรื่อยๆ ครับ ในที่สุด ความซวยมาเยือนอีกจนได้ โรงแรมเต็ม เกือบหมดเลยครับ
ที่มีก็ ราคา 1500 php ขึ้นไป ก็คืนละ 1,035 บาท เอาไว้ก่อน งบตรูขอ 500-600 บาท พอ 55+

ด้วยความสงสัย เลยถามเค้าว่า ทำไม โรงแรมมันเต็ม เกือบหมดเลย ได้คำตอบว่า
วันที่ 13-14 April เป็นวันหยุดประจำชาติ ของคนฟิลิปปินส์ครับ

น่าน....ไง

มาเที่ยวตรงช่วงหยุดยาว ของคนที่นี่พอดี 13-16 april ถึงว่า โรงแรมมันเต็มเกือบทุกที่
ถามว่ารู้มาก่อนมั้ย ไม่รู้อะดิครับ ถ้ารู้คงเลือกจองที่พัก มาก่อนแน่นอน แต่เอาน่า มันต้องเหลือ มั่งแหละฟร่ะ

เดินต่อครับ ผ่านไป เกือบ 1 ชม. ในที่สุด ผมก็หอบร่าง คนใกล้จะหมดแรง มาเจอ โฮมสเตย์ จนได้ครับ เย้ๆ 55+
เป็นเหมือนบ้าน ชาวบ้านธรรมดาเลยนี่แหละครับ ทางเข้าไปแคบๆ ต่อเติม ชั้น 2 ชั้น 3 ให้เป็นห้องพัก

คืนละ 800 php ราวๆ 550 บาท เป็นห้องพัดลม ห้องน้ำร่วม มี 2 เตียง แหม ถ้ามีคนหาร นี่อย่างถูก
แต่นาทีนี้ละ อะไร ก็เอาละครับ 55+ ก็ได้อาบน้ำ อาบท่า ซักเสื้อ สักที

ทำธุระเสร็จ ก็ออกมาหาไรกิน ริมชายหาดครับ

นี่อาหารมื้อเย็น ริมชายหาด บรรยากาศ ชิลมาก แต่ถ่ายมาไม่ได้ครับ มืดไป

จะบอกว่า สาวๆ ฟิลิปปินส์ นิ หุ่นแซบมากครับ ขนาดเด็กเสิร์ฟ ยังน่ารัก หุ่นดีเลย


แหม..ทำมายิ้มให้ เดี๊ยๆ ได้แค่มองนะแหละครับ 55+

กินข้าวเสร็จ เวลาก็ยังไม่ดึกเลย จะเริ่ม Hang out ตอนนี้ก็ยังไม่สนุก เลยไปเดินเล่นดีกว่าครับ สำรวจเมือง

แล้วผมก็พลาด อย่างใหญ่หลวงเลยครับ 555+

คือไม่รู้เลยว่า จริงๆ แล้ว ตัวเมือง El nido มันไม่ได้มีที่พัก แค่จาก ทางท่าเรือไป โรงแรมที่พักวันแรก

แต่โรงแรม ส่วนใหญ่ มันมาอยู่อีกฝากนึง ของ เมืองครับ 55+ วีถี Backpacker ไงละ 55+


เดี๋ยวให้ดูรูปกัน จากรูป จะเห็นว่า ผมจะไป แต่ทางขวาของแผนที่ คือเดินตามเส้นสีฟ้า หาโรงแรม แค่เส้นนี้

แต่จริงๆ แล้ว ที่พัก โรงแรม ส่วนใหญ่ มาทางฝั่งซ้าย ของแผนที่ ในวงกลม นะแหละครับ มีเยอะมากกก 55+


พลาดอย่างแรง เดินเล่นไป ดูไป ได้แต่เสียดาย ทำไม ตรูไม่มาทางนี้ ตั้งแต่วันแรกว้า 55+


เอาน่า อย่างน้อย ผมก็มาแชร์ ข้อมูลให้เพื่อนๆ ได้รู้กันครับ

ยังไง ใครจะ walk in มา ก็เดินมาแถว Zone นี้กันได้ครับ ที่พักเยอะมาก แต่ราคา ไม่แน่ใจนะครับ

จริงๆ ถ้ามีเพื่อนมา กัน 2 คน คืนละ 1,500 php ก็คืนละ 1,035 บาท นอนห้องแอร์สบายๆ ก็คนละ 500 เองครับ

ไม่ได้แพงไรมาก แต่ผมดันมาคนเดียว เลยต้องหาที่พัก ที่ไม่แพงไว้ก่อน


เดินไป เดินมา ก็ไปเจอ ร้านนวดครับ อั๊ยย่ะ นวดแบบสวีเดน แบบนี้ มันต้องลอง 55+

ก็ชม. ละ 400-500 php แล้วแต่ร้านครับ ก็ราวๆ 270 - 350 บาทครับ

คาดว่า ร้านที่มีแอร์ จะ 500 ร้านพัดลม จะ 400 เพราะผมเลือกร้านราคา 500 มันมีแอร์ครับ 55+

ถามว่านวดแบบสวีเดนเป็นไง ก็เหมือนนวดน้ำมัน บ้านเรานี่แหละครับ


แต่แอบเห็นราคา นวดน้ำมันไทย อั๊ยย๋า ชม.ละ 800 php ราวๆ 550 บาท ทำไมนวดไทยแพงจังฟร่ะ

ที่แน่ๆ คนนวดนี่ ฟิลิปปินส์ ชัวร์ๆ ทำไม ราคานวดไทยถึงแพง ไว้รอบหน้าจะไป พิสูจน์ให้ดูนะครับ รอบนี้ ขอสวีเดนก่อนนะ อิอิ


นวดเสร็จออกมาก็ 4 ทุ่ม อ่า ได้เวลา Hang out กันละ 55+ ลุย

ก็มาเดินตามชายหาด มีร้านใหญ่ๆ อยู่ ราวๆ 3 - 4 ร้าน ครับที่ยังเปิดเพลงมันๆ

ไอ้ครั้นจะเข้าไปเลย ก็เปลือง เพราะเบียร์ขวดเล็ก ตกขวดละ 60 php ราวๆ 42 บาท

แต่ถ้าซื้อตามร้านค้าทั่วไป ตกกระป๋องละ 40 php ราวๆ 28 บาท เลยซื้อมานั่ง hang out ข้างๆ ร้านก่อนละกันครับ 55+


เดินไปซื้อเบียร์ แล้วมานั่ง ข้างร้านนี่แหละครับ คนเยอะดี เปิดเพลงมันส์ด้วย


แดนซ์กันกระจาย เดี๋ยวๆ รอตรูเมาก่อน 55+


นั่งไปสักพัก ก็เกิดเรื่อง อีกจนได้ครับ 55+ อยู่ๆ มีหนุ่มฟิลิปปินส์ มาขอนั่งด้วยครับ

อืม.. เอาไงว่ะ แต่ดูท่าทางก็ ไม่ได้มีพิษมีภัย อะ อยากนั่งก็เชิญ ดีได้ฝึกภาษา

มันก็เข้ามานั่งคุยด้วย บอกว่ามาคนเดียวเหมือนกัน ถามนู้น ถามนี่ ไปเรื่อยๆ ครับ

จนเบียร์ที่ผมซื้อมาหมด ซื้อมา 2 ป๋อง ผมก็เลยจะเข้าไปข้างใน มันก็บอก เดี๋ยวรอตรงนี้ เอ้า แล้วแต่นะ


ผมก็เข้ามาในบาร์ครับ คนเยอะมาก สั่งเบียร์ไป 1 ขวด ยืนดู สาวๆ

จะได้สักคนมั้ยว้า 55+ สุดท้าย ดูแล้ว ท่าจะอดครับ 55+

เลยเดินออกมาที่เดิม ไอ้เจ้านี่ก็ยังนั่งเล่นอยู่คนเดียว มีรอ 55+

ก็เลยไปนั่งกินเบียร์คุยกะมัน จนเบียร์หมด ก็เลยจะกลับ งานมาตอนนี้แหละครับ


อยู่ๆ มันก็เดินตาม แล้วถามผมว่า

I can stay with you tonight ?

what the F..k?

เอี้ย .. อะไรของมะรึง


No......

ตอบแบบไม่ต้องคิดเลยครับ ผมนี่รีบเดินหนีเลย อ้ายฟาย แม่ม เนียนมา ตีซี๊ เกย์นี่หว่า ....

มาถึงฟิลิปปินส์ ตรูยังมาเจอแบบนี้อีกเหรอ ว่ะเนี่ย what the F..k ? 55+


เดินหนีมาได้ ด้วยความเซง Go inter ก็ไม่ได้ เลยซื้อเบียร์อีก 2 ป๋อง กลับไปใหม่ 55+

แอบส่องๆ เออ มันไม่อยู่ละเว้ย ทางสะดวก 55+


ก็เลยไปนั่ง อ่อยที่เดิม เผื่อจะมี ผู้ชาย ตุ๋ย... เผื่อจะมี ฝรั่งสาวๆ มานั่งคุยด้วยครับ อิอิ

แต่ก็นะ ใครมันจะบร้า มานั่งคุยกะเรา ฟร่ะ เห็นส่วนใหญ่ ก็มาเป็นคู่ ไม่ก็เป็นกลุ่มใหญ่ จะแทรกเข้าไปยังไงเนี่ย


สุดท้ายเลยนั่งแหลก มันคนเดียวนะแหละครับ แต่เอ๊ะ เหลือบไปข้างหน้า เห็นสาวฟิลิปปินส์ นั่งอยู่คนเดียวเหมือนกัน

เอาว่ะ ลองดู เลยทำตีเนียน ไปขอนั่งด้วยครับ 55+


แต่จริงๆ เธอไม่ได้มาคนเดียวครับ มากะน้องสาว ตัวเล็กๆ วึ่งเล่นน้ำทะเล แถวนั้นอยู่

ผมก็เลยชวนเธอคุย เลยได้เพื่อนใหม่มาอีกคนครับ 55+ เอาน่า แค่นี้ กะพอ อย่าหวังเยอะ


คุยกันสักพักใหญ่ๆ เธอก็ขอกลับครับ บอกไปส่งน้องนอน ผมก็โอเคร ไว้คุยกันในเฟส

เพิ่งจะมานึกได้ตอนนี้ ทำไม มะรึงไม่เดินไปส่งเค้าฟร่ะ ...

เผื่อเธอ ส่งน้องเข้าห้อง แล้วได้ถามเธอ


เออ เธอ .. ไปดริ้งกับเราต่อสักนิดมั้ย


แหม.. ทีงี้เก่งเลยนะ ฟราย 55+ อดไปจิ สุดท้าย หอบร่างเมาๆ กลับมานอน คนเดียวเหมือนเดิมนี่แหละครับ 55+

บทสรุปคืนนั้น ก็ไม่ได้อะไร นอกจากเกือบ เสียอธิปไตย ให้หนุ่มฟิลิปปินส์ไปละ 55+


เดี๋ยวมาต่อกันพรุ่งนี้ครับ กับ วันสุดท้าย ใน El Nido ยังเหลืออีก 1 วัน free day ที่ผมกะ จะเที่ยวตัวเมือง El nido ครับ

แล้วมาติดตามกันครับ




เช้าวันที่ 6 ในฟิลิปปินส์ ( 16/4/2017 )

เช้านี้ตื่นสายเลยครับ เพราะคิดไว้แล้วว่าจะ Free day อยากไปไหนก็ไป วันนี้ 55+
เลยตื่นมาเกือบ 11 โมง อาบน้ำ เก็บของเสร็จ เอาของไปฝากไหนดีละทีนี้

เลยตัดสินใจ เช่ามอไซค์ครับ วันนี้ ค่าเช่าวันละ 450 php ตก 310 บาท อะ กะได้ ยังไงวันนี้ ต้องใช้ มอไซค์ละ
เพราะแพลนที่เล็งไว้ ตอนแรก คือ ไปเดิน Conopy Walk ดูจุดชมวิวเมือง El nido กะไปเล่น Zipline

แต่เปลี่ยนใจละ ไม่ไป Zipline เพราะเมื่อวาน เพื่อนใหม่จากสเปน แนะนำว่า ให้ไป Necpan beach ดีกว่า สวยมาก
อืม..อะ ไปก็ไป เช่ามอไซค์ได้ คิดไปคิดมา เลยเอากระเป๋าไปฝาก ที่โรงแรมแรกดีกว่า เพราะเราสนิทกะคนที่นั่นละ

ฝากกระเป๋า กินข้าวเสร็จ บ่ายนี้เลย ไปจัด Conopy Walk ก่อนเลยครับ
อ้อ ที่นี่ตอนเที่ยง เค้ามีพักกลางวันด้วยนะครับ ผมเผลอเข้าไปมา เลยต้องออกมากินข้าวเที่ยง ก่อนนี่แหละครับ 55+

Conopy walk จะอยู่ในย่านตัวเมืองเลยนะครับ เดินขึ้นไปนิดเดียว ไม่สูงมาก แต่พอได้หอบอยู่ สำหรับลุงๆ อย่างผม 55+
ค่าขึ้น ก็คนละ 500 php ราวๆ 350 บาท ก็ไม่แพงนะครับ

จ่ายตังเสร็จ เราก็ต้องแต่งตัวแบบนี้แหละครับ มีหมวก แล้วก็สายรัดตัว แบบเล่น zipline เลยครับ

เค้าก็จะมีไกด์ คอยเดินไปกับเรา 1 คนครับ เป็นคนนำทาง และคอยช่วยเหลือเราครับ



ทางขึ้นช่วงแรกก็เดินขึ้นเขา ปกติครับ อย่าลืมเอาน้ำไปด้วยนะครับ ข้างบนไม่มีอะไรเลย



ขึ้นไปสักพัก ก็จะเป็นบันไดเหล็ก เดินไปอีกหน่อย ก็จะมาเจอ สะพานครับ

มาเสียวตรงนี้แหละ สูงดี 55+ แถมมันโยกไป โยกมา ด้วยครับ 55+


ถ่ายตอนขาลง อย่างเสียวอะตรงนี้



เดินผ่านสะพานไป ก็เดินขึ้นไปอีกนิดเดียวครับ ราวๆ 20-30 เมตร ก็ถึงแล้ว


แล้วเราก็จะได้เห็นวิวเมือง El Nido เต็มๆ แบบนี้ครับ



" El Nido "



สวยมากกกก ครับ บอกเลยคุ้มค่ากับการเดินขึ้นมาแน่นอน เสียดายที่วันนี้ เมฆเยอะมาก

เพราะถ้าน้ำทะเล ไม่โดนแสงแดด มันจะไม่เป็นสี เขียว สีฟ้า สวยๆ แบบในรูปครับ

นี่ถ้าฟ้าเปิด น้ำคงเป็นสีเขียว ไปหมด ทั้งภาพ น่าจะสวยกว่านี้เยอะเลย

วิวขนาดนี้ ขอจัดสักรูป 55+ แค๊ปมาจากวีดีโอครับ ภาพเลยไม่ค่อยชัด


ผ่านไป 6 วัน ดำเมี่ยม กันขนาดนี้ละครับ 55+


ได้เวลาลงละ จุดหมายต่อไป Necpan Beach ครับ


จากตัวเมือง El Nido เราต้องแวนซ์มอไซค์ไปอีก 19 - 20 กิโลครับ ใช้เวลาราวๆ 30 - 40 นาที ตามรูปเลยครับ

ถนนสภาพดีเลยครับ ถนนลาดยาง สลับปูน ไปตลอดทาง

จะมีแค่เป็นทางลูกลัง 4 กิโล สุดท้าย ตอนที่จะเลี้ยว เข้าไปใน ชายหาดแล้ว เท่านั้นครับ

ก่อนทางเข้า ชายหาด เราต้องเสียตัง ค่าเข้าอีกคนละ 40 php นะครับ

ดั้นด้นมาตั้งไกล 20 กิโล เราไปดูกันครับ ว่า Necpan Beach จะสวยงามขนาดไหน


นี่แหละครับ Necpan Beach สวยมากกกกก


เป็นชายหาดที่ยาวมาก... แล้วก็สะอาดมากกก สะอาดจริงๆ ครับ ดูมันดิบๆ ธรรมชาติมากๆ


ดูวิวอีกฝั่งนึง สวยไม่แพ้กันเลยครับ


จริงๆ ที่เห็น ภูเขาทางซ้าย ตรงนั้น อีกฝั่งก็มี ชายหาดนะครับ เป็นจุดชมวิว ที่สวย

แต่ผมไม่ได้เดินไปดู อดเลย 55+ คิดว่าไม่น่ามีอะไร ที่ไหนได้ วิวตรงนั้น สวยมากครับ เสียดายจริงๆ เพราะมันเห็นได้ 2 หาดเลย


ไม่เป็นไร มีโอกาศ ผมต้องกลับมาอีกแน่นอน เพราะจริงๆ ที่ Necpan Beach นี่

มันจะมี กระท่อมลอยน้ำ ให้เราว่ายไปเล่นได้นะครับ แล้วจะเห็นวิวชายหาดจากกลางทะเลเลย


แต่ ณ ตอนนั้นด้วยเวลาที่จำกัด แล้วก็ กลัวว่ายไม่ถึง 55+ เลยไม่เอาดีก่าครับ

เลยนั่งเล่น นอนเล่น ดีกว่า อ้อ ที่หาดเค้ามี เก้าอี้ชายหาดให้เช่านะครับ อันละ 100 php

ก็นั่งเล่น นอนเล่น กินเบียร์ไป ชิลๆ สัก ชม. ก็ต้องกลับครับ เพราะคืนนี้ ผมต้องเดินทางกลับกันละ


โดยเมื่อวันก่อน ผมแว๊บไปจอง รถบัสมาเรียบร้อยละครับ ก็สามารถไปจองได้ที่ Bus Terminal เลยครับ

Bus Terminal จะอยู่ตรงนี้นะครับ


เดินเข้ามาข้างใน ก็จะหน้าตาประมาณนี้ครับ สถานีขนส่งเค้า เล็กมากครับ 55+



2 จุดตรงลูกศร คือรถบัสนะครับ มี 2 เจ้า Cherry Bus กับ Roro Bus ราคา น่าจะพอๆ กันนะครับ

450 php จาก El Nido ไป Puerto Princesa นอกนั้นจะเป็น รถตู้หมดเลย

รอบเวลาก็ตามนี้ครับ


ถ้าเดินเข้ามา มีคนมาล้อมเรา แล้วบอก No Bus อย่าไปเชื่อนะครับ 55+

ผมโดนมาละ อุตส่า บอกว่าจะไปรถบัส มานบอก No Bus No Bus ดีนะหาข้อมูลมาก่อน ว่ามันมี 55+

ซึ่งผมกะหารถบัส รอบที่ช้าที่สุด กะจะนอนบนรถ เพื่อให้ไปเช้าที่ Puerto Princesa

แล้วรอขึ้นเครื่อง กลับ Manila เลยครับ


ก็เอารถมอไซค์ไปคืน แล้วนั่งรถ Tricycles กลับมาที่โรงแรม ขอเค้าล้างหน้า ล้างตา

ก็เปลี่ยนชุด นั่งกินเบียร์รอเวลาครับ ผมจองรถบัสไว้รอบ 09.00 pm. กะไปถึง สัก ตี 5 นั่งรถไปสนามบินต่อพอดี


ถึงเวลา ก็ลา น้องๆที่ โรงแรม ต้องขอบคุณสำหรับทุกๆ อย่าง ที่ดูแลผมมาอย่างดีเลยครับ

บอกเลยว่าคน ฟิลิปปินส์ เฟลนลี่ แล้วก็นิสัยดีมากครับ ประทับใจจริงๆ มีโอกาสจะกลับไปอีกแน่นอนครับ


ได้เวลา รถบัสก็มาจอดรอครับ หน้าตาก็ประมาณนี้

ที่นั่งก็ประมาณนี้ พอนั่งได้ครับ ตัวเล็กๆ ก็สบายหน่อย ผมตัวใหญ่ ก็อึดอัดนิดนึง แต่ก็พอนอนได้ครับ



และแล้ว ก็ได้เวลา ลากันแล้วนะ El nido ขอบคุณ สำหรับทุกอย่างเลยจริงๆ สำหรับการมาเยือนที่นี่


ประทับใจมากๆ ทะเลก็สวย กิจกรรมก็เยอะ แถมทำให้ผมได้เรียนรู้ ได้รู้จักการใช้ชีวิต ในต่างแดน ได้แบบเต็มๆ

ได้รู้จักวางแผน แก้ปัญหา เฉพาะหน้า รู้จักการเอาตัวรอด ในสถานการณ์ ต่างๆ

ได้เพื่อนใหม่ ได้ มิตรภาพดีๆ ซึ่งหาที่ไหนไม่ได้ ถ้าไม่ได้มาด้วยตัวเอง


ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลยจริงๆ บายๆ El Nido แล้วเราจะพบกันอีก .... Bye



เช้าวันที่ 7 วันสุดท้าย ในฟิลิปปินส์ ( 17/04/2017 )

หลังจากลาเมือง El nido เรียบร้อย แล้วออกเดินทาง ด้วยรถบัส มายังเมือง Puerto Princesa
เพื่อมาขึ้นเครื่อง กลับไปยัง Manila แล้วต่อเครื่องกลับไทย

แต่........

มันก็เกิดปัญหาอีกจนได้ครับ วันสุดท้ายละ ยังไม่วาย 55+
คือรถบัส มันมาถึง ไวมากกก ครับ นึกว่าจะถึง ตี 4 ตี 5 แต่เอาจริงๆ มันมาถึง ตี 2 กว่าๆ ครับ 55+

อารายแว้.. ไม่เห็นเหมือนที่บอกเลย คือเวลาในเวบ มันคงหมายถึง ช่วงกลางวัน ที่รถติด ใช้เวลาเยอะ
แต่พอวิ่งตอนกลางคืน มันไม่มีรถสวนเลยครับ นานๆ จะเจอสักคัน ถึงว่ามันมาถึงไวมาก

เอาไงต่อละทีนี้ ก็รู้แต่ว่า เราต้องหารถไปสนามบิน ก็บนรถบัส มีฝรั่งที่จะไปสนามบินเหมือนกันครับ
เลยลองไปถามราคา เจ้า Tricycles ว่าไปสนามบิน เท่าไหร่

มันบอกคนเดียว 200 php โอ้ว แม่เจ้า... ก็ 140 บาท บ้านเรา เอาไงดี หันไปทางขวา เจอฝรั่ง 2 ผัวเมีย
เลยลองถามใหม่ ถ้า 3 คนละครับ มันบอกก็ 300 php เออ .. งี้ค่อยโอเครหน่อย เหลือคนละ 100 php ราวๆ 70 บาท

ก็เลยหัดไปคุยกะ 2 ฝรั่ง ว่าสนใจจะแชร์ ค่ารถกันมั้ย บอกราคาไป เค้าก็โอเคร
สรุปก็มีเพื่อนละครับ 55+ เอาลุยกันเลย ระยะทางจาก Bus Terminal ไปสนามบินก็ไกลนิดนึงครับ ราวๆ 6 กิโล

ก็นั่งรถ อัดๆ กันไปครับ ก็ราวๆ 10 กว่านาที กว่าจะมาถึง สนามบิน


และแล้ว......

เราก็เจอปัญหา อีกจนได้ครับ 55+

คือสนามบิน Puerto Princesa มานปิดตอนกลางคืนครับ 55+ เวงเอ้ย.....

แล้วที่สำคัญ ไอ้รถ Tricycles ทามไมมะรึง ไม่บอกตรู ว่ามันยังไม่เปิด ฟราย.. มานบอกน่าจะเปิด ตี 4


แล้วไมบอกตรู จะได้ให้พาไปหาโรงแรมนอน ผมกะ 2 ฝรั่ง กะงงเด้ งงเด้ ดิครับ ทีนี้ 55+

ไม่ได้โดนหลอกคนเดียว โดน แพ๊ค คู่เลยครับ รอบนี้ 555+

แฟนสาวของฝรั่ง กะเลยบอกให้รถไปส่งที่ Mcdonald's แทน

เพราะคิดว่า มันต้องเปิด 24 ชม. แน่นอน เอาว่ะ ไปตั้งหลักก่อน ตอนนี้ก็ตี 3 ละ รออีกแค่ 1 ชม. ค่อยกลับมาใหม่


แล้วสรุปก็ไปจบที่ Mcdonald's แถม โดนขอไปอีก 100 php อืม.. นี่ไง ตรูโดนละ 55+

อยู่ฟิลิปปินส์ มา 7 วัน มาโดนเอาวันสุดท้าย อืม.. เล่นตรูจนได้ อะๆ จ่ายๆ ไป


ก็มานั่งๆ นอนๆ กะ 2 ฝรั่งใน Mcdonald's นี่แหละครับ 55+

แต่มันจะนอนได้ไงฟร่ะ คนเดินเข้า เดินออก แบบนี้

ผมก็เลยลองเดินออกไปหาโรงแรมครับ เพราะไฟล์ผมมันรอบ 12.05 pm

คือไปนอน ได้ตื่น หนึ่งเลยแหละ ตื่นสัก 10 โมงแล้วค่อยมายังทัน


แต่สุดท้าย ก็ไม่มีครับ 55+ ปิดหมด เฮ้อ.....

เมืองนี้ มันไม่มี โรงแรมม่านรูด เลยรึไงนะ 55+


อะก็รอครับ จนตี 4 ฝรั่ง 2 คนก็เดินมาถามผมว่า You จะไปสนามบินด้วยกันมั้ย

ผมก็บอกไปว่า You Sure เพราะผมไปถามพนักงาน Mcdonald's เค้าบอกน่าจะ 6 โมงเช้านะ ไม่ใช่ตี 4

แต่ฝรั่ง 2 คนนี้ บอกบินรอบ 7 โมง ถ้าเปิด 6 โมง เค้าบอก ไม่น่าจะทันไฟท์นี้แน่นอน

เออ.. ก็จริงของมานนะ กว่าจะเชคอิน โหลดกระเป๋าอีก เอาว่ะ ลองดูอีกรอบ


ก็เหมารถกันมาเหมือนเดิมครับ รอบนี้เลยได้คุยกัน ว่า You มาจากไหน

สรุป 2 คนนี้มาจาก ลอนดอน อังกฤษ ครับ ว้าว แถม พอบอกว่า ผมมาจากไทย

เค้า 2 คนนี้เพิ่งมาจาก ภูเก็ตครับ 55+ แหม โลกกลมแท้

เลยคุยกัน ถูกคอ นิดนึง ซึ่งก็เหมือนเดิม รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้างครับ 55+


และแล้ว......

อะๆ ประตูสนามบินมันเปิดละครับ แน่... คิดว่าจะโดนอีกละใช่มั้ย 555+

และแล้ว ก็โดนจริงๆ ครับ 555+


คือไอ้ประตูด้านหน้า มันเปิดจริงๆ รถเข้าไปได้ แต่ไอ้ ประตูเข้าไปใน อาคารสนามบิน มันปิดครับ 555+

ฟรายเอ้ย... แล้วมะรึงจะเปิดทำไมฟร่ะ เข้ามาก็เข้าไปใน ตัวอาคารไม่ได้อยู่ดี


ปิดสนิทครับ รปภ.บอกเปิด 6 โมงเช้า 555+


เอาไงได้ละครับ ก็นอนรอมัน หน้าอาคารนี้แหละ นอนมันตรงนี้แหละครับ อีกตั้ง ชม. กว่า

ไงละ วิถี Backpacker 55+


ก็นอนเล่นไปครับ คนก็เริ่มเข้ามากัน เรื่อยๆ ฝรั่งทั้งนั้น 55+

โดนเหมือนกัน สุดท้ายก็นั่ง มานอน กันตรงนี้หมดครับ


พอ 6 โมงเช้า ประตูอาคารก็เปิด ได้เข้าไปนอนซะที ที่ไหนได้ ข้างใน โครตเล็กเลยครับ 55+

ที่จะนั่ง ยังไม่มี จะไปนอนไหนละตรู ไฟท์ ก็ตั้งเที่ยง สรุป ก็นั่งรอ มันข้างในแหละครับ ไม่ได้นอน 55+

เพราะเข้าไปในเกต ที่รอขึ้นเครื่องไม่ได้ ต้องเชคอินก่อน แล้วเค้าเตอร์ ดันเปิด 10 โมงโน้นอะครับ

รอกันไปยาวๆๆๆๆ รู้งี้ หาโรงแรมนอนซะก็ดี เฮ้อ..


เอาเป็นว่า ใครจะมาที่สนามบินเมือง Puerto Princesa อย่ามากลางคืนครับ มันปิด 55+

สุดท้ายก็รอจน 10 โมง เชคอินเสร็จ แล้วเราต้องมาจ่าย ค่าภาษีสนามบินด้วยนะครับ

ถึงจะเข้าไปในส่วนของ เกต ที่รอขึ้นเครื่องได้


ราคาก็ตามนี้ครับ บินภายในประเทศ 200 php ราวๆ 140 บาท

บินไปต่างประเทศ 700 php ราวๆ 480 บาท

จ่ายเสร็จก็เดินเข้ามารอด้านใน โห......ข้างในนี้อย่างกว้างเลยครับ

แหม ถ้ามานเปิดให้เชคอินเร็วกว่านี้ ตรูได้เข้ามานอนละ เฮ้อ... เอาครับ จะได้กลับบ้านเราละ อีกไม่กี่ ชม.

แล้วก็ได้เวลาบิน รอบนี้ ผมขอนั่งใกล้หน้าต่าง แล้วดันไปได้ตรง ประตูฉุกเฉิน

เออ ตรงนี้ที่นั่ง กว้างมากครับ 55+ ดีเลย เหยียดขาสบาย อิอิ หลับยาวๆครับ 1 ชม. วิวไม่ได้ดูกันเลยสักนิด 55+


มาถึงสนามบิน Manila ก็เหมือนเดิมครับ หาป้าย Terminal Tranfer


แล้วก็เดินไปรอรถบัส เพื่อเปลี่ยน Terminal กันครับ

ขากลับ บินภายนอกประเทศ ส่วนใหญ่ จะมาขึ้นกันที่นี่ครับ Ninoy aquino international airport หรือ Terminal 1 ครับ


มาถึงซะ บ่าย 2 แต่เปิดให้เชคอิน 5 โมงเย็น อืม... เข้าไปรอข้างในก็ไม่ได้

ที่นั่งข้างนอกก็น้อยมากครับ เฮ้อ...


ก็เลยไปหาอะไรกินรอครับ ในที่สุดก็ได้กิน KFC ฟิลิปปินส์ ซะทีครับ 55+

นี่ครับ.. ไก่ทอด Jollibee


คือมันรวมมาหมดเลย ไก่ทอด มันบด สปาเก็ตตี้ ขนม อืม... มันเข้ากันตรงไหนฟร่ะ 55+

เอาน่าลองชิมดู แต่ผมยังให้ ไก่ทอด KFC บ้านเราอร่อยกว่าเยอะครับ

ก็รอจน 5 โมง ถึงได้เชคอิน ได้เข้าไปรอในเกต ซะที จะได้กลับบ้านละครับ

ตอนนี้ เหลือเงินแค่ 200 กว่า php เท่านั้น จะเก็บไว้ทำไมละ 140 บาท ซื้อเบียร์กินซิครับ 55+

จัดไปหมดนี้แหละ ได้มา 3 กระป๋อง ก็จัดไปครับ และแล้วก็ได้เวลากลับบ้านเรา ซะที


ช่างเป็นทริปที่ยาวนานมากที่สุด ตั้งแต่ผมเคยออกเดินทางมาเลย เป็นการผจญภัยที่ ไม่อาจประเมินค่าได้เลย

เงินทุกบาท ทุกสตางค์ ที่เสียไปมันคุ้มค่ามากมาย ไม่รู้จะบรรยายยังไง กับสิ่งที่ผมได้เจอ ได้สัมผัสมาใน 7 วันนี้



อยากจะบอกว่า


ไม่เสียใจเลย ที่ตัดสินใจ มาคนเดียวในครั้งนี้

ไม่เสียใจเลย ที่เลือกมาประเทศนี้ ฟิลิปปินส์

ไม่เสียใจเลย ที่ได้เจอปัญหา อุปสรรค ต่างๆ มากมาย

และไม่เสียใจเลย ที่ตัดสินใจ เอาชนะ ความกลัว แล้วเลือกเดินทางมาทริปนี้



สิ่งที่ผมได้ จากการเดินทางครั้งนี้ มันมากมายเหลือเกิน

บางอย่างมันซื้อไม่ได้ด้วยเงิน บางอย่าง มันสอนกันด้วยปาก สอนกันด้วยคำพูดไม่ได้ เลยจริงๆ

สิ่งที่ผมได้ มันเกิน กว่าที่ผมคิดไว้มากมาย ได้ทั้งมิตรภาพดีๆ ได้เพื่อนใหม่ๆ

ผมไม่กลัวที่จะพูด ภาษาอังกฤษ อีกต่อไป ถึงแม้จะพูดไม่เก่งก็ตาม

กล้าที่จะคุย กล้าที่จะเรียนรู้ กล้าที่จะลองผิด ลองถูก กล้าที่จะเผชิญกับปัญหา

กล้าที่จะเอาชนะอุปสรรค ต่างๆ และที่สำคัญ ผมไม่กลัว ที่จะต้องเดินทาง คนเดียว อีกต่อไป



ขอบคุณทุกช่วงเวลา ขอบคุณทุกสิ่ง ทุกอย่าง

ขอบคุณทุกคน ที่ผ่านเข้ามา ในช่วงเวลา 7 วันนี้

ผมจะไม่ลืม ทุกเหตุการณ์ ทุกเวลา ทุกวินาที ที่เกิดขึ้นที่นี่

จะเก็บมันไว้ในความทรงจำตลอดไป



" I Love Philippines "


แล้วเราจะได้พบกันอีก See you next time.


Good Bye.....

เที่ยวไปเมาไป

 วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 11.50 น.

ความคิดเห็น