ห่างหายกันไปนานม๊ากกกกกกก กับ Ep.3 ต้องขออภัยจริงๆครับ
เนื่องจากเกิดเหตุในชีวิตหลายอย่างมากๆเลย....เอาเป็นว่าตอนนี้ก็กลับมาแล้วนะครับ
จริงๆแล้วในแต่ละตอนไม่ได้เกี่ยวเนื่องกันหรอกนะครับ
ใครสะดวกเดินทางแบบไหนก็จัดไปได้ตามสบายเลย

Ep.1 ไปเที่ยวกาญนะ....ท่องเมืองมัลลิกา นอนพักทรีธารา

https://th.readme.me/p/10563

Ep.2 ไปเที่ยวกาญนะ....เยื่อนสังขละสะพานมอญตะเคียนทองภูชมหมอก

https://th.readme.me/p/10635


ในส่วนของ Ep.3 นั้นเราจะไปที่วัดถ้ำพุหว้ากันก่อนนะครับ

ซึ่งวัดแห่งนี้มีความสวยงามไม่ซ้ำใครในเมืองกาญจนบุรีแน่นอนครับ

ตัววัดเป็นศิลปะแบบขอมประยุกต์ที่สวยงามอลังการซึ่งสร้างครอบตัวถ้ำเอาไว้


เดินเข้ามาภายในถ้ำ(ซึ่งสร้างเป็นพระอุโบสถ) จะพบพระพุทธรูปประจำวันเกิดและ
พระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากสหภาพเมียนมาร์


ด้านล่างเป็นเหมือนห้องโถงใหญ่ ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา

มีพระประธาน ลานประกอบพิธีกรรมและปฏิบิติธรรม


ภายในถ้ำยังแบ่งเป็นอีกหลายห้อง มีหินงอกหินย้อยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ


วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่สามารถรองรับคนได้ถึง 500 คน

มีทั้งอาคารที่พัก ห้องนอน โรงอาหาร ห้องน้ำ ไว้คอยบริการแก่ผู้ที่มาปฎิบัติธรรมด้วยครับ


การเดินทางไปยังวัดถ้ำพุหว้า
เราสามารถใช้เส้นได้ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางกาญจนบุรี-บ้านเก่าเลี้ยวซ้ายบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 16 ไปตามเส้นทางสายพุประดู่-วังลาน อีก 6 กม. ก็จะถึงทางแยกเข้าวัด หรือมาทางวัดถ้ำเขาปูน ผ่านสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ จากนั้นเลี้ยวขวาที่บริเวณระหว่างหลักกม.ที่ 49-48 ไปตามเส้นทางสายพุประดู่-วังลานอีก 5 กม.ก็จะถึงทางแยกเข้าวัด


จากวัดถ้ำพุหว้าเราจะออกเดินทางไปที่อำเภอไทรโยคเพื่อไปยังที่พักของเรา

สถานที่นั่นก็คือ โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์แคว รีสอร์ท นั่นเองงงงงง

ซึ่งการที่เราจะเข้าไปยัง โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์แคว รีสอร์ท นั่นเราต้องนั่งเรือเข้าไปครับ

โดยไปลงเรือที่ ท่าเรือพุตะเคียน เรือออกทุกชั่วโมงจนถึง 18.00 น. ทุกวัน

ค่าเรือนี่ฟรีครับ..เป็นบริการจากทางโรงแรมอยู่แล้ว

แต่ถ้านอกเวลานี่อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม


เราล่องเรือไปไม่นานครับ ระหว่างทางก็ชมควางามของสายน้ำและหินผาไปพลางๆ

ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็ถึงแล้ว


เมื่อขึ้นแพมาแล้ว...เราก็จะเจอเค้าเตอร์เช็คอินเลยครับ
ภาพแบบ 360 องศา https://goo.gl/iZkpnt

พร้อมกับรับเวลคัมดริ๊งค์เป็นน้ำกระเจี๊ยบเย็นๆ

ที่นี่ไม่ค่อยมีสัญญาณโทรศัพท์นะครับ แต่มีไวไฟให้ใช้ฟรี

ไม่ต้องห่วงเรื่องการติดต่อกับโลกภายนอก


เดินทางไปยังห้องพักกันครับ



ห้องพักของที่นี้จะเป็นแพยาวๆ ต่อเนื่องกันไป

ห้องพักมีขนาดใหญ่ ออกแบบสไตล์พื้นบ้านไทยด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก

มีทั้งส่วนที่เป็นห้องนอน โต๊ะทำงาน ห้องน้ำ และชานเรือนแพที่ยื่นออกไป
ภาพแบบ 360 องศา https://goo.gl/S5D4j8

เราจะค่อยๆดูไปทีละส่วนนะครับ


ห้องนอนกว้างขวาง มีมุงบางๆ อยู่ด้านบนสร้างความโรแมนติก

และมีโซฟาให้นั่งเล่นครับ


จากที่เห็นทีวีจะอยู่ด้านขวามือ เพราะอยากให้เราชื่นชมกับบรรยากาศด้านนอกมากกว่า

(ผมคิดอย่างนั้นนะ)


เตียงนอนกว้างใหญ่ ถ้าที่นอนไม่พอไล่คนที่มาด้วยไปนอนโซฟาก็ได้ครับ

มีโซนโต๊ะทำงานให้...ตู้เสื้อผ้า รองเท้าลำลอง


ตู้เสื้อผ้าเปิดได้สองด้านนะครับ ทั้งในด้านห้องพักและด้านห้องน้ำ

ห้องน้ำจะมีส่วนกลางเป็นอ่างล้างหน้า


และแบ่งซ้ายขวาเป็นโซนเปียกและโซนแห้ง มีเครื่องอาบน้ำให้ครับ


เคาเตอร์บาร์ และตู้เย็นมีของกินเพียบ


จากห้องนอนเมื่อเปิดออกไปจะมีชานเรือนยื่นไปในแม่น้ำ

มีเตียงผ้าใบให้นอนชมวิวเล่นๆ และมีชิงช้าให้เรานั่งชมธรรมชาติด้วยครับ
ภาพแบบ 360 องศา https://goo.gl/fhVbGt

นั่งเล่นบนเตียง..เผลอหลับไปซะงั้น 5555


ไม่เป็นไรเรามาดูความงามของที่พักในยามค่ำคืนกันครับ

หน้าฟรอนต์นี่ สวยงามเลยทีเดียว


ที่นี้มีห้องอาหารด้วยนะครับชื่อว่า พอนทูน (Pontoon)

ซึ่งเป็นชื่อเรียกของทุ่นที่ลอยกลางน้ำหรือทะเล

อาหารเย็นมีให้เลือกทั้งแบบบุฟเฟ่ต์ หรือแบบเป็นจานๆก็ได้ครับ


ยามเช้าถ้าโชคดี เราอาจจะเจอสายหมอกออกมาหยอกล้อกับผิวน้ำ...

แต่ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยมีโชคอ่ะครับ เลยไม่เจอสายหมอกอะไรกับเค้าหรอก

ในตอนเช้าๆนักท่องเที่ยวส่วนมากจะชอบมานั่งเล่นบริเวณริมน้ำครับ


จากนั้นเราก็เดินไปทานอาหารเช้ากันที่ พอนทูน เหมือนเดิม

อาหารเช้าที่นี่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ครับ มีทั้งเบอเกอรี่ต่างๆ แยมแบบโฮมเมด



ซีเรียลแบบต่างๆ เครื่องดื่มมีน้ำเปล่า น้ำตะไคร้ น้ำสับปะรด น้ำส้ม


ข้าวสวย ข้าวผัด ไก่ผัดพริกหยวก กับ...กับ...กับอะไรสักอย่าง เหมือนมักกะโรนี

เส้นแบบนี้เค้าเรียกอะไรน๊าาา..ไปถามซันจิแปบ


ไส้กรอก แฮม มะเขือเทศย่างและเบคอน..


เมนูสลัดก็มี


เมนูไข่สั่งทำได้เลยครับ ไข่ดาว ไข่เจียว ออมเล็ต


มีระเบียงริมน้ำ นั่งทานข้าวเพลินๆ มองสายน้ำไหลผ่าน สบายใจ๋สบายใจ



ตรงข้ามกับห้องอาหารเป็นเเหล่งที่อยู่ของปลาตะเพียนหางแดงครับ มีเยอะมากกกกก


ซึ่งชายหาดเล็กที่เห็นอยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นเราสามารถเดินไปเล่นได้ครับ

จะมีทางให้เดินลัดเลาะไป

หลังจากเดินเฃ่นกันอยู่พอสมควรก็ได้เวลากลับแล้วครับ

เวลาเดินทางกลับก็ไม่ยาก..ไปเช็คเอ๊าท์ที่ฟรอนต์ แล้วก็รอเรือมารับแค่นั้นเอง

สำหรับผมที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนที่พักผ่อนจริงๆนะครับ

เงียบสงบ...ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ถ้าใครอยากลองมาพักสามารถติดต่อได้ที่

เดอะ โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์แคว รีสอร์ท

สำนักงานกรุงเทพ : 02 642 5497 (08.30 – 20.30 น. ทุกวัน)

รีสอร์ท : 084 725 8686 (06.00 – 22.00 น. ทุกวัน)

WWW.THEFLOATHOUSERIVERKWAI.COM

สุดท้ายนี้ขอฝากเพจเล็กๆ www.facebook.com/wefoto ไว้กับเพื่อนๆ

แวะไปให้กำลังใจกันได้นะครับ แล้วพบกันใหม่น๊า


Wefoto

 วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 09.33 น.

ความคิดเห็น