การเดินทางไปเที่ยว ปิล๊อก ในครั้งนี้ เป็นการเดินทางต่อจากสังขละบุรี Review : สังขละบุรี ในหน้าฝน มันก็จะเปียกๆหน่อยนะ หลังจากกลับลงมาจากสังขละฯ ด้วยถนนสาย 323 ทางเลี่ยงเมืองบ้านโป่ง ก็เลี้ยวขวาไปที่ถนน 3272 เพื่อขึ้นไปยังปิล๊อก เป็นเส้นทางไต่ระดับบนเขา ถนน2เลนแคบๆที่รถยนต์สวนกันได้พอดีคัน ต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เราไปในหน้าฝน(เดือนก.ย.) ตลอดเวลาของการเดินทางฝนตกตลอดทาง บางช่วงมีหมอกลง และผิวถนนก็พังเสียหายเป็นหลุมเป็นบ่อ บางช่วงเลนถนนหายไปครึ่งก็มีเนื่องจากดินทรุด แต่เมื่อขึ้นมาถึง ช่วง 10 กม.สุดท้ายก่อนเข้าหมู่บ้าน ถนนดีเพราะเพิ่งซ่อมแซม รถยนต์ผ่านได้ทุกชนิด
ออกจากสังขละฯในตอนเที่ยง ไปถึงปิล๊อกประมาณบ่าย3โมง พักที่ โฮมสเตย์ ปิล๊อก ต๊อกแต๊ก ที่โทรจองไว้ล่วงหน้าเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนไป เป็นห้อง 4คน 2เตียงใหญ่ ราคา 1,500.- มีเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส เพื่อให้ได้ความร้อนเพียงพอ ที่นี่ไม่มีแอร์ แต่ก็ไม่ต้องห่วงเพราะที่นี่หนาวมากในตอนกลางคืน ขวดน้ำดื่มวางไว้ที่อุณหภูมิห้องเย็นเหมือนกับแช่ตู้เย็น
หมอกลงทั้งวันตั้งแต่เช้ายันค่ำจนเข้านอน ฝนก็ตกปรอยๆทั้งวันเดินออกไปข้างนอกต้องพกร่มตลอดเวลา 2วันที่อยู่ที่นี่เราก็เปียกตลอด หลังจากเก็บของเข้าที่พักแล้ว ออกมาเดินสำรวจในหมู่บ้าน บ่าย4โมงกว่า หมอกหนาจนแทบมองไม่เห็นอะไร
สำหรับมื้อเย็นวันนี้ฝากท้องกันที่ ครัวเจ๊ณี บ้านอีต่อง มีอาหารทะเลจากพม่า อาหารตามสั่ง อาหารเช้าไว้บริการด้วยนะคะ ราคาอาหารก็พอสมควร แต่รสชาติอร่อยใช้ได้ไม่ผิดหวัง สั่งกับข้าวไป 3 อย่าง ข้าวเปล่า 1 โถ มี แกงคั่วปูหน่อไม้ดอง 150.- ยำไข่เยี่ยวม้า 80.- และไก่ทอดสมุนไพร 100.-
หลังจากทานมื้อเย็นเรียบร้อยแล้วฝนก็เริ่มตกลงมาอีกครั้งเราจึงกลับเข้าที่พัก 6โมงเย็นฝนหยุดออกมาเดินเล่นในตลาด บรรยากาศเย็นสบาย มีนักท่องเที่ยวออกมาถ่ายรูปกันบ้างประปราย
เช้าวันถัดมามื้อเช้า ที่พักมีข้าวต้มหมูเห็ดหอมไว้ให้ อ้อ.. มีกาแฟ โอวัลติล ชงทานได้ตลอดทั้งวันด้วย หลังจากทานข้าวต้มของที่พักพอรองท้องแล้วก็เดินออกไปต่อมื้อเช้ากันที่ครัวเจ๊ณีเหมือนเดิม ที่นี่ โรตี อร่อย แนะนำเลย ถ้ามาอยากให้ลองสั่งทานดู กรอบนอกนุ่มใน ตอนแรกสั่งมาจานเดียว ต้องเบิ้ลอีกจาน
ระหว่างนั่งทานมื้อเช้าที่ร้าน มีชาวบ้านชายใส่ชุดขาวเดินเป็นแถวถือถังคนละใบ มีคนเป่าสังข์ มีคนตีฆ้อง มีคนสวดเป็นภาษาที่เราไม่เข้าใจ ในถังจะเห็นมีข้าวสาร ที่ชาวบ้านจะใส่แก้วนำมาเทใส่ในถังคล้ายๆกับการใส่บาตร เป็นประเพณีที่ดูแปลกตาดี
เสร็จจากมื้อเช้า แวะซื้อโปสการ์ด และของฝาก แล้วเดินเข้าไปเที่ยวที่ เหมืองปิล๊อก
น้ำตกในเหมือง
ออกจากเหมืองเราเดินขึ้นไปเที่ยวที่ เนินช้างศึก กันต่อ ระยะทาง 1.2 กม. ต้องสารภาพตามตรงว่าขึ้นไปไม่ถึง เหนื่อยมาก หมอกเริ่มลงหนา ขึ้นไปแค่ถึงบริเวณลานกว้างนั่งพัก 20 นาที แล้วก็กลับลงมา
หลังลงจาก เนินช้างศึก เรากลับเข้าที่พักแล้วเก็บของเตรียมเดินทางกลับ
ปิล๊อก เป็นเมืองในหมอกเล็กๆที่น่าอยู่ในความรู้สึกเรา บรรยากาศดี ยังคงเป็นเมืองที่ยังไม่ถูกแต่งเติมอะไรมากมายนัก ผู้คนอัธยาศัยดี เงียบสงบ ถ้ามีโอกาสคงได้กลับมาเที่ยวที่นี่อีกครั้ง และหวังว่าความเป็นธรรมชาติของที่นี่จะยังคงไม่ถูกเปลี่ยนแปลงไป...
OPW's Story
วันพฤหัสที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 17.57 น.