แหลมผักเบี้ย หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ อยู่ไม่ไกล แค่ชายทะเลอำเภอบ้านแหลม เพชรบุรี ขับรถจาก กทม. เพียงประเดี๋ยวเดียวก็ถึง บอกเลยว่าเป็นหนึ่งในสถานที่สุดรักของผม สักสี่ห้าปีมานี่ถ้าปีไหนไม่ได้ไปแล้วรู้สึกหงุดหงิดพิกล ไปดูนก ถ่ายรูปเล่น ไปซึมซับบรรยากาศของความเรียบง่าย ไปครั้งไหนก็มีความสุข

ช่วงนี้ด้านการท่องเที่ยวเชื่อว่าหลายคนคงสนใจเดินทางไปตามโครงการหลวง โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ขององค์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งแหลมผักเบี้ยเป็นอีกที่ที่ผมอยากแนะนำให้ลองไปดูครับ

โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งขึ้นตามพระราชดำริขององค์ในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อศึกษาวิจัยด้านการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีธรรมชาติ และแก้ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ก่อนจะขยายผลสู่พื้นที่อื่นๆ ต่อไป ในพื้นที่แหลมผักเบี้ยจึงมีลักษณะเป็นบ่อน้ำใหญ่ บ่อบำบัด และป่าชายเลน ที่ถือเป็นเหมือนเครื่องบำบัดของเสียตามธรรมชาติ

จากจุดเริ่มต้นเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน เดี๋ยวนี้แหลมผักเบี้ยพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวมากมายด้วยความรู้ และความสวยงามของธรรมชาติ เป็นสถานที่ซึ่งเปี่ยมด้วยคุณค่าในหลากหลายด้าน

การเดินทางเหมาะกับรถส่วนตัวครับเพราะไม่มีรถประจำทางผ่าน เข้ามาจากตัวเมืองเพชรก็ขับไปตามเส้นทางหาดเจ้าสำราญ ถึงสี่แยกเข้าหาดเจ้าสำราญให้เลี้ยวซ้ายไปทางป้ายอำเภอบ้านแหลม อีกแป๊บเดียวก็จะถึงแหลมผักเบี้ย หากมาจาก กทม. ถนนพระรามที่ 2 ก็เลี้ยวเข้ามาทางเส้นเลียบชายทะเลคลองโคน-ชะอำ มาตามป้ายหาดชะอำเรื่อยๆ จะผ่านแหลมผักเบี้ย

เปิดทุกวัน 6.00-18.00 น. เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แล้วมีอะไรรอเราอยู่ที่แหลมผักเบี้ย ตามมาดูกัน


ไปศึกษาความรู้


แน่นอนว่าจุดประสงค์หลักของโครงการในพระราชดำริ และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ คือศึกษาและแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ประชาชน และที่นี่ก็เช่นกัน ในพื้นที่ประกอบด้วยสองส่วนใหญ่ๆ คือส่วนที่เป็นบ่อบำบัด กับที่เป็นป่าชายเลน ไปถึงแล้วก็ขึ้นรถไฟฟ้าพาชมรอบพื้นที่ พร้อมฟังบรรยายที่มาของโครงการ ผลงาน และวิธีต่างๆ ที่ได้ศึกษาค้นคว้า บอกเลยว่าความรู้เน้นๆ


ไปดูป่าชายเลน

อยู่ติดกับชายทะเลบ้านแหลม แหลมผักเบี้ยจึงมีป่าชายเลนที่ได้รับการอนุรักษ์ให้อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำที่สำคัญมากของเพชรบุรี


ไปเดินบนสะพานไม้ทอดยาว


สะพานไม้ยาวเกือบหนึ่งกิโลเมตร ทอดยาวตามป่าชายเลน สองข้างทางสวยร่มรื่น หากสักเกตสักนิดจะเห็นว่าเมื่อเข้าใกล้ทะเลมากขึ้น พรรณไม้จะเปลี่ยนแปลงไปด้วยนะ


ไปดูนก


เพราะมีป่าชายเลน และบ่อน้ำใหญ่ ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งหากินของนกหลากหลายสายพันธุ์ ถือเป็นแหล่งดูนกสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศเชียวล่ะ มีทั้งนกประจำถิ่น และนกอพยพ เรามาดูนกได้ทั้งปี แต่ช่วงที่ดีที่สุดคือตอนนกอพยพเยอะๆ เดือนพฤศจิกายน ถึงมีนาค


ไปดูปู


มีป่าชายเลนก็ต้องมีปู ที่แหลมผักเบี้ยมีปูชายเลนเยอะมาก ปูดำ ปูก้ามดาบ สีแดงสีฟ้า แข่งกันอวดก้ามโตๆ เต็มไปหมด


ไปดูปลา (ตีน)


มีปูก็ต้องมีปลา แต่ปลาในที่นี้คือปลาตีนที่หากินตามป่าชายเลน ปลาอะไรเดินได้ หาดูได้ที่นี่เช่นกัน


ไปชมวิวทะเล

สุดเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนคือสะพานไม้ทอดตัวสู่ทะเลอ่าวไทย ยืนรับลมชมวิว บอกเลยว่าฟินสุดๆ หากมองไปทางขวามือจะเห็นหาดทรายแห่งแรกของภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยชื่อว่าแหลมหลวง ทำไมถึงเพิ่งมีหาดทรายที่แรกที่นี่ ไม่ขอเฉลยเพราะอยากให้ไปหาคำตอบกันที่นั่น


ไปปั่นจักรยาน


เดี๋ยวนี้โครงการฯ ไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวเข้าไปด้านใน แต่ไม่เป็นปัญหาเพราะหากไม่นั่งรถนำเที่ยวของเขา ก็มีจักรยานให้เช่าแค่ 20 บาท ได้ทั้งความรู้ ภาพสวยๆ แถมได้ออกกำลังกายไปในตัว


ไปโอบกอดความสุข


มีครอบครัวไปกับครอบครัว มีเพื่อนไปกับเพื่อน มีแฟนไปกับแฟน ต่อให้คนเดียวก็ไปได้ สถานที่ดีๆ แบบนี้สามารถสร้างความสุขและรอยยิ้มให้เราทุกครั้งที่ไปอยู่แล้ว


ไปเสริมสร้างแรงบันดาลใจ

แรงบันดาลใจสามารถส่งต่อถึงกัน จากพระราชดำริขององค์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งทรงเล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน จนเป็นที่มาของโครงการฯ แหลมผักเบี้ย ผมเชื่อว่าใครที่มาเยือนที่นี่ และซึบซับถึงหัวใจหลักของแหลมผักเบี้ย คุณย่อมต้องได้รับแรงบันดาลใจดีๆ เติบกลับไปเต็มหัวใจแน่นอน


ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง

http://www.facebook.com/alifeatraveller



Apichit Bov

นายสองสามก้าว / A Life, A Traveller

 วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 19.29 น.

ความคิดเห็น