น้ำตกทีลอซู เอ่ยชื่อนี้ขึ้นมาหลายคนคงรู้จักเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเที่ยวอย่างเราๆด้วยเสน่ห์ที่ตรึงตามัดใจ ที่เป็นเสมือนแม่เหล็กที่พร้อมจะดึงดูด และจุดประกายกระตุ้นต่อมการเดินทางให้ทำงานทันที แค่ได้ยินชื่อ “น้ำตกทีลอซู”

น้ำตกทีลอซูตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมาก ติดอันดับ 1 ใน 6 ของโลก ทีลอซู เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า น้ำตกดำ ต้องผ่านเส้นทาง 1219 โค้งเข้าไป

ส่วนการเดินทางนั้นไปอย่างไร สนุกแค่ไหน มาๆ จะเล่าให้ฟังค่ะ

- กทม-แม่สอด โดยรถตู้แบบเหมา 8.30 ชม

-แม่สอด- อุ้มผาง โดยรถสองแถว ผ่าน1219 โค้ง 4 ชม

-อุ้มผาง-ท่าเรือยาง-บ่อน้ำร้อน-จุดชมผาเลือด 3 ชม

-จุดชมผาเลือด-เขตรักษาพันธ์วัตว์ป่า โดยรถโฟวิล 11 กิโลเมตร 2 ชม

-เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า-น้ำตก 1.5 กม 30 นาที

เราเดินออกเดินทางออกจาก กทม คืนวันศุกร์ 21.30 น. มุ่งหน้าสู่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยเหมารถตู้ จำนวน 7 คน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8.30 ชั่วโมง

มาถึง บขสแม่สอดประมาณ 6.00 น. ทันรถสองแถวเที่ยวแรกพอดี ค่ารถสองแถวคนละ 130 บาท

แนะนำให้ใช้วิธีขึ้นรถสองแถวนะคะเพราะคนท้องถิ่นจะชำนาญทางมากกว่า จะเป็นแบบเหมาก็ได้หรือไปแบบพวกเราก็สนุกดี พี่กรคนขับรถจอดรับคนตลอดทาง

แรกๆ ก็ยิ้มแย้มแจ่มใสตื่นเต้นตลอดทางคะ แต่พี่คนข้างๆ ที่พูดภาษาไทยไม่รู้เรื่องเลยนี่ก็นั่งเบียดตลอดทาง เอวจะเคล็ด

มาค่ะ รับตลอดทาง ที่นั่งไม่พอ มีที่นั่งชั้นสองวีไอพีไปเลยค่ะ แต่ข้างบนนั่งได้แต่ผู้ชายนนะคะ ผู้หญิงไม่สามารถขึ้นไปนั่งได้

คนแน่นขนาดนี้พี่กรยังรับผู้โดยสารเรื่อยๆนะคะ คนจะแน่นอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ


ต้องผ่านเส้นทางทั้งโค้ง ทั้งชัน ทั้งคนเบียดแน่นๆ แบบนี้เลยคะ แต่พี่กรชำนาญทางมาก ขับแบบสบายๆปาดโค้ง เข้าหักศอกไปเลยพี่

นั่งมาได้สักประมาณ เกือบ 2 ชั่วโมงก็จะถึงจุดพักรถตรงนี้นะคะ แวะเข้าห้องน้ำ ทานอาหารกันได้เลย ของขายเยอะ พี่กรคนขับรถก็ไปผัดข้าวกินเองหน้าตาเฉยไม่สนใจผู้โดยสารเลย

หลังจากพักรถเสร็จก็มีผู้โดยสารทยอยลง ภาพนี้เป็นภาพที่ประทับใจภาพนึงเลยระหว่างการเดินทาง มีน้องๆ วิ่งมารับพี่ชายที่กลับบ้านอย่างหน้าตาตื่นที่เห็นพี่ชายลงจากรถ วิ่งมาก่อนที่รถสองแถวจะจอดสะอีก น่ารักมาก

คนทยอยขึ้น ทยอยลงแบบนี้ตลอดทางค่ะ เรื่อยๆเลยพี่ แวะรับตลอดทางไม่ถึงสักที

เลยจุดพักรถมาก็จะเจอศูนย์อพยพผู้ลี้ภัยอุ้มเปี้ยม อำเภอพบพระค่ะ ที่นี่เป็นศูนย์อพยพของชนเผ่าต่างๆ โดยแต่ละเดือนจะมีข้าวสารแจกให้ทุกเดือน

นั่งมองวิวเพลินๆ ไปหลังจากที่กินข้าวมาไม่ถึง 30 นาทีจากจุดพักรถค่ะ ก็มีเพื่อนเรากินอิ่มๆมาแล้วดันไปเห็นน้องคนนึงบนรถอ้วกมาตลอดทางบวกกับรถเหวี่ยงขึ้นทางโค้งทางชันมา เพื่อนก็สำรอกออกมาทันที ฮ่าๆ แทบจะหยิบถุงให้ไม่ทันกันเลยทีเดียว คนบนรถก็แตกตื่นเสียงหัวเราะพวกเรา ทุกคนช่วยยื่นถุงมาจะใส่อ้วกให้พวกเราทันทีค่ะ ขอบคุณทุกคนมากนะคะ

ฝั่งนั้นก็ดูแลเพื่อนไป ฝั่งนี้ก็จะอ้วกตาม น้ำหูน้ำตาไหลมารวมกันหมด ฮ่าๆ

ผ่านนาทีระลึกไปสักพัก ขับมาเรื่อยๆก็เจอวิวสวยตลอดสองข้างทางแบบนี้เลยค่ะ ชื่นใจ


หลังจากนั่งมา 4 ชั่วโมงเวลาเกือบเที่ยง พี่กรก็มาส่งเราที่แคมป์สุขเสถียร ที่เราติดต่อเช่าเรือยางกับรถโฟวิลไว้ ต้องขอบคุณเพื่อนพุที่ติดต่อให้แล้ว เราก็โทรไปคอนเฟิมราคาอีกที ในแบบราคาเหมา 7 คนนะคะ ไม่ได้คิดเงินเป็นรายบุคคล ที่แคมป์ก็จะให้เราลงชื่อก่อนคะ แวะทานข้าวตรงนี้ให้เรียบร้อยเพราะต้องนั่งเรือยางเข้าไปอีก 3 ชั่วโมง

เบอร์แคมสุขเสถียรนะคะ ลองโทรสอบถามได้ : (081-811-1166, 081-218-5323)

เราได้ติดต่อเหมารถสองแถวพี่กรไว้ขากลับเลยนะคะ ราคา 2000 บาท ต่อไปต่อมา พี่กรกก็ลดให้ 1800 บาท เพราะเห็นสาวๆเยอะ ฮ่าๆ

เบอร์โทรพี่กรรถสองแถว แม่สอด- อุ้มผาง (085-606-1764)

แวะทานข้าวเสร็จเก็บสัมภาระ ขึ้นรถโฟวิลที่ทางแคมป์จัดเตรียมไว้ ก่อนลงเรือยางก็ขอให้พี่คนขับพาแวะซื้อของสดไปทำอาหารเย็นก่อนค่ะ มีเซเว่นด้วยนะ

รถโฟวิลจะมาพาเรามาส่งถึงจุดล่องเรือยาง ขึ้นที่ท่าทราย ล่องเรือต่อไปยังน้ำตกทีลอซู ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง

ฝีทายหัวเรือชื่อพี่ซันเดย์ อารมณ์ดีตลอดทาง ร้องเพลงให้ฟังตลอดทาง

นั่งมาสักพักนึงรู้สึกว่าที่นั่งมันแฟบลง ก็เลยต้องทำการสูบลม ใครแรงเยอะสุดคนนั้นต้องสูบค่ะ ฮ่าๆ

ล่องเรือยางชิวๆ สบายๆ ชมธรรมชาติสองข้างทางอย่างงดงาม จะนอนถ่ายรูปก็ได้ สบายๆ น้ำไม่เชี่ยว

ล่องไปเรื่อยๆก็จะเจอน้ำตกทีลอจ่อ พี่ฝีพายก็พาพายเข้าไปใต้น้ำตก ละอองน้ำเล็กๆ ตกมากระทบตัวอย่างเย็นๆ มันฟินมากแก ระวังกล้องกันด้วย พี่ฝีพายจะคอยเตือนเราว่าควรเก็บกล้องตอนไหน

น้ำตกสายรุ้ง แต่แอบเสียดายเราเข้าไปก็บ่ายแล้วเลยไม่เห็นสายรุ้งเลย

ถึงจุดสกัดบ่อน้ำร้อน ตรงนี้ก็ครึ่งทางแล้วคะ เราจะพักตรงนี้เพื่อไปแช่บ่อน้ำร้อนกันค่ะ ตรงนี้มีของขาย โอวัลติน ชาเย็น มาม่า


เดินลัดเลาะป่าไผ่ ข้ามสะพานไม้ไผ่ไปนิดเดียว

เหมือนเรือจะแฟบรอบสอง เอ้า พี่ๆ ช่วยกันสูบก่อน จากบ่อน้ำพุร้อนเราต้องลงเรือยางอีกรอบนะคะ

เจอสองข้างทางน่าตื่นตาตื่นใจตลอดทาง ล่องแก่งตะโค๊ะบิ๊ ผาผึ้ง ผาแหงน

ผ่านตรงนี้เค้าเรียกว่า เต่าล้านปี เพราะดูแล้วมันเหมือนเต่า ใกล้จะถึงจุดที่สิ้นสุดลงเรือยางแล้วค่ะ

พี่ฝีพายท้ายเรือ ชื่อพี่มาก


3 ชั่วโมง เราลงจากเรือยาง เพื่อไปต่อรถโฟวิล ที่สุขเสถียรแคมป์จัดไว้ ที่จุดชมผาเลือด รถโฟวิลจะจอดรอเราอยู่ตรงนี้ก่อนแล้วค่ะ

ต่อรถโฟวิลเข้าน้ำตกเส้นทางตอนฤดูฝนก็จะแบบนี้เลยค่ะ ทั้งเละ ทั้งโคลน ทั้งหลุม ทั้งเจอฝนตกหนักระหว่างทางไปอีก นั่งไปไส้จะมากองรวมกันเลยค่ะ

เราจะใช้เวลาจากจุดชมผาเลือด-เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า โดยรถโฟวิล 11 กิโลเมตร 2 ชม

เราพักที่บ้านพักเขตรักษา นะคะ ไม่ได้นอนเต๊นท์ ต้องขอบคุณพี่ผู้ใหญ่ใจดีที่ติดต่อกับหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางไว้ให้ ไม่เสียค่าที่พักนะคะ

ถึงบ้านพักก็เกือบห้าโมงเย็น เพราะเจอทั้งฝนทั้งดินไหลตลอดทาง ทางน่ากลัวมากค่ะ กลัวน้ำป่า ฮ่าๆ จัดแจงทำกับข้าวหุงข้าว เพราะวันนี้ไม่สามารถเดินเข้าตัวน้ำตกได้

มาผู้หญิงเยอะมากแต่ไม่มีใครหุงข้าวเป็นเลยค่ะ ขอบคุณพี่บอยคนขับรถที่หุงข้าวให้


พอได้เวลาเราก็มาล้อมวงกินข้าว แล้วแยกย้ายกันอาบน้ำพักผ่อน

ตอนเช้าตื่นแต่เช้าตี 5 เพื่อนเดินทางเข้าน้ำตกค่ะ

ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดิน 30 นาที

ทางเข้าเดินสบายๆ มีถนนตลอดทาง เพลิดเพลิน

เจอน้ำตกน้อยใหญ่ ก่อนถึง

30 นาทีสุดท้ายที่รอคอย ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึง น้ำตกทีลอซู วินาทีแรกที่เห็นคือ อึ้ง !! ก่อน

พูดอะไรไม่ถูก ขนาดเจอน้ำสีแบบนี้ยังสวยมาก ยิ่งใหญ่สมคำร่ำลือจริงๆ ขอบคุณตัวเองที่ก้าวผ่านความเหนื่อยและความสนุกมาจนถึงจุดนี้

ละอองน้ำ ฟุ้งเต็มหน้า เรามาตอนเช้าสุดๆ ยังไม่มีคนขึ้นมาเลยค่ะ

สวยเกินคำบรรยาย ไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกตอนนั้นยังไงให้สวยเท่าเลยค่ะ

หลังจากชมน้ำตกประมาณ 1 ชม เราก็รีบเก็บของกลับค่ะ หลังจากเดินทางมา เกือบ 18 ชั่วโมงกับการได้ชมน้ำตกเพียง 1 ชม แต่ เป็น 1 ชม ที่คุ้มค่ามากๆ

ขาลงมาเจอพี่ๆ เขตรักษาเดินสำรวจผืนป่า ขอบคุณพี่ๆเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ดูแลผืนป่าให้พวกเรานะคะ

ขาลงก็เจอฝนแต่เช้าเลยค่ะ ใส่เสื้อกันฝนกันแต่เช้า บวกกับทางเละๆอีกตามเคย

โทรติดต่อพี่กรให้มารับค่ะ หลังจากที่เราถึงแคมป์สุขเสถียรแล้ว

สภาพหมดแรงกันทุกคน ไม่ไหว จะเพลีย

ขากลับเหมารถกลับมันก็จะดีแบบนี้แหละค่ะ มีที่นอนวีไอพี ฮ่าๆ

ด้วยความเหนื่อยล้า แล้วหิวโหยอย่างมาก บอกพี่กรว่าพาแวะร้านส้มตำหน่อย พี่กรก็พามาแวะร้านนี้ ทั้งหมดที่เห็นนี้ ราคา 450 บาท คือแบบถูกมาก กินจนท้องจะแตก และไม่น่าเชื่อว่าส้มตำบนดอยแบบนี้อร่อยมาก ตำมะม่วงปูปลาร้าใส่กะปิคือเด็ดมาก

วิถีชีวิตของคนอุ้มผาง

หลังจากกินส้มตำอิ่มๆ เพื่อนคนเดิมเราก็อ้วกอีก 1 ครั้งค่ะ ขากลับ เป็นเส้นมะละกอเลยจ้าา ฮ่าๆ ดีนะขอถุงพี่ร้านขายส้มตำมาใส่อ๊วก

ขากลับพี่กรพาซิ่งลงมาเลยค่ะ เข้าโค้งนี่ไม่เบรกเลย ขับ 120/km คิดดูนะบนเขาอ้ะ จะหวาดเสียวขนาดไหน เพื่อจะให้พวกเราทันเวลาลงมาถึงแม่สอดให้ทัน 16.00 น. เพราะนัดพี่คนขับรถตู้ไว้

มาแม่สอดอย่าลืมแวะมาเที่ยวตลาดริมเมยนะคะ อยู่ห่างจาก บขส แม่สอดแค่ 4 กม เอง 15 นาทีก็ถึง

วิถีชีวิตบนริมฝั่งแม่น้ำเมย จะพบพี่ๆพม่าแบบนี้แหละค่ะ

ของขายทั่วไปก็แบบพม่าๆ หน่อย ราคาค่อนข้างถูกเลยนะคะ

ออกจากตลาดริมเมยก็มุ่งตรงกลับ กทม เลยค่ะ สภาพแต่ละคนนี่เหมือนผีดิบเดินได้เลย ทีเดียว หัวฟูๆ ตาดำๆ เราถึง กทม เช้าวันจันทร์ประมาณตี 2 ค่ะ

ส่วนมากที่เราอ่านตามรีวิวทั่วไปต้องไปประมาณ 3 วัน 2 คืน แต่สำหรับเราแค่ 2 วัน 1 คืนเองค่ะ ถึงจะเป็นเวลาสั้นๆที่ต้องเร่งรีบหน่อย แต่ก็คุ้มค่าสมกับที่ได้มาเหมือนกัน และสามารถกลับมาทำงานต่อได้วันจันทร์อีกด้วยนะคะ


สรุปค่าใช้จ่าย

  • ค่าเหมารถตู้ จาก กทม-อ.แม่สอด 10000 / 7 คน = คนละ 1428 บาท
  • ค่าสองแถวขาไป คนละ 130 บาท ขากลับใช้วิธีเหมา 1800/7 = คนละ 257 บาท
  • ค่าข้าวกลางวัน 375/7 = คนละ 53 บาท
  • ค่าเรือยาง+รถโฟวิล ไป-กลับ 5000/7 = คนละ 714 บาท
  • ค่าเข้าอุทยานคนละ 20 บาท
  • ค่าเอารถยนต์เข้าอุทยานต์ คันละ 50 บาท/7 = 7 บาท
  • ค่าอาหาร + ของสด + เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1525/7 = คนละ 217 บาท
  • ค่าส้มตำวันอาทิตย์ มื้อกลางวัน = 450/7 = 64 บาท
  • ให้ทริปคนพายไปเรือ 2 คนคนละ 100 บาท ทริปคนขับรถโฟลวิล 100 บาท รวม 300/7= 42 บาท

รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 2,932 บาท

เราเป็นคนหนึ่งที่เวลาจะไปเที่ยวไหน แม้ว่าจะเป็นฤดูฝน อย่าไปกลัว คิดจะไปหาประบการณ์อย่ากลัวอุปสรรคระหว่างทางคะ เพราะจุดหมายปลายทางข้างหน้ามันคุ้มค่ากว่าเสมอ !

ขอบคุณมิตรภาพดีๆที่เกิดขึ้นระหว่างทาง

ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะคะ

แล้วพบกันใหม่









กาลครั้งหนึ่ง

 วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 12.49 น.

ความคิดเห็น