เช่ามอไซค์ขี่ ตะลอน ตะลอน ชุมพร
ความเดิมตอนที่แล้ว โฮมสเตย์กลางใจป่า บ้านในวง ละอุ่น ระนอง หมู่บ้านในวงล้องของขุนเขา
หลังจากติดรถพี่ใจดีชาวบ้านบ้านในวง ละอุ่น ระนอง ที่ออกมาส่งทุเรียน ณ ตลาดโคกปีบ อ.ทุ่งตะโก ชุมพร
ส่งเราทั้งสองหนุ่มหน้าคิวรถตู้ชุมพรพอดี จับรถตู้ ค่าโดยสารหัวละ 160บาท มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองชุมพรแล้วก็แบกเป้
หาที่พัก ณ รร. ที่ใกล้จุดลงรถที่สุด ซึ่งก็คือโรงแรมนานาบุรี ค่าที่พักคืนละ 700บาท จองไว้ 2 คืน
นี่คือเช้าวันใหม่กลางเมืองชุมพร กลางกค.กลางฤดูฝน แต่ฟ้ายังสดใสไฉไล ฝนทิ้งช่วงต้อนรับการมาเยือนอย่างน่าอัศจรรย์
ส่วนทางบ้านในวงหลังจากเราเดินทางจากออกมาเมื่อวานบ่าย ฝนก็กลับมาตกกระหน่ำหนักอย่างเหลือเชื่อ
ที่เหลือเชื่อไม่ใช่เหลือเชื่อที่ฝนตก แต่เหลือเชื่อที่ฝนทิ้งช่วงให้เราช่วงที่อยู่ในวงต่างหาก
เป้าหมายแรกเช้าวันนี้ครับ ..... กิน!
หาของกินรองท้องก่อน ได้ร้านชุมพรแต่เตี้ยมใกล้ๆ รร.นั่นแหละ
ชุมพรแต่เตี้ยม พิกัด N10° 29.994' E99° 10.649'
อร่อย
อิ่มท้องแล้วก็เริ่มออกเที่ยว พาหนะหลักประจำแผนการก็คือมอเตอร์ไซค์เช่า ซึ่งก็เรียบๆ เคียงๆ ถามมาแล้วเมื่อวาน ได้ความว่ามีอยู่ร้านนึงละแวกรร.เช่นกัน
ร้าน Fame Tour รถเช่า พิกัด N10° 30.002' E99° 10.617'
ได้รถเช่ามาแล้ว มอเตอร์ไซค์มีให้เลือก 2 รุ่น ราคาค่าเช่าต่อวันก็มีตั้งแต่ 150-300 บาทแล้วแต่ชนิดรถและสภาพรถ
Fame Tour ยังมีบริการอื่นๆ อีกมากมายครับ มีรถตู้ รถกระบะให้เช่า มีบริการที่พักเป็นเกสเฮ๊าส์ หน้าร้านนี้ยังเป็นร้านอาหารด้วย ฝรั่งนั่งตรึม
นอกจากนี้ยังมีบริการรถรับส่งระหว่างสนามบิน-ชุมพร เวปไซค์ Fame Tour ครับ
เอาล่ะครับ ไดเกียวเครื่องฟิตสตาร์ทติดง่าย ชึ่งๆ บรื๋นๆ สวมหมวกกันน๊อคให้เรียบร้อยแล้วไปโลด เส้นทางมุ่งหน้าเชิดจมูกจับทิศเข้าหากลิ่นไอทะเลทันที
เพียงราวๆ 7 กิโลเมตรครับ เราก็มาถึงชายทะเลแรก ณ ปากหาด //ตามคำแนะนำของเพื่อนนักถ่ายภาพเจ้าถิ่นที่เป็นเพื่อนของเพื่อนร่วมทริปของผมอีกที
บ้านปากหาด N10° 29.455' E99° 13.756'
ที่มาที่นี่เป็นแห่งแรก เพราะพี่เจ้าถิ่นเค้าบอกว่าตอนนี้น้ำทะเลกำลังลง! และที่ชายทะเลบ้านปากหาดนี้จะสวยมีมุมถ่ายภาพมากยามน้ำทะเลลง
สวยมั้ยครับ ผมว่าดูสวยอยู่นะ แต่ว่ามาสายไปนิด ตะวันโด่งไปหน่อย แสงเริ่มแรง ถ้ามาถึงเช้ากว่านี้คงได้ภาพสวยกว่านี้ไม่น้อย
ฟ้าแจ่มเว่อร์วัง จนอยากจะร้องกรี๊ด
ขี่แมงกะไซไป เจอตรงไหนสวยเป็นจอด จอดแล้วจอดอีกครับ ชิลๆ มีเวลาทั้งวัน ไม่มีการเริ่งรีบใดๆ ปากหาดนี้เป็นชายหาดยาว ราวๆ 6 โล มีถนนเลียบหาดราวๆ 4โล
อยู่เหนือปากน้ำชุมพร ภาพข้างล่างนี้มองไปทางซ้ายเห็นแหลมหัวโม่ง-คอกวาง ส่วนขาวมือแลเห็นเกาะเสม็ด เกาะใหญ่สุดในน่านน้ำย่านนี้
เรือน้อยจอดนิ่ง ณ ชายทะเลปากหาด
ควบแมงกะไซน้อย ขับจอดขี่จอดไปเรื่อยๆ ถนนเริ่มเลี้ยวไกลหาดออกไปและสักพักก็มีป้ายตรงไปบ้านหัวถนน ผมล่ะสนใจทันทีเลยครับ ตรงเข้าไปดูสักหน่อย
ชุมชนบ้านหัวถนน N10° 26.528' E99° 14.672'
เป็นชุมชนขนาดใหญ่พอควรอยู่ปากน้ำชุมพร บ้านเรือนแน่นขนัดทั้งสองฝั่ง มีเรือข้ามฟากไปมา มีเรือประมงออกทะเล และกลับมาจากทะเล ดูคึกคักมีชีวิต
จุดแดงๆ ที่เห็นนั่นคือสุดทางที่เราเดินเข้าไปครับ จอดมอไซค์ไว้ที่ป้อมตำรวจปากทาง แล้วเดินข้ามสะพานเข้าตรอกไปจนสุดถนน จะมองเห็นจากแผนที่
ว่าบริเวณที่เราไปเป็นเกาะครับ เรียกว่าเกาะสี่ จากที่คุยกับชาวบ้านแถวนั้น ก็แสดงว่าต้องมีเกาะหนึ่ง เกาะสองเกาะสามนะครับ ส่วนแม่น้ำที่ขวางหน้าอยู่
คือแม่น้ำท่าตะเภา ดูจากแผนที่อีกจะเห็นเป็นเส้นทางเดินเรือออกทะเลไปเกาะเต่า ส่วนฟากตรงข้ามเป็นเทศบาลตำบลปากน้ำชุมพร
และที่มองเห็นตรงมุมขวาล่างของแผนที่ก็คือเขามัทรี มองเห็นจุดชมวิวบนยอดเขามัทรีอยู่ขอบล่างสุด
วิวปลายตรอก เกาะสี่ ชุมชมบ้านหัวถนน ตรงที่เป็นจุดวงกลมแดงบนแผนที่ข้างบนครับ ตรงนี้เป็นท่าเรือข้ามฟากด้วย ฝั่งข้างโน้นเทศบาลปากน้ำฯ มองเห็นเขามัทรีเป็นฉากหลัง
ออกจากบ้านหัวถนน ลุ้นว่ารถจะยังอยู่ดีหรือโดนใบสั่งหรือป่าว ปรากฏว่าอยู่ดีไม่มีใบสั่ง เพราะไปซุกไว้ข้างป้อมตำรวจโดยไม่ได้บอกกล่าว ดูจากแผนที่
ข้างล่างจะเห็นเส้นทางบึ่งมอไซว่าอ้อมโลกขนาดไหนกับจุดหมายถัดไปที่เพียงนั่งเรือข้ามฟากก็ถึงแล้วนะครับ .... ปากน้ำชุมพร
ปากน้ำชุมพร N10° 26.720' E99° 14.969'
กลับมาเห็นชายทะเลกันอีกครั้ง น้ำกำลังขึ้น เกาะมัตโพนตรงหน้าเรานี้เป็นเกาะเล็กๆ ยามน้ำทะเลลงตรงเบื้องหน้าเรานี้จะเป็นทะเลแหวก สันดอนทรายจะโผล่จนเดินข้าม
ไปยังเกาะได้ ทางซ้ายก็จะเห็นแนวเขื่อนที่กั้นเป็นร่องน้ำเดินเรือเข้าออกแม่น้ำท่าตะเภากับทะเล ส่วนด้านหน้าสุดคืออะไรครับ! ยางรถยนต์!! อิอิ
หันหลังให้ทะเลหันหน้าเข้าหาถนนบ้าง ได้ยินเสียงนักเรียนเล็กๆ ดังมาจากบ้านหลังคาสีฟ้า เพื่อนร่วมทริปของผมเลยชวนกันเข้าไปเยี่ยมพูดคุยกับน้องๆ ในรร.
ที่นี่เรียกว่า ศูนย์พัฒนาเด็กร่วมมือประสานใจสู่อาเซียน 10.445185, 99.249540 เด็กนักเรียนส่วนใหญ่เป็นเด็กพม่า พ่อแม่ทำประมง ห้องเรียนมีห้องเดียวแต่นักเรียนต่างวัยกันถึง 5-6 ระดับ
ชั้นเรียน ครูคนเดียว+ครูผู้ช่วย ต้องแบ่งสมาธิสอนลูกศิษย์ให้ได้ทุกระดับ ทึ่งมาก! คุณครูเชิญชวนเพื่อนๆ ผู้อ่าน และนักท่องเที่ยวทั้งหลายใครแพลนมาเที่ยวแถวนี้มีข้าวของ
อุปกรณ์การเรียนอะไรเหลือใช้ เสื้อผ้านักเรียน สมุด ดินสอ ไม้บรรทัด เอามาบริจาคน้องๆ กันได้นะครับ
แว๊นมอไซไปกันต่อ เลาะทะเลไปเรื่อย ทิ้งปากน้ำชุมพรไว้ข้างหลังแล้วใช้เส้นทางเชิงเขามัทรีฝั่งทะเล ทางขึ้นลาดเขานิดหน่อย วิวทะเลผ่านม่านสนทะเลช่่วงนี้สวยมาก
เห็นทะเลในมุมสูงขึ้น และมองเห็นเกาะมัตโพนจากตรงนี้อีกครั้ง
จากนั้นก็ไล่ไปเรื่อยๆ ตามทางครับ ผ่านหาดภาราดรภาพ ผาแดง เขาพระตำหนัก หาดทรายรี เขาพระยืน หาดทุ่งมะขามน้อย
หาดภราดรภาพ 10.434154, 99.257428
หาดภราดรภาพเป็นหาดขนาดใหญ่ มองคะเนด้วยสายตาธรรมดาๆ ก็ยาวราวสองกิโล มีเกาะเสม็ดอยู่ห่างฝั่งออกไปราวสองกิโลเช่นกัน ดูดูก็สวยดีนะ ต้นมะพร้าวก็เยอะดี
มาถึงตอนนี้แดดเริ่มแรงมาก เราก็จอดมอไซหลบพักผ่อนใต้เงาไม้บริเวณสวนสาธารณะกลางหาด
หาดทรายรี 10.394410, 99.280519
น่าจะเป็นหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดชุมพร สวยเชียว เกาะน้อยๆ ที่องค์ประกอบเติมความสวยอยู่หน้าหาดทรายรีที่เห็นใกล้ๆ คือเกาะมะพร้าว
ตรงหาดนี้เห็นมีร้านที่ขายแพ๊คเกจทัวร์เรือสปี๊ดโบ๊ทพาชมเกาะในน่านน้ำบริเวณนี้ ทั้งพาชมพาดำน้ำ เห็นขึ้นเรือกันที่หน้าหาดนี้เลย
มีป้ายเก๋เก๋ แลหาดทรายรี @ chumphon ให้ได้เช็คอินออนไลน์กัน
ถ้าแดดบ้านเราไม่ร้อนมากแบบสมัยนี้ นี่คือช่วยเวลาที่จะฟิลที่สุด กับการนั่งลงฟังเสียงคลื่นซัดเม็ดทราย
ได้เวลามื้อเที่ยงกันที่หาดทรายรี มีร้านอาหารเรียงราวหลายร้านตามชายหาด
ร้านที่เรานั่งกินคิดเงินมาแล้วก็ราคาย่อมเยาว์ดีครับ สั่งปูมากินก็สดดี
นี่คือรายการอาหารที่เรากินและราคาที่เช็คบิล >>
spoil คลิก
ยังคงเตร็ดเตร่อยู่แถวๆ หาดทรายรี หลังจากอิ่มหมีไปกับซีฟู๊ด ก็ย้อนรถผ่านโค้งหน้าเขาพระตำหนัก มานั่งกินกาแฟกันต่อที่ร้านนี้ ตั้งอยู่ตรงข้ามประตูเข้าอนุสรณ์เรือรบ
และศาลกรมหลวงฯ พอดี
SaiRee Coffe ทรายรีค๊อฟฟี่
เจอแอร์เย็นๆ เข้าไปแทบจะสลึมสลืออยากเอนหลังนอนในร้านนี้สักชั่วโมง
จากนั้น ด้วยความกว้างขวางของ "หนุ่ม โฟโต้" เพื่อนร่วมทริป ที่มีเพื่อนเฟรนเฟสเป็นเพื่อนช่างภาพถิ่นชุมพร ก็หลังไมค์ประสานกันจนเพื่อนส่งเพื่อนอีกคน
มาพบกันที่ร้านกาแฟนี้ มาแบบมึนๆอึนๆ คือแกควบกระบะมาแล้วเข้ามาสอบถามว่าอยากเที่ยวไหน คุยกันไปมาแกก็บอกว่าบิดมอไซตามมาเลย แต่จะพาไปหามุมถ่ายภาพ
ไอ้เราสองคนรึกว่าจะรู้ว่าเป็นเพื่อนของเพื่อน เป็นคนที่มาเพื่อดักพบเรา เพื่อพาเที่ยว 555
ขี่มอไซค์ตามมาแบบไม่รู้อะไรจริงๆ นึกว่าตามใครที่ไหนไม่รู้สักคน และพี่เค้าก็พามาที่นี่ครับ
จุดชมวิวเขาเจ้าเมือง
N10° 23.063' E99° 16.917'
เป็นภูเขาสูงราวร้อยเมตรเศษๆ เขาเจ้าเมืองตั้งอยู่ปลายสุดของหาดทรายรี มีพระองค์ดำปรางลีลา ยืนเด่นเป็นสง่าหันหน้าไปทางทะเล
เห็นวิวท้องทะเลชุมพรอย่างสวยงามที่บนจุดชมวิวเขาเจ้าเมืองนี้
สักพักนึงคุณต้นรัก ช่างภาพมือโปรอีกคนของชุมพรเพื่อมคุณหนุ่มก็ตามมาสบทบหลังจากส่งเพื่อนคนแรกมาต้อนรับขับสู่ก่อน
แล้วเจ้าถิ่นก็พาเราไปหามุมถ่ายภาพต่อ ขี่มอไซตามหลังย้อนทางกันมาขึ้นเขาพระตำหนัก มาชมหาดทรายรีมุมสูง มุมมองพานอรามา
มองย้อนกลับไปจากตรงนี้แลเห็นเขาเจ้าเมืองที่เราเพิ่งลงมากันด้วย
จุดชมวิวเขาพระตำหนักฯ
N10° 24.002' E99° 16.770'
พวกเราตัดสินใจจอดรถมอเตอร์ไซค์ที่เช่ามาทิ้งไว้แถวพระตำหนักฯ แล้วนั่งกระบะไปด้วยกันคันเดียวครับ
นี่คือจุดต่อมาพี่สองคนเค้าพาซอกแซกย้อนทางเดิมมาเกือบถึงหาดภราดรภาพแล้วเลี้ยวแวะเข้าซอยขึ้นลาดเขามาหน่อยก็เจอกับอีกจุดชมวิว
จุดชมวิวผาแดง
N10° 24.973' E99° 16.503'
แล้วก็พาเตลิดไกลลงทิศใต้เลยหาดทรายรีมายังอีกสถานที่นึง เป็นท่าเรือไปเกาะเต่า ชื่อท่าเรือเร็วลมพระยา
มาชมหาดทรายอีกหาดนึงเป็นอ่าวเล็กๆ
หาดทุ่งมะขามน้อย
N10° 21.496' E99° 15.923'
และพามาจบวัน นั่งรอล่าแสงสุดท้าย เก็บทไวไลค์กัน ณ จุดชมวิวขึ้นชื่อสุดของชุมพร
จุดชมวิวยอดเขามัทรี
N10° 26.285' E99° 15.082'
ตรงนี้สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางราวๆ 110เมตร
พวกเราขึ้นมาเกือบค่ำ เกือบไม่ทันแสง ก็เลยมามุมปักหลักเลย ไม่ทันได้เดินสำรวจหรือชมวิวบนนี้ทางด้านอื่นอีก
เฝ้ารอเก็บแสง ตรงนี้ไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องล่ะครับ ทาบกล้องบนราวได้เลย
มุมมองเปิดเข้าหาตะวันทางด้านปากน้ำชุมพร มองเห็นโค้งทะเลปากหาดทางด้านขวา เห็นเทศบาลปากน้ำชุมพรทางด้านหน้า มีลำน้ำท่าตะเภากั้นกลางและชุมชนบ้านหัวถนนอยู่ฝั่งตรงข้าม
แสงสุดท้าย ณ ยอดเขามัทรี
ดาวบนดินจากไฟในเมืองเริ่มสว่าง
ค่ำลงจะนอนไหน ก็ขี่มอไซค์กลับโรงแรมสินะครับ ว่าแล้วก็ลงจากเขามัทรี ย้อนไปเขาตำหนักเอามอไซค์ที่จอดทิ้งไว้ ขี่ฝ่าอากาศเย็นนิดๆ น้ำหมูกไม่ทันไหล กลับสู่รร.
อาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ให้สบายตัวแล้วก็ออกไปสังสรรค์นัดกันไว้กับเพื่อนๆ เจ้าถิ่นที่ร้านฟาริดา ถนนกรมหลวง ละแวกที่พักนั่นแหละ เป็นย่านของกิน
อยากจะบันทึกไว้ ณ บรรทัดนี้ว่าชุมพรมีร้านขายของกินริมทางเยอะมากกกกก น่าจะเยอะที่สุดในประเทศไทยแล้ว
เช้าวันใหม่ ได้เวลาอำลาชุมพร มุ่งหน้ากลับระนอง เพราะตีตั๋วเครื่องบินไปกลับที่นั่น
จากมอไซค์มาส่งที่หน้าคิวรถตู้ชุมพร-ระนอง ตีตั๋วรถตู้หัวละ 240บาทเข้าเมืองระนอง
ระยะทางชุมพร-ระนอง 120 กิโลเมตร ระยะเวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมง ข้ามทิวเขาตะนาวศรีสู่ฝั่งอันดามัน
ถึงแล้ว สถานีขนส่งระนอง ลงรถตู้กันที่นี่
นั่งเล่นในร้านนี้ ซึ่งดูจากป้ายแต่แรกเข้าใจว่าเป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของททท. แต่พอเข้าไปแล้วถึงได้รู้ว่าศูนย์เดิมเค้าย้ายไปตั้งที่อื่นแล้ว ส่วนตรงนี้กลายเป็นร้านกาแฟและบูธ
ของบริษัทขายแพ๊คเกจทัวร์แห่งหนึ่ง Fresh Coffee ตอนนี้กำลังเปิดแพ๊คเกจทัวร์เกาะค๊อกคอม ในพม่า เกาะที่มีทะเลในเป็นรูปหัวใจที่กำลังโด่งดัง
นั่งคุยกันไปบอกเล่าภารกิจตะลอนเที่ยวของเราไป เจ้าของร้านใจดีเลยออกปากให้ยืมมอไซค์ขับไปเที่ยวเก็บตกในระนองก่อนถึงเวลาเครื่องบินออกในตอนเย็นๆ
ปะ ไปกัน ไปเที่ยวดูน้ำตกหงาวสักหน่อย อยู่ห่างเมืองออกไปราว 10 กิโลเมตร
น้ำตกหงาว
N9° 51.286' E98° 37.868'
น้ำตกหงาวเป็นน้ำตกที่แลดูใหญ่มากๆ เมื่อมองจากข้างนอก บนถนนใหญ่ มันสูงมาก ไหลตกจากยอดเขาลงมาเลย ทว่ายามเมื่อเข้ามามองใกล้ๆ มันจะแลเห็นเพียงบางส่วน
น้ำตกหงาวมุมมองจากข้างนอก
มีวัดบ้านหงาวอยู่ฝั่งตรงข้ามทางเข้าน้ำตก
และที่ไม่พลาดอย่างแน่นอนคือที่นี่
ภูเขาหญ้า
N9° 51.896' E98° 37.032'
หนึ่งในอันซีนไทยแลนด์
หลังจากคืนมอไซค์พร้อมเติมน้ำมันเต็มถังขอบคุณเจ้าของร้านอย่างมากที่มีน้ำใจอนุเคราะห์พาหนะตะลอน พวกเราก็โบกสองแถว
คุณหนุ่มนัดเพื่อนเพสคนระนองอีกคนไว้ที่นี่ เป็นร้านอาหาร ให้เราไปนั่งพักผ่อนหลบร้อนและอาบน้ำอาบท่า
ร้านอาหาร Green House N9° 57.914' E98° 38.582'
อยู่ข้างๆ โรงพยาบาลระนอง เป็นร้านอาหารสไตล์จีน ฮกเกี้ยนหรือกวางตุ้งผมก็จำไม่ค่อยได้แล้วสิ
พี่ผินเจ้าของร้านต้อนรับขับสู่ แล้วแล้วเชิญชวนให้ชิมเมนูรสเด็ดของทางร้าน
ชามทางซ้ายกินแก้หิวกันก่อนนะครับ หมี่ฮกเกี้ยนมั้ง ฮวี่ //ลืม ส่วนทางขาวไม่ลืมเด็ดขาดครับ
เพราะพี่ผินภูมิใจนำเสนอพร้อมบอกเล่าว่ามันคือ
ชุนเปี๊ยะทอด เมนูสูตรโบราณ
ที่เห็นเป็นแผ่นร่างแหบางๆ คือบั่งเซ หรือพังพืดหมู ส่วนประกอบในการทำก็จะมี หมูสับ ตับหมู หอมใหญ่ มันแกว เนื้อปู คื่นช่าย เอามาผัดรวมกัน ปล่อยให้สะเด็ดน้ำ
แล้วห่อด้วยบั่งเซ แช่เย็นไว้ แล้วเอามาชุบแป้งทอดเป็นอันเสร็จกรรมวิธี ส่วนน้ำจิ้มก็เป็นสูตรเฉพาะที่ทางร้านทำเอง
ได้เวลาเครื่องบิน Take off 18.45 นกแอร์เครื่องบินใบพัด Q400 เที่ยวบิน DD7319 อีกราว ๆ ชั่วโมงเศษเราก็จะกลับไปทักทายฟ้ากรุงเทพฯ อีกหน
จนทริปยาวพอประมาณ 4 วัน 3 คืนกับทริปที่ไปแบบเรื่อยๆ ตามใจฉันลง
ขอบคุณหนุ่มโฟโต้ที่เป็นเพื่อนเดินทาง และใช้ความกว้างขวางให้ไปพบสองโปรกล้องเจ้าถิ่นชุมพร คุณต้นรักกับคุณพี่ป๋องพาตะลอนเก็บมุมสวยๆ ริมทะเล
และยังได้เจ้าของร้านกรีนเฮ๊าส์เอื้อเฟื้อสถานที่พักผ่อนหลบร้อน มีอาหารอร่อยๆ ลองทอง และอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า แถมใจดีที่สุดขับรถพามาส่งยังสนามบินด้วย
และของคุณร้าน Fresh Coffe ตรงขนส่งระนองที่ให้ยืมมอเตอร์ไซค์
สุดท้ายขอบคุณ สายการบินนกแอร์ ที่สนับสนุนตั๋วเครื่องบินทั้งไปและกลับครับ พบกันใหม่บล็อกหน้า ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน ชอบกดไลค์ใช่กดแชร์กันนะค้าบ โย่ว
น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา
วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 16.36 น.