ช่วงแข้งขากำลังอ่อนล้า หัวสมองทำงานเหมือนจะหนักเกิน อยากจะพัก อยากจะเอนกายให้สบาย ก็บังเอิญได้รับคำชักชวนให้ไปเที่ยวพักผ่อนสำรวจโรงแรมสามศรีพี่น้องของเครือสุโกศล ที่พัทยา พอดิบพอดี ทริปควงคู่กันไปพักสบายๆ ที่พัทยา กับคนรู้ใจก็เลยเกิดขึ้น

กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผมมีโอกาสไปพักสามโรงแรมของเครือสุโกศลที่พัทยา Wave Hotel – The Bayview – Siam Bayshore มาครับ โรงแรมละหนึ่งคืน เหมือนควงกันไปฮันนีมูน (รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้) ที่พัทยา เติมน้ำตาล ใส่ความสุข ใส่ความหวานให้ชีวิตคู่สักนิด

เพื่อความสะดวกในการอ่าน ผมเลยขอแยกภาคแต่ละโรงแรมออกจากกัน ใครอยากชมโรงแรมอีกสองแห่งนอกจากที่ เวฟ โฮเทล แห่งนี้ (www.wavepattaya.com) คลิกเลย

เดอะ เบย์วิว >>> https://th.readme.me/p/13816
สยามเบย์ชอร์ >>> https://th.readme.me/p/13817


ผมยิ้มให้เธอ เธอยิ้มให้ผม อาหารบนโต๊ะนั้นอร่อยก็ส่วนหนึ่ง แต่ที่ทำให้ยิ้มกว้างจริงๆ คงเป็นบรรยากาศทั้งหมด พูดตามตรงมันเป็นดินเนอร์ที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ และผมรับรู้ว่าเธอชอบมันมาก นั่นแหละสิ่งสำคัญซึ่งผมได้รับจาก เวฟ โฮเทล

หากวัดกันเรื่องขนาดหรือพื้นที่ เวฟ โฮเทล คงจัดเป็นโรงแรมขนาดเล็ก แต่ถ้าวัดกันเรื่องคุณภาพ ความน่ารัก น่าพัก รวมถึงความชิค ความอาร์ต ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในโรงแรมที่พักแล้วมีความสุขที่สุดในพัทยาเลยเชียว เอาเป็นว่ามากกว่า 70% ของรีวิวใน TripAdvisor ให้คะแนนห้าดาวเต็ม

เวฟ โฮเทล เป็นน้องเล็กสุดของโรงแรมเครือสุโกศลที่พัทยา แต่ก็เป็นน้องเล็กที่โดดเด่นเกินพี่ๆ ทุกคน แม้โรงแรมจะสูงแค่สี่ชั้น แต่สไตล์การตกแต่งเข้าตา สดใส ฉาบด้วยความคลาสสิคสไตล์ไมอามี่ (ใครเคยไปไมอามี่บอกหน่อยว่าเหมือนจริงหรือเปล่า) ตั้งอยู่บนถนนเลียบหาดพัทยากลาง ห่างจากเซ็นทรัล เฟสติวัล แค่สองร้อยเมตร

เห็นตึกสีฟ้าสดใส มีรถคาดิลแลค วี-16 สีชมพูฉูดฉาดจอดอยู่ด้านหน้า นั่นแหละเวฟ โฮเทล แค่เข้าไปเห็นล้อบบี้ก็แทบร้องกรี๊ด ตกแต่งย้อนยุคแต่มีสไตล์ได้ใจมาก ของประดับส่วนใหญ่เป็นของสะสมส่วนตัวของ น้อย วงพรู – กฤษดา สุโกศล แคลปป์ เจ้าของโรงแรมนั่นไง

เห็นเทปคาสเซ็ตเก่าๆ แล้วภาพอดีตเหมือนลอยมาในอากาศเลยแฮะ

ในความกะทัดรัดคือความคลาสสิค ถัดจากล็อบบี้เป็นห้องอาหาร บอกได้จากความน่ารักว่าน่าถ่ายรูปมากกว่ามาทานอาหาร มีชื่อว่าคาดิลแลค คาเฟ่ แอนด์ บาร์ (Cadillac Café and Bar) ใช้โทนขาว ดำ ชมพู เข้ากันมากๆ

เมนูอาหาร a la cart หลากหลายทั้งไทยและยุโรป ที่สำคัญคืออร่อยด้วย มื้อกลางวันจัดแบบไทยๆ ไก่ย่างจิ้มแจ่ว แกงส้มกุ้งเสิร์ฟในลูกมะพร้าวพร้อมใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน แถมนาโช่เป็นออร์เดิร์ฟ หากมีคำไหนให้คำจำกัดความมากกว่าอร่อยก็อยากจะใช้คำนั้นแหละนะ

หนึ่งสิ่งถ้าใครสังเกตคือเมื่อเราเข้ามาในโรงแรม เสียงอึกทึกของความเป็นพัทยาจะหายไปเหลือเพียงความสงบ เพราะโรงแรมใช้กระจกป้องกันเสียงทั้งหมด ไอเทมนี้จัดว่าสุดยอดมาก

ออกมาด้านนอกดูสระว่ายน้ำสักหน่อย สระขนาดเล็กแต่สวย มีคาบาน่าให้นอนเล่นพักผ่อน หรือหากใครชอบสระใหญ่กว่านี้สามารถไปเล่นที่โรงแรม เดอะ เบย์วิว ด้านหลังได้นะ เป็นโรงแรมในเครือสุโกศลเหมือนกัน

ห้องพักที่เวฟ โฮเทล หันออกทะเลและมีระเบียงทุกห้อง มีสองแบบคือห้องมาตรฐาน ซันเซ็ทรูม และห้องทไวไลท์ สวีท ซึ่งเป็นสองห้องนอน สำหรับเราสองคนแค่ห้องซันเซ็ท รูม ก็เพียงพอแล้ว

ว่ากันว่าเวฟ โฮเทล เป็นโรงแรมเหมาะสำหรับคู่รักฮันนีมูนสุดๆ ไม่น่าประหลาดใจเลยล่ะเพราะห้องพักน่ารักมาก ตกแต่งโทนฟ้าขาวสดใส เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งทุกชิ้นดูดีสุดๆ และแน่นอนว่าต้องแซมด้วยความอาร์ตในหลายมุมมอง

ห้องอาบน้ำเซ็กซี่มากครับ แต่ก็สามารถเลื่อนปิดประตูได้ มีทั้งแบบชาวเวอร์และอ่างอาบน้ำใหญ่มาก ใหญ่กว่าอ่างอาบน้ำปกติทั่วไปนะ

สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งห้องพักและห้องน้ำคงไม่ต้องบรรยายให้มากความเพราะโรงแรมระดับนี้มีครบทุกอย่าง โดยภาพรวมของห้องพักให้เกินร้อย

ที่นี่ยังเป็นโรงแรมซึ่งมักมีเซอร์ไพรส์แขกผู้เข้าพักเสมอ อย่างเราสองคนได้ตุ๊กตาไก่ตัวนี้เป็นของขวัญแบบไม่ได้ร้องขอ ประทับใจมากครับ

ช่วงใกล้เย็นเราสั่งค็อกเทลขึ้นมาจิบให้ชื่นใจพร้อมนั่งชมพระอาทิตย์ตกจากระเบียงห้อง เรียกว่าฟินคูณสองคูณสามกันเลยเชียว

ริมสระว่ายน้ำมีบาร์เล็กๆ ชื่อคาบาน่า บาร์ พอพระอาทิตย์ลับฟ้าแล้วเราก็มานั่งชิลต่อกันที่นี่ หรือใครจะไปนั่งที่บีชคลับ ริมถนนเลียบชายหาดเพื่อชมสีสันของพัทยายามค่ำคืนก็แล้วแต่ชอบ

หากกลางวันว่าเวฟ โฮเทล สวยแล้ว พอตกค่ำคงต้องเรียกว่าสวยสะบัด การตกแต่งแสงสีทุกอย่างลงตัวไปหมด ไม่ว่าจะที่ล็อบบี้ หรือในคาดิลแลค คาเฟ่ บรรยากาศสวีทสุดๆ


และดินเนอร์ที่ผมเกริ่นข้างต้นก็คือที่นี่นี่แหละ เชฟอำนาจ เชฟใหญ่ประจำโรงแรมจัดมาให้เต็มๆ ขอนำเสนอทาโก้ชิ้นโตเป็นออร์เดิร์ฟ เมนคอร์สมี Lamp Shank หรือขาแกะตุ๋น เนื้อนิ่มแทบละลายในปาก กับ Duck Breast หรืออกเป็ดย่าง ทานคู่กับกราแตงมันฝรั่ง และผักย่าง จานนี้ให้อร่อยเต็มร้อย

ละเมียดละไมทานอาหารดีๆ บรรยากาศดีๆ

ไม่รู้จะบรรยายอย่างไรดีนอกจากบอกว่าเป็นดินเนอร์ในฝันครับ

ก่อนจะตบท้ายด้วยเค้กมะพร้าวอ่อนซึ่งเป็นของหวานขึ้นชื่อของที่นี่


สำหรับเบรกฟาสต์ที่เวฟ โฮเทล เป็น a la cart หากแขกเยอะอาจจัดไลน์มินิบุฟเฟ่ต์เพิ่มให้เล็กน้อย แต่ถึงแขกน้อยก็ไม่ต้องกังวล เพราะอาหารเช้า a la cart นั่นแหละคือจุดเด่น บุฟเฟ่ต์เป็นแค่ของแต่งหน้าเท่านั้นเอง

อาหารเช้าแบบไทยคือข้าวต้มเครื่อง แบบจีนคือโจ๊กหมูหรือไก่ แบบญี่ปุ่นคือแซลม่อนย่างเกลือทานคู่กับสลัด และเมนูที่เชฟคัดสรรมาให้เลือกอีกกว่า 15 รายการ ยกตัวอย่างเช่น ไข่หลากชนิด แซลมอนรมควัน ไส้กรอก เบคอน ซุปต่างๆ แพนเค้ก วาฟเฟิล เฟร้นช์โทสต์ ฯลฯ ขณะที่พวกซีเรียล โยเกิร์ต นม เบเกอรี่ต้องมีอยู่แล้ว และทั้งหมดที่ว่ามาสั่งได้ไม่อั้นไม่จำกัดจำนวนครับ ชา กาแฟ ก็สั่งได้ตามใจชอบ พูดง่ายๆ ว่า a la cart ที่เวฟ โฮเทล หลากหลายไม่ต่างจากบุฟเฟ่ต์ไลน์ใหญ่ๆ ต่างกันแค่พนักงานพร้อมมาเสิร์ฟให้โดยที่เราไม่ต้องหยิบตักเอง สบายกว่ากันเยอะ

เราสองคนเลือกทาน ไข่คนผสมสมุนไพร แซลมอนรมควันเสิร์ฟพร้อมไข่คน แกงจืดไข่เจียวน้ำ เฟรนช์โทสต์เสิร์ฟพร้อมผลไม้ และแพนเค้กราดน้ำผึ้ง เป็นสุดยอดมื้อเช้าที่อิ่มไปถึงตอนเย็นได้เลยล่ะ

ระหว่างรอเวลาเช็คเอาต์ก็ไปนั่งเล่นริมสระน้ำ เก็บภาพกับมุมน่ารักภายในล็อบบี้และห้องอาหาร ถ้าจะบอกว่าเราทำใจค่อนข้างยากในการเก็บกระเป๋าก็คิดว่าคงเหมือนทุกคนที่ได้เข้าพักที่นี่แหละนะ โรงแรมอะไรจะน่ารักจนกุมหัวใจเราได้ขนาดนี้

และอย่าลืมครับ รีวิวอีกสองโรงแรมเครือสุโกศล ที่พัทยา คลิกได้เลย

เดอะ เบย์วิว >>> https://th.readme.me/p/13816
สยามเบย์ชอร์ >>> https://th.readme.me/p/13817


ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
http://www.facebook.com/alifeatraveller


นายสองสามก้าว / A Life, A Traveller

 วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 14.05 น.

ความคิดเห็น