วันนี้เป็นวันที่เราจะเอาความเป็นเด็กในตัวออกมาโลดแล่นกันค่ะ
เป็นหนึ่งวันที่เราจะไปนั่งรถไฟสายน่ารักๆ ของ Wakayama Electric Railway ที่เขามีขบวนรถไฟท้องถิ่นน่ารักที่วิ่งให้บริการในระยะทางสั้นๆ เพียง 14.3 กิโลเมตร ไปกันๆ
เนื่องมาจากว่า Kishigawa Line ของ Wakayama Electric Railway เคยตกอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงเกือบเลิกกิจการ เนื่องจากมีผู้โดยสารค่อนข้างน้อย ทำให้มีการวางมาตรการเพื่อให้สามารถฟื้นตัวได้ โดยนำรถไฟ EMUs (Electric Multiple Units) ซีรีย์ 2270 มาปรับโฉมตกแต่งเป็นลวดลาย ซึ่งจะวิ่งบนเส้นทางระหว่างสถานีวาคายามา (Wakayama) กับสถานีคิชิ (Kishi) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
จากโอซาก้าเรานั่งรถไฟสายอะไรก็ได้สักสายหนึ่งไปที่วาคายามา เมื่อไปถึงก็ดูป้ายบอกทางไป Wakayama Electric Railway Kishigawa Line จุดสังเกตคือ รูปตัวการ์ตูนเจ้าแมวเหมียวที่เขามีติดไว้คู่กัน จำง่ายๆ เลยค่ะเดินดิ่งไปที่ชานชาลาที่ 9 ถ้ากลัวหลงเขาติดรูปเจ้าแมวทามะจังไว้ตลอดทางให้เดินตามไปจนถึงชานชาลาเลยทีเดียว หาไม่ยากค่ะ
สถานีโอซาก้าอันแสนวุ่นวาย
ได้ขบวนนี้ค่ะนั่งไปวาคายามา
สังเกตเห็นรูปแมว ก็เดินตามไปเลย
รถไฟขบวนน่ารักเหล่านี้จะมี 3 ขบวน มีตารางวิ่งสลับไปมาตามตารางซึ่งสามารถตรวจสอบได้ล่วงหน้า ค่าโดยสาร 170-370 เยนขึ้นอยู่กับระยะทาง แต่ถ้าอยากสนุกแบบเราสองคนไม่ต้องจ่ายเป็นเที่ยว อยากขึ้นๆ ลงๆ สถานีไหนก็ได้ กี่เที่ยวก็ได้ ก็ซื้อตั๋ว one day pass ค่ะ สามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ของรถไฟสาย Kishigawa Line สถานี Wakayama และ Idakiso
สถานีที่แวะจอดทั้งหมด
สำหรับเราเมื่อซื้อตั๋ว one day pass เรียบร้อย ประเดิมด้วยการนั่งรถไฟ Omocha ขบวนนี้มีจุดเด่นที่สีสันสดใส ทั้งขบวนตกแต่งด้วยสีแดงเป็นหลัก
เข้าเทียบชานชาลาแล้วค่ะ
ที่นั่งได้รับการออกแบบเป็นรูปสัตว์ 3 ชนิด คือ หมี กระต่าย และสุนัข นอกจากนี้ยังมีเตียงคอกสำรองไว้ให้สำหรับเด็กเล็กด้วย คำว่า Omocha คือ ของเล่น ดังนั้น ภายในรถไฟจึงเต็มไปด้วยของเล่นมากมายจัดแสดงไว้ ทั้งตุ๊กตา ฟิกเกอร์ โมเดลรถ และยังมีตู้กาชาปอง (Gachapon) เอาไว้ให้เลือกกดเล่นระหว่างนั่งรถไฟด้วย ราคาครั้งละ 300 เยน ให้ได้ลุ้นสนุกๆ
เรานั่งจากสถานีวาคายามาไปลงที่สถานีอิดะคิโสะ หลังจากเช็คเวลารถไฟขบวนต่อไปไว้แล้ว ขอเดินออกจากสถานีไปเดินเล่นดูบรรยากาศหมู่บ้านรอบๆ สถานีและหาอะไรใส่ท้องเสียหน่อย
เข้าเก็บในโรงเก็บรถ
สถานีอิดะคิโสะ
ภายในสถานีอิดะคิโสะ
อาคารสถานีไม่ไกลกันมีศาลเจ้า Itakiso ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ เงียบสงบ และบรรยากาศดีมาก
และที่นี่ก็ทำให้เราได้มีเวลาชื่นชมกับดอกซากุระที่กำลังผลิบานแบบไม่ต้องแย่งกับใคร ทำให้ช่วยเตือนความทรงจำว่าเราผิดหวังจากที่ฮิเมจิมานี่นา ในที่สุดก็ได้เจอเสียทีล่ะ เย้!
ผ่านสวนครัวของชาวบ้านแถวๆ สถานีด้วย
เมื่อใกล้เวลารถไฟจะออก เราพากันเดินกลับไปสถานีกัน มาลุ้นกันดีกว่าค่ะว่า ขบวนต่อไปเราจะได้นั่งรถไฟแบบไหนกันค่ะ
ว่างๆ แวะไปทักทายกับพี่ใหญ่และหนูเล็กกันได้ค่ะที่ https://www.facebook.com/TravelWithPiyaiAndNoolek/
Piyai&Noolek
วันพฤหัสที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 21.45 น.