Japan Train Trip #Episode7

วันนี้จะย้ายนิวาสถานแล้วค่ะ เราจะย้ายที่นอนจากโอซาก้าไปยังฟูกุโอกะ (Fukuoka) แต่ว่าจะสามารถเข้าที่พักได้หลังบ่ายสองโมง ดังนั้น เช้านี้ไปเที่ยวกันก่อนค่ะ

เราจำเป็นต้องเช็คเอาท์เลยเพื่อความสะดวก เพราะต้องเช็คเอาท์ก่อนเที่ยงซึ่งแผนเที่ยวของเรากำหนดไว้แล้วคือไปเที่ยวเมืองโอคายามา (Okayama) ชีพจรลงเท้ากันต่อไปอย่าได้ถอยและครั้งนี้เราจะไปเที่ยวกันแบบมี (สัม)ภาระ ก็คือลากกระเป๋าเดินทางไปเที่ยวด้วยค่ะ งกค่าฝากนิดๆ เพราะหลายใบอยู่เหมือนกัน ลากไปเที่ยวไปนี่ละ ลำบากดี

เรากลับมาใช้บริการชิงคันเซนกันอีกครั้งค่ะ โดยเดินทางจากโอซาก้าด้วยชิงคันเซน Hikari491 ออกเดินทางในเวลา 07.35 น. และจะถึงโอคายามาในเวลา 08.24 น. นั่นคือใช้เวลาเดินทางไม่ถึงชั่วโมงดีก็ถึงล่ะ แสนสะดวกจริงๆ

โอคายามา มีที่เที่ยวสำคัญสองแห่งที่เราพอจะมีเวลาไปเที่ยวได้ก่อนจะเดินทางไปยังที่พักที่ฟุกุโอกะ นั่นคือ ปราสาทโอคายามา (Okayama Castle) และสวนโคราคุเอ็น (Korakuen) สวนที่ติดอันดับสวนสวย 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น ไม่น่าพลาดทั้งคู่เลยค่ะ

เมื่อเดินทางมาถึงและออกจากสถานีมาก็เจอโมโมทาโร่ (Momotaro)และเหล่าสหายยืนรอตอนรับอยู่หน้าสถานี โมโมทาโร่คือใคร รู้จักกันไหมคะ

กล่าวกันว่าโอคายามาเป็นต้นกำเนิดโมโมทาโร่ วีรบุรษจากตำนานพื้นบ้านญี่ปุ่นชื่อดัง เป็นชายหนุ่มที่เกิดจากลูกท้อที่มีหมา ลิง และไก่ฟ้าเป็นบริวารร่วมเดินทางไปปราบยักษ์ ซึ่งนอกจากหน้าสถานีรถไฟแล้ว ตลอดเส้นทางที่เดินเที่ยวจะพบศิลปะและประติมากรรมต่างๆ เกี่ยวกับโมโมทาโร่และบริวารตลอดทาง

จากสถานีรถไฟเราเดินเท้าชมเมืองไปเรื่อยๆ นับเป็นอีกเมืองที่มีความเจริญมากทีเดียวค่ะ ปลายทางเราคือสถานที่สำคัญสองแห่ง เดินตามมาเลยค่ะ

จากสถานีรถไฟ นึกภาพหญิงสาวสองคนที่เดินลากกระเป๋ามาตามถนนเดินมาตามป้ายบอกทางสู่ปราสาทโอคายามาได้เลยค่ะ ดีตรงที่กระเป๋าของเราสองคนแม้จะเดินทางกันสั้นยาวเป็นห้าวันหรือเกือบยี่สิบวันก็ใช้ขนาดเดียวขนาดเดิมคือ 21 นิ้วเลยไม่เป็นภาระมากนักเวลาต้องยกขึ้นลงหรือลากผ่านถนนที่ขรุขระในบางช่วง ก็ลำบากลำบนดี นี่ละรสชาติของชีวิต

หลังจากเดินผ่านสวนอิชิยะมะ (Ishiyama Park) เราก็จะมองเห็นแม่น้ำเส้นหนึ่งตรงหน้า นี้คือแม่น้ำอาซาฮี (Asahi River) ซึ่งกั้นระหว่างปราสาทโอคายามาที่อยู่ทางขวาและสวนโคราคุเอน (Korakuen) ที่อยู่ทางซ้าย มีสะพานให้เดินข้ามไปหากันได้ แม่น้ำนี้เป็นการขุดลอกแม่น้ำมากั้นเป็นจุดยุทธศาสตร์ ทำสงครามในสมัยก่อน และถ้ามองไปไกลๆ ปราสาทก็ตั้งตระหง่านโดดเด่นให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่แต่ไกลแล้ว เราเลือกที่จะเดินไปชมความงามของปราสาทตามความตั้งใจเดิมกันก่อนค่ะ

เมื่อเดินเลี้ยวเข้าสู่บริเวณลานด้านนอกก่อนถึงลานปราสาทจะเห็นซากอิฐที่เป็นร่องรอยความเสียหายจากสงคราม เมื่อเดินต่อเข้าไปก็จะพบกับปราสาทโอคายามา (Okayama Castle) หนึ่งในปราสาทสีดำที่ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่นที่วันนี้ด้านหน้ามีสีสันสวยงามมาก

ปราสาทโอคายามา (Okayama Castle หรือ Okayamajo)หรือบางคนเรียกว่าปราสาทอีกาเพราะสีดำที่ใช้ภายนอกถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1597 ในยุคอาซูชิ-โมโมยามะ(Azuchi -Momoyama) ซึ่งอาคารหลังเดิมได้ถูกทำลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่หลังจากนั้นประมาณ 20 ปี

ตัวปราสาทหลักมีขนาดประมาณ 6 เสา ภายในจะตกแต่งแบบโมเดิร์น (Modern) และเป็นส่วนจัดแสดงประวัติความเป็นมาและการสร้างปราสาท และจะมีหอสังเกตการชื่อว่าซึคิมิ ยาคูระ (Tsukimi Yagura) ซึ่งเหลือรอดตั้งแต่ตอนสร้างปราสาทมาจนถึงปัจจุบัน ตัวปราสาทมีทั้งหมด 6 ชั้น มีชั้นใต้ดินอีก 1 ชั้น

สีด้านนอกของปราสาทนั้นลงด้วยแล็คเกอร์สีดำ สะท้อนวัฒนธรรมของสถาปัตยกรรมในสมัยนั้น ด้วยลักษณะสีดำ ทำให้บางคนเรียกปราสาทนี้ว่าปราสาทอีกา (Ujo Castle)

แต่วันนี้ปราสาทอีกาที่ปรากฏโฉมตรงหน้าไม่ดำทะมึนค่ะ มีการนำสีที่ดูแล้วมีความเป็นอาร์ตไปอีกแบบมาปิดทับไว้ ซึ่งว่ากันว่าด้านในไม่ว่าจะเป็นตู้ล็อกเกอร์หรือโคมไฟห้อยจากเพดาน ก็จัดเป็นธีมเดียวกัน ทำให้ไม่รู้สึกเลยว่าเป็นของเก่า ก็ดีแล้วเพราะเราตัดสินใจแล้วว่าไม่เข้าดีกว่า เป็นเพราะมีสัมภาระมาด้วย ไม่สะดวกที่จะเดินชมและไม่ต้องการฝาก ยืนแหงนหน้าชมจนพอใจแล้วก็พากันเดินกลับออกมา เป้าหมายต่อไปยังรออยู่ค่ะ

จากปราสาทโอคายามา เราเดินข้ามสะพานมาเที่ยวฝั่งตรงข้ามที่สวนโคราคุเอน (Korakuen) กันดีกว่าค่ะ ที่นี่เป็นอีกหนึ่ง a must ที่ต้องมาเมื่อมาเยือนโอคายามา

เราจะต้องเดินลากกระเป๋าไปเข้าทางประตูทางเข้าด้านหน้าหรือประตูทางเข้าบริเวณสะพานซูรูมิ (Tsurumi Bridge) เนื่องจากจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าชม ซึ่งสามารถซื้อจากตู้จำหน่ายตั๋วได้เลยค่ะ สะดวกดีมาก

สวนโคราคุเอนเป็นสวนขนาดใหญ่ติด 1 ใน 3 ของสวนที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นสถานที่เที่ยวหลักของจังหวัดโอคายามาด้วย ตั้งอยู่ข้างๆ กับปราสาทโอคายามา ซึ่งภายในสวนจะสามารถเห็นวิวปราสาทด้วย สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1687 โดยอิเคดะ สึนามาสะ (Ikeda Tsunamasa) ผู้ครองปราสาทโอคายามาคนที่ 7 แต่มาแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1700 ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจประจำตระกูลของไดเมียวและรับรองแขกสำคัญๆ เริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ในปี ค.ศ.1884 หลังจากสิ้นสุดยุคศักดินา

ซึ่งสวนญี่ปุ่นที่ได้รับการยกย่องว่ามีภูมิสถาปัตย์งดงามที่สุดจำนวน 3 แห่งได้แก่ สวนโคระคุเอน (Korakuen) เมืองโอคายามา, สวนเคนโระคุเอน เมืองคานาซาวะ, และสวนไคระคุเอน (Kairakuen) เมืองมิโตะ (Mito)

ที่นี่แม้ว่าจะเคยเสียหายหนักจากน้ำท่วมและระเบิดในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่สวนนี้ก็ได้รับการฟื้นฟูโดยคงสภาพเดิมเป็นส่วนใหญ่จนกระทั่งปัจจุบัน สำหรับชื่อสวนมาจากสำนวนของหนังสือจีนโบราณว่า Sen-Yu-Koraku ซึ่งมีความหมายว่า “ยอมอดทนลำบากก่อน เพื่อชีวิตที่สุขสบายภายหลัง”

ภายในสวนประกอบไปด้วยส่วนประกอบแบบทั่วๆ ไปของสวนสไตล์ญี่ปุ่นเช่น สระน้ำขนาดใหญ่, ธารน้ำไหล, ศาลาพักผ่อน, ทางเดินและเนินเขาสำหรับเป็นจุดชมสวน แต่ก็ยังมีหลายส่วนที่พิเศษกว่าที่อื่นๆ เช่นพื้นที่สนามหญ้ากว้างๆ ต้นซากุระ ต้นเมเปิ้ล ต้นชา นาข้าว รวมไปถึงสนามยิงธนู แม้ว่าระยะทางเดินเที่ยวชมค่อนข้างไกล แต่ความงดงามของสวน ประกอบกับทิวทัศน์ที่มีปราสาทโอคายามาเป็นฉากหลังก็ทำให้แทบไม่รู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อยเลย

คงเป็นเพราะความสวยงามของที่นี่จึงถูกเลือกให้เป็นสถานที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งของคู่บ่าวสาว ทำให้ระหว่างเดินเที่ยวได้เจอหลายคู่ทีเดียว เห็นแล้วชวนให้ตาร้อนผ่าวดีจริงๆ

หลังเดินเที่ยวสวนโคราคุเอนจนเมื่อย อาจเพราะต้องลากกระเป๋าเดินเที่ยวด้วยเลยเหนื่อยเร็วกว่าปกติ และสวนก็กว๊าง กว้าง เราก็เดินไปเกือบทั่วบริเวณเพื่อจะได้สามารถชมความงามได้โดยรอบ เล่นเอาหลังชุ่มเหงื่อ ตอนนี้ได้เวลาเดินกลับไปสถานีรถไฟรอเวลาเดินทางไปฟูกุโอกะแล้วค่ะ

ระหว่างรอเวลารถไฟเราสองคนก็ไปหาเบเกอรี่อร่อยๆ รองท้อง ไม่นานนักก็ได้เวลารถไฟเข้าเทียบชานชาลา วันนี้มุ่งมั่นอยากไปที่พักเต็มทีแล้ว อยากพักขาเอาแรง เมื่อได้เวลารถไฟชิงคันเซนขบวน Sakura557 ก็พาเราออกเดินทางจากโอคายามาสู่ฟูกุโอกะกันเสียทีค่ะ

ที่พักที่เราจองไว้ที่ฟูกุโอกะเป็นการจองผ่าน Airbnb ธุรกิจเปิดบ้านให้เช่าที่เพิ่งจะถูกกฎหมายในญี่ปุ่น สาเหตุที่เราจองที่นี่เพราะไม่ไกลจากสถานีรถไฟมากนัก ค่อนข้างสะดวกสบาย Host หรือผู้ให้เช่าค่อนข้างเอาใจใส่กับพวกเราดีมาก ส่งข้อมูลบอกทางสู่บ้านของเธอได้ชัดเจนจนหมดคำถามเลย และเมื่อมาถึงที่พักสภาพห้องและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้ก็ครบครันตามที่เราต้องการ น่าพอใจ หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

วันนี้เราจึงไม่ออกไปท่องราตรีที่ไหน พักเหนื่อยเอาแรงเพื่อให้พร้อมสำหรับการไปเที่ยวในวันพรุ่งนี้ที่มีแผนรอเอาไว้เรียบร้อย ส่วนจะเป็นที่ไหน รอติดตามค่ะ

ว่างๆ แวะไปทักทายกับพี่ใหญ่และหนูเล็กกันได้ค่ะที่ https://www.facebook.com/TravelWithPiyaiAndNoolek/