“ดอยทู่” เป็นดอยน้องใหม่ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ มีระดับความสูงประมาณ 1,384 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (วัดจากนาฬิกา) มีอากาศหนาวเย็นทั้งปี พื้นที่ด้านบนเขามีความหลากหลายของป่าและยังคงอุดมสมบูรณ์เป็นธรรมชาติ มีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ สามารถเดินรับลมชมวิวได้สุดลูกหูลูกตา

พวกเรารวมตัวกันที่คุ้มป๋าต๋อง ซึ่งบ้านแกมีพื้นที่รับรอง บริการอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งห้องน้ำที่เพียงพอสำหรับอาบน้ำและทำภารกิจส่วนตัว เราจะเก็บเป้สัมภาระ เตรียมห่อข้าวสำหรับมื้อกลางวันและน้ำดื่มให้เพียงพอ พร้อมออกเดินทางโดย นั่งรถกระบะของผู้ใหญ่บ้านบ้านลีซอ ไปยังจุดเริ่มเดินเท้าที่ หมู่บ้านลีซอขุนห้วยทู่ ต.ทุ่งกระเชาะ อ.บ้านตาก จ. ตาก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. จากนั้นก็เตรียมเป้สัมภาระส่วนตัว นัดเจอชาวบ้านที่เป็นลูกหาบส่วนกลาง พร้อมแล้วก็ลุยกันเลย

ระยะทางเดินเท้าประมาณ 8 กม. ตัดไร่ชาวบ้านตามไหล่เขา จากนั้นเริ่มตัดเข้าป่าทึบ ผ่านป่ากล้วย ลำธาร (สามารถกรอกน้ำดื่มได้) พยายามเดินเกาะกลุ่มตามๆกันนะครับ ระวังหลง เส้นทางตรงนี้ไม่ค่อยชัดเจนนัก

ไต่ระดับความชันขึ้นเรื่อยๆ ทางก็จะลื่นๆหน่อย เล่นเอาพวกเราหอบกันถ้วนหน้า

ผ่านต้นมะม่วงป่าที่กำลังสุก หอม หวานใช้ได้ นอกจากนี้ก็มีเงาะป่า (เปรี้ยวมาก แต่อร่อยกว่ามะนาว) มะไฟป่าก็มี

ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. จะเจอสันเขา มีสวนกาแฟของชาวบ้านที่ปลูกทิ้งไว้ไม่ใช้สารเคมี ออแกนิกล้วนๆ เราพักทานอาหารกลางวันกันตรงนี้ มีวิวสวยๆ ลมเย็นๆ หมอกปิดทั่วพื้นที่ มองไปทางไหนก็สดชื่น ต้นไม้ที่นี่เริ่มใส่เสื้อสีเขียว มีหมอกล้อมรอบไปทั่วบริเวณ เดินเย็นสบาย

อ้ายกึ่ม ไม่พลาด ไปไหนก็แบกข้าวเหนียวไปกินด้วย มีน้ำพริกตุ้มจิ๋วของดีในย่านนี้ มาเที่ยวแถวนี้ต้องลองครับ แซ่บหลาย

พอทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว เราก็จะเดินกันต่อ จากนี้ไปจะเป็นการเดินบนสันเขา มีขึ้น – ลงเขาเล็กน้อย ไม่ถือว่ายากมาก บางช่วงจะเป็นป่ากล้วยตรงนี้ละที่เค้าให้ระวัง “ดงทากสำราญ” เจอต้นกล้วยเมื่อไหร่ เตรียมเจอได้เลย น้องทาคุทั้งกองทัพ พร้อมจู่โจม วิ่งได้วิ่งเลย ยังไงก็โดนเกาะมาเพียบ พอพ้นดงทาก เราค่อยจัดการออก หยึ๋ยๆๆ น่ากลัว

ดงกล้วย หรือดงทาก เราจะผ่านประมาณ 3-4 ดง ทากทั้งนั้นนนน

มีจุดให้ถ่ายรูปตลอดทาง เสียดาย วิววันนี้ปิดสนิทเลย ไว้มากันใหม่นะ

เปิด หรือไม่เปิดดี ได้แค่นี้ก้พอชื่นใจ

เปิดนิดหน่อย อ้าว เห็นป่าเเหว่ง สงสารจัง

การเดินป่าที่นี่ ถือว่าไม่ยากมาก ส่วนใหญ่จะเป็นทุ่งหญ้าโล่ง เนื่องจากลมที่นี่แรงมาก คล้ายกับดอยหลวงตาก เขาช้างเผือก ม่อนจอง หรือสันหนอกวัว ประมาณนั้น การเที่ยวฤดูฝนมันก็จะเย็นสบาย สดชื่นมากๆ หมอกไหลผ่านเราตลอดเวลา ไร้แดด (ถ้ามีแดดน่าจะร้อนไม่เบา) และน่าจะมีฝนตกด้วยครับวันนี้ เรารีบเร่งฝีเท้า เพื่อให้ถึงแคมป์ก่อนที่ฝนจะตก

แต่ละคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่า วันนี้ไม่ร้อน วิวสวย เดินเพลินไม่เหนื่อยกันเลย นั่งพักแกะทาก ถ่ายรูปกับวิวระหว่างทาง

เรายังต้องไปกันต่อ เดินตามไหล่เขา เป้าหมายคือ ยอดดอยทู่

มุดป่าอีกรอบ และต้องข้ามไม้กั้นวัว ช่วงนี้ต้องระวังมากๆนะ มันมีตะปู และเป็นไหล่เขาด้วย

สักพักเราก็มาโผล่ลานหญ้าเขียวๆ กว้างๆ ตรงนี้ใกล้ที่หมายแล้ว เราต้องหาทำเลสำหรับตั้งแคมป์ บนทุ่งหญ้าน่าจะยาก ลมแรงมาก

เดินง่ายครับ ทุ่งหญ้าทั้งนั้น ลมแรงระดับทอนาโดมิน่าละต้นไม้ไม่มีเลย

"ผักชีใบเลื่อย" ขึ้นทั่วบริเวณ ใครอยากทำลาบ ต้มยำ ต้มเล้ง ไม่ต้องซื้่อมาจากตลาดนะ ที่นี่เยอะมาก ออแกนิกแน่นอน ตรงไหนมีขี้วัว ใบใหญ่สวยงามนักแล

เนื่องจากทริปของเราเป็นทริปสำรวจ ทำให้เราต้องเดินหาพื้นที่ตั้งแคมป์สำหรับคืนนี้ แถมยังมีฝนเทกระหน่ำ ลมก็แรง ไม่สามารถสร้างแคมป์ส่วนกลางบนลานหญ้าได้ มีเพียงเต็มท์บางหลังที่เอาอยู่ คนไหนที่นอนปลาทูและเปล ก็ต้องมุดลงไปในป่าหาทำเลกันอย่างโกลาหล ฉ่ำแฉะสุดๆ สนุกไปอีกแบบ และที่สำคัญดงทากเลยละ ที่นี่มีแหล่งน้ำให้กรอกสำหรับดื่มและหุงข้าวได้ แต่คงมีเฉพาะฤดูฝนนะครับ ยังไงก็เช็คข้อมูลกับคนในพื้นที่อีกที หากเพื่อนๆ อยากไปเที่ยวในฤดูอื่น

ที่นี่เหมาะกับนอนเปลนะครับ มีต้นไม้ให้ผูกเยอะ

สำหรับผมและเพื่อนบางคน ที่เอาเต็นท์มา มองว่าน่าจะกันฝน กันลมได้ดี ตัดสินใจเลือกกางบนลานหญ้า (ไม่ใช่อะไรหรอก กลัวทาก 555)

แคมป์กลาง กลางดงทาก

อากาศคืนนี้ค่อนข้างหนาว ลมแรง ฝนตกทั้งคืน มีหมอกไหลคลุมตลอดเวลา จะว่าไปมันก็สวยไปอีกแบบ นี่แหละเสน่ห์ฤดูฝน อย่าได้ถามหาแสงแดดเลย

พวกเราหุงข้าว ทำกับข้าวกินด้วยกัน พูดคุยเฮฮา แลกเปลี่ยนประสบการณ์ทั้งพ่อผู้ใหญ่ ป๋าต๋องและทีมงาน ดื่มดำกันพอหอมปากหอมคอ ก็แยกย้ายกันไปนอน คืนนี้เสียงกรนสนั่น ไม่รู้หมดเรี่ยวแรงไปตอนไหน

เช้าตรู่ วันนี้ก็ยังมีฝนปรอยๆ ลมแรง หมอกปกคลุมเช่นเคย มองไปไหนก็มีแต่สีขาวกับสีเขียว มันก็สวยของมันแหละ สดชื่นดีจัง อากาศดีมากๆ ยังไม่อยากกลับเลย ไว้พวกเราจะกลับมาใหม่นะ ดอยน้องใหม่แห่งนี้มันต้องมีอะไรที่น่าค้นหาแน่นอน

เห็นบรรยากาศหมอกปิดดอยแบบนี้ พวกเราเลยส่งตัวแทนให้น้องไข่ขึ้นไปยอดดอยทู่ ว่ามันสูงเท่าไหร่ นาฬิกาวัดระดับความสูงได้ 1,384 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง คราวหน้า ปลายฝนต้นหนาวเราจะกลับมาใหม่ อยากมาเห็นความงามของทะเลภูเขาและทะเลหมอกของที่นี่ มันต้องสวยมากๆ เชื่อสิ

วิวตอนไป กับวิวตอนกลับ มันก้ไม่ค่อยต่างกันเลย ฮ่าๆๆ หมอกปิดไปหมด

ได้เวลากลับแล้ว มันส์ ฉ่ำ แฉะ แล๊ะ ครบรสที่นี่

พอออกจากป่า ฝนก็หยุด หมอกก็สวย โอ๊ยยยยยยย

:::การเตรียมตัว:::

- เปิดให้เดินป่าศึกษาธรรมชาติได้แล้ววันนี้ ติดต่อป๋าต๋อง เบอร์ติดต่อ 0938162949
- ลูกหาบ ติดต่อสำรองกับป๋าต๋องได้เลย จะเอากี่คน ขอให้บอกมา
- เตรียมเสื้อสำหรับใส่นอน ถุงนอน ห่อใส่ถุงพลาสติกหรือถุงกันน้ำก่อนยัดลงในเป้ เพราะระหว่างทางอาจเจอฝนตกกระหน่ำได้ เสื้อกันลมกันหนาวได้ ด้านบนลมแรงยิ่งฤดูฝนจะหนาวด้วยเด้อ
- ไม่มีห้องน้ำ หาทำเลเอง ใช้ไม้ขุดด้วยเด้อ
- ทาก มีแต่ไม่ต้องกลัว ผมคนกลัวทากยังไปได้ ทุกคนต้องไปได้
- พื้นที่กางเต็นท์เยอะมาก แต่ลมแรง อาจต้องเดินหาพื้นที่ตามไหล่เขาที่อับลมอีกที แลกมาซึ่งดงทาก ที่เหมาะที่สุดคงเป็นเปลนอน
- มีน้ำตามธรรมชาติ ดื่มและหุงข้าวได้ เดินไม่ถึง 50 เมตร ฝ่าดงทากที่ป่ากล้วยไป
- สัญญาณโทรศัพท์มี บางจุดก็ไม่มี ส่วนใหญ่จะมี เออ เชื่อสิ
- ขยะ ควรเตรียมถุงขยะไปด้วย เพื่อใส่และขนลงมาทิ้งด้านล่าง ขยะเปียกให้ขุดหลุมฝังด้านบนได้ ใครเอาขยะกลับ จะดูสวยหล่อขึ้นหลายเท่า พกหัวใจอนุรักษ์ไปด้วย ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน "เราจะไม่ทิ้งอะไรไว้นอกจากรอยเท้า เราจะไม่เก็บอะไรไปนอกจากความทรงจำ"

-----------------------------------------------------------

ขอบคุณน้ำจันทร์ แห่งเพจ “คนหลงป่า” ที่พาไปสนุกกับทริปบุกเบิกที่เที่ยวแห่งใหม่นี้ รวมทั้งมิตรภาพจากเพื่อนร่วมทริปทุกคน ที่ไปสนุกด้วยกัน

ขอบคุณป๋าต๋อง พ่อผู้ใหญ่หมู่บ้านลีซอขุนห้วยทู่ และทีมงานลูกหาบ ที่ช่วยดูแลต่างๆ และนำทางพาพวกเราไปเที่ยวชมธรรมชาติที่ยังสดใหม่ และสวยงาม

ใครคิดว่าฤดูฝนไม่มีที่ไป ลองดูที่เที่ยวแห่งใหม่นี้ดูนะครับ “ดอยทู่” เป็นอีกทางเลือกใหม่อีกที่ ที่น่าไปโดน

"ประสบการณ์ใหม่ ไม่ออกไปหา ไม่มีทางเจอ" Life is a journey

อ้ายกึ่มมักเล๊าะ บันทึกภาพวันที่ 9 – 10 มิถุนายน. 2561
#ดีแต่เที่ยว #Thailand #คนหลงป่า #ทุ่งกระเชาะ #บ้านตาก #ตาก #ดอยทู่