สวัสดีทริปสังขละบุรี เมืองแห่งมนต์สเน่ห์ มากี่รอบๆก็ไม่เบื่อ
มีคนคนนึงเขาบอกกับเราว่า ชอบนะเวลาไปสังขละบุรีอะ ไปกี่รอบก็ไม่เบื่อเลย ตอนนั้นเราก็ยังไม่เข้าใจความรู้สึกนี้หรอก เราก็ไปมาแล้วนะรอบนึง แต่คนคนนั้นเขาไปมา3-4รอบได้ แต่ก็ยังอยากไปอีก อะไหนลองมาอีกสักรอบดูซิ
ทริปนี้เราเริ่มต้นจากอัมพวา ออกจากอัมพวากันตี 1 ครึ่งในวันเสาร์ เพื่อที่จะไปเที่ยวปิล๊อคในตอนเช้า เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่งมายังที่นี่
ภาพบรรยากาศปิล๊อคตอน 7 โมงเช้า ฝนตกเบาๆ พร้อมกับหมอกหนาๆ
มุมนี้ซินะ มุมมหาชนที่ใครๆต่างก็พากันมาเขียนชื่อตัวเองติดไว้ ครั้งหนึ่งเรามาแล้วนะ
มาแล้วนะปิล๊อค เรามากัน 5 คนแต่เขียนชื่อไว้ 3 อีก 2 หน่ะหรอ เขาอยู่ข้างบนไง (แผ่นป้ายเขียนชื่อ 20 บาท 30 บาท แล้วแต่เราจะเลือกไซด์)
ฝนตกเราก็ยังไปไหนไม่ได้ แวะร้าน ไมนิ่งคอฟฟี่ ทานอาหารเช้ากันก่อน ร้านนี้ตั้งอยู่ใกล้ๆกับมุมมหาชนที่ใครๆก็ชอบมาเซลฟี่เลย
โอวัลตินร้อน
ไข่กระทะ
ข้าวต้มหมู
ด้วยสภาพอากาศที่ฝนตกปรอยๆไม่ยอมหยุดเราจึงได้ภาพถ่ายกันมาเพียงเท่านี้ หลังจากนั้นเราก็เดินทางต่อไปที่สังขละบุรี ระหว่างทางผ่านร้านกาแฟ แวะค่ะแวะ "บ้านสวนกาแฟสด"
มุมด้านใน
กาแฟร้อนๆจิบกับชา
หลังจากนั้นเราเดินทางมาต่อที่สังขละบุรี ใช้เวลาเดินทางจากปิล๊อคมาสังขละบุรีประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง
ภาพบรรยากาศระหว่างทาง ใกล้ถึงแล้ววิวก็จะประมาณนี้ค่ะ
เราเก็บของเข้าที่พักที่ Coffee Berry Sangklaburi บ้านใกล้ดิน สามารถดูได้ในเพจของที่พักเลย https://www.facebook.com/pg/Coffee-Berry-Sangklabu... เราเข้าพัก 5 คนในราคา 1700 บาท เก็บของเรียบร้อยเราก็ออกมาหาอะไรทานกัน เสร็จแล้วก็พากันมาที่นี่ สะพานมอญ
เราเหมาเรือพาไปไหว้พระในราคา 500 บาท ไปกัน 5 คน ตกคนละ 100 พอดี
วัดแรก เป็น วัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ เป็นวัดที่สร้างขึ้นโดยชาวกระเหรี่ยงและชาวมอญร่วมกันสร้างขึ้นกับหลวงพ่ออุตตมะ ตั้งอยู่บนเนินสูงที่เรียกว่า สามประสบ คือเป็นจุดที่แม่น้ำ 3 สาย แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตีไหลมาบรรจบกัน
น้องคนนี้เป็นไกด์นำทางของเรา
ถ่ายรูปให้พี่ๆหน่อย
บริเวณด้านใน
สามารถซื้อดอกไม้ไหวพระได้ค่ะ 20 บาท
ปล่อยปลาก็มีนะ
วัดที่ 2 เป็นวัดสมเด็จ(เก่า) วัดนี้จะอยู่ตรงข้ามกับเมืองบาดาล ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ต้องเดินขึ้นบันไดมา วัดนี้ไม่ได้จมน้ำแต่ก็ต้องนั่งเรือมาเหมือนกัน
ในโบสถ์มีพระพุทธชินราชจำลองประดิษฐานอยู่ให้เคารพสักการะบูชา
ภายรอบนอกโบสถ์มีต้นโพธิ์ขึ้นอยู่ข้างผนัง
จะเห็นว่ารอบๆโบสถ์มีคนเรียงหินไว้หลายกองมาก ก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน แต่ไกด์ที่นี่จะถูกฝึกมาว่า ให้พูดให้นักท่องเที่ยวฟัง ถ้าเรียงหินกี่ก้อนแล้วจะโชคดี
วัดที่ 3 วัดศรีสุวรรณ (เก่า) ช่วงที่เรามาจะเห็นพระอุโบสถโผล่พ้นน้ำมาแค่นี้ ที่เหลือจมอยู่ด้านล่างซึ่งปัจจุบันชาวบ้านได้สร้างวัดแห่งใหม่บนฝั่งตัวอำเภอสังขละบุรีแต่ยังคงใช้ชื่อเดิมว่า วัดศรีสุวรรณ
เรานั่งเรือไหว้พระชมวัด 3 วัดครบแล้ว พี่คนขับเรือก็พาเรามาส่งที่จุดเดิม ตรงสะพานไม้ฝั่งไทย
เราเดินขึ้นมาบนสะพานด้านบนจะมีน้องๆใส่ชุดพื้นเมืองนั่งคอยเรียกให้ทาแป้ง "ทาแป้งไหมครับแล้วแต่จะให้"
น้องๆน่ารัก ลองมานั่งคุยเล่นดูค่ะ จะไ้ด้รู้ถึงอีกแง่มุมที่เราไม่เคยสัมผัสเกี่ยวกับน้องๆ
ช่วงเย็นๆจะมีตลาดนัดสังขละบุรี ของกินที่ขึ้นชื่อก็นี่เลย "หมูจุ่ม" บางร้านจะขายไม้ละ 1 บาท แต่ร้านนี้ที่เรามาไม้จะใหญ่นิดนึงพี่เขาขายไม้ละ 2 บาท
ร้านที่เรามาชื่อร้านว่า "มูมู หมูจุ่ม พม่า" น้ำจิ้มรสเด็ด อร่อยมากค่ะ
เช้าวันรุ่งขึ้นเราตื่นกันแต่เช้าเพื่อมารอทำบุญตักบาตรกันที่บริเวณด้านหน้าสะพานมอญ
เด็กน้อยเดินคอยปะแป้งให้
เราซื้อชุดทำบุญชุดละ 100 บาท จะมีร้านค้ามาตั้งไว้ เราสามารถเลือกได้เลยจะทำบุญตรงไหน
น้อง RC แวะซื้อขนมก่อนเดินเข้าไปสะพานมอญในเช้าวันนี้
ซื้อเสร็จบอกไม่อร่อย เอามาแบ่งน้องๆกิน ซึ่งน้องๆกินกันอย่างอร่อยเลย
บอกน้องให้ทำท่าตามพี่ น้องๆก็ทำตาม
มาค่ะ มาปะแป้งกันไหม น้องคนขวาสุดทำไรหว่า เอากระดาษซับมันพี่เขาไปซับหน้า สวยไปอีก
หนูๆจะเอาอะไรกันลูก
"หนูอยากปากแดงแบบพี่ ขอทาลิปหน่อย" น้องเสื้อเหลืองเอากระจกพี่ไปส่องอีกแล้ว สวยแล้วลูก
จากนั้นน้องๆก็วิ่งเล่นกัน วิ่งมาหาให้พี่อุ้มหน่อยค่ะ
เราใช้เวลาพูดคุย นั่งเล่นอยู่กับน้องๆอยู่เป็นชั่วโมงเลย มันเป็นความรู้สึกที่สุขอย่างบอกไม่ถูก
แทบจะไม่ได้ถ่ายรูปเดี่ยว หนีน้องๆไม่ทัน พอจะถ่ายน้องก็วิ่งมาขอนั่งด้วย ^^
หลบหน่อยลูกพระจะเดิน
ภาพสุดท้ายของทริปนี้ที่...สะพานมอญ สังขละบุรี
G-jee Jiraprapa
วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 14.18 น.