Trip 2/2018
Nan, Thailand
“น่าน...มั้ย”
เป็นคำพูดที่ลอยขึ้นมาในหัวเมื่อหลายเดือนก่อน ก่อนที่สองคำนี้จะนำพาเราออกเดินทางไปน่านอีกครั้ง ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ที่เราได้มาน่าน
เราเลือกที่จะมาเที่ยวกันนอกฤดูบ้าง เพราะเอาจริงๆ จ.น่านจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมากันเยอะในช่วงหน้าข้าว หรือหน้าทำนา (ประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายน) แต่การมาครั้งนี้ก็ทำให้เราได้คำตอบว่า “น่าน...เที่ยวได้ทั้งปีจริงๆ”
“ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ” ( บ้านผาเก๊าะน้ำกูน) เราฝากท้องมื้อกลางวันไว้กั
ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ เปิดให้บริการร้านอาหารและเครื่องดื่มโดยเมนูส่วนใหญ่เน้นใช้เห็ดในการปรุงทั้งสิ้น เมนูยอดฮิตที่ลูกค้าต้องสั่งแทบทุกโต๊ะคือ "พิซซ่าเห็ด" แต่ครั้งนี้เราไม่ได้สั่งเพราะหน้ามืดสั่งไปหลายอย่างมาก (กลัวกินไม่หมดค่ะ ^ ^)
ร้านนี้ตั้งอยู่ในอำเภอปัว จังหวัดน่าน นอกจากเปิดเป็นร้านอาหารแล้วยังเปิดเป็นที่พักบรรยากาศแบบส่วนตัวมองเห็นวิวทุ่งนา ใครมาถึงปัวยังไงลองมาชิมอาหารหรือมาพักที่ฟาร์มเห็ดแห่งนี้ได้นะคะ
ติดต่อได้ที่เว็บไซต์ www.huanamhomestay.com
ช่วงที่เราไปพัก (พฤษภาคม) ยังไม่ใช่ช่วงทำนาเลยยังไม่มีวิวสีเขียวให้ดูมากนักนะคะ อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าเราเที่ยวนอกฤดูกาลค่ะ แต่บรรยากาศแต่นี้ก็ทำให้เรา ฟิ น ม า ก ... แล้วค่ะ
ไม่มีอะไรทำ...เดินไปเดินมาในโฮมสเตย์ ที่พักจะมีสะพานไม้ไผ่ที่เป็นทางเชื่อมกันหมด หามุมถ่ายภาพได้ตามใจชอบเลยค่ะ
เราจองห้องพักพร้อมด้วยอาหารเย็น “ขันโตก” น้ำพริกหนุ่มแซ่บมาก!!! มีข้าวเหนียว ไข่เจียว ปลาเผาห่อใบตอง เสิร์ฟพร้อมผักสด นั่งกินกันไปดูพระอาทิตย์ลา
กินอิ่ม - อาบน้ำ - นอนหลับ ^ ^ บรรยากาศภายนอกน่าจะ 30 องศา แต่เราเปิดแอร์นอนหลับสบายๆ ดึกๆ มีตื่นมาเข้าห้องน้ำ เปิดม่านดูข้างนอกนเงียบมาก
เราตื่นแต่เช้ามาสูดโอโซน ยังไม่มีแขกบ้านอื่นตื่นมาเลย อากาศตอนเช้าดีมาก
เราชอบมุมนี้ที่สุดเลย เพราะด้านหลังเป็นวิวภูเขาและแปลงข้าวโพด มันยิ่งทำให้เราเข้าใกล้กับธรรมชาติมากที่สุด
เที่ยวช่วงที่ไม่ใช่หน้าข้าว ทางตูบนาโฮมสเตย์จะปลูกดอกไม้สวยๆ ทำให้ที่นี่ดูไม่แห้งแล้ง คือไปช่วงไหนก็สวย
ห้องที่เราพักชื่อ "ห้องชมดอย" ราคา 1,600 บาท (สำหรับ 2 คน) เพิ่มขันโตก 200 บาท/คน (เนื่องจากเราไม่กินเนื้อสัตว์บกเลยสั่งเฉพาะปลา ไข่ ผักเท่านั้น ซึ่งขันโตกปกติจะจัดเต็มทั้ง แกงฮังเล ลาบคั่ว ไส้อั่ว ฯ)
จองห้องพักได้ที่ www.toobna.com หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 094-1431969
ร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์ที่ปัว ราคา 300 บาท/วัน (มีค่ามัดจำ 500 บาท)
เราคืนรถเช่าเรียบร้อย แล้วนั่งรถสองแถวจากปัวมาตัวเมืองน่าน (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) ระหว่างทางมีฝนตกนิดหน่อย
"วัดภูมินทร์" ตั้งอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑสถาน-แห่งชาติน่าน มีนักท่องเที่ยวเข้ามากราบไหว้เป็นจำนวนมาก
มุมนี้ "กระซิบรักบรรลือโลก" จริงๆ ค่ะ ไม่มีใครไม่ถ่ายเลย
เย็นนี้เราลองมากินข้าวกันที่ "ร้านเฮือนฮอม" อาหารอร่อยมากเราสั่งมา 2-3 อย่างค่ะ มีชุดน้ำพริกหนุ่ม, แกงเห็ด, ยำปลาสมุนไพร (อย่างหลังนี่อน่อยจริงๆ ค่ะ)
คืนที่ 2 ในน่านนั้นเราพักที่ “บ้านๆ น่านๆ ห้องสมุดและเกสต์โฮม" เราจองจากในเฟสบุ๊คในราคาคืนละ 1,000 บาท (ห้อง 1 ก. มีห้องน้ำในตัว/พัดลม)
ผ้าม่านริมหน้าต่างเป็นแบบผ้าฝ้ายมัดย้อมสร้างบรรยากาศวันวานไปอีก
คืนนี้เรานอนหนาวกันเลยทีเด
มุมนี้ถ่ายจากในห้องน้ำ (ห้องน้ำมีหน้าต่างด้วย) เวลาอาบน้ำอย่าลืมปิดนะคะ
“บ้านๆ น่านๆ ห้องสมุด แอนด์ เกสโฮม” บ้านไม้ 2 ชั้นที่เป็นทั้งที่พัก ร้านกาแฟ ร้านหนังสือ ห้องสมุด การมาพักที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนมาพักบ้านญาติผู้ใหญ่เลย เนื่องจากแขกที่เข้ามาพักจะอยู่ในรั้วเดียวกัน อยู่ในบ้านหลังเดียวกันกับเจ้าของบ้านนั้นเองใครที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการพักเกสเฮาส์หรือโฮมสเตย์จริงๆ ก็ลองมาพักดูนะคะ
รายละเอียดที่พักและเบอร์ติดต่อ : โทร. 089-8595898
www.facebook.com/chayapantanakantom
ตื่นแต่เช้าไป "วัดพระธาตุเขาน้อย" ชมวิวเมืองน่านกันค่ะ เช้านี้นักท่องเที่ยวไม่มาก เราเดินถ่ายรูปกันได้สบายๆ ค่ะ แล้วเราก็ไปไหว้พระในตัวเมืองน่านกันให้ครบ 9 วัด (ได้ 9 วัดจริงๆ นะคะ)
“ซุ้มลีลาวดี” หน้าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชานิ
วัดมิ่งเมือง - ศาลหลักเมือง
วัดพระธาตุช้างค้ำ
วัดหัวข่วง
วัดศรีพันต้น
วัดภูมินทร์
จากนั้นเราได้ที่พักใกล้ๆ กับสถานีขนส่งจังหวัดน่าน “น่านสะบายดี” ราคาคืนละ 500 บาท (((เท่านั้น))) ห้องแอร์, เครื่องทำน้ำอุ่น, อาหารเช้า แต่เราไม่ได้ค้างคืนเพราะแต
โรงแรมน่านสะบายดี โทร.054-772958 (โทรสอบถามห้องว่างกันได้ตามเบอร์นี้เลยค่ะ)
ทริปนี้เราได้มาสัมผัสกับธรรมชาติ วิวภูเขาไกลสุดลูกหูลูกตาที่รายล้อมเราอยู่ ได้นอนโฮมสเตย์ นั่งรถเมล์เที่ยว ได้กินอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ หลายอย่าง เช่น ขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวซอย ที่บ้านไท้ลื้อ และใครที่เป็น mushroom lover ต้องไม่พลาดเมนูเห็ดที่ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำนะคะ
อย่างที่บอกไว้คือ การเดินทางครั้งนี้เราขอใช้ชีวิตง่ายๆ แบบสบายกระเป๋า เราเลือกที่จะนั่งรถเมล์มาที่ อ.ปัว แล้วเช่ารถมอเตอร์ไซค์จากที่นี่ขี่ไปเที่ยวที่ต่างๆ ในปัว แล้ววันรุ่งขึ้นค่อยนั่งรถสองแถวจากปัวเข้าตัวเมืองอีกที
((( เห็นมั้ยล่ะ เที่ยวน่านง่ายนิดเดียว ไม่มีรถก็เที่ยวได้ )))
ขอบคุณสำหรับการติดตามรีวิว "NAN...สบายดีนะแกร" นะคะ ยังมีอีกหลายสถานที่เลยค่ะ
ที่ยังไม่ได้เขียนรีวีว อย่างไงก็รอติดตามกันด้วยนะคะ
#ดีต่อใจ ขอบคุณค่ะ
IG : deeetorjaiii
ดีต่อใจ
วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 19.09 น.