วันนี้พวกเรา #ฅนชอบเที่ยว จะพาย้อนเวลาจาก พศ.2561 ถอยหลังไปสักราวๆ 113 ปี

ที่เมืองมัลลิกา ร.ศ ๑๒๔ ไปใส่ชุดไทยเท่ๆ เดินช๊อป.. เดินชิม.. เดินเที่ยว.. ในตลาดแบบไทยๆ

มีขนมอร่อยมากมาย ใช้ ”เงินรู” จับจ่าย เดินไป ชิมไป ถ่ายรูปไป ในบรรยากาศย้อนยุค

ที่........

.........

| เมืองมัลลิกา ร.ศ ๑๒๔ | กาญจนบรุี |

.......

.....

....

มาทำความรู้จักกับ.. เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔

"เมืองแห่งวัฒนธรรม และวิถีชน"

เมืองมัลลิกา เป็นเมืองย้อนยุคของวิถีชีวิตชาวสยามบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ วิถีชีวิตของชาวสยามในยุค ร.ศ.๑๒๔ มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายหลายด้าน ที่เด่นชัดมากคือการประกาศเลิกทาส เมื่อทาสได้รับความเป็นไทพวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่อาศัยและทำมาหากินด้วยตนเอง ไม่ได้อยู่ภายใต้อาณัติหรือการดูแลของบรรดาเจ้าขุนมูลนายอีกต่อไป พวกเขาต้องดำรงชีวิตให้อยู่รอด พึ่งตนเอง และอยู่ร่วมกับคนสยามทุกหมู่เหล่า การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเหล่านี้นับเป็นรากเหง้าสำคัญของคนไทยในยุคปัจจุบัน


ค่าเข้าชมเมืองมัลลิกา

ค่าบัตรเข้าชม ผู้ใหญ่ 250 เด็ก/ผู้สูงอายุ 120

บัตรเข้าชม + ชุดไทย ผู้ใหญ่ 400 เด็ก/ผู้สูงอายุ 300

บัตรเข้าชม + รับประทานอาหารกลางวัน (บุฟเฟ่ต์) ผู้ใหญ่ 500 เด็ก/ผู้สูงอายุ 250

บัตรเข้าชม + รับประทานอาหารกลางวัน (บุฟเฟ่ต์) + ชุดไทย ผู้ใหญ่ 650 เด็ก/ผู้สูงอายุ 450

บัตรเข้าชม + รับประทานอาหารเย็น (บุฟเฟ่ต์) + การแสดงนาฏศิลป์ไทย ผู้ใหญ่ 700 เด็ก/ผู้สูงอายุ 350

บัตรเข้าชม + รับประทานอาหารเย็น (บุฟเฟ่ต์) + การแสดงนาฏศิลป์ไทย + ชุดไทย ผู้ใหญ่ 900 เด็ก/ผู้สูงอายุ 500

* เด็กสูง ต่ำกว่า 100 ซม. เข้าฟรี / สูงระหว่าง 100 - 130 ซม.- ราคาเด็ก / ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป


การเดินทาง

  • ขับรถมาตามเส้นทาง กรุงเทพ – กาญจนบุรี และไปตามทางหลวงหมายเลข 323 เส้นทางสายกาญจนบุรี -ไทรโยค จนถึงกิโลเมตรที่ 15 เมืองมัลลิกาตั้งอยู่ซ้ายมือข้างปั๊มน้ำมันบางจาก ก่อนถึงทางเข้าปราสาทเมืองสิงห์
  • รถตู้หรือรถบัส กาญจนบุรี-กรุงเทพ มาลงที่ท่ารถ บขส กาญจนบุรี แล้วต่อรถประจำทางสาย ไทรโยค ทองผาภูมิ สังขละ หรือต่อรถตู้กาญจนบุรี-สังขละ มาลงที่เมืองมัลลิกา (32 กม.) ติดปั๊มน้ำมันบางจาก ปากทางเข้าปราสาทเมืองสิงห์
  • จากกรุงเทพให้ขึ้นจากสถานีธนบุรี ซึ่งอยู่ด้านหลังโรงพยาบาลศิริราช แถวตลาดศาลาน้ำร้อน สถานีรถไฟที่รถไฟสายนี้วิ่งผ่านคือ ธนบุรี - ศาลายา - นครปฐม - หนองปลาดุก - ท่าเรือ - กาญจนบุรี - สะพานแควใหญ่ - วังเย็น - บ้านเก่า - ท่ากิเลน - ถ้ำกระแซ - วังโพธิ์ - เกาะมหามงคล – น้ำตก ให้ลงสถานีกิเลนหรือถ้ำกระแซก็ได้ (หากต้องการผ่านจุดโค้งมรณะ ให้ลงถ้ำกระแซ) แล้วต่อรถจ้างท้องถิ่นมาที่เมืองมัลลิการายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับตารางเวลารถไฟ กรุณาสอบถาม call center การรถไฟ 1690

ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่

Tel : 034 540884-6

email : [email protected]

เว็บไซต์ http://www.mallika124.com

Facebook https://www.facebook.com/MallikaR.E.124/


ประตูเข้าเมือง ใหญ่อลังการ

มาทำความรู้จักกับ.. เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔

สำหรับค่า #แต่งกายชุดไทย

ด้านหน้าประตูเมืองมีรถลากบริการเที่ยวละ 50 บาท หรือจะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก็ได้ ฟรีจ้า!!

ว๊าปมาแล้วจ้า ร.ศ ๑๒๔

นี่ไง ”เงินรู” สามารถแลกเพื่อใช้จ่ายภายในเมืองมัลลิกา

อัตราการแลกเงินรู : 1 สตางค์ = 5 บาท

จุดแรกที่เจอก็จะเป็นสะพานหัน เพื่อข้ามไปยังในเมือง

ในนี้มีทั้งของกิน ทั้งของใช้ และผลไม้เชื่อม

แม่ค้ายิ้มหวานเชียว^^

ย่านการค้า จุดนี้สีสันของตึกร้านค้าต่างๆ เหมาะแก่การถ่าย สายถ่ายไม่พลาดแน่นอน

หอคอย สามารถเดินขึ้นไปชมวิวกันได้ครับ

ย่านของกินจ้า

เอ๊ะนั่น...คุณยายเค้าทำอะไร

อ่อ!! ข้าวเกรียบปากหม้อ


ขนมไทย หลากหลาย..

กิน กิน กิน

มีน้ำซุปร้อนๆ เพิ่มความอร่อย

ได้ลองทำขนมด้วย

นี่ก็ลองทำ

ร้านไอศครีมกะทิ พร้อมเครื่อง ซื้อไอศครีมแถมถ้วยด้วยจ้า

ร้านจำหน่ายผ้าและกระเป๋า

และนี่คือ.. เรือนหมู่ เป็นเรือนสำหรับรับรองแขกบ้านแขกเมือง ของคหบดีไทยซึ่งอาจเป็นขุนนางผู้ทรงศักดิ์

หรือคหบดีผู้มั่งคั่ง ซึ่งในสมัยนั้น นิยมมีคณะนาฎศิลป์ เป็นของตนเอง สำหรับรับแขก

ดังนั้นเมืองมัลลิกา จึงสร้างเรือนหมู่ ขึ้นซึ่งถือว่าเป็นเรือนหมู่ที่ #ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

โดยเรือนหมู่ดังกล่าวจะแสดงให้เห็นถึงวิถึชีวิต ของนาฎศิลป์ไทย

ภาพจากมุมสูง

หลังจากเดินเล่นกันมาจนเย็น ได้ยินว่า ที่เมืองมัลลิกามีอีกไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้

ก็คือมื้อดินเนอร์ ที่จัดใน เรือนหมู่ เป็นมื้อเย็นแบบโบราณ และที่สำคัณมีโขนให้ชมด้วยนะครับ"

เดินขึ้นมาต้องร้อง โอ๋โหเลย!! เป็นเรือนไทยที่อลังกาลมาก กว้างขวาง

นักดนตรีไทยพร้อมแล้ว

และนี่ก็เป็นมื้อโบราณของที่นี่..

สำรับเย็นแบบไทยโบราณ (มื้อดินเนอร์)..

ประกอบไปด้วย หมี่กรอบ น้ำพริกขี้กา แกงรัญจวน ห่อหมกปลายี่สก แกงมัสมั่น ยำมะกะโท ที่เมืองมัลลิกาได้เลือกอาหารดังกล่าวมานั้นเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้ลิ้มชิมอาหารที่เป็นภูมิปัญญาของบรรพชนไทยที่หากินได้ยากในปัจจุบัน หรือที่มีอยู่ก็ถูกดัดแปลงไปมากแล้ว ซึ่งกรรมวิธีการทำแต่ละเมนู นั้นยุ่งยากมากจึงทำให้คนส่วนใหญ่ไม่รู้จักเนื่องจากหาคนทำเป็นได้ยากขึ้นทุกที นอกจากนี้ยังมี ออเดิร์ฟพิเศษ สำหรับอาหารมื้อเย็น นั่นก็คือ "ข้าวตังหน้าตั้ง" สูตรดั้งเดิมแต่โบราณมาให้ทุกท่านได้ลิ้มรสกันถึงที่

*ราคาบัตรรวม ข้าวสวย ผลไม้รวม เครื่องดื่ม (น้ำเปล่า) สามารถเติมอาหารได้ไม่จำกัด (ยกเว้นออเดิร์ฟ "ข้าวตังหน้าตั้ง" ไม่สามารถเติมได้)" คุ้มมากๆ

โขนเริ่มแสดงแล้ว กินไป ชมไป

สู้กันแล้วจ้า

สวยงาม

งดงาม

ปิดท้ายด้วยภาพความประทับใจกับนักแสดง


ติดตามไปเที่ยวกับเรา #ฅนชอบเที่ยว

Facebook : www.facebook.com/konchoptieow

instagram : www.instagram.com/konchoptieow






ฅนชอบเที่ยว

 วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 15.10 น.

ความคิดเห็น