ฉันเดินทางจากอิซเมียร์มาใช้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงกว่าๆก็มาถึง Selçuk มืดแล้วเป็นเวลาสองทุ่มกว่าๆ ฉันลากกระเป๋าออกจากสถานีรถไฟ เดินออกมา ฉันเห็นร้านค้าร้านอาหารมากมาย ฉันดูใบจองโรงแรมในมือที่ฉันรู้มีแต่ชื่อโรงแรมและรู้ว่าใกล้สถานีรถบัสเท่านั้น ทำไมคราวนี้ฉันไม่ดูจีพีเอสน่ะเหรอ ก็เพราะว่าฉันโง่เอง ฉันรีบมากเกินไปฉันลืมดาวน์โหลดแผนที่ที่นี่ แต่ฉันไม่กลัว ฉันรู้แล้วว่าคนตุรกีใจดีกับนักท่องเที่ยวอย่างฉัน ยังไม่ทันที่ฉันจะถามอะไรใคร ก็มีหนุ่มใหญ่ตุรกีส่งเสียงถามฉันว่าฉันจะไปที่ไหน ฉันเอาชื่อโรงแรมให้เขาดู เขาบอกว่าเดินไปอีกสองแยกแล้วเลี้ยวซ้ายนะ เห็นมั้ยฉันบอกแล้วคนตุรกีใจดี ฉันเดินมาเรื่อยๆ เห็นตลาดนัดกำลังเก็บของ วันนี้เป็นวันเสาร์ที่เซลจุกมีตลาดนัดใหญ่ ฉันมาดึกเกินไป ตลาดวายแล้ว ฉันน่าจะมาให้เร็วกว่านี้ฉันคิด

ฉันเดินมาถึงหน้าโรงแรม กำลังลากกระเป๋าเข้าไป หนุ่มตุรกีคนหนึ่งกำลังเช็ดโต๊ะ เขาเห็นฉันเขาถามฉันว่าคนไทยใช่มั้ย ฉันงงเล็กน้อย เขารู้ได้อย่างไรว่าฉันเป็นคนไทย หรือว่าเขาดูที่ใบจองโรงแรมของฉัน ฉันตอบเขาไปว่าใช่ฉันคนไทย ฉันยังไม่ทันได้ถามอะไร เขาก็พาฉันไปที่เคาท์เตอร์เพื่อเชคอิน ฉันเชคอินแล้ว ห้องฉันอยู่ชั้นสามไม่มีลิฟท์ เขายกกระเป๋าขึ้นไปให้ฉัน คนตุรกีหาคำว่าไม่มีน้ำใจไม่มีเลย

ฉันเก็บของ ฉันหิวฉันจึงลงมาข้างล่าง ฉันพบเขานั่งอยู่ตรงนั้น ฉันได้โอกาสจึงถามว่ารู้ได้อย่างไรฉันเป็นคนไทย เขาบอกฉันว่ามีคนไทยมาที่นี่ปีละร้อยถึงสองร้อยคน ปีที่แล้วมีมากกว่าปีนี้มีไม่มากเลย เขาชอบคนไทย เขาจำลักษณะคนไทยได้ ฉันดีใจที่ได้ยินว่ามีคนตุรกีอีกคนแล้วที่ชอบคนไทย ฉันบอกเขาฉันหิว แต่ฉันไม่อยากนั่งร้านอาหารฉันซื้อมากินที่นี่ได้ไหม เขาบอกฉันได้สิเขาจะเดินไปส่ง ระหว่างไปร้านอาหารเขาชวนคุย เขาบอกว่าเขาเห็นเมืองไทยจากในทีวี เขาอยากไปซักครั้งแต่เมืองไทยไกลมาก และต้องใช้เงินมากเช่นกัน ฉันบอกเขาว่าไม่ไกลหรอกฉันยังมาถึงที่นี่ได้เลยคุณก็เช่นกัน อาจจะใช้เวลานานซักหน่อยในการเก็บเงิน แต่ถ้าคุณไม่ลืมความฝัน วันหนึ่งคุณจะรู้ว่าฝันสามารถทำให้เป็นจริงได้ด้วยตัวเราเอง ดูฉันเป็นตัวอย่างสิ ฉันให้กำลังใจเขา

เช้านี้ฉันจะไปดูเมืองโรมันโบราณเอเฟซุส ฉันเป็นพวกหลงไหลเรื่องราวเกี่ยวกับเทพเจ้ากรีกโรมันโบราณมาแต่ไหนแต่ไร ฉันเห็นรูปเอเฟซุสจากหนังสือจากอินเตอร์เน็ต ฉันอยากมาฉันอยากเห็นด้วยตาตัวเอง วันนี้แล้วสินะที่ฉันจะได้เห็น โรงแรมที่ฉันพัก อยู่ตรงข้ามสถานีรถบัสไปเอเฟซุส แต่ก่อนที่ฉันจะไปเอเฟซุสฉันแวะซื้อตั๋วไปปามุคคาเล่ในวันนี้ ฉันซื้อเที่ยวสี่โมงสิบห้านาที ฉันเดินไปที่รถตู้ไปเอเฟซุส เห็นคนจีนสองคนกับเด็กอายุประมาณสิบสามสิบสี่อยู่ด้วย พวกหล่อนพยายามต่อราคารถตู้ หล่อนบอกว่าเด็กฟรีหรือครึ่งราคาได้มั้ย หนุ่มตุรกีมองหน้าพวกหล่อนแล้วส่ายหัว ฉันรับรู้ได้เลยว่าเขากำลังอารมณ์เสีย ฉันเป็นคิวต่อจากพวกหล่อน ฉันถามเขาว่าค่ารถเท่าไหร่และจะออกกี่โมง เขาไม่ยอมพูดกับฉันมองหน้าฉันและพูดเป็นภาษาตุรกีฉันไม่เข้าใจ แต่ฉันเห็นหน้าเขาอารมณ์เสียเขาคงคิดว่าฉันเป็นคนจีนและคงจะต่อราคาเหมือนกัน

ฉันไม่อยากเรื่องมากไม่อยากถามแล้วจึงหยิบแบงค์สิบลีร่าให้คิดว่าทอนเท่าไหร่ก็เท่านั้น สรุปค่ารถไปเอเฟซุส 5.50 ลีร่า ถัดจากฉันเป็นชายอังกฤษคนหนึ่ง เขาได้ถามอะไรหลายอย่าง หนุ่มตุรกีคนนั้นก็ตอบภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว ฉันคิดในใจแน่นอนแล้วเขาเซ็งคนจีนและคิดว่าเราก็เป็นคนจีนเช่นกัน ไม่เป็นไร ของอย่างนี้เข้าใจผิดกันได้ ฉันไม่ถือสา


เอเฟซุสเป็นเมืองโบราณอายุราวสองพันปีที่ยังคงสภาพความสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง และใหญ่ที่สุดในเอเชีย เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ก่อนฉันมาฉันจินตนาการถึงความยิ่งใหญ่ของมัน แต่เมื่อฉันมาเห็นด้วยตา สิ่งที่ฉันจินตนาการนั้นไม่อาจเทียบได้เลย ฉันซื้อตั๋วเดินขึ้นจากด้านล่างไปด้านบน อากาศร้อนแผดเผาแทบไหม้ แต่ฉันไม่สนใจ ฉันชอบความร้อน แสงอาทิตย์ทำให้ฉันมีความสุข


ฉันเดินไปเรื่อยๆ ตามทางสิ่งแรกที่ฉันเห็นคือโรงละครขนาดใหญ่ยักษ์ที่เอียงลาดไปตามไหล่เขา สามารถจุคนได้ถึง 25,000 คน ฉันตะลึงฉันมองในความยิ่งใหญ่ของมันพลางคิดว่าคนเมื่อสองพันปีก่อนสร้างได้อย่างไรหนอ ช่างยิ่งใหญ่เสียเหลือเกิน ฉันปีนไปจนชั้นบนสุดมองลงมาข้างล่างสูงมาก ตกลงไปอาจคอหักได้ ฉันได้ยินเสียงเพลงมีสาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งร้องเพลงอยู่ตรงกลาง ฉันอยู่ชั้นบนสุดได้ยินเสียงชัดเจน เมื่อพวกหล่อนร้องจบเสียงปรบมือก็ดังขึ้นไปรอบๆ

ฉันไต่ลงมา ยืนอยู่ตรงกลางโรงละครหลับตาพลางจินตนาการถึงนักร้องสมัยก่อน ฉันได้ยินเสียงร้องเพลงข้างๆฉัน เป็นชายหนุ่มตุรกีคนหนึ่ง เขาเริ่มต้นร้องเพลงภาษาตุรกีถึงฉันฟังไม่ออกแต่เสียงเขาดีมากกึกก้องดังกังวาน ไปถึงด้านบน ฉันมองไปรอบๆ คนสร้างที่นี่เก่งจริงๆ ฉันนึกแล้วก็อยากร้องเพลงบ้างแต่ก็นะ นึกเพลงไม่ออกว่าจะร้องอะไร เอาไว้ฉันมีโอกาสคราวหน้าฉันจะเตรียมเพลงไทยมาร้องอย่างดีเลยดีไหมนะฉันคิด แต่เมื่อเสียงเพลงของหนุ่มตุรกีจบลง มโนจินตนาการฉันก็จบลงเช่นกัน เมื่อไหร่หนอฉันจะได้กลับมาอีก ฉันหวังว่าซักวันหนึ่ง


ฉันเดินดูซากโบราณสถาน นั่งจินตนาการถึงในอดีตถึงความยิ่งใหญ่อลังการ ฉันชอบซากปรักหักพัง ฉันชอบอารยธรรมโรมัน กรีกโบราณ หลายคนถามฉันว่ามาทำไมดูเสาหักๆ หินแตกๆ หรือซากอะไรก็ไม่รู้ไม่เข้าใจ ไม่เป็นไรพวกเขาไม่เข้าใจฉันไม่เป็นไร ฉันเข้าใจตัวเองก็พอ ฉันเก็บเงินฉันดั้นด้นมาเห็นในสิ่งที่ฉันหลงรักแค่นี้ฉันก็เพียงพอแล้ว



ภาพ : รูปสลักไนกี เทพธิดาแห่งชัยชนะ สัญลักษณ์ของรองเท้ากีฬาไนกี้ก็มาจากที่นี่นั่นเอง


ภาพ : ถนนคูเรตีส (Curetes)เป็นถนนหลักกลางเมืองที่ทอดยาวลดระดับไปตามสภาพพื้นที่เมืองโบราณแห่งนี้ร้อนมาก ทั้งร้อนทั้งแห้งแล้ง ฉันเดินหลบไปที่ร่มนั่งพัก ดื่มน้ำ ควักขนมปังที่ฉันพกมากินและมองเมืองโบราณแห่งนี้ไปด้วย มีแมวตัวหนึ่งเดินมาคลอเคลียฉัน คงหิว ฉันแบ่งขนมปังให้ น้องแมวกินด้วยความเอร็ดอร่อย ที่ตุรกีแมวเยอะมาก ไปทางไหนก็เจอแต่แมว ทุกตัวหน้ารักสีสวยนี่ถ้าเป็นเมืองไทยฉันคงอุ้มกลับบ้านไปเลี้ยงแล้ว



ภาพ : น้ำพุทราจัน ปัจจุบันไม่มีน้ำแล้ว


ภาพ : The temple of Hadrian


ภาพ : ทางเดินสำหรับเศรษฐี ฝั่งขวาใช้โมเสคทำ


ฉันเดินไปจนถึงจุดไฮไลท์ของที่นี่คือหอสมุดเซลซุส The Library of Celsus เป็นหอสมุดที่เราเห็นจากหนังสือท่องเที่ยวหลายๆเล่ม ด้านหน้ายังคงความสวยงามมั่นคงแข็งแรง รูปปั้นเทพธิดาทั้งสี่ซึ่งหมายถึง Sophia (wisdom - ปัญญา), Arete (virtue - ความดี), Ennoia (thought - ความคิด), Episteme (knowledge - ความรู้) ยังอยู่ครบแต่บางองค์ก็หัวขาด ฉันเดินเข้าไปชื่นชมแต่ละองค์ มองให้เต็มตา เต็มใจ ฉันได้เห็นแล้วสินะห้องสมุดที่ฉันใฝ่ฝันถึงมานานแสนนาน ฉันเดินเข้าไปด้านหลังห้องสมุด ตรงนั้นไม่มีอะไรเป็นที่โล่งๆ ฉันนั่งลงมองห้องสมุดจากด้านหลัง หินอ่อนลวดลายช่างสวยงาม ฉันคิดหลายพันปีก่อนพวกเขาทำได้อย่างไรทั้งที่ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือพร้อม พวกเขาใช้เวลาสร้างนานแค่ไหนกันนะ ทุกเสาที่พวกเขาสลักเขากำลังคิดอะไร หลายคำถามอยู่ในใจฉัน



ฉันอ่านมาว่าด้านตรงข้ามของหอสมุดเป็นหอนางโลม มีช่องทางลับจากหอสมุดใต้ดินไปถึงที่นั่น พ่อบ้านมักอ้างกับแม่บ้านว่ามาอ่านหนังสือแต่จริงๆแล้วมาใช้บริการหอนางโลมที่อยู่ตรงข้าม ฉันมาคิดๆดูแล้วว่าผู้ชายนี่นิสัยโกหก เจ้าชู้นี่มีมาแต่โบราณกาลหลายพันปีเลยเชียว ไม่ว่ายุคสมัยไหนๆก็มี ไม่เว้นแม้แต่เทพเจ้า อาชีพสาวบริการก็เช่นกัน เป็นอาชีพที่เก่าแก่เสียจริงๆเชียว



ภาพ : หอนางโลมโบราณ


ได้เวลากลับไปเซลจุกแล้วฉันไปรอรถที่เดิม มีหนุ่มนายหนึ่งเดินมาถามฉันว่ารถไปเซลจุกที่ไหนฉันตอบว่าตรงนี้แหล่ะ ฉันมองหน้าเขาเขาเหมือนคนตุรกีแต่ทำไมไม่รู้จักทาง ฉันถามเขาว่าเป็นคนที่ไหนเขาตอบฉันว่าเขาเป็นคนอิตาลี แต่เขาพูดตุรกีได้ เรานั่งรถไปเซลจุกด้วยกัน นั่งคุยกันไปพอลงรถเขาถามฉันว่าจะทำอะไร ฉันตอบว่าฉันจะไปหาอะไรกิน เขาเลยไปนั่งกินกับฉัน เรานั่งคุยกันที่ร้านอาหารเราแลกเฟสบุคกัน ฉันได้เพื่อนใหม่เพิ่มจากการเดินทางอีกแล้ว ฉันบอกเขาว่าฉันอยากไปวิหารอาเทมิส ฉันยังพอมีเวลาก่อนที่รถจะออก เขาบอกฉันเขาจะเดินไปเป็นเพื่อน เราเดินคุยกันไปจนถึงวิหารอาเทมิส เราแลกกันถ่ายรูป เขาบอกว่าเขาพักที่คูซาดาซีซึ่งเป็นชายทะเล นั่งรถห่างจากที่นี่ไปประมาณ 30 นาที ไปเที่ยวไหม ฉันอยากไปแต่ฉันไม่สามารถ ถ้าฉันมีเวลามากกว่านี้ฉันคงตามเขาไป เอาไว้คราวหน้าละกันนะถ้าได้มีโอกาสกลับมาอีกครั้ง เราโบกมือบ๊ายบายกันที่ท่ารถ ไว้เราเจอกันใหม่นะในเฟสบุคเพื่อนใหม่ของฉัน ดูสิมิตรภาพดีๆเกิดขึ้นได้เสมอในระหว่างการเดินทาง



ภาพ : วิหารอาเทมิสปัจจุบันเหลือเพียงเสา


ภาพ : อเทมิสแบบที่ควรจะเป็น เครดิตภาพจากอินเตอร์เน็ตค่ะ


แถมภาพหนุ่มตุรกีที่เซลจุกให้หนึ่งคนนะคะ



ความคิดเห็น