สวัสดีจ้า พบกันเช่นเคยไม่เลยหลงแฮร่ วันนี้จะพาไปเที่ยวอีสานกันบ้าง ตั้งแต่ได้ข่าวว่ามีจังหวัดใหม่ล่าสุดที่ 77 คือบึงกาฬ ก็อยากจะไปมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีเวลาสะที ทริปนี้ลงตัวพอดีเลยจัดไปเป้าหมายคือบึงกาฬแต่ไหนๆไปแล้วก็ขอแวะจังหวัดใกล้เคียงเสียหน่อยทางผ่าน ทริปนี้เลยได้เที่ยว 4 จังหวัดเลย จะเป็นยังไงไปชม ค่าใช้จ่ายท้ายทริป เบาๆเช่นเคย

ตารางทริปคร่าวๆเดินทางวันที่ 8-10/9/2561

วันแรก ขับรถทั้งคืนมาเช้าหนองคาย วัดผาตากเสื้อ-ยิงยาวเข้าบึงกาฬ เที่ยวภูสิงห์รอบๆ-แรกลานธรรม-จุดชมวิวถ้ำฤาษี-หินสามวาฬ-และจุดต่างๆรอบภูสิงห์-กางเตนท์นอนที่ภูสิงห์

วันที่สอง วัดภูทอก-น้ำตกเจ็ดสี-น้ำตกถ้ำพระ-เข้าที่พักริมโขง

วันที่สาม น้ำตกถ้ำฝุ่น-น้ำตกชะแนน-วัดป่าคำชะโนดอุดร-ปิดท้ายด้วยเขื่อนอุบลรัตน์ขอนแก่น


ก่อนไปชมดู VDO สั้นๆก่อนได้ครับ เหมือนเดิมทริปนี้อุปกรณ์บันทึกภาพทั้งหมดมาจาก Nikon D7200 tokina 11-20 fix35 tamron 70-300 vc และ Gopro hero 4 silver



เริ่มออกเดินทางเย็นวันศุกร์ออกจาก กทม.ประมาณ 3ทุ่มกว่าๆ ทริปนี้ไปคันเดียวแต่เดี่ยวมี วีออสอีกสองคันจากลำปางและจังหวัดเลยเจอที่นู้น ปลายทางเช้านี้คือหนองคายไปกับพี่บิ็กวีโก้ 4*4 ของพี่ในกลุ่มคันเดิมทริปนี้ไปหลายคนทางต้องลุยหน่อย วีออสของเราเลยต้องจอดเงาตามเคย


ก่อนถึงหนองคายแวะรับหนุ่มขอนแก่นเพื่อนที่ไปด้วยกันประจำทริปนี้สบายเลยมาอีสานทางผ่าน ทุกทริปเพื่อนต้องนั้งรถจากขอนแก่นไปเจอที่กทม แล้วนั้งต่อไปเที่ยวเหนือใต้ออกตกกะเรา นั้งรถกันตูดบาน งานนี้สบาย

มาถึงขอนแก่นตี3 หนุ่มเต้เจ้าบ้านเลยพาไปหาของกินแหล่งรวมวัยรุ่นยามวิกาลขอนแก่น ตอนเราไปหลังผับปิดพอดี คนแน่นทีเดียวเชียว ร้านโจ๊ก เจ้น้อย มาม่า โจ๊ก จั๊บ เส้น

รสชาติแหล่มแจ่มแมวมากน้ำซุปอร่อยเครื่องแน่น ใครผ่านไปมาดึกแวะกินกันก่อนถูกใจแน่นอนครับ

ออกจากขอนแก่นยิงยาวไปเช้าที่วัดผาตากเสื้อถึง6โมงครึ่งได้ครับ เช้านี่มีสายหมอกบางๆไม่เป็นทะเลหมอก กะวิวแม่น้ำก็สวยไปอีกแบครับ หมอกอยู่ไกลๆ

ไปดูรูปหมอกกันก่อนเลย





เช้านี้ถือว่าคนน้อยครับ ทัวร์ยังไม่มา สกายวอร์คไม่น่ากลัวครับสวยดี


ถ่ายไปถ่ายมาหมอกค่อยๆไหลมาใกล้เยอะขึ้น

ไหลมาเรื่อยๆ

ซูมไปดูทางซ็ายบ้างตรงไปเรื่อยๆก็เป็นจังหวัดเลยแล้ว

ยาวไปๆ


เดินกลับมาอีกหน่อยจะมีอีกจุดน่าสนใจครับสวยเหมือนกัน


มีชะง่อนหินให้เสียวด้วย


พ่อบ้านใจกล้าอิอิ

อย่างที่บอกทริปนี้มีวีออสอีกาองคนมาจากเมืองเลยกะจากลำปาง รวมหมู่สักรูป สนุกแน่ทริปนี้

ออกจากหนองคายแวะกินข้าวเช้า แถวตัวเมืองร้านข้างทาง กระเพราหมูป่าอร่อยเลย มื้อนี้ 500 บาท

แล้วจากนั้นภาพก็ตัด555 หมายถึงผมคนเดียวขับรถมาทั้งคืนไม่ไหวและ ให้พี่เจ้าของรถเขาขับมั้งยาวไปอีก100กว่าโล วาปมาถึงทางเข้าภูสิงห์เลย ทางราดยางอย่างดีครับ มีร้านค้าอยู่หน้าทางเข้า เย็นๆเดี่ยวค่อยออกมาซื้อเครื่องดื่ม

มาถึงภูสิงห์ บ่ายโมงกว่า คืนนี้เราจะกางเตนท์นอนกันที่นี้ แต่เดี่ยวค่อยกางไปเที่ยวข้างบนภูสิงห์กันก่อน


แผนที่ที่เที่ยวบนภูสิงห์มีหลายจุดมาก เส้นทางวิบากพอประมาณ ต้องกระบะขับสี่เท่านั้น ถ้าขับสองต้องลองถามเจ้าหน้าที่อีกทีนะครับว่าให้มั้ย เพราะเห็นรถนำเที่ยวก็เป็นขับสองครับหลายคันแต่เขารู้ลายเจ้าถิ่น ส่วนมอไซด์ห้ามขึ้น ใครไม่มีก็มาเหมารถก็ได้มีบริการทั้งวัน คันละ500 เอง ไปหลายที่ใช้เวลาประมาณ 2-3ชั่วโมง ระยะทางข้างบนรอบๆรวมประมาณ 8 กิโลได้ครับ


ส่วนพวกเรามากับพี่บิ็กวีโก้ 4*4 ครับสบายมากไปได้ง่ายๆไม่มีอะไรเร่ิ่มลุยกันเลย

จอดวีอออสไว้อัดท้ายกระบะมากันให้หมด

จุดแรกลานธรรม


ทริปนี้ถือโอกาศมาถ่าย พรีเวดดิ้งไปด้วยเลย ให้เพื่อนๆนี้แหละถ่ายให้ประหยัดดี ถ่ายกะป่ากะเขาไปง่ายๆสไตล์เราอิอิ


ไปต่อผู้ชายนั้งหลังให้ผู้หญิงขับไป


หมดทางดำก็เป็นทางดินตลอดและมีสลับราดยางบ้าง





มาถึงตรงนี้มีชะงักหน่อย มันจะลึกไหมหว่าา

ลงไปดูหน่อยน่าจะแข็งไปต่อๆ



ดินแข็งไม่ลึกไปได้สบาย

แล้วก็มาถึงจุดชมวิวถ้ำฤาษี

วิวสวยเด็ดมากไปดูเลย



มาถึงแล้วต้องไม่ลืมท่าคู่

เหนื่อยนักก็พักก่อน




จากนั้นก็เดินมาอีกไม่ไกลก็จะเป็นหินสามวาฬแล้ว

มันอันซีนจริงๆไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน รูปทรงเหมือนเรือดำน้ำเลย555

เรายืนจากหินกลางถ่ายไป

ไปดูเลย มันสวยจริงๆ ควรไปเห็นกันซักครั้ง






พรานโยขอนั้งสมาธิสื่อสารกับธรรมชาติสักหน่อย


เอ้าโดดหน่อย


ไปต่อ

จากนั้นก็กลับไปจุดต่อไปเป็นวงกลม หินช้างง ช้างจริงๆเหมือนเลย

จุดต่อไปจำชื่อไม่ได้ละ ทางมันแคบรถนำเที่ยวเขาจอดเลยจอดตามเดินไปดู สวยดี





จุดชมวิวส้างร้อยบ่อ


ยังกะสามพันโบกย่อส่วน

ว่างไม่ได้เลยชวนเพื่อนนั้งสมาธิอีกแล้วว อิอิ


แล้วก็กลับถ้ามีเวลาก็ควรแวะให้ครบครับ แต่บางจุดก็ลื่นอันตรายตอนไปจะมีเจ้าหน้าที่เขาแนะนำให้ฟังครับ


ลงมาข้างล่างวันนี้ไม่มีใครกางเตนท์เลย สรุปพวกเราเหมาลานกางเตนท์ภูสิงห์ฟินๆไปเลยเที่ยวหน้าฝนแบบนี้ ค่าใช้จ่ายเก็บเป็นเตนท์หลังละ50 บาทเท่านั้น ค่าคนไม่คิด มีน้ำไฟใช้ได้ทั้งคืน สบายมากๆ แต่ถ้ามานอนก็ช่วยบริจาคเพิ่มไปหน่อยก็ดีครับตามสมควร

มื้อเย็นวันนี้หมูกระทะตามสูตร

และขาหมูเยอรมันจากเมืองเลย พ่อครัวเยอะทริปนี้เราใช้บัตรตากล่องรอถ่ายรูปกะกินอย่างเดียว

วันนี้ไร้ฝนนั้งกินกันสบายแต่พอมืดแล้วเมื่อย เลยย้ายไปนั้งในศาลาเผื่อฝนจะตกอยากทดสอบเตนท์ใหม่555

กลางคืน 3-4 ทุ่ม พอท้องฟ้าเปิดโล่งแล้วดวงดาวล้านดวงก็ออกมาให้เราเฉยชมแล้วทางช้างเผือกทริปนี้ไม่แห้วแล้วว

เห็นได้ด้วยตาเปล่าชัดมาก ขนาดมีไฟห้องน้ำบ้างยังแจ่วเลย

ไฟเยอะไปหน่อยครับ นี่ศาลาที่ว่า เราคุยโม้จ้อกันถึง 5ทุ่มได้ก็แยกเข้านอน

อากาศกลางคืนเย็นๆกำลังดีกลางดึกมีหนาวนิดหน่อย แต่ช่วงเย็นๆอบๆครับลมไม่ค่อยผ่านแต่ก็ถือว่านอนสบายเลยละที่นี้

ทริปนี้มีไอเท็มเพิ่มใหม่เป็นที่นอนอัดลม มีที่อัดด้วยลมธรรมชาติทำไม่ยากอัดประมาณ10ครั้งก็เต็มนอนสองคนนุ่มๆแบกเพิ่มอีกนิดเพิ่มความฟินในการนอนครับ

สำหรับเตนท์สองตัวใหม่ทริปนี้ K2Adventuer รุ่น Twowheels แบบสีเหลืองสองคนในรูปล่าสุดที่ผมนอนและ Cycling แบบสีน้ำเงินนอนได้ 1 คน
ที่กางเตนท์ที่ภูสิงห์นี้ ไม่ค่อยมีลมและฝนคืนนั้นก็ไม่ตก เลยไม่ได้ทดสอบเรื่องกันน้ำกันลมอะไร
แต่ดูจากสเปคกันฝนระดับ4000 ก็คงไม่น่ามีปัญหาอะไรกันได้เหมือน P3 แน่ๆ

ในเรื่องการใช้งาน การกางก็ง่ายเสาเตนท์เป็นชิ้นเดียวต่อกันทั้งหมด กางง่ายกว่าแบบ P3 นิดหน่อย
คนเดียวกางง่ายแต่ตอนจะคลุมฟลายชีท จะงงหน่อย หัวกะท้ายไม่เท่ากัน
ส่วนข้อดีเลย คือเหมาะกะคนตัวสูงๆ ตัวนี้ยาวกว่า P3 เยอะเลย และทรงฝั่งหัวนอนจะตั้งตรงเวลาลุกหัวจะไม่ติด
แต่แคบกว่า P3 นิดนึง และขนาดในตอนเก็บก็เล็กกว่าเจ้าตัว P3 ส่วนน้ำหนักพอๆกัน

แต่ถึงอย่างไรคงไม่มีเตนท์ไหนเหมาะกับทุกคน เลือกให้ตรงกะความต้องการ และที่สำคัญเอาตามเงินในกระเป๋าเท่าที่ไหวก็พอครับ จะถูกจะแพงก็แฮปปี้ได้เหมือนกัน แต่ก่อนผมก็ใช้เตนท์บิ็กซี199 ในกระทู้เก่าๆ ใช้มาตลอดยังไม่พังด้วย แต่พอรูปแบบการเดินทางมันเปลี่ยนต้องไปมอไซด์บ้างเดินป่าบ้างเลยต้องหาเตนท์ที่มันตอบโจทย์เราได้กันฝนกันลมได้ไม่ต้องพกเยอะมีพื้นที่ใส่หมวกตอนนอน น้ำหนักเบาไว้เดินป่า เลยต้องหาตัวใหม่มาประจำการในราคาต้องไม่สูงมากด้วยครับ ที่ใช้ตอนนี้ก็ตัว 2000กว่าบาทครับ ลองเลือกกันดูตามความเหมาะสม

มาต่อเช้านี้ทุกทริปต้องมีมาม่าปลากระป๋องมันรู้สึกฟินดีครับ เป็นความชอบส่วนตัวและมันก็ประหยัดด้วย555 ส่วนที่ภูสิงห์มีร้านอาหารราคาถูกไม่แพงครับตามปกติได้เลย สรุปภูสิงห์ที่กางเตนท์แต่พื้นที่ไม่เยอะมากครับ บรรยากาศดี มีเจ้าหน้าที่อยู่ทั้งทั้งคืนแต่นอนในบ้านข้างๆ ห้องน้ำห้องอาบสดวกสบาย สามารถออกไปซื้อของได้มี 7-11 ประมาณ12โล

ไปต่อเมื่อคืนจัดหนักกันไปหน่อยนานๆเจอกันที่ เช้านี้เลยออกช้า 9โมงกว่า เจออุโมงค์ต้นไม้ถ่ายหน่อย


มาต่อ ภูทอกครับ ที่จริงภูทอกนี้แหละจุดปะกายความอยากมาบึงกาฬตั้งนานแล้ว แต่พึ่งได้ยินหินสามวาฬช่วงสองปีนี้ เลยได้มาบึงกาฬซะที

ข้างบนไม่มีน้ำขายนะครับต้องซื้อจากร้านค้าหน้าทางเข้า พกไป 1ขวด2คนก็พอครับ มันจะเดินเหนื่อยแค่ช่วงแรกครับ

มาและเริ่มเดินกันเลย แต่งกายสุภาพไม่ส่งเสียงดังกันนะครับ

แผนที่และประวัติ


นู้นนอีกไกลเลย

ช่วง3ชั้นแรกก็บันไดขึ้นเรื่อยๆยาวๆเลย

เรียกเหงื่อกันดีทีเดียว


เดินมาน่าจะชั้น3หรือ4นี้แหละแล้วเดี่ยวจะมีแยกซ็ายกะขวาไปได้ทั้งคู่ แต่ไปขวาดีกว่าครับเดินอีกหน่อยก็เจอวิวสวยๆแล้ว ขึ้นขวาลงซ้าย



แล้วก็มาถึงวิวสวยๆ ถึงตรงนี้ก็สบายละ เดินชมวิวรอบๆแล้วก็เดี่ยวมีบันไดขึ้นไปทีละชั้นแล้วเดินชมวิวรอบๆเรื่อยๆ

เลยชั้น4แล้วแต่ละชั้นจะเดินได้รอบเลยครับ ไปดูเรื่อยๆเลยละกัน


ยิ่งสูงยิ่งเสียว







ชั้น6 ชั้นสุดท้าย



จริงๆเราหลงจากชั้น6ขึ้นไป เห็นมีบรรไดเลยเดินขึ้นไปอีกสรุปเป็นป่าไม่มีอะไร ฉนั้นเดินชมกันแค่นั้น 6 พอครับ


วิวสวยงาม








ดูที่เราเดินมะกี้



แล้วก็ไล่ลงเรื่อยๆครับ

ทางลงซ้ายจะไม่ค่อยเห็นวิวอะไรครับ

ใช้เวลาอยู่2ชั่วโมงได้

จากนั้นก็ไปต่อน้ำตก มาถึงน้ำตกเจ็กสีบ่ายโมงกว่าหิวเลยกินหน้าทางเข้าเลย

ทางเดินไปถึงน้ำตกเจ็ดสีไปกลับประมาณ 3 โลครับ ทางเดินลื่นมากๆระวังด้วย



เดินเรื่อยๆไม่ร้อนมาก



เลยจุดนนี้จะลื่นมากที่พื้น

เดินได้พอเหนื่อยตรงใกล้จุดนี้ต้องปื่นป่ายบ้างมีเสียวหน่อยเด็กน้อยต้องระวังให้ดีที่นี้

ถึงแล้ว

มันสวยใหญ่อลังการมาก


ใหญ่จริงนะติงนังง


ถูกใจใช้เลย


น้ำตกเจ็ดสี มณีเจ็ดแสงงง พี่อีกสองคนไม่ได้แวะที่นี้แยกไปแวะรอที่ถ้ำพระก่อน

เราไม่ได้เล่นน้ำที่นี้เราจะไปเล่นกันที่น้ำตกถ้ำพระ


มาถึงน้ำตกถ้ำพระรถอะไรก็ไม่สามารถเข้าถึง เพราะต้องนั้งเรือเข้าไปจ้า คนละ30บาทไปกลับ

มาถึงแล้วก็เดินอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงแล้วครับ

ใหญ่มากที่นี้


ถึงแล้ว สวยสมคำล่ำลือจริงๆ





น้ำหนาววเย็นมาก

สวดมนต์แปบบ



เสียดายเรามาถึงเย็นไปหน่อยได้เล่นไม่ถึงชั่วโมง



น้ำตกที่นี้ปิด5โมงครับเพราะต้องนั้งเรือออกไปอีก เราอยู่ชุดสุดท้ายเลย




ออกจากน้ำตกถ้ำพระ สมาชิกเมืองเลยขอกลับไปทำงานเช้าวันจันทร เหลือพวกเราอยู่ต่ออีกคืนเลยไปนอนกันที่ริมโขงบึงกาฬ ชื่อบ้านพักริมดอยดื่มด่ำกันอีกคืนยาวๆที่พักชิวๆคนแทบไม่มีอีกแล้ว มีแต่พวกเราโซนหลังนี้


คืนนี้ก็มีช้างเผือกครับแต่ไฟที่พักเยอะมาก ปิดไม่ได้เลยอดถ่ายช้างเลย


คืนนี้เปลี่ยนเป็นชาบูเหมือนเดิม หมูยังเหลือจากเมื่อวานประหยัดไปจะหนักก็เครื่องดื่มเนี้ยแหละ นานๆเจอกันทีเรื่องคุยเพลินๆ


มาดูห้องบ้างเราจองสองห้องห้องละ700บาท 1400 นอน8คน คุ้มมาก

ห้องบนนี้มีหลังเดียววิวบรรยากาศแจ่มครับ




ฝากไว้ดอยครับบ้านพักบรรยากาศดีๆ

ตอนนี้ก็เหลือคันเรา6คนแล้ว พี่วีออสลำปางแยกกลับออกไปก่อนแต่เช้าครับ

แวะกินมื้อเช้าริมโขงใกล้ๆที่พักนั้นแหละ

ไปต่อก่อนจะกลับขอเก็บอีกสองน้ำตก

ที่แรกน้ำตกถ้ำฝุ่น

แต่เราไม่ได้ดูมาก่อนว่าเขาเปิดแค่เสา-อาทิตย์ครับ ก็เลยไปถามเขาบอกว่าปิดแต่เขาถามว่าเรามาจากกทม.เลยให้ไปถามหัวหน้าอีกที

หัวหน้าเห็นพวกเรามาไกลเลยให้เข้าไปครับแต่ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางด้วยเพราะข้างในไม่มีคน อีกอย่างที่นี้เป็นเขตรักษาพันธิ์สัตว์ป่าด้วยเพื่อความปลอดภัย

เจ้าหน้าที่ก็ใจดีขี่รถตามมาและเดินนำเล่าประวัติต่างๆให้ฟังด้วยขอบคุณมากๆครับ

ช่วงสามววันนี้ระหว่างเที่ยวฝนไม่ตกเลยครับน้ำเลยน้อยไปหน่อยผมว่า

อีกด้านก็น้ำบางๆครับ


ไปต่อที่สุดท้ายของบึงกาฬน้ำตกชะแนน

แต่น่าเสียดายน้ำทั่วมครับท่วมไปหมดเลยรถไม่สามารถผ่านได้ ถามเขาว่าช่วงก่อนหน้านี้ฝนตกติดต่อนานมาก แล้วหลายๆพื้นที่ในบึงกาฬตอนนี้ก็ท่วมแบบนี้เลยครับ น่าสงสารชาวบ้านครับคงจะลำบาก

ไม่เป็นไรไว้จะมาใหม่ครับบ๊ายบายบึงกาฬ


พอออกจากบึงกาฬเท่านั้นแหละฝนก็ตกทันที ถือว่าดีเลยทริปนี้เจอฝนแค่ตอนอยู่ในรถครับทั้งไปทั้งหลับ

มาถึงอุดรธานีแวะวัดป่าคำชะโนด

บ่มีอิหยังมาพังทลายความฮักของสองเฮาได้ อิอิ


ภายในวัดอากาศเย็นๆสบายครับ

ไหว้ขอพรแล้วก็เดินทางต่อ



มีบ่อน้ําศักดิ์สิทธิ์ใส่ขวดกลับบ้านได้


ปิดทริปท้ายสุดที่นี้ขอนแก่น เขื่อนอุบลรัตน์

แฟนสาวเจ้าถิ่นของเพื่อนที่ขอนแก่นแวะมาหาเดี่ยวจะไปกินข้าวเย็นด้วยกัน

แวะถ่ายรูปชมวิวสันเขื่อนกันก่อน


วิวสวยๆแดดอ่อนๆยามเย็น5โมง


สวยงามตามฉบับวิวสันเขื่อนครับ




ขับออกมาหลังเขื่อนนิดเดียวเราก็วาปมาถึงบางแสน แฮร่ บางแสน 2 ครับ

มาหาข้าวกินหน่อย

ไม่รู้ร้านไหนอร่อยติดกันไปหมดเลยเลือกสักร้านเอาร้านนี้ละกัน ใบบัว

อากาศตอนเย็นมันจะอบๆไปหน่อย แต่วิวสวยแสงกำลังอ่อนลง สามารถเล่นน้ำได้นะครับมีเสื้อชูชีพให้

ไปดูบรรยากาศกันเลย




พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าแล้ว


มื้อนี้หมดไป 1140 บาท ตอนแรกเห็นราคาอาหารแอบบตกใจ แต่ละอย่างดูแพง150-350 ทั้งนั้นแต่พอมาถึงปริมาณแต่ละอย่างเยอะพอสมควรเลยครับ และรสชาติก็อร่อย 7 คน 1140 บาท อาหาร 5หรือ6อย่างนี่ล่ะ อิ่มแปล้เลยกินเกือบไม่หมด

ในรูปอาหารยังมาไม่ครบแต่หิวละซวบไปก่อน

กินได้สักพักพระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าแสงเย็นทไวไลท์วันนี้มันปิดทริปได้สวยงามจริงๆดูเลย


เรือลุงมาได้จังหวะพอดี







แสงแบบนี้มันต้อง Silhouette กันสักใบ อิอิ

ออกจากร้านอาหารที่เขื่อนประมาณ18.50 กำลังมืดสนิทพอดียิงยาวเข้ากทม. รถไม่เยอะวันนี้วันจันทรถึงบ้านเที่ยงคืนกว่าๆสมาชิกคนอื่นๆก็ถึงไม่เกินตี 1 ปิดทริปออนทัวร์อีสานอย่างสวยงามและตามงบประมาณที่วางไว้

ค่าใช้จ่ายทริปนี้จะงงหน่อยๆเพราะมากัน 3 คันและไม่ได้เที่ยวด้วยกันทุกจุด

เอาคร่าวๆคันวีโก้ที่มาจาก กทม.ละกัน

ค่าน้ำมัน 6500 บาท 2000กิโล พี่บิ็กจัดหนักน่าดูแต่ก็ว่านั่งเต็มคันของเยอะขับเร็วทำเวลาด้วย

รวมกองกลาง 6 คน

โจ๊กจับเส้น 260บาท

ค่าข้าวเช้าหนองคาย 510บาท

ค่าเข้าน้ำตกเจ็ดสี 260

ค่าเรือถ้ำพระ 210

ข้าวเช้าบึงกาฬวันที่3 240

ข้าวเย็นเขื่อนอุบลรัตน 1140

รวม หาร6 =1520

รวมกองกลางหาร 8 เก็บพี่ที่มาจากเลยแค่300บาท หักกะขาหมูที่แกเอามาแล้วแกอยู่ด้วยคืนเดียว

ที่พักค่าข้าวเปล่าเช้า 100

เบียร์คืนแรก 1000

เบียร์ 628

เบียร์สองลังคืนสอง 1210

ค่าหมูทั้งหมด. 700

ค่าห้องบ้านริมดอย 1400

ค่ากางเต็นท์บึงกาฬ 300

5338-300= 5038 หาร8 = 630บาท

รวมๆแล้วคันผมวีโก้หมดคนละ 2150 บาทเอง ประหยัดมากนี้ว่าจัดเครื่องดื่มกันเยอะไปหน่อยนานๆเจอกันทีเรื่องคุยเยอะเลยไหลยาวเปลืองเลย555 ตื่นกันช้าเลยทั้งสองวัน แต่ก็ยังอยู่ในงบที่ตั้งไว้ ค่าใช้จ่ายทางอีสานถูกดีครับ ราคาอาหารหรือต่างๆเบาๆ มาเลยครับบึงกาฬควรมาเที่ยวกันสักครั้งนะครับผม


ทริปหน้าขอหลังแต่งงานเลยเด้อ จบทริปนี้งดออกทริปเก็บตัวและเก็บตัง แล้วพบกันใหม่กับคู่รักตะลอนทัวร์ครับ


เหลี่ยมพาเที่ยว

 วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 23.22 น.

ความคิดเห็น