เที่ยวพังงา ฟีลบ้านที่บ่อแสนวิลล่า
ดูเหมือนโลกแห่งความจริงของเมืองใหญ่กำลังมีปัญหา หมอกควันเกินขีดอันตรายที่กรุงเทพ การจราจรเริ่มติดขัดที่ภูเก็ตและปรากฎการณ์หลายๆ อย่างเริ่มผลักเราให้ออกนอกเมืองบ้าง แม้จะแค่เพื่อการท่องเที่ยวพักผ่อน หนีความวุ่นวาย ไปใกล้ชิดธรรมชาติ ได้ชาร์จแบตชีวิตบ้างก็ยังดี
สำหรับผม พังงาคือจุดหมายหนึ่งที่ควรจดใส่รายการไว้ หากอยากออกจากภูเก็ตไปผ่อนคลายใกล้ๆ
ที่นี่ยังเหมือนหลายปีก่อน เมืองเล็กๆ ในโอบกอดภูเขาหินปูน ธรรมชาติยังอยู่ครบ แถมด้วยตำแหน่งจังหวัดที่มีค่าดัชนีชี้วัดความสุขสูงสุดในภาคใต้การันตี
บ่อแสนวิลล่า ฟีลบ้านเมื่อห่างบ้าน
ในอ้อมกอดเล็กๆ ของภูเขากับทุ่งนาที่กลายสภาพเป็นสวนปาล์มไปเกือบหมด บ่อแสนวิลล่าตั้งอยู่ในร่มเงาของธรรมชาติ ไม้บางต้นเริ่มทิ้งใบโผล่ดอกรับหน้าร้อน
คืนแรกห้องพักของเราเป็นวิลล่า 4 ห้องนอน ดูภายนอกเหมือนบ้านหลังใหญ่ เดินเข้าไปผ่านห้องนั่งเล่นด้านซ้าย ฝั่งขวามีมุมครัวเล็กๆ ตรงไปมีสระว่ายน้ำสีน้ำเงินอยู่กลางวิลล่า ห้องนอนทั้งสี่ล้อมรอบสระเหมาะสำหรับครอบครัวและกลุ่มคนรู้จักที่ต้องการพักผ่อนส่วนตัว
คืนที่สองเราย้ายไปห้องจากุซซี่งอยู่ในอาคารชั้นเดียว ห้อมล้อมด้วยไม้ดอกไม้ประดับสดชื่น มีสระว่ายน้ำ
จากุซซี่ ใกล้ๆ กับสระใหญ่ส่วนกลางที่มีกระดานลื่นไว้ให้โดดเล่นสนุก
บริเวณรอบๆ วิลล่ามีพื้นที่สีเขียวมากพอสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ทั้งปั่นจักรยาน ถีบเรือเป็ด วิ่งออกกำลังกาย ตลอดจนมีฐานกิจกรรม ผจญภัยให้ทดสอบตัวเอง
ผมชอบส่วนที่เป็นลานกางเต็นท์สงบๆ กลางแมกไม้ข้างเขาหินปูนที่ถูกกัดกร่อนเป็นถ้ำเล็กๆ รอให้นักสำรวจลงสนามท้าทายตัวเอง
สำหรับขาชิลอาจจะนอนเล่นหรือนั่งนิ่งๆ ฟังเสียงธรรมชาติตอนกลางวัน กลางคืนชมดาว เคล้าเสียงรัตติกาล
ที่พักทั้งส่วนวิลล่าและลานกางเต็นท์สามารถตั้งเตาย่างบาร์บีคิวอาหารทะเล พูดคุย หรือดื่มเบาๆ สร้างบรรยากาศได้อบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน
อาบแสงเช้าในอ่าวพังงา
ผมนัดแนะกับบังบ่าวเจ้าของเรือหางยาวนำเที่ยวอ่าวพังงาตอนเช้าตรู่ ใช้เวลาเดินทางจากบ่อแสนวิลล่าไม่เกินครึ่งชั่วโมง จุดขึ้นเรืออยุ่ภายในที่ทำการอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ท่าเรือนี้คนน้อยไม่วุ่นวาย ที่จอดรถสะดวกสบายและปลอดภัย ผมเรียกใช้เรือหางยาวนำเที่ยวของบังบ่าวอยู่เสมอ เพราะชอบความใจดีของแก ตรงไปตรงมา ที่สำคัญตรงต่อเวลา
เรานั่งเรือเรื่อยๆ ช่วงแรกผ่านป่าโกงกางเขียวสด เช้านี้น้ำลง รากเล็กใหญ่สั้นยาวที่คอยพยุงต้น อวดโฉมยุ่งเหยิงแต่สวยงามด้วยรูปทรง หาดทรายผสมโคลนโผล่เหนือน้ำอยู่ทั่วไป บางช่วงถ้าสังเกตดีๆ เราอาจเห็นนักล่าในระบบนิเวศป่าชายเลนอย่างนกกระยาง นกกระเต็นสีสวย นั่งนิ่งรอคอยเหงื่ออย่างอดทน
แดดอุ่นตอนเช้าอาบผาหินปูนให้กลายเป็นสีทองบางๆ มีใบไม้แดงส้มโผล่แซมเป็นจุดๆ ตัดกับฟ้าสีครามเข้ม ถ้าไม่ใช่ตอนเช้า ภาพเหล่านี้อาจไม่มีให้เห็น
เลยป่าโกงกางผืนใหญ่ เราเริ่มเข้าใกล้เกาะปันหยี หมุ่บ้านกลางน้ำหนึ่งเดียวในอ่าว เรือชะลอให้เราถ่ายภาพหน้าเกาะก่อน โดมสีทองของมัสยิดสูงตระหง่านเหนือสิ่งก่อสร้างสีฉูดฉาดอื่น กลายเป็นแลนด์มาร์คสร้างความน่าสนใจในภาพหมู่บ้าน
เรือประมงหลายลำลอยเรียงรายจับปลา มีฉากหลังเป็นเกาะแก่งที่มีลักษณะเฉพาะไม่กี่แห่งในโลก
เราใช้เวลาทั้งหมดเกือบชั่วโมงจนถึงเขาพิงกัน ลงเรือเดินเล่น เขาตะปูตั้งเดี่ยวกลางน้ำประกอบฉากให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพเป็นที่ระลึก จากแท่งหินปูนธรรมดาๆ เมื่อหลายปีก่อน จนหลัง พ.ศ. 2517 ได้กลายเป็นหินของเจมส์ บอนด์ จุดหมายของการเดินทางที่คนค่อนโลกฝันจะมาถึง
การเดินดูความเป็นอยู่ของผู้คน ชิมของฝากพื้นบ้าน อย่างน้ำพริกกุ้งเสียบบนเกาะปันหยี ทำให้การท่องเที่ยวรอบอ่าวสมบูรณ์ ยิ่งได้นั่งกินโรตีแกล้มชากาแฟ ยิ่งได้อรรถรสเฉพาะถิ่นจนลืมยาก
หากผ่านมาทางพังงา แวะนอนบ่อแสนวิลล่า ลองฝืนตื่นเช้า ออกไปนั่งเรือหางยาวชมอ่าวพังงายามเช้า รับรองคุณจะลืมภาพผุ้คนวุ่นวาย แล้วหลงรักทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตในอ่าวแห่งนี้
ขอขอบคุณ
traveltrap https://www.facebook.com/aroundworld.space/
ถ่ายเองแดร๊กเอง https://www.facebook.com/MyfoodIshoot/
บ่อแสนวิลล่า พังงา http://www.borsaenvilla.com/
ภาพประกอบ https://yutphuket.com/
https://www.facebook.com/MyfoodIshoot/
traveltrap
วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 16.56 น.