“เจองูกับเจอแขก ให้ตีแขกก่อน”
ผมว่าคำๆ นี้แหล่ะ ที่ทำให้หลายๆ คนคิดหนักเมื่อคิดที่จะมาเที่ยวอินเดีย อาจจะเพราะกลัวจะไม่ทันเล่ห์กล กลโกง กลัวจะเสียทีแขก แต่ผมขอบอกเลยว่า ถ้าหากคุณไม่มาพิสูจน์ด้วยตัวเอง คุณก็คงจะเข้าใจผิดแบบนี้ไปโดยตลอด ผมว่าไม่ใช่แต่อินเดียหรอกครับ ที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่ามักจะขูดรีดนักท่องเที่ยว เมืองไทยเราเองก็มีข่าวให้เห็นอยู่เสมอมา (ไม่ใช่เหรอ) แต่แปลกนะ ผมมาเที่ยวอินเดีย ครั้งนี้ครั้งที่สองแล้ว ทำไมผมไม่ยักเจอเหตุการณ์แย่ๆ ที่เกี่ยวกับคนอินเดีย ตามเส ียงลือเสียงเล่าอ้าง แต่กลับเจอน้ำใจของคนแขก ที่เรียกรอยยิ้มให้กับผมได้ การมาอินเดียในครั้งนี้ ถึงแม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้าง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติของอินเดียที่จะมีปัญหาจุกจิกให้เราได้คิดได้แก้อยู่ตลอดเวลา หากเรามองข้ามอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาให้เป็นเรื่องสนุก ให้เราต้องคิดต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากันไป และเมื่อปัญหานั้นผ่านพ้นไปได้ มันกลับเพิ่มรสชาติให้กับทริปนี้เป็นอย่างมาก แล้วผมไม่ขยาดเหรอ กับการมาอินเดียครั้งที่ 2 ตอบเลยว่า “ไม่” ครั้งแรกที่ผมมาเที่ยวอินเดีย ผมไปเที่ยวโซน เลห์ ลาดักห์ ยอมรับเลยว่าไปเที่ยวครั้งนั้นไปพร้อมกับความกังวล เพราะคำกล่าวที่ว่า “เจองูกับเจอแขก ให้ตีแขกก่อน” ยิ่งหาข้อมูลมากเท่าไร ก็ยิ่งกังวล แต่เมื่อจบทริปนั้น กลับทำให้ผมลบล้างคำพูดติดตลกนั้นลงอย่างสิ้นเชิง และการมาอินเดียครั้งที่สอง ก็ยังคงประทับใจในแต่ละสถานที่ท่องเที่ยว ประทับใจในน้ำใจไมตรีของคนอินเดีย และหมายมั่นปั้นมือว่า จะกลับมาอินเดียอีกหลายๆ ครั้งอย่างแน่นอน
สำหรับจุดหมายปลายทางของทริปนี้ อยู่ที่รัฐราชาสถานครับหากใครที่ชอบประวัติศาสตร์ ชอบสถาปัตยกรรม ชอบความเป็นมรดกโลก
ผมแนะนำที่นี่เลยครับ...ราชาสถาน
ราชาสถาน (Rajasthan) เป็น 1 ใน 29 รัฐของอินเดีย ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเท
Jaisalmer, Jodhpur, Ranakpur, Udaipur และ Jaipur นับเป็น 5 เมืองเด็ด ที่ใครมาเที่ยวราชาสถานแล้ว
ราชาสถาน มีแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับ
1. Jantar Mantar, Jaipur
2. ป้อมปราการ ที่กระจายอยู่ทั่วราชาสถาน จำนวน 6 ป้อม ซึ่งประกอบด้วย
2.1 Chittorgarh Fort
2.2 Gagron Fort
2.3 Ranthambore Fort
2.4 Jaisalmer Fort
2.5 Kumbalgarh Fort
2.6 Amber Fort
นครสีทอง Jaisalmer เมืองที่ราบสูง กลางที่ราบทะเลทรายธาร์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของรา
1. Jaisalmer Fort
Jaisalmer Fort เป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ ที่สร้างขึ้นจากหินทรายจากท
การเข้าชมด้านใน Jaisalmer Fort มีค่าธรรมเนียม 500 รูปี และหากต้องการถ่ายภาพภายใน Fort จะต้องเสียค่าธรรมเนียม 100 รูปีครับ
2. Fort Jain Temple
Fort Jain Temple เป็นกลุ่มวัดเชน ประกอบไปด้วย 7 วัด ดูภายนอกเหมือนจะไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ ความรู้สึกแรกที่เห็น ผมจินตนการถึงจอมปลวกขนาดมหึมา เพราะเห็นแล้วรู้สึกหยุยๆ เหมือนรอยโพรงของปลวก แต่เมื่อได้ก้าวเข้าไปด้านในวัดแล้วต้องแอบร้องว้าวว..เลยครับ ต้องบอกเลยว่าภายในงดงามมากๆ "หิน" ที่ว่าแข็ง เมื่อมาอยู่ภายในวัดแห่งนี้ ให้ความรู้สึกเหมือน "ไม้" ที่มีความอ่อนช้อยของลวดลายที่ถูกสลักอย่างวิจิตรบรรจง ต้องนับถือฝีมือของช่างผู้สร้างสรรค์จริงๆ ครับ
การเข้าชมด้านใน Fort Jain Temple มีค่าธรรมเนียม 200 รูปี (ไม่เสียค่าธรรมเนียมกล้อง) การเข้าชมด้านในจะต้องถอดรองเท้าด้วยนะครับ
3. Haveli
“Haveli” คือ คฤหาสน์ของเหล่าเสนาบดี ที่มีความสวยงามสไตล์ราชปุต ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่หาชมได้ไม่มากนักในอินเดีย ใน Jaisalmer มี Haveli มากมาย แต่ละ Haveli ก็จะมีความโดดเด่นไม่เหมือนกัน เช่น Salim Singh Ki Haveli โดดเด่นในเรื่องซุ้มโค้งด้านบน 38 ซุ้มโค้ง, Nathmal Ji Ki Haveli โดดเด่นที่งานแกะสลักผนังทั้ง 2 ด้าน ที่มีลวดลายสวยงามแตกต่างกัน และอีกหนึ่ง Haveli ที่น่าสนใจนั่นคือ Patwon ki Haveli เป็น Haveli ที่มีขนาดใหญ่และหรูหราที่สุดใน Jaisalmer ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 50 ปี มีจุดเด่นอยู่ที่ระเบียงหน้าต่างที่ยื่นออกมาจากคฤหาสน์มากถึง 66 ระเบียงครับ
การเข้าชมด้านในแต่ละ Haveli มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชม 250 รูปีครับ
4. Gadsisar Lake
Gadsisar Lake โอเอซิสขนาดใหญ่ท่ามกลางทะเลทราย สร้างขึ้นโดย Raja Rawal Jaisal ผู้ปกครองคนแรกของ Jaisalmer ต่อมา Maharaja Garisisar Singh ได้สร้างและปรับปรุงทะเลสาบใหม่ โดยรอบมีวัดและศาลเจ้า รวมถึงซุ้มประตู Tilon Ki pol เป็นหินทรายสีเหลืองที่แกะสลักได้อย่างงดงาม ปัจจุบันทะเลสาบแห่งนี้ นอกจากจะเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจแล้ว ยังเป็นแหล่งน้ำสำคัญของ Jaisalmer อีกด้วย ที่นี่ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชมครับ
5. Sam Sand Dunes
Sam Sand Dunes การไปนั่งอูฐ ชมพระอาทิตย์ตกท่ามกลางทะเล
ค่าบริการนั่งอูฐ อูฐ 1 ตัว 500 รูปี สามารถนั่งได้ 2 คน ต่อคนก็แค่คนละ 250 รูปี หรือประมาณ 125 บาทเอง นับว่าถูกมากๆ เลยครับ
Jodphur
หรือเมืองโยธะปุระ (นครแห่งนักรบ) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1459 โดย Rao Jodha
มหาราชาแห่งราชวงศ์ Rathore ในช่วงศตวรรษที่ 16 โยธะปุระเป็นศูนย์กลางการค้
6. Mehrangarh Fort
Mehrangarh Fort ป้อมปราการหินทรายแดงกลางเมืองเก่า ที่ถูกสร้างขึ้นบนเนินเขาสูง 122 เมตร ป้อมปราการแห่งนี้สร้างล้อมรอบพระราชวังที่ใหญ่ติด 1 ใน 4 ของอินเดีย สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1459 เมื่อฤาษีท่านหนึ่งบอกแก่ Maharaja Rao Jodha ให้พระองค์สร้างเมืองขึ้นที่นี่ ป้อมจึงถูกเสริมเติมแต่งจนมีขนาดใหญ่มหึมา ภายในป้อมปราการคือพระราชวังที่งดงาม ที่ตกแต่งประดับประดาด้วยแก้วหลากสี แบ่งเป็นห้องขนาดใหญ่หลายห้อง ภายในป้อมยังเป็นจุดชมวิวเมืองสีฟ้าที่ดีอีกจุดหนึ่งเลยครับ
การเข้าชมด้านใน Mehrangarh Fort มีค่าธรรมเนียม 600 รูปี และหากต้องการถ่ายภาพภายใน Fort จะต้องเสียค่าธรรมเนียม 100 รูปีเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 09.00-17.00 น. ครับ
7. Jaswant Thada
Jaswant Thada สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1899 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานความรั
Jaswant Thada อยู่ไม่ไกลจาก Mehrangarh Fort มากนัก เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. การเข้าชมด้านในมีค่าธรรมเน
8. Umaid Bhawan Palace
Umaid Bhawan Palace พระราชวังขนาดใหญ่ที่สร้างข
Umaid Bhawan Palace เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. โดยมีค่าธรรมเนียมในการเข้า
9. Step Well
Step Well บ่อน้ำโบราณที่สร้างขึ้นจากภูมิปัญญาของคนสมัยก่อน ต้องนับถือความคิดของผู้คิดสร้างจริงๆ ครับ ลักษณะของ Step Well จะเป็นบันไดแคบๆ อยู่โดยรอบบ่อน้ำโบราณ การออกแบบโครงสร้างที่ดูซับซ้อนในแต่ละจุด ก็จะมีจุดประสงค์เฉพาะที่แตกต่างกัน เช่นการออกแบบให้มีบันได้อยู่โดยรอบ ก็เพื่อจะได้ให้ชาวบ้านได้ลงไปในบ่อน้ำได้พร้อมกันทีละหลายๆ คน ส่วนที่สร้างให้เป็นบันไดแคบๆ นั้นเพื่อป้องกันการแซงคิว และจะมีจุดให้หยุดพักไว้เป็นระยะๆ ด้วย และถึงแม้น้ำจะแห้งแค่ไหน ชาวบ้านก็สามารถเดินลงไปยังที่ก้นบ่อได้ นอกจากประโยชน์ต่างๆ เหล่านี้แล้ว สิ่งที่ได้แถมมา ผมว่ามันคือความสวยงามของลวดลายที่เกิดจากขั้นบันไดนี่แหล่ะครับ
Step Well ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่า ไม่เสียค่าธรรมเนียมในการเข้าชม นักท่องเที่ยวสามารถเดินลงไปยังด้านล่างของบ่อโบราณได้อีกด้วยครับ
10. Pachetia Hill
Pachetia Hill นับเป็นจุดที่สามารถชมพระอา
11. Ranakpur
Jain Temple
Ranakpur
Jain Temple เป็นวิหารของศาสนาเชน ในเมือง Ranakpur อยู่ระหว่างเส้นทางจาก
Jodhpur-Udaipur สร้างขึ้นโดยคหบดี Dharna Sah เมื่อราว 500 ปีก่อน
เพื่อถวายแด่องค์ Adinath ศาสดาองค์แรกของศาสนาเชน
ภายในวิหารประกอบด้วยห้องโถ
Ranakpur Jain Temple เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 12.00-17.00 น. โดยมีค่าธรรมเนียมในการเข้า
12. Kumbalgarh Fort
Kumbalgarh Fort แห่งเมือง Kumbalgarh เป็นอีกหนึ่งป้อมปราการที่มีความยิ่งใหญ่ กำแพงป้อมเลาะไหล่เขายาวถึง 36 กิโลเมตร กำแพงส่วนหน้าหนาถึง 15 ฟุต ลักษณะคล้ายโอ่งคว่ำ สร้างและออกแบบโดยเจ้าชาย Kumbhal ภายในป้อมมีวัดมากถึง 360 วัด นอกจากนี้ยังเป็นที่หลบภัยของเหล่ากษัตริย์จากการรุกรานของโมกุล หลังการล่มสลายของ Chittorgarh Fort รวมถึงเจ้าชาย Udai Singh ที่หนีมาตั้งแต่ยังเป็นทารก จนพระองค์เติบโตมาครอบครองราชบัลลังก์ และสร้างเมือง Udaipur ป้อมแห่งนี้เป็น 1 ใน 6 ป้อมปราการแห่งราชาสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.2556 มาเที่ยวที่นี่ให้อารมณ์เหมือนไปเที่ยวกำแพงเมืองจีนเลยครับ
Kumbalgarh Fort อยู่ระหว่างเส้นทางจาก Ranakpur-Udaipur เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. โดยมีค่าธรรมเนียมในการเข้าชม 600 รูปี (รวมค่าธรรมเนียมกล้องแล้ว) สำหรับใครที่ต้องการจะชม Light & Sound จะต้องซื้อตั๋วต่างหาก จะเริ่มแสดงตั้งแต่เวลา 18.45-19.30 น. ครับ
Udaipur ราชธานีแห่งที่สองของอาณาจักรเมวาร์ (Mewar) สร้างโดย Maharaja Udai Singh II ในยุคนั้น Udaipur เรียกกันในนามอาณาจักรมีวาร์ (Mewar) มหาราชาผู้ปกครองเมืองต่อสู้อย่างหนักเพื่อครองอำนาจการปกครองตนเองโดยไม่ยอมตกอยู่ภายใต้อำนาจของราชวงศ์โมกุลเหมือนเมืองอื่นๆ ในแถบนี้ และรักษาเอกราชประคองตัวผ่านการคุกคามของอิทธิพลโมกุลและผู้รุกรานจากต่างแดนมาหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งต้นศตวรรษที่ 19 การเข้ามามีอิทธิพลเหนืออินเดียของอังกฤษก็ยากที่จะต้านทาน ถึงกระนั้นก็ยังมีการลงนามในสนธิสัญญาปกป้อง Udaipur จากผู้รุกราน คุ้มครองตัวเองมาได้จนถึงการประกาศอิสรภาพของอินเดียในปี ค.ศ.1947 Udaipur ก็ต้องเข้ารวมเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอินเดียยุคใหม่ในที่สุด เมือง Udaipura ตั้งอยู่ริมทะเลสาบพิโชล่า (Lake Pichola) เป็นเมืองที่สุดแสนจะโรแมนติกเลยครับ เพราะเมืองนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของทะเลสาบ พระราชวัง และน้ำพุที่สวยงาม จนได้รับการยกย่องว่าเป็น “Venice of The East” ผมชอบบรรยากาศเมืองนี้มากๆ ยิ่งช่วงเย็นๆ แดดร่มลมตกนี่ สวยงามอย่าบอกใครเชียว
13. City Palace
City Palace หรือพระราชวังฤดูหนาว เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นจ
City Palace เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 09.30-17.30 น. ค่าธรรมเนียมในการเข้าชม 300 รูปี (รวมค่าธรรมเนียมกล้องแล้ว)
14. Jack
Mandir
Jack
Mandir ท่ามกลางความสงบของ Lake Pichola ยังมีเกาะ 2 เกาะ
เกาะแรกเป็นที่ตั้งของ Lake Palace เดิมเป็นพระราชวังฤดูร้อน
ปัจจุบันได้ปรับปรุงให้เป็น
ด้านบนของ Jack Mandir ให้บริการคล้ายๆ Cafe นักท่องเที่ยวสามารถไปนั่งจ
15. Jagdish Temple
Jagdish Temple วัดฮินดูเก่าแก่ที่มีอายุกว
Jagdish Temple ไม่เสียค่าธรรมเนียมในการเข
16. Chittorgarh Fort
Chittorgarh Fort อดีตเมืองหลวงและยังเป็นป้อ
Chittorgarh
Fort เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 04.00-22.00 น. โดยมีค่าธรรมเนียมเข้าชม 600
รูปี แต่ช้าก่อน หากยื่น Passport ไทย จะได้รับส่วนลดด้วย
โดยจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าชมไ
17. Hawa Mahal
Jaipur เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ให
Hawa Mahal เป็นหนึ่งในหลายพระราชวังที
18. Patrika Gate
Patrika Gate เป็นประตูเมืองลำดับที่ 9 ของชัยปุระ สร้างโดยเจ้าของหนังสือพิมพ
19. Amber Fort
Amber Fort เป็นป้อมปราการหินทรายแดงที
20. Jal Mahal
Jal Mahal เป็นพระราชวังกลางน้ำที่ตั้
ท้ายสุดนี้ เพื่อนๆ สามารถเข้าไปให้กำลังใจและติดตามผลงานของผมเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/unclegreenshirt นะครับ
ลุงเสื้อเขียว
วันพฤหัสที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 09.09 น.