Hoi An | ฉันมาเพื่อ "คิดถึง" เธอ

Hoi An ฉันมาเพื่อ "คิดถึง" เธอ

✈️ -- การเดินทาง --
นั่งจากสนามบินดอนเมือง - ดานัง ไป - กลับ 3030 บาท นกสีแดง FD 634, FD 639 ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง กับอีก 45 นาที

-- สรุปค่าใช้จ่าย --
- ค่าเครื่องบิน 3030 บาท

- ค่าแท็กซี่จากสนามบินดานัง - โรงแรม 300,000 VND หรือ 396 บาท

- ค่าแท็กซี่จากโรงแรม - สนามบินดานัง 300,000 VND หรือ 396 บาท

- ค่าที่พัก Long Life Riverside Hotel & Spa วิวสวย ฟรีอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่และ Wi-Fi ราคา 1,600,276 vnd (รวม vat แล้ว)

- ค่าซิมเน็ต 399 บาท ใช้ได้ 6 GB ภายใน 8 วัน

- ค่ากิน 4,000 บาท (ไม่รวมของฝาก)

-- จุดหมาย --

🗺 เที่ยวไหนดี?

📌 วิถีชีวิต
📌 เมืองเก่าฮอยอันและริมฝั่งแม่น้ำทูโบน (Hoi An Ancient Town)
📌 ตลาดกลางคืน (Hoi An Night Market)
📌 เทศกาลโคมไฟ (Hoi An Full Moon Lantern Festival)
📌 สะพานแม่น้ำทูโบน (The town bridge)
📌 สะพานญี่ปุ่น (Japanese Covered Bridge)
📌 บ้านเก่าโบราณ Tan Ky

กินอะไรดี?

📌 ร้าน The Home Roastory Coffee
📌 ร้าน KING COFFEE
📌 ร้าน MOT HOI AN
📌 ร้าน Fai of Coffee
📌 ร้าน ART toilet resterent & coffee
📌 Street Foods
📌 จิบเบียร์ท้องถิ่น

-- กิจกรรม --

- กลางวันเดินชิว แวะชิม
- ถ่ายไฟตลาดกลางคืน
- จิบเบียร์ท้องถิ่น ชมบรรยากาศริมน้ำ
- ฟังเพลงโปรด

-- ข้อควรระวังสำหรับการเดินทางคนเดียวในเวียดนาม --

1. ระวังจะมีความสุขเกินไป จนลืมความเหงาที่มาพร้อมกับเรา
2. ระวังจะหลงรัก จนต้องกลับมาเที่ยวเวียดนามอีกครั้ง
3. ระวังจะผูกพันธ์ กับความทรงจำที่เวียดนาม

ทำไมต้องมา...ฮอยอัน

เคยได้ฟังเพลงนึง ที่ mv เพลงถ่ายกันที่ฮฮยอัน พอได้กลับไปฟังเพลงนั้นแล้วก็นึกถึง ฮอยอัน แต่เอาเข้าจริงที่ฮอยอันเขามีอะไรที่ดึงดูดให้ลองมาเที่ยว ใช้เวลาครึ่งวันหรือหนึ่งวันก็เพียงพอ แต่เราไม่..เราเน้นเสพความสโลไลฟ์ มาชิว มาดื่ม มาเดิน มานอนโง่ๆ มากันเถอะ การเดินทางก็ง่ายและสะดวก

ครั้งแรก...การเดินทางต่างประเทศ "คนเดียว"

เป็นความตั้งใจที่จะเขียนรีวิวนี้เป็นพิเศษ เพราะสักครั้งในชีวิตถ้ามีโอกาสได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำมันคงจะดี จึงได้เกิดเป็นทริปนี้ขึ้นมา...เราใช้ความตั้งใจนี้ทำให้เกิดเป็นความทรงจำที่ดี ระหว่างการใช้ชีวิตอยู่ที่ Hoi An...เอาจริงๆ ทริป Hoi An-ฉันมาเพื่อ "คิดถึง" เธอ ชื่ออาจจะทำให้คิดถึงใครสักคนตอนที่มาที่นี่ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้น ตอนที่อยู่ที่ Hoi An ฉันคิดถึงเธอจริงๆ นะ และก็ทำให้เราค้นพบความสุขใจจากการเดินทาง การได้ออกไปเที่ยว คือการได้เป็นตัวเองมากที่สุด ด้วยการใช้ชีวิตสโลไลฟ์ที่ Hoi An | 3 วัน 2 คืน |

เอาหล่ะ...เข้าเรื่องกันเลย....สาระกันหน่อย

ฮอยอัน หรือ โห่ยอาน (เวียดนาม: Hội An) เป็นเมืองขนาดเล็กริมฝั่งทะเลจีนใต้ทางตอนกลางของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดกว๋างนาม ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมืองฮอยอันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 23 เมื่อปี พ.ศ. 2542 ที่เมืองมาร์ราเกช ประเทศโมร็อกโก ปัจจุบัน ฮอยอันยังคงเป็นเมืองขนาดเล็กเช่นเดิม แต่ก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนเป็นจำนวนมาก ผู้มาเยือนมักมาเยี่ยมชมร้านค้าขายผลงานทางศิลปะและหัตถกรรม ริมฝั่งแม่น้ำมีอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ บาร์ และร้านอาหารเปิดเรียงรายอยู่มากมายซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าใช้บริการ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกที่มีอยู่มากมาย (ข้อมูล : วิกิพีเดีย)

เริ่มต้นเดินทาง......

จากสนามบินดอนเมืองตอน 7.15 น. ตรวจสอบวันหมดอายุ Passport ของคุณ อย่างน้อยควรมีระยะเวลา 6 เดือน แล้วทำการเช็คอิน หากใครไม่มีกระเป๋าสัมภาระให้โหลด สามารถเช็คอินผ่านแอพพิเคชั่นได้ แล้วนำบาร์โค็ดไปสแกนเพื่อรับแท็กหรือตั๋วที่นั่งจากเครื่องออกตั๋วที่นั่งอัตโนมัติได้เลยไม่ต้องเสียเวลาไปต่อคิวที่เคาร์เตอร์แถวยาวๆ (เราชอบสายการบินนี้เพราะตรงนี้แหล่ะ) อ๊อ!! สายการบินนี้เขาฟรีกระเป๋าติดตัวสำหรับน้ำหนักไม่เกิน 7 kg. ด้วยนะ

เดินไปยัง Gate ที่ระบุในตั๋วเครื่องบิน แล้วก็นั่งรอเวลาสบายใจที่ไม่ตกเครื่องแล้ว

นั่งข้างๆ คุณลุงฝรั่ง

แล้วก็ได้เหยียบพื้นดินประเทศเวียดนาม ถึงสนามบินดานังเวลา 09.35 น. ซึ่งเวลาเวียดนามตรงกับเวลาที่ไทย ประเทศเวียดนามไม่ต้องมีวีซ่าและไม่ต้องเขียนใบผ่านเข้าเมือง...เดินตามคนข้างหน้าไปเรื่อยๆ ... ตม. ที่นี่แทบจะไม่ถามอะไรเลย ดู Passport แล้วก็ผ่านเข้าประเทศได้เลย

ที่สนามบินมีจุดบริการสำหรับคนที่ไม่ได้เตรียมซิมเน็ตมา มีให้เลือกหลายค่าย

ออกมาจากสนามบิน เริ่มจะตื่นเต้นเข้าไปทุกทีแล้ว เดินหาป้ายชื่อจากคนขับรถที่รอรับ เพื่อไปยังโรงแรม

หรือถ้าใครชอบความแอดแวนเจอร์หน่อยก็นี่เลย รถประจำทาง ระหว่างนั่งรถแท็กซี่เข้าเมือง ก็เจอรถประจำทางคันสีเหลือง คาดว่าปลายทางน่าจะไปยัง Hoi An

ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที ก็มาถึงที่พัก เลือกที่พักที่ใกล้สามารถเดินไปตลาดกลางคืนได้ และสามารถเดินกลับได้ ในช่วงที่สติไม่เต็มร้อยจากการดื่มเบียร์ที่นี่ ฮ่าๆ เพราะมาเที่ยวคนเดียว เราต้องเซพตัวเอง เหมาะมากที่จะมาพักที่นี่ เพราะมีอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ให้ แถมห้องพักยังกว้างขวาง

มีบริการบาร์ริมสระว่ายน้ำ

ส่วนของห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ทีวี ตู้เย็น ที่ชอบที่สุดคือปลั๊กไฟมีทุกจุด

ส่วนของห้องน้ำ ก็มีไดร์เป่าผม อ่างจากุซชี่ให้นั่งแช่นอนแช่ได้

สำหรับอาหารเช้าในแต่ละวันมีหลากหลายเมนูไม่ซ้ำกัน

อิ่มท้องยังไม่พอ นั่งมองวิวตอนเช้าๆ ได้อีก

ปอเปี๊ยะทอด อาหารประจำท้องถิ่น แป้งบาง กรอบ อร่อย ขอแนะนำเลย

ส่วนเมนูอื่นๆ เราอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี แต่มาที่นี่ทั้งทีก็ต้องลองให้ครบทุกเมนู

จบไปแล้วสำหรับเมนูอาหารเช้าที่โรงแรมเตรียมไว้ ซึ่งวันที่เราไป ไม่มีคนอื่นเลย เหมือนเปิดต้อนรับเราคนเดียว

📌 วิถีชีวิต

🚴 แล้วก็ได้เวลาออกมาสูดอากาศร้อนๆ แล้ว เอ่อ!! ร้อนจริงไม่ได้โม๊!! เปิดด้วยภาพการปั่นๆๆๆๆๆๆ ใครชอบปั่นก็มีบริการเช่ารถจักรยานในราคา 11 บาท/วัน

แต่ก็ใช่ว่าการปั่นจักรยานจะสามารถปั่นไปได้ทุกที่นะ ก็จะมีบางสถานที่ ที่ไม่สามารถปั่นเข้าไปได้ เช่นสะพานข้ามแม่น้ำทูโบนหน้าตลาดกลางคืนไปยังเมืองเก่า ยังไงก็ให้ระมัดระวังกันด้วยเน้อ

จะสังเกตุว่าตามท้องถนนของประเทศเวียดนามจะเต็มไปด้วยรถมอเตอร์ไซค์ และที่เวียดนามมีกฏจราจรจำกัดความเร็ว ขับได้ไม่เกิน 60 km/hr ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวัง

มีบริการรับจ้างปั่นสามล้อนำเที่ยวรอบเมืองฮอยอัน

มีบริการรับจ้างพายเรือนำเที่ยวรอบแม่น้ำทูโบน ราคาก็แล้วแต่จะต่อรองกับคนพาย ส่วนมากจะคิดเหมาลำประมาณ 200.000 vnd

📌 เมืองเก่าฮอยอันและริมฝั่งแม่น้ำทูโบน (Hoi An Ancient Town)

เมืองมรดกโลก ความคลาสิคที่นี่คือตึกเก่าสีเหลืองพาสเทล เขาว่ากันยังงั้นนะ 555 พอได้มาเห็นกับตาตัวเองจริงๆ ก็รู้สึกหลงรักความเป็นเมืองเก่ากับวิถีการใช้ชีวิตของคนที่นี่ พร้อมกับจักรยานคันเก่า กับความสโลไลฟ์ด้วยร้านค้า ร้านคาเฟ่ริมฝั่งแม่น้ำทูโบน

มุมแคบๆ ระหว่างตึกก็เป็นมุมถ่ายรูปได้แบบเก๋ๆ

แสงและเงา

หลบหน่อยรถป้าเบรคไม่ดี

ร้านน่านั่งเยอะแยะไปหมด

ร้านอาหารริมทางเดินก็เยอะ

Alone จริงๆ เพราะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวในเวลาแดดแรงแบบนี้

พอตกเย็นนักท่องเที่ยวก็เริ่มออกมาเดิน และนิยมนั่งเรือรอบๆ แม่น้ำทูโบน 1 รอบ

มาเป็นคู่ก็โรแมนติกดีนะ

📌 ตลาดกลางคืน (Hoi An Night Market)

บนถนน Duong Nguyen Hoang...เป็นถนนคนเดินกลางคืน มีร้านค้าและแสงไฟให้เดินชิคๆ ไปเรื่อยๆ พ่อค้าแม่ค้าเริ่มวางของขายตั้งแต่ 5 โมงเย็น พอช่วงแสงธรรมชาติหมดก็มีแสงไฟมาแทน คนก็เริ่มทยอยมาเดินกันเยอะขึ้น 1 ทุ่ม ก็เริ่มหนาหูหนาตาไปด้วยนักท่องเที่ยว (นี่ใช้คำพูดอย่างกะคนอายุ 40 ปี 555+) เปิดทุกวัน

วัด Chùa Long Thọ - TP Hội An - QN ตั้งอยู่ถนนตลาดกลางคืน

เดินไปทางไหนก็เจอแต่ความเป็นฮอยอัน... ฮอยอันยังไงหรอ..?
ตึกสีเหลืองพาสเทล เหมือน Copy Paste กันมา

สองข้างทางก็เต็มไปด้วยของกินท้องถิ่น มาแล้วก็ต้องลอง

มันฝรั่งทอดเสียบไม้ ราคา 30.000 vnd

โรตีกรอบ

กุ้ง หอย ปู ปลา เสียบไม้

ร้านนี้ขายขนมหวาน Local ส่วนผสม น้ำแข็งก้นแก้ว
แล้วตามด้วยถั่ว ราดด้วยน้ำตาลหรือกระทิ ตอนกินก็คนๆ ให้เข้ากัน
รสชาติก็ไม่ได้หวานมาก เย็นชื่นใจ

โรตีใส่ไข่อันนึงพี่

ร้านขายน้ำผลไม้ ขายดีจนคิวแน่น

มีร้านค้าของกิน ของฝาก เดินเล่นทั่วเมือง ถ่ายไฟกลางคืน ใช้ชีวิตสโลไลฟ์

📌 เทศกาลโคมไฟ (Hoi An Full Moon Lantern Festival)

เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าก็จะมาขายกระทงและโคมไฟ มีลอยกระทงในทุกๆ วัน ราคากระทง 10.000 vnd

📌 สะพานแม่น้ำทูโบน (The town bridge)

คนส่วนมากถ้ามาถึงฮอยอัน จุดเช็คอินสำหรับนักท่องเที่ยวคือสะพานข้ามแม่น้ำทูโบน ยิ่งเวลากลางคืนที่มีไฟประดับบนสะพาน คนยิ่งแน่น

📌 สะพานญี่ปุ่น (Japanese Covered Bridge)

สะพานไม้เก่าๆ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1593 สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมสายสัมพันธ์กับพ่อค้าชาวจีนในฮอยอัน
ชื่อสะพานภาษาเวียดนามแปลว่า "สะพานแห่งมิตรไมตรี" ถ้าจะเข้าไปข้างในต้องซื้อบัตรเข้าด้วยนะ

คนเยอะขนาดนี้ก็ต้องหาจังหวะดีๆ

วงจรเปิด

ทดลองบิน

📌 บ้านเก่าโบราณ Tan Ky

เป็นบ้านไม้สองชั้นที่สวยงามและเก่าแก่ที่สุดในฮอยอัน บ้านโบราณหลังนี้มีอายุราวๆ 270 ปี เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวถึง 3 ชาติคือ จีน ญี่ปุ่นและเวียดนาม เจ้าของบ้านเป็นเศรษฐีเก่าของเวียดนาม

📌 ร้าน The Home Roastory Coffee

ก่อนจะไปร้านนี้ ตั้งกล้องถ่ายมุมเดิม จุดเด่นของร้าน มีต้นไม้อยู่กลางร้าน ทำให้บรรยากาศภายในร้านได้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านตัวเอง สำหรับร้านนี้แนะนำให้ลองสั่งเมนู Coconut Coffee อร่อยจริง หอมกลิ่นน้ำมะพร้าว ร้านนี้มี 2 ชั้น เดินขึ้นบรรไดไปนั่งถ่ายรูปด้านบนก็ได้

หน้าร้านก็จะประมาณนี้

ราคาก็ถือว่าเป็นมิตร

เมนูที่อยากลองของร้าน Chocolate Banana ราคา 65.000 vnd
เสิร์ฟพร้อมกับ อเมริกาโน่สูตรทางร้าน ราคา 45.000 vnd

พอนั่งฟังเพลงพร้อมกับจิบกาแฟ ทำให้รู้สึกสบายใจดีจัง
อยากนั่งอยู่ตรงนี้นานๆ แต่อากาศไม่ค่อยเอื้ออำนวย
เลยลองสั่งเครื่องดื่มที่เป็นเมนูแนะนำสำหรับร้านนี้มาลอง

เมนูแนะนำสำหรับทางร้าน Coconut Coffee
อื้อหือ คือดี๊ดี หอมหวาน ละมุน อร่อย ให้ไปเลย 1000 คะแนน

📌 ร้าน KING COFFEE

ถัดจากร้าน The Home Roastory Coffee
มาทางซ้ายมือ ร้านนี้ตั้งอยู่หัวมุม ก็จัดกาแฟอีกสักแก้ว
ส่วนใหญ่การชงกาแฟเวียดนามมักจะไม่ใส่น้ำตาลเลย ก็จะได้รสชาติแบบกาแฟ๊ กาแฟ

📌 ร้าน MOT HOI AN

อยากจะบอกว่าเครื่องดื่มร้านนี้อร่อยมาก
เป็นน้ำสมุนไพร+ดอกบัว มีกลิ่นหอม สดชื่น
ดูดเข้าไปคำแรกถึงกับร้องว้าวเลย 555+
ราคาก็ไม่แพงแก้วละ 12.000 vnd คิวจะแน่นๆ หน่อย
ยืนรอแปปเดียวก็ได้กินแล้ว หน้าร้านก็ตกแต่งน่ารักด้วยนะ

📌 ร้าน Fai of Coffee

ไม่แปลกว่าทำไมคนถึงมาร้านนี้กันเยอะ ก็อาจจะเป็นเพราะว่า
ร้านนี้มีดาดฟ้าให้ขึ้นไปถ่ายรูปวิวเมือง เราก็เป็นเหยื่อด้วย
เดินเข้ามาสั่งเครื่องดื่ม แต่ไม่มีที่นั่งเลย ต้องรอเครื่องดื่ม 20-30 นาทีได้
เราสั่งเครื่องดื่มทิ้งไว้ แล้วก็เดินขึ้นไปเก็บภาพบรรยากาศด้านบน
แสงกำลังสวยเลย แนะนำให้มาช่วงเย็น เมนูแนะนำที่นี่ก็น่าจะเครื่องดื่มประเภท สมูทตี้

ถ่ายรูปด้านบนแล้วก็เดินมารับเครื่องดื่มที่สั่งไว้ก่อนหน้านี้
เมนู Smoothies Blueberry ราคา 68.000 vnd เย็นชื่นใจ หอมกลิ่นบลูเบอรี่

📌 ร้าน ART toilet resterent & coffee

แปลกใจว่าทำไมถึงตั้งชื่อร้านแบบนี้ พอเดินมาถึงหน้าร้านแล้วรู้สึกอยากเข้าไปนั่ง
แต่เสียดายไม่ได้เข้าไปดูห้องน้ำว่าเป็นยังไง ตรงบาร์สามารถนั่งมองวิว
และเห็นท่าเรือ Bến Tàu Du Lịch Sông Hoài
พนักงานก็แนะนำเมนูอาหารท้องถิ่นให้ นั่นก็คือ WHITE ROSE DUMPLINGS
ในราคา 85.000 vnd อือ..ก็รสชาติดีนะ
ต่อด้วยเครื่องดื่มติดเปรี้ยว Lemon Lassi ในราคา 55.000 vnd
อือ..ก็อร่อยอีกแหล่ะ แถมยังได้วิวแม่น้ำทูโบนอีกฝั่งบวกกับแบล็คกราวน์ภูเขา
อือ..เราชอบบรรยากาศแบบนี้จัง...เรา > แม่น้ำ > ภูเขา > ท้องฟ้า
มันได้อารมณ์แบบสบายใจ ได้ความอิสระ

WHITE ROSE DUMPLINGS อารมคล้ายๆ เกี๊ยวกุ้งเลย

Lemon Lassi สมูทตี้เปรี้ยวๆ ถูกปาก

📌 Street Foods

พิซซ่าเวียดนาม แป้งบางๆ ใส้กุ้ง หมู ต้นหอม ชิ้นละ 20.000 vnd

ขนมหวาน Local เจอร้านขนมหวานแบบนี้เยอะมาก

เกาหลา คืออาหารยอดนิยม เส้นจะใหญ่กว่าเส้นก๊วยเตี๋ยวบ้านเรา
ลวกๆ ใส่ผักเยอะๆ แบบแห้งๆ มีกลิ่นเครื่องเทศนิดๆ
ส่วนตัวอาจจะไม่ชอบ ในราคา 30.000 vnd
และก็กินไปได้นิดเดียว เก็บท้องไว้กินเมนูต่อไป

แหนมเนืองเวียดนาม ตัวแหนมรสชาติก็อร่อย แต่แผ่นแป้งนี่ดิ
จะกินยังไงกินไม่เป็น เพราะมันเป็นแผ่นแป้งที่บางๆ แข็งๆ
ที่ยังไม่ได้แช่น้ำ และก็ไม่มีน้ำให้เราแช่ด้วย
เอาว่ะ...กินแต่แหนมแล้วกัน คิดซะว่ากำลังกินลูกชิ้นปลาละกัน 555+
ส่วนน้ำจิ้มรสชาติจืดไปนิด ในราคา 50.000 vnd

อันนี้คืออะไรไม่แน่ใจ ก้อนกลมๆ โรยด้วยแป้งสีขาว

📌 จิบเบียร์ท้องถิ่น

สามารถหาร้านนั่งจิบเบียร์ชิวๆ ได้ทั่วไป ที่ร้านอาหารริมแม่น้ำทูโบน
เราเลือกร้าน Xoai mango mango เพราะคนไม่วุ่นวายดี
คอเบียร์แบบเราก็ไม่พลาดอยู่แล้วชิวจริงๆ
ขอเสนอ CRAFT BEER East West Brewing
ซึ่งถือว่าเป็นเบียร์ที่ได้รับความนิยมของที่นี่ รสชาติก็ดีเยี่ยม
งือ ติดใจเลย!! จิบเบียร์ไปฟังเพลงโปรด ฟิน ฟิน

EAST WEST PALE ALE เสิร์ฟพร้อมกับ Food Pairing
เป็นการจับคู่ไวน์กับอาหาร ถือเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งในการช่วยเพิ่มอรรถรส
ในการรับประทานอาหาร โดยเลือกจับคู่จากรสชาติและรสสัมผัส
ของอาหารและไวน์ในแต่ละเมนู เพื่อช่วยให้
การรับประทานอาหารให้อร่อยมากยิ่งขึ้น

(ข้อมูลจาก http://eastwestbrewing.vn/craft-beer/)

SUMMER HEFEWEIZEN ชอบสุดก็ขวดนี้แหล่ะ

ถึงขั้นซื้อกลับมาต่อที่โรงแรม

ส่วนกระป๋องกลมๆ หาซื้อได้ตามร้านขายตามทางเดิน
รถชาติจะเข้มข้นกว่าบ้านเรา กินเยอะขนาดนี้สติยังดี
ควรไปเขียนรีวิวเกี่ยวกับเบียร์ไหม 555+
ราคาก็แล้วแต่ร้าน 30.000-40.000 vnd

📌 ไม่อยากกลับเลย

เราตกหลุมรักที่นี่จริงๆ ถึงเวลาต้องกลับ แต่กับรู้สึกว่ายังไม่อยากกลับ

ถึงสนามบินดานัง

ตรวจสอบน้ำหนักกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่องทุกครั้ง

ก่อนเช็คอินขอแวะอีกสักร้านเป็นการทิ้งท้าย

Cappuccino Da ราคา 69.000 vnd

Pho Mai Tra Xanh ในราคา 35.000 vnd

Mousse Cacao ในราคา 35.000 vnd

อิ่มท้อง...เช็คอินแล้วเข้าไปใน Gate รอขึ้นเครื่อง

ภูเขาสวย..วิวจากสนามบินดานัง

บ๊าย บาย เวียดนาม แล้วเราจะกลับมาเจอกันอีก

จบไปสำหรับทริปนี้ ถือเป็นการพักผ่อนที่สร้างความทรงจำที่ดี

ขอบคุณ...
ผู้อ่านที่เข้ามาอ่านบันทึกเรื่องกิน เรื่องเที่ยว
อ่านแล้วถูกใจฝากกดแชร์ด้วยน๊า
สามารถติดตามการเดินทางอื่นๆ ได้ตามนี้
https://th.readme.me/id/LoveescapeJourney