5 พิกัด เที่ยวน่านหน้าฝน ฟินไม่แพ้หน้าหนาว

หลายคนอาจคิดว่าเที่ยวน่านหน้าฝนจะฟินเท่าหน้าหนาวไหม? เราได้พิสูจน์แล้วค่ะว่าน่านในฤดูฝนก็ฟินไม่แพ้ฤดูหนาวเช่นเดียวกัน เพราะในฤดูนี้เราจะได้สัมผัสความเย็นของไอฝนและสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติสวยงามมากมาย ดังนั้นหากใครที่อยากสัมผัสเสน่ห์จังหวัดน่านที่ถูกขนานนามว่าเป็นเมืองสโลว์ไลฟ์สามารถเดินทางในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เหมือนที่เราได้เที่ยวน่าน 2 วัน 1 คืนที่ผ่านมา และสถานที่แรกที่เราจะพาทุกคนไปเที่ยวก็คือ 'เสาดินนาน้อยและคอกเสือ'

(เสาดินนาน้อยและคอกเสือ)

(เสาดินนาน้อยและคอกเสือ)

"เสาดินนาน้อยและคอกเสือ” มหัศจรรย์ของธรรมชาติที่เกิดจากการทับถมของดินและน้ำกัดเซาะจนกลายเป็นริ้วรายที่แปลกตา อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติทางประวัติศาสตร์ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้เป็นโลเคชั่นถ่ายภาพชิคๆ ลงอินสตราแกรม ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอีกหนึ่งแห่งในจังหวัดน่าน ซึ่งเสาดินนาน้อยและคอกเสือตั้งอยู่ที่ตำบลเชียงของ มีระยะห่างจากตัวเมืองน่านประมาณ 66 กิโลเมตร

มีค่าเข้าชมด้วยนะคะ (คนไทย) ผู้ใหญ่ 20 บาท, เด็ก 10 บาท (ชาวต่างชาติ) ผู้ใหญ่ 100 บาท, เด็ก 50 บาท และ (ค่ายานพาหนะ) รถยนต์ 30 บาท, มอเตอร์ไซต์ 20 บาท, จักรยาน 10 บาทค่ะ

(ดอยเสมอดาว)

(ดอยเสมอดาว)

ชมวิวเสมอดอยที่ดอยเสมอดาว

สถานที่ท่องเที่ยวที่สองที่จะพาทุกคนไป ก็คือ “ดอยเสมอดาว” ซึ่งเส้นทางการเดินทางก็อยู่ไม่ไกลจากเสาดินนาน้อยและคอกเสือค่ะ อยู่ห่างกันประมาณ 15 กิโลเมตร ระหว่างทางจะเป็นทางขึ้นเขาแต่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเพราะในช่วงหน้าฝนนี้ถนนค่อนข้างโล่งทำให้ขับรถง่ายมากๆค่ะ และเมื่อเดินทางมาถึงดอยเสมอดาว เราตั้งใจว่าจะมากางเต็นท์นอนที่นี่เพื่อตอนกลางคืนจะได้ตื่นมาดูดาวกัน แต่ทางเจ้าหน้าที่ของอุทยานบอกว่าดอยเสมอดาวจะเปิดให้เข้าพักในเดือนตุลาคมเป็นต้นไปค่ะ เดือนกรกฎาคมยังไม่เปิดให้เข้าพักแต่สามารถเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ของดอยได้ตลอดค่ะ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของดอยเสมอดาวให้คำแนะนำดีมากแถมยังแนะนำให้พวกเราไปพักที่ดอยผาชู้ อยู่ห่างจากดอยเสมอดาวประมาณ 500 เมตรค่ะ ซึ่งที่ดอยผาชู้จะเปิดให้เข้าพักตลอดทั้งปี

(ดอยผาชู้)

(ดอยผาชู้)


นอนเต็นท์ที่ดอยผาชู้ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน

การเดินทางจากดอยเสมอดาวมายังดอยผาชู้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาที เมื่อเดินทางมาถึงดอยผาชู้เราไม่ต้องเสียค่าเข้าแล้วนะคะ เพราะค่าเข้าที่เราจ่ายไปตั้งแต่เสาดินนาน้อยสามารถเข้าได้ทั้งดอยเสมอดาวและดอยผาชู้ค่ะ เมื่อเดินทางมาถึงเราก็ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อจองเต็นท์ ค่าเต็นท์และอุปกรณ์เครื่องนอนทั้งหมด 345 บาทเท่านั้นค่ะ ซึ่งที่ดอยผาชู้นี้ยังมีร้านค้าและร้านอาหาร คอยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวด้วยค่ะ หรือถ้าใครอยากกินหมูกระทะบนดอยที่นี่ก็มีให้บริการด้วยเช่นกัน ชุดละ 450 บาทค่ะ

(ภาพกระซิบรักบันลือโลก)

สักการะวัดคู่บ้านคู่เมืองที่วัดภูมินทร์

หลังจากที่ลงมาจากดอยแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวต่อไปก็คือ ‘วัดภูมินทร์’ อีกหนึ่งแลนมาร์คที่นักท่องเที่ยวทุกคนให้ความสนใจ ซึ่งหลายคนอาจยังไม่รู้ว่าเมื่อก่อนวัดภูมินทร์เดิมชื่อว่า ‘วัดพรหมมินทร์’ เป็นชื่อของเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ผู้สร้างวัดแต่ภายหลังได้เพี้ยนมาเป็นวัดภูมินทร์ โดยภายในนั้นแปลกกว่าวัดอื่นตรงที่โบสถ์และวิหารสร้างเป็นอาคารหลังเดียวกันมีประตูไม้ทั้งสี่ทิศ มีการแกะสลักลวดลายโดยช่างฝีมือล้านนา อีกทั้งภายในโบสถ์ยังมีการจัดแสดงจิตกรรมฝาผนังที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนล้านนาตามพงศาวดารเมืองน่าน และสัญลักษณ์สำคัญก็คือภาพกระซิบรักบันลือโลกค่ะ ที่นักท่องเที่ยวชื่นชมและต้องถ่ายภาพคู่กับภาพกรักซิบรักบันลือโลกนี้

(Ma Ruay Cafe)

(Ma Ruay Cafe)

(Ma Ruay Cafe)

เช็คอินคาเฟ่เมืองน่านสไตล์ฮิปสเตอร์

เมื่อเดินทางเที่ยวสถานที่แลนมาร์คของจังหวัดน่านจนเกือบครบแล้ว ก็ขอมาเช็คอินคาเฟ่เมืองน่านสไตล์ฮิปสเตอร์บ้างค่ะ นั่นก็คือ Workboxes Cafe' และ Ma Ruay Café ซึ่งคาเฟ่ทั้งสองแห่งนี้มีสไตล์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ถ่ายรูปออกมาสวยไม่แพ้กันเลยค่ะ หากใครที่กำลังหาคาเฟ่ชิคๆ สองที่นี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ

ใครที่อยากเที่ยวน่านในหน้าฝนเราเชื่อว่าฟินแน่นอนค่ะ อีกทั้งระหว่างทางรถยนต์ก็ไม่เยอะ ทำให้การขับรถนั้นง่ายมากๆค่ะ อ้อ! ลืมบอกไปค่ะ การเดินทางในครั้งนี้เราใช้บริการรถเช่าจากเว็บไซต์นี้ค่ะ www.drivemate.asia ได้พูดคุยและสอบถามข้อมูลของจังหวัดน่านจากเจ้าของรถโดยตรงเลยนะคะ คนน่านใจดีมากๆ หากมีเวลาว่างจะกลับไปเที่ยวน่านอีกครั้งแน่นอนค่ะ :)







ยาดานา - Yadana

 วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.36 น.

ความคิดเห็น