เมือคืน เพื่อนคนอินเดียบอกว่าอยากลองใส่ชุดพื้นถิ่นของชาวไทยกวนดู วันนี้พ่อๆแม่ๆเลยจัดให้แบบเต็มยศ แถมยังชวนพ่อๆแม่ๆคนอื่นๆมาแต่งชุดไทยกวนไปเที่ยวด้วยกันอีก น่ารักที่สุดเลย

ชุดของชาวไทยกวนเป็นชุดสีเหลืองและดำ เราถามถึงความหมายของสีที่นำมาใช้บนผืนผ้า พ่อวีเจ้าของโฮมสเตย์บอกว่าสีเหลืองเป็นสีของย้อมผ้าที่ได้จากต้นถ่อน (ต้นไม้ประจำพื้นที่นาถ่อนนี่เอง)และใส่ผ้าซิ่นมัดหมี่สีดำ


ตอนนี้ชุดและพร็อบพร้อมแล้ว ไปลุย"3ดง"กันเลยค่ะ

"3ดง" ได้แก่ ดงป่ายูง ดงก้อม และดงยอใต้ 3 ดงนี้อยู่ในตำบลนาถ่อน เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงด้านการทำหัตกรรม

แรกที่เราไปเยี่ยมเยียน คือหมู่บ้านดงป่ายูง


การทอผ้ามัดหมี่ ชาวผู้ไทย
วันนี้เราได้พบกับพี่ใบคำ สุริยนต์ ผู้มีประสบการณ์ทอผ้ามัดหมี่มาแล้วกว่า 20 ปี


มัดหมี่ คือการเอาด้ายพุ่งไปมัดย้อม เพื่อกำหนดลวดลายของซิ่น พี่ใบคำเล่าถึงเสน่ห์ของผ้ามัดหมี่ว่า เป็นงานละเอียดคนทำต้องมีสมาธิอยู่กับการทอเพราะด้ายแต่ละกระสวยถูกกำหนดลวดลายไว้แล้ว ต้องระวังอย่าให้สลับกัน ไม่อย่างนั้นลวดลายจะผิด


ตอนนี้พี่ใบคำกำลังทอผ้ามัดหมี่ลายแก้วศิลามณี มีลายขอ(ลายของผ้าหมายถึงขออะไรที่เราอยากจะได้ และใช้ยึดอะไรติดด้วยกัน) พุ่มดอกไม้ (ใช้ในการบูชา) การทอครั้งหนึ่งจะได้ซิ่น 2 ผืน โดยใช้เวลา 6 วันในการทอ พี่ใบคำบอกว่าดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสานต่อภูมิปัญญาการทอผ้ามัดหมี่ให้ไม่สูญหาย แม้ตอนนี้ในหมู่บ้านจะเหลือคนที่ทอผ้ามัดหมี่เป็นกันอยู่ไม่กี่คน แต่พี่คำใบก็ยังมุ่งมั่นที่จะรักษาและสืบทอดการทอผ้ามัดหมี่ต่อไป


ตอกมัดใจ (เป็นชื่อที่น้องๆตากล้องตั้งให้) โดยชาวไทยกะเลิง

ไม่ไกลจากบ้านทอผ้ามัดหมี่ เราได้พบกับ พี่ไพรวัลย์ สุริยนต์ (ผู้ใหญ่บ้าน) ที่นี่ใช้ตอกที่ทำจากไม้ไผ่ป่าชุมชน เป็นอาชีพเสริมหลังจากการทำการเกษตร สมัยก่อนพวกเขาจะทำงานจักสาน เหลือใช้ก็เอาไปแลกกันกับพืชผักหรือข้าวของเครื่องใช้ บ้านไหนมีอะไรก็เอามาแลกกัน


จนเมื่อประมาณ พ.ศ.2525 เริ่มมีพ่อค้าเข้ามาสั่งผลิตภัณฑ์งานสานจากชุมชน เพื่อเอาไปจำหน่ายทั่วภาคอีสาน ทำให้วิถีชุมชนเปลี่ยนไปเข้าสู่กระบวนการค้าขายทำให้มีสินค้าหลากหลายมากขึ้น จนไม้ไผ่ถูกใช้จนเกือบจะหมด

เมื่อวิกฤตนำไปสู่การจุดประกายอะไรบางอย่าง
จากการที่ป่าไผ่หายไป นำไปสู่การส่งเสริมให้ปลูกป่าในชุมชน โดยเน้นการปลูกไม่ไผ่ ในหมู่บ้านนี้มีทั้งหมด 76 ครัวเรือน ทุกครัวเรือนต้องไปปลูกป่า ตั้งแต่นั้นมาก็มีกระบวนการจัดการป่าชุมชน โดยกติกาของชุมชน เป็นกติกาการใช้ร่วมกัน ตั้งแต่ การห้ามตัดเมื่อยังไม่ถึงเวลา เป็นต้น


เมื่อการปลูกป่ามาควบคู่กับการปลูกจิตสำนึก

มีเด็กๆเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นการปลูกฝังให้รักษ์ธรรมชาติและถ่ายทอดภูมิปัญญาไปในตัว เป็นการปลูกจิตสำนึกเด็กๆในชุมชน เด็กๆจะเห็นญาติผู้ใหญ่ทำตั้งแต่เด็กเห็นความสำคัญของต้นไผ่ว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่ครอบครัวของเขาใช้ในการทำมาหากิน ก็อยากจะทั้งอนุรักษ์ป่าและสืบต่อภูมิปัญญาการจักสานจากพ่อแม่ต่อไป

ผลิตภัณฑ์มีอะไรบ้าง

กระติ๊บข้าว กระเป๋าตังค์ กระเป๋าถือ กล่องใส่กระดาษทิชชู่ ฯลฯ มีแบบ Made to order ตอนนี้ขายดีมาก มีทั้งหมด 129 ครัวเรือนที่มาร่วมสานตอกไปด้วยกัน


ความพิเศษของการสานตอกที่นี่

เขารู้ว่าใช้ไผ่อายุเท่าไหร่มาทำอะไร อย่างกระติ๊บต้องใช้ไม้ไผ่อายุประมาณ 1ปี-2ปี ห้ามแก่หรืออ่อนกว่านี้ เพราะไม้ไผ่ในช่วงอายุนี้ความเหนียวที่พอดี ทำให้ผลิตภัณฑ์ขึ้นรูปได้สวย ไม่แตกหักง่าย


จากหมู่บ้านป่ายูง รถอีแต๊กพาเราเข้าสู่ดงที่ 2 คือ ดงก้อม
บ้านดงก้อม ชาวภูไทย ผู้เชี่ยวชาญในการทำลายมัดหมี่ และฝ้ายเข็นมือ


เราได้พบกับคุณยายคำใบ ศรีโคตร อายุ 80 ผู้เชี่ยวชาญในการทำลายมัดหมี่ และฝ้ายเข็นมือด้วยตัวเองทุกขั้นตอน บ้านของคุณยายตั้งห่างจากถนนใหญ่ บริเวณหน้าบ้านสงบร่มรื่น มีน้องควายกำลังแช่น้ำปลักคลายร้อนเป็นภาพที่หาได้ยากแม้ในชนบทที่อื่นๆ


ที่นี่มีการทำฝ้ายเข็นมือแบบโบราณตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนขั้นได้ฝ้ายเป็นเส้นพร้อมทอ

อี้วฝ้าย คือการเอาเม็ดฝ้ายออกจากดอกฝ้าย
ดีดฝ้าย ทำให้ฝ้ายฟู
ล้อฝ้าย เอาไปทำเป็นหลอด
เข็นฝ้าย เอาหลอดฝ้ายไปทำเป็นเส้น

เราอุดหนุนซิ่นผ้าฝ้ายฝีมือคุณยายคำใบ ในราคา 200 บาท คุณยายบอกว่าเมื่อก่อนไม่มีคนซื้อฝ้ายเข็นมือเขาบอกว่าไม่สวย แต่พวกเราเชียร์คุณยายและพี่ๆแม่ๆท่านอื่นอย่างสุดใจว่าให้กลับมาใช้ฝ้ายเข็นมือเถอะ เดี๋ยวจะช่วยขายเอง


บ้านดงยอใต้ หมู่บ้านผ้าขาวม้า ชาติพันธุ์กะเลิง

แม่พิมพ์พา แก่นจันทร์ 63 ปี ผู้ทอผ้าขิด และผ้าขาวม้า ผ้าขาวม้าที่นี่ทำจากฝ้ายแท้ มีความนุ่ม ระบายอากาศและซับเหงื่อได้ดี ปัจจุบันออเดอร์เยอะจนทำแทบจะไม่ทันเลยล่ะค่ะ


บ้านนาถ่อนนอกจากจะมีชาวไทยกวนแล้ว ยังมีชาวไทยกะเลิง และชาวผู้ไทย เป็นสถานที่ๆมีความหลากหลายของชาติพันธุ์ที่สามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย อย่างชาวไทยกวนไม่มีการทอผ้าเป็นของตนเอง ก็ใช้ผ้ามัดหมี่ของชาวภูไทย

เท่าที่ไปเที่ยว 3 ดงในวันนี้คิดว่าผลิตภัณฑ์หลายๆตัวยังไปต่อได้อีกไกล เป็นหมู่บ้านที่น่าสนใจมากๆ อยากให้มาเที่ยวกันนะคะ

บ่ายนี้มีกิจกรรมประมงแบบพื้นบ้านฝากติดตามด้วยนะคะ :)

#ThailandVillageAcademy #TheVillageStory #ชุมชนบ้านนาถ่อน #นครพนม

Pasiree Parichani

 วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 23.14 น.

ความคิดเห็น