สวัสดีทู๊กกกโคนนนนอีกครั้งงงงจ้าาาาาา!!
WELCOME TO BLOG ... ของเราอะเกนหลังจากหายไปนานร่วมครึ่งปี แฮร่
วันนี้เราไม่ได้พาทุกคนไปไหนไกลเลยละคะ เป็นทริปใกล้ๆง่ายๆที่ทุกคนสามารถกำเเบงค์สีแดงสองใบไปได้เล๊ยย แต่ในขณะเดียวกันเราอยากกระซิบทุกคนว่าก่อนไปลองเสริช์หาข้อมูลสักนิดจะได้ไม่พลาดแบบเราทริปแรกของเรา ส่วนใครอยากทราบว่าเป็นยังไงนั้นตามลิงค์นี้ไปเล๊ยยค๊าาาา เย้
เอาละคะไม่ล่ามเยอะแล้วเนอะ ไหนใครพร้อมลุ้นไปกับเราก็ตามมาเล๊ยยยย !!!!
.. ขั้นตอนการจิ้มตั๋วการเดิ
อ่อรถไฟสายนี้ชื่อว่ารถไฟสา
ก่อนอื่นเลยบอกก่อนว่าถ้าไม
1.แนะนำให้ตีกันกะผู้ร่วมทร
2.อีกวิธีถ้าไม่ลงตัวมีแต่อ
...รถไฟจะออกจากหัวลำโพงเวล
รถไฟออกตรงเวลามากนะ ตีระฆัง 3 ทีไม่มาออกเลย ถ้ามาไม่ตรงเวลาไม่ตกรถไฟแล
"ท่านอาจจะได้เที่ยวนครปฐมท
- - เฉลี่ยค่าใช้จ่าย - -
- ค่ารถไฟตลอดทริป คนละ 120 บาท
- ค่าอาหาร เฉลี่ยคนละ 200-300 บาท
รวมแล้วคนละไม่ถึง 500 บาท
เอาเลยนะ! พร้อมเที่ยวเเล้วก็ไปกันเล๊ยยยยย กรู๊วววววว......
SKIPP >> อย่างรวดเร็วเลยฮ่ะ
ทริปนี้เราเตรียมตัวมาพร้อมม๊ากออกจากบ้านตั้งเเต่ 05.43 [แหม!เหมือนเช้ามากมั้ง] พอมาแล้วยังเหลือเวลาให้อ้อยอิ่งอีกเยอะเลยเพราะรถไฟออก 06.30 น. คริคริ
นี่ขบวนรถที่เราจะนั่งไปเที่ยวกันนะคะ เป็นขบวนพิเศษเยยไม่ต้องไปแบ่งแยกตัดสายใยรักใดใดกับใครทั้งสิ้นน ฮ่าาาา
และนี่ก็คื๊ออ ผู้ร่วมชะตากรรมตามล่าหาน้ำตกกับเราในทริปนี้ ' มิ้ของเราเอง ' หรือที่คนรู้จักกันในนาม ' ยายติ๋ว ' ก่อนจะเริ่มก็ต้องแชะภาพที่ระทึกกันก่อน ฮรี่ๆๆ
เเละนี่คือเบ้าหน้าของน้องตั๋วนั่นเอง [ บอกแน้วมาไวมันจะมีเวลาเหลือให้อ้อยอย่างเง้ ]
บับบายนะหัวลำโพง [ ที่เห็นนั่นนิ้วมือไม่ใช่เเง่งขิงแต่อย่างใดนะคะ ]
ผ่านไปสักพักรถไฟก็แวะรับคนที่สถานีรถไฟสามเสนเป็นสถานีสุดท้ายก่อนที่รถไฟจะวิ่งย๊าวยาวแต่ไม่ยาวมากไปจอดที่เที่ยวที่แรกของทริปนี้ค่ะ
แกล้งเผลอหน่อยไม่รู้เลยว่ามีคนถ่ายรูปอยู่ บ้าชริงงงง...
บรรยากาศในขบวนรถไฟสายน้ำตกค่ะ คราวนี้เราลืมบอกเลยว่าเรามาจองตั๋วช้ามากๆเลยได้มาอยู่ม้ายขบวนชิดห้องน้ำเลยแต่ก็โอเคสะดวกดีค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
เหล่าผู้ร่วมชะตากรรมที่นั่งรออย่างมีความหวังว่าจะได้เจอน้ำตก [ ที่มีน้ำ ]
เราขออนุญาตแนะนำผู้ร่วมทริปอีกสองคน ซ้าย >> พี่บอยแฟนพี่แอม และ กลาง >> พี่เเอมที่เป็นแฟนพี่บอย ค้า
เบื่อผู้ร่วมทริปแล้วก็หันออกมาด้านนอกกันดีฟ่า คิคิ
เมื่อนั่งมองกันหนำใจแล้วก็ยังคงต้องนั่งมองกันต่อไปละคะ เพราะอีกนิดนึงก็จะถึงแล้วล่ะ....
ปู๊นนน ปู๊นน !! 07.45 น. รถไฟก็คลานถึงสถานีนครปฐมพร้อมกับสายฝนที่ทางเราได้มาเป็นของแถม อ่อที่นี่ทุกคนจะมีเวลาแวะพักกัน 40 นาทีนะคะ เราเเนะว่าให้เมเมดเวลาให้ดีๆเพราะถ้าฝนไม่ตกทุกคนจะต้องหยุดสต็อปถ่ายรูปกันอย่างแน่นอน ถ่ายนานเกิ๊นนนก็อดกิงงน๊าาาา แฮร่
ฝนโปรยลงมา โปรยลงมา....
อ่อ!เมื่อเราถึงสถานีนครปฐมถ้าต้องการจะไปเดินหาของกินลงท้องต้องเดินย้อนออกมาถึงจะเจอตลาดค้า
ครั้งนี้ฝนตกเลยได้รูปมาแค่นี้เอง ฮือออ
เมื่อทุกคนเดินออกมาจากสถานีหมุนตัวหันหลังกลับมาจะเป็นป้ายชื่อสถานี หมุนกลับมาอีกทีด้านหน้าของทุกคนจะเป็นตลาดนครปฐมเดินข้ามถนนไปทุกคนก็จะเจอของกินอร๊อยอร่อยเยอะมากแบบเยอะม๊ากกมากก ส่วนอะไรอร่อยนั้นเราจะพาทุกคนไปลองชิมกันค๊าาาาา....
มองจากสถานีออกไปจะเจอกับตลลาดและองค์พระปฐมเจดีย์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดนครปฐมนั่นเอง
เอาละคะ!หิวแล้วเนอะไม่รอช้าเดี๋ยวทุกคนจะจับเรายัดถุงขยะไปทิ้ง ไปหาของอร่อยกินกันเยยย เย้วววว
องค์พระปฐมเจดีย์ที่มองได้จากตลาดฮั้บ
และนี่คือร้านขนมที่อร่อยมากสำหรับ ' ง้วนไล้ ' ร้านนี้เอแคลร์ดีม๊ากกแบบม๊ากมากไม่มีอำนาจใดมาลบล้างได้เชื่อเราได้ เพราะขนาดเจ้าถิ่นเองยังคอนเฟริม์เลยว่า โค ตะ ระ เด็ด ทากทาก
เด็ดมากก็จัดมา 2 กล่อง [ น้องเป็นเอแคลร์นมสดเราเลยตุนไม่ได้เพราะเรามารถพัดลม ] เเต่ใครที่มารถส่วนตัวเราแนะนำว่าเเค่สองไม่พอกินแน่นอนค่ะ พูดจากใจไม่ได้ค่านายหน้าเด็ดมากไปลองง
องค์พระปฐมเจดีย์ใกล้ๆกันอีกสักใบก่อนจะหมดเวลา
ขุ่นพระ !!! มือทาบอกมังคุดโลละ 15 บาท คูมนายมิ้ก็ซื้อสิคะรอไรเล่าา ถถถถถถ
ส่วนคุณลูกแบบเราก็หันมาให้ความสนอกสนใจกับชาเขียวปั่น ที่นี่เราให้ผ่านมันดีย์มากในราคา 30 บาท
อย่าปล่อยผู้หญิงไว้กับของกินเราว่าวลีนี้ดีค่ะ เพราะถ้าปล่อยไว้ก็จะเพ่นบั่บเน้ แฮร่...
เมื่อท้องกำลังจะอิ่มก็ต้องรีบวิ่งคาร์ดิโอมาขึ้นรถไฟจะไปน้ำตกกันต่อ โก โก โก ....
ก่อนจะไปก็ขอลั่นรูปเช็คอินน์ที่คอนถมกันโหน๊ยยยยยยยย เย้วววววววว
รัก นะ นคร ปฐม
ถ้าพร้อมแล้วก็ขึ้นรถไฟเตรียมไปสถานีต่อไปกันเถอะค่ะทู๊กกกโคนนน!!!
บั๊บบายนครปฐมม
ตอนเก้าโมงนิดนิดเราถึงสถานีหนองปลาดุกรถไฟเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย ยังไงก็ขอให้ผู้สบเหตุหายไวๆนะคะ
เอาละคะ เรื่องไม่ดีผ่านไปก็เตรียมใจไปเที่ยวกันต่อเย๊ยยยยยย
เเละเล้วเราก็มาถึงสะพานข้ามแม่น้ำแควซึ่งที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในทริปนี้ เราไม่แน่ใจว่ามาถึงสถานีกี่โฒง แต่ที่แน่ใจคือทุกคนจะมีเวลาเดินถ่ายรูป เดินซื้อของ 25 นาทีที่สถานีนี้ค่ะ
เเวะเช็คอินน์กันที่สถานีสะพานข้าวแม่น้ำแควกันหน่อย
ไปถ่ายยูปกันเย๊ยยยยยยย
เช็คอินน์ตาหยี คิคิ
ถ่ายแบบไม่เน้นโฟกัสหน้าแต่โฟกัสเกงแทนค้าาาาา ฮือทั้งทริปมีอยู่จิ๊ดนึงยังวืดอีก
จากจุดที่เรายืนถ่ายรูปเมื่อกี้มองออกไปก็จะเห็นวัดและรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมฝั่งตรงข้ามเยย
แอ๊ค แอ๊ค คลู คลู ให้เด็กมันดู ....
HOW TO : เช็คอินน์ยังให้คนกาญหันหน้าหนี คิคิ
เมื่อถ่ายรูปกันพอหอมปากหอมคอก็เดินออกมาไปช็อปปิ้ง ' พลอยเมืองกาญ ' กันหน่อยวิธีเดินมาก็ง่ายมากเลย เมื่อทุกคนเดินเลยออกมาจนถึงตรงที่มีน้ำขายเยอะๆให้ทุกคนสังเกตขวามือค่ะจะมีอาคารสีขาวอยู่พอเห็นเเล้วก็พุ่งตัวไปได้เล๊ยยย
มาถึงแล้วที่นี่มีให้เลือกหลายร้านมากเยย ใครถูกใจแบบไหนร้านใครก็ลองไปเดินเลือกดูได้เลยค่ะ
ส่วนทางเราก็ถูกใจจนกำลังจะจ่ายเงินซื้อแต่สัญญาณเตือนว่ารถไฟใกล้จะออกดังก่อน เลยทำได้แค่ยิ้มแห้งให้น้าเจ้าของร้านแล้ว 4X100 ไปขึ้นรถไฟ [ อีกแล้ว ] มานี่ทีไรไม่เคยจะได้เดินสวยๆขึ้นรถไฟสักที
มาถึงรถไฟก็อุ่นในเพราะเราไม่ได้มาช้าเเค่กลุ่มเดียว คิคิ
ขึ้นรถแล้วก็ได้เวลาบอกลาสะพานข้ามแม่น้ำแควไปต่อกันเเน้วววว
กำลังจะข้ามแม่น้ำเเควกันเเล้ววว....
ระหว่างรถไฟข้ามสะพานก็มีหนุ่มน้อยคอยส่งยิ้มให้ด้วยยยล่ะ
เห็นสีเขียวแล้วมันอดจะมินิฮารท์ให้ไม่ได้เลย
บรรยากาศบนรถไฟที่กำลังจะไปน้ำตก
นอกจากพี่ จากเพื่อน ก็มีครอบครัวนี่ละที่อยากไปไหนมาไหนด้วยกัน จริงไหม ?
วิวข้างทางสวยสวย กับ ประตูรถไฟ
หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง เราก็มามองวิวผ่านหน้าต่างกันม๊างงงงงดีฟ่าาาา
วิวริมทางกับเพื่อนใหม่ของเราเอง [ ไว้จะเเนะนำในรูปที่เห็นหน้าชัดๆนะคะ ]
ปล.แอบกระซิบเลยว่ารอยยิ้มออแกนิคม๊วกกกกกกกกก
แถมให้อีกใบก็ได้ในฐานะถ่ายรูปมาเยอะ ฮ่าาาาา
เหมือนครั้งที่เเล้วเลยค่ะ คือนั่งต่อไปได้สักพักก็จะมีบริการขายตรงจากทางรถไฟนำเที่ยวมาส่งเมนูให้ได้เสียทรัพย์กันเล่นๆก่อนกลับ
ตามระเบียบค่าาาทู๊กโคนนน มีช่องให้เสียเงินทางเราก็ไม่เคยปฎิเสธ ซื้อกันเก่ง กินกันเก่งงงง
ณ.ตอนนี้ทุกท่านกำลังจะเดิน
เมื่อรถไฟเคลื่อนมาถึงช่วงต้นสะพานแล้วก็จะเติมน้ำมันตราเต่าติดยางมะตอย [ หมายถึงว่ารถไฟจะขับช้ามาก ] เพื่อให้ทุกคนได้เก็บภาพความประทับใจกันเเบบจุกๆไผเลยยย
อ่อ!!!เกือบลืมเลยว่าที่ทุกคนเห็นเป็นทางซ้ายมือของรถไฟนะคะ
ถัดจากแม่น้ำแควมาเราก็จะเจอกับป่าอเมซอน ที่ไม่ใช่คาเฟ่อะเมซอน กันละคะ
หน้าตึง ลมผึ่งหน้า กับมนุษย์มิ้ คิคิ
ด้านซ้ายกันไปเเล้วด้านนี้เป็นฝั่งขวาที่มีหน้าผาศักดิ์สิทธิ์หรืออะไรทำนองนี้ให้เราได้จับกันด้วย ถือว่าเป็นจุดไคลเเมกซ์ของรถไฟสายนี้เลย มาถึงเเล้วก็ต้องได้สัมผัสกันนะคะ
เเละใช่ค่ะ!ใครเขาเชื่อ ใครเขามู บ้าหน่าา ก็แค่มาเเล้วหน้าต่างจิ๋วขนาดไหนก็ต้องได้แตะแหละ มานะมานีปิติชูใจม๊ากกยอมมมม
พอหอมปากหอมคอกันเเล้วก็ไปกันต่อเย๊ยยยย คัมมอล!!!
ตามสัญญาเนอะ ...
พี่สาวเพื่อนร่วมทางคนใหม่เราเอง ' ชื่อ พี่ไฮดร้า ' ค่ะ พี่เค้ามาจากใต้สุดของไทยเลยนะ
เดี๋ยวจะไม่เชื่อกันว่ายิ้มพี่เขาออแกนิคจริงๆ เลยแถมยิ้มหว๊านนนหวานให้อีกใบ ><
นั่งกันมาได้สักพักดูท่าพี่ฟ้าเขาครึ้มมาเลย ไม่สิเรียกว่าพี่เขามืดเลยดีกว่าอยากเอาไฟส่องหน้าแต่กลัวว่าพี่แกจะปรอยลงมานี่ละสิคะ แฮร่
ฝนปรอยลงมา ปรอยลงมา ปรอยลงมา [ ยังหรอ อ๋อเคเค ] รีบไปนี้สสสส
นี่!!คิดว่าเมื่อไหร่จะถึงอะ [ ไม่มีใครพูดแต่หนุงจะซิ่งเเล้วน๊าาา ]
ฟิ้วววว วววว.....
บอกแล้วว่าจะซิ่ง ถึงน้ำตกไทรโยคกันแล้วคราวนี้มีใสไหลเย็นเห็นตัวปลาให้เราได้ชื่นใจ๊ หลังจากมารอบที่แล้วเป็นเจ้าของอุทยานนกที่เจอแค่วิญญานน้ำตก
แนวตั้ง....
แนวนอน...
เราขออนุญาตเเชร์ทริคการถ่ายรูป ให้น้ำตกดูฟุ้งๆชวนฝันแบบที่เราชอบทำในบล๊อคที่ผ่านมารวมถึงภาพนี้
ขั้นเเรกคือทุกคนต้องหากล้องที่เราเช็ตค่าต่างๆเองได้ [ ในกล้องมือถือ Vivo เป็นโหมดมืออาชีพ]
เมื่อทุกคนหาโหมดนั้นเจอแล้วจัดการเซ็ตคร่าวๆตามเราได้เลย
- หาสปีตชัตเตอร์เลยค่ะ [ .../... ] พยายามให้ค่าให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะถือได้นะคะ เช่น 5/100 ยิ่งเลขด้านหน้าต่ำเท่าไหร่สายน้ำจะยิ่งนวล
-ต่อมาหาค่ารูรับเเสงเลยค่ะ [ F.ตามด้วยเลข ] ต้องใช้ค่า F สูงนิดนึงคือเลขเยอะๆเลยจะทำให้กล้องเรารับเเสงได้เเคบลงภาพเราจะได้ไม่สว่างจนเกิน
เท่านี้ก็จะได้ภาพสไตล์เราแล้วค่ะ
เเนวตั้งไปแล้ว แนวนอนก็มี ก็ต้องโคสอัพสิเนอะขาดไม่ได้เลย อิอิ
เช็คอินน์สไตล์เรา
แตะน้ำหน่อยนิดนึง ให้รู้ว่ามาแล้วจ้าาาาาเเม่จ๋าาาาาาาาาาา
หย่อนขานั่งกันอีกสักนิดดีฟ่าาา
บริเวณเด็กเล่นน้ำ .....
เเต๊..
ในความจริงน๊านนน ........
พบคนขี้แอ๊คอยากลงน้ำเเต่ไม่มีชุด 1 อัตรา ฮ่าาาาาาาาา
และบุคคลผู้ถ่ายรูปโฟกัสเท้ามากกว่าหน้า ....
เหม็นความรัก ชริ้!
ถ่ายรูปกันหน่ำใจก็ตบเท้า ไปหาที่ใช้เงินกันค๊าาาา
ระหว่างทางเดิน
ร้านนี้ของฝากน่ารักม๊วกกก เราเสียทรัพย์กันพอควร
ชาเขียวปั่นร้านที่ 2 จากทางเดินเข้ามาดีม๊ากก ในราคา 35 บาทไทย ชื่นใจ.....
หลังจากเสียทรัพย์บนน้ำตกพอหอมปากหอมคอ ก็เคลื่อนขบวนกันลงมาฝั่งตรงข้ามน้ำตกกันต่อ
ที่มิ้เรากำลังดื่มอยู่เป็นน้ำสมุนไพรค่ะ
สีน้ำประมาณนี้ กลิ่นเอาเรื่อง รสชาติค่อนทางทรมาณจิตใจเรา อุแง
ซิ่งกันอย่างรวดเร็วกลับมาขึ้นรถไฟข้ามสะพานเส้นทางประวัติศาสตร์กันอีกสักรอบ
นั่งเพลินเพลินรถไฟก็หันขบวนเตรียมกลับกรุงเทพแล้ว
...... เฮ้ออไวมาก ......
สวัสดีคุณท้องฟ้า วันนี้ดูอารมณ์ไม่ดีเลยน๊าาา
ขากลับนี่มืดกว่าขามาอีก แต่พี่ฟ้ายังใจดีไม่เทลงมาทำร้ายจิตใจเรา
นั่งกันมาเพลินๆเราก็มาถึงสถานีท่ากิเลน มาถึงตรงนี้รถไฟจะจอดให้เราเข้าห้องน้ำ ถ่ายรูป ยืดเส้นยืดสายกันประมาณ 10 นาที
เดินถ่ายรูปกันสักพักก็ต้องหาน้ำดับกระหายโดนกันไปถ้วนหน้าค่ะ 20 บาทไทย
ครบตามเวลาก็ขึ้นรถไฟเตรียมไปสถานที่เที่ยวสุดท้ายของทริปนี้กันเล๊ยยยยย โกโกโก....
ถึงเเล้วค่าาาาาา....
เดินมาด้านหลังสถานีก็จะเจอกับป้ายนี้ แล้วเราก็เดินกันต่อไปค่ะ
ใครใคร่ขึ้นรถขึ้นเลย ถัดไปทางซ้ายมือจากป้ายสถานีในราคา 10 บาทเท่านั้น
ส่วนทางเราเลือกใช้วิธีเดินมาค่ะ
ไม่ไกลมากเดินพอได้คาร์ดิโอนิดๆ ก็มาถึงสุสานมหารกันเเล้วละคะ
ด้านหน้าทางเข้าสุสานทหาร
มุมเสยแบบช๊าดชัดกันอีกสักภาพ เนอะ
ด้านในทางเข้าบริเวณซุ้มหันไปทางซ้
บริเวณภายในสุสาน เงียบมากๆ สงบมากๆอีกเช่นกันค่ะ
เดินเข้ามาด้านในสุดก็จะเห็นไม้กางเขนนี้ ตรงอยู่ตรงกลางสุสานเลยละคะ
อีกสักใบเป็นการส่งท้ายก่อนจะต้องกลับไปทำงานกันต่อ....
เดินกลับมาถึงสถานีรถไฟเราก็จำเป็นที่จะต้อง ' โบกมือลา ' กาญจบุรีกันเเล้ว เฮ้อ...
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกเลยเราต้องขึ้นรถไฟกลับกรุงเทพกันเเล้ว ไม่ดีเลยเนอะเวลาเเห่งความสุขมักจะผ่านไปไวเสมอเลย ใครที่ยังลังเลว่าจะออกมาเที่ยวดีไหม วันเดียวมันจะไปพออะไรเราเเนะนำให้ออกมาลองเที่ยวดูค่ะ ถ้าไม่คิดอะไรมาก็คิดว่ามาเปลี่ยนอากาศหายใจการอยู่กับอะไรเดิมๆนานๆมันทำให้เราความสุขเราน้อยลงจริงๆนะ
เอาเป็นว่า เราขอบคุณทุกคนนะที่ตามอ่านมาจนถึงตอนนี้ ขอบคุณมิ้ ขอบคุณผู้ร่วมทริปทุกคน เพื่อนใหม่ที่น่ารักของเรา เราก็ยังยืนยันคำเดิม ' ปลายทางมันไม่สำคัญเท่ากับระหว่างเราเจออะไร '
เราขออนุญาตปิดทริปอย่างเป็นทางการนะคะ
CAMERA SUPPORT :
MAIN BODY : CANON EOS 600 D + 18-55 MM
MAIN PHONE : Vivo V11 pro
บ๊ายบายและขอบคุณนะทุกคน
Camera Rasza
วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เวลา 21.26 น.