ขอโทษด้วยครับผมที่หายไปนาน พอดีช่วงที่ผ่านมางานเยอะมากๆครับและอยู่โอทีดึกหลายวัน

เลยมีอาการเพลียสะสมมากไปหน่อยครับ 5 5 5

วันนี้เรามาต่อกันเลยดีกว่าครับกับ . . .

ʕ≧ᴥ≦ʔ สอบ JLPT N5 ผ่าน ก็มาเที่ยวแดนปลาดิบได้ด้วยตัวเอง ʕ≧ᴥ≦ʔ EP.3

หลังจากนี้เราจะไปเที่ยวนอกโตเกียวกันบ้างครับและจะเล่าเรื่องของวันที่ 3 และ 4 เลยนะครับ

จะไปยังไงไปดูกันเลยคร้าบ . . .

DAY 3 ไปดูดอกไม้ไฟ เที่ยวโยโกฮาม่านิดหน่อย

วันที่สามหลังจาก Check Out ออกจาก Hostel ก็ต้องเดินไปโรงแรมที่จองไว้ในคืนที่ 3 และ 4 ครับ

ชื่อโรงแรมคือ THE KNOT TOKYO อย่างที่เคยบอกไปใน EP.2 ครับ

ช่วงที่เดินทางไปโรงแรมก็เดินไปเรื่อยๆครับ ระหว่างทางก็ได้ภาพมา 1 ภาพครับ σ(^○^)


จากภาพ. . . ที่เห็นธงโอลิมปิคแบบนี้ เพราะว่าที่ญี่ปุ่นในปีหน้าจะมีงาน โอลิมปิค 2020 นั้นเองครับ

。+゚.。+。(´ω`*)♪♪

ระหว่างทางที่เดินไปโรงแรมกเกิดหิวครับ เพราะยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่ตื่นนอน

ก็เลยแวะร้าน COCO (・∀・`;) เลยครับโผมมม

เข้าไปก็สั่งข้าวแกงกะหรี่หมูทอด ภาพก็ตามด้านล่างเลย . . .

แต่โดยส่วนตัวหลังจากที่ได้ลองกินแล้ว . . . ผมคิดว่ารสชาติเข้มข้นกว่าที่ไทยอ่า

หลังจากอิ่มแล้วก็เดินไปฝากกระเป๋าที่โรงแรม THE KNOT TOKYO SHINJUKU

(ปล. วันที่เข้าไป Check In เหมือนมีงานแต่งงานของคู่รักชาวญี่ปุ่น คนเยอะมากๆ)

ภาพด้านล่างเลยไปแคปภาพมาจาก Agoda นะครับผม

และห้องนอนจะเป็นประมาณนี้นะครับ

หลังจากฝากกระเป๋าทำธุระอะไรเสร็จเรียบร้อย

ก็ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเข้าไปในสวน SHINJUKU CENTRAL PARK ครับ

เดินผ่านสวนไปเรื่อยๆก็จะเจอกับตึก Tokyo Metropolitan Government

ผมจะไปตึกนี้เพื่อไปชมวิวของเมืองจากที่ชั้นชมวิวด้านบนครับ (*≧∀≦*)

ภาพด้านล่างนี้คือภาพที่ผมถ่ายมาตอนเดินในสวนครับ

เดินไปเรื่อยๆจะมี SKY WALK ครับ เราสามารถเดินข้ามไปได้เลย

ด้านล่างนี้ก็เป็นภาพทางข้ามครับผม ヾ(‘∀`=ヽ)※.;,゜☆

จริงแล้วข้ามไปจะมีทางลงให้เดินเข้าตึกเพื่อไปขึ้นลิฟท์ครับ

ตอนแรกผมไม่รู้เลยเดินวนรอบตึกไปตั้งสองรอบ ༼▃ Ĺ̯ ▃༽

กว่าจะเจอทางเข้าเพราะเหมือนผมหาป้ายไม่เจอ 5 5 5

ภาพด้านล่างก็คือเดินวนๆไปและก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ก่อนจะเจอทางลงเพื่อไปขึ้นลิฟท์นั้นเอง

หลังจากนั้นก็ไปต่อคิวขึ้นลิฟท์ไปชั้นชมวิวครับ นี้คือภาพที่ผมถ่ายมาจากชั้นชมวิวครับผม

จากภาพจะเห็นว่าหมอกลงมาเยอะมากๆเลย ทำให้ภาพที่ได้ไม่ค่อยสวยคร้าบ

หลังจากเดินเล่นอยู่ข้างบนสักพัก ป้าก็โทรมาครับบอกว่า "ป้ามาถึงโรงแรมแล้ว"

ก็เลยลงจากตึกเดินกลับมาหาป้าที่โรงแรมครับ พอถึงโรงแรมเพื่อนที่นัดกันไว้เมื่อวานก็มาถึงพอดีครับ

ก็เลยออกเดินทางโดยรถไฟใต้ดินไปเมือง YOKOHAMA ครับผม

พอถึง YOKOHAMA ก็รีบเดินไปตรงจุดชมดอกไม้ไฟกันเลย

เพราะเพื่อนที่มาด้วยแนะนำว่าถ้าไม่ไปจองที่ก็จะไม่มีที่นั่งดูดอกไม้ไฟเอานะ

และจุดชมดอกไม้ไฟในค่ำคืนนี้ก็คือ YAMASHITA PARK ครับ

วันที่ผมไปรอชมดออกไม้ไฟ ฝนตกลงมาแบบละอองๆครับ ไม่เปียกแต่รู้สึกเหนียวตัวมากๆเลย

(; ̄ー ̄川

และในบริเวณจุดชมวิวก็มีร้านค้า และ MINI CONCERT ด้วยครับ

ตามภาพด้านล่างนี้เลย คนเยอะมากๆเลย มีทั้งมาเป็นคู่ เพื่อน ครอบครัว

(´゚д゚`) (´゚д゚`) (´゚д゚`)

ระหว่างเดินไปหาที่นั่งเพื่อจองที่ชมดอกไม้ไฟของตัวเอง

ก็เจอเค้ากับเรือ HIKAWA MARU YOKOHAMA ครับ

/(=∵=)\ /(=∵=)\ /(=∵=)\

ตามภาพด้านล่างเลย ลำใหญ่มากๆ ซึ่งเรือลำนี้ได้ถูกดัดแปลงมาเป็นพิพิธภัณฑ์

ซึ่งสามารถเข้าชมเรือได้ทุกส่วนภายในเรือเลย แต่วันนั้นผมไปถึงจุดชมดอกไม้ไฟก็มีคนมาจองที่เยอะแล้ว

ก็เลยไปจองที่ก่อนดีกว่า . . . เลยไม่ได้ขั้นไปชมบนตัวเรือครับ

หลังจากหาที่นั่งชมดอกไม้ไฟได้แล้ว . . .

ซึ่งก็นั่งไปเรื่อยๆตั้งแต่บ่ายสามจนถึงเวลาเค้าจุดดอกไม้ไฟกันเลย 5 5 5

จริงๆคนญี่ปุ่นเค้ามารอกันตั้งแต่เวลานี้จริงๆนะ ถ้าไปช้ากว่านี้คือไม่มีที่นั่งแล้วอ่ะ

เพราะเค้าเอาเสื่อมาปูจองที่กันเลยทีเดียว . . .

และนี้ก็คือ วิดีโอที่ถ่ายดอกไม้ไฟมานิดหน่อย ตอนที่กำลังชมอยู่ครับ

และภาพที่ผมถ่ายมาตอนชมดอกไม้ไฟครับ

(จริงๆถ่ายมาเยอะมากๆครับ แต่มีแค่ภาพเดียวที่คิดว่าออกมาดีที่สุดแล้ว. . .(πーπ) )

หลังจากเดินชมดอกไม้ไฟเสร็จก็เดินฝ่าฝูงชนที่จะกลับบ้าน

เพื่อไปยังตึก YOKOHAMA RED BRICK WAREHOUSE ครับ

พอไปถึงร้านค้าก็กำลังจะปิดแล้วครับ เพราะกว่าจะเดินไปถึงก็ประมาณสามทุ่มครึ่งเข้าไปแล้ว

เลยถ่ายภาพตึกและก็นั่งพักดื่มน้ำสักหน่อย (´ヘ`;)

หลังจากนั้นก็ตัดสนใจเดินไปสถานีรถไฟเพื่อกลับโรงแรมครับ

ระหว่างทางเดินไปที่สถานีรถไฟก็หันมาเห็นมุมนี้ครับ มองไปมองมาก็คิดว่าสวยดีเลยถ่ายมาครับ

หลังจากเดินไปอีก 15 นาที ก็เจอกับเรือ NIPPON MARU ครับ

สมัยอดีตเรือลำนี้เป็นเรือไว้สำหรับฝึกทหารเรือของกองทัพเรือญี่ปุ่นครับ

ภาพก็ด้านล่างนี้เลยครับ . . .

หลังจากถ่ายภาพและเดินชมเรือ NIPPON MARU เสร็จ ก็เกือบสี่ทุ่มครึ่งครับ

ก็เลยรีบเดินไปสถานีรถไฟเพื่อขึ้นรถไฟกลับที่พักครับ

พร้อมบอกลาและขอบคุณเพื่อนที่พามาชมดอกไม้ไฟวันนี้ครับ (●>ω<●)

พอถึงที่พักก็ไปอาบน้ำ แช่น้ำอุ่นครับโผม

(┐「ε:)_三┌(.ω.)┐三_(:3 」∠)_

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ นอนบนเตียง นอนกลิ้งไปกลิ้งมา นอนไม่หลับครับ ไม่ง่วงเลยซ่ะงั้น

ก็เลย. . . ออกไปเดินเล่นแถวๆโรงแรมครับ

อากาศเย็นสบายๆครับ เดินไปจนรู้สึกง่วงก็วนกลับโรงแรม

เข้านอนเก็บแรงเพื่อออกเดินทางต่อวันพรุ่งนี้ครับ

(¦ꒉ[▓▓] (¦ꒉ[▓▓] (¦ꒉ[▓▓] (¦ꒉ[▓▓] (¦ꒉ[▓▓]

DAY 4 GO GO GO TO HAKONE ヾ(‘∀`=ヽ)※.;,゜☆

หลังจากตื่นนอนมาครับก็รีบอาบน้ำแต่งตัวเลยเพราะกลัวจะตกลงไฟ . . .

เพราะว่าวันนี้ ผมจองรถไฟสาย ODAKYU และจองรถแบบ ROMANCE CAR

สำหรับนั่งชมวิวระหว่างทางไป HAKONE ครับ ღවꇳවღ

(ปล. ผมซื้อตั๋วแบบ HAKONE FREE PASS นะครับ สามารถหารายละเอียดได้จากอินเตอร์เน็ตนะครับ

เพราะว่ามีคนรีวิวไว้เยอะมากๆเลย ทั้งใน YOUTUBE และ PANTIP ครับ)

แต่ว่าวันนี้ตื่นสาย. . . ออกมาช้าครับ ขนาดเผื่อเวลาไว้แล้ว 1 ชั่วโมงยังมาไม่ทัน

เพราะไม่ได้เผื่อเวลาสำหรับเดินหลงในสถานีและหาชานชลาสำหรับขึ้นรถไฟ

(ปล. เนื่องจากเดินเยอะมาหลายวัน วันนี้ก็เลยเริ่มมีอาการปวดหลังซ่ะแล้ว แต่เช้าเลย!!! )

สุดท้ายก็ตกลงไฟที่จองไว้ครับ มาช้าไป 1 นาที รถออกไปแล้วครับ

ก็เลยต้องซื้อตั๋วใหม่ครับ เป็นรถไฟธรรมดา เพื่อไปสถานี ODAWARA พอมาถึงสถานี ODAWARA

ก็เปลี่ยนรถไฟตามภาพด้านล่างเพื่อมาสถานี HAKONE YUMAMOTO ครับ

หลังจากมาถึงสถานี HAKONE YUMAMOTO แล้ว

ก็เปลี่ยนสายรถไฟเป็นสาย HAKONE TOZAN RAILWAY เพื่อนั่งรถต่อไปที่สาถานี GORA

พอมาถึงรถไฟกำลังจะออกพอดี หลังจากนั้นระหว่างทางถ่ายรูปรถไฟครับ

รถไฟ HAKONE TOZAN RAILWAY ตามภาพด้านล่างเลยครับ

พอเดินลงมาเพื่อถ่ายภาพด้านบนสักพัก ღවꇳවღ

รถไฟก็ปิดประตูและออกไปเฉยเลย และนี้ก็เป็นภาพที่ถ่ายตอนรถไฟออกจากสถานีไป . . .

(╥_╥) (╥_╥) (╥_╥) (╥_╥) (╥_╥)

(ปล. รถไฟตามรูปหยุดให้บริการไปแล้วนะ เพราะว่ารถเก่าแล้ว วันที่เราไปเห็นเค้าปิดป้ายว่า อีก 1 สัปดาห์จะปลดประจำการ ดังนั้นตอนนี้ถ้าใครไปเค้าเปลี่ยนเป็นรถไฟรุ่นใหม่แล้วนะคร้าบ )

ระหว่างรอขบวนถัดไป . . . ก็ถ่ายภาพสถานีกับดอกไฮเดรนเยียไปพลางๆ

หรือในภาษาญี่ปุ่นเรียกดอกไฮเดรนเยียว่า "อาจิไซ"

และภาพด้านล่างนี้คือรถไฟรุ่นใหม่ที่เข้ามาประจำการแทนครับ

หลังจากรอรถไฟไป 10 นาที เราก็มาถึงสถานี Gora

เพื่อเปลี่ยนไปขึ้น HAKONE TOZAN CARBLE CAR ตามมภาพด้านล่างเลย . . .

ภาพนี้ถ่ายตอนที่ HAKONE TOZAN CARBLE CAR กำลังไต่เขา Ϛ⃘๑•͡ .̫•๑꒜♬♫

พอมาถึงสถานีเพื่อขึ้น HAKONE ROUPWAY ต่อไปยอดเขาที่สถานี UBAKO STATION

เพื่อที่จะไปลองกินไข่ดำกันสักหน่อย . . . ปรากฎว่า HAKONE ROUPWAY

ไม่สามารถให้บริการได้เนื่องจากฝนตกและหมอกหนามากๆ

ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้ เค้าเลยให้ขึ้นรถบัสข้ามเขาไปยังท่าเรือ

พอมาถึงก็แวะเข้าห้องน้ำและกินข้าวก่อน หลังจากนั้นสักพักก็มีเรือเข้ามาเทียบท่าพอดี

ท่าที่ผมมาขึ้นเรือโจรสลัดก็คือ HAKONE PIRATE SHIP TOGENDAI PORT

ป่ะ. . . เราไปเป็นโจรสลัดกันสัก 15 นาที ⊂((≧⊥≦))⊃

ภาพระหว่างที่เหลือกำลังแล่นอยู่ในทะเลสาบ ASHI ตามด้านล่างนี้เลย . . .

และแล้วก็มาถึงท่าเรือ HAKONE SIGHTSEEING CRUISE

เพื่อที่เปลี่ยนมาขึ้นรถบัสไป MISHIMA SKY WALK

ระหว่างที่รอรถบัส ก็มาแวะซื้อซอร์ฟครีมรสเชอรี่

ก่อนมาญี่ปุ่นเพื่อนบอกให้มาลอง ก็คิดในใจว่ามันจะต่างอะไรกับที่ไทย

พอกินของญี่ปุ่นเข้าไปแค่นั้นแหละ อร่อย! มีรสให้เลือกเยอะกว่าด้วย . . .

ฟินไปเลยจ้าาา (*´∇`*)(*´∇`*)(*´∇`*)(*´∇`*)(*´∇`*)

พอรถบัสมาแล้วก็ขึ้นรถพร้อมไป MISHIMA SKY WALK กันเล่ยยยย

และนี้คือภาพตอนอยู่บนรถบัสและระหว่างทาง

นั่งยาวๆไปครึ่งชั่วโมง . . . ก็มาถึง MISHIMA SKY WALK

MISHIMA SKY WALK เป็นสะพานแขวนจริงๆเลย

ตอนเดินข้ามก็โยกตัวไปมา สะพานส่ายไปขวามั่งซ้ายมั่ง

และนี้ก็เป็นภาพบนสะพาน . . . .

ตอนเดินข้ามบนสะพานขอบอกว่าถ้าอากาศดีๆ จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากสะพานนี้ด้วยน้า

พอข้ามมาอีกฝั่งแล้วเดินตามทางเดินขึ้นไปจุดชมวิว ก็จะเจอกับวิวประมาณนี้

หลังจากชมจุดชมวิวแล้วเดินต่อขึ้นไปอีกหน่อย ก็จะเจอกับสวนดอกอาจิไซ

รู้มั้ยว่า . . . ดอกไม้ชนิดนี้จะเปลี่ยนสีของดอกไปตามแร่ธาตุของดินด้วยนะ

หลังจากเดินชมสวนดอกไม้เสร็จ ผมก็ข้ามสะพานกลับไปที่ทางเข้าเพื่อนั่งรถบัสกลับไปที่ท่าเรือเพื่อนั่งเรือต่อไปลงที่ท่าเรือถัดไปคือ LAKE ASHI CRUISE PIER เพื่อเดินไปศาลเจ้าที่อยู่ใกล้ๆ

และนี้คือทางเข้า ยังต้องเดินขึ้นไปอีกหน่อย. . .

แต่ตอนนั้นเวลา 4 โมงเย็นแล้ว . . .

เราเลยกลัวจะกลับไปไม่ทันรถไฟที่เราจองไว้ขากลับ เลยเดินออกไปเลย

เลยเดินออกมาระหว่างทางก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ และนี้ก็คือภาพที่ถ่ายมาครับ

หลังจากนั้นเราก็ขึ้นรถบัสกลับไปที่สถานี HAKONE YUMAMOTO อีกครั้ง

ก็นั่งรอรถไฟไปเรื่อยๆ ความพีคคือ ผมกับป้า นั่งรอผิดชานชาลา 555

พอถึงเวลาก็มีรถไฟเข้ามากำลังะเดินขึ้น ก็เลยเอาตั๋วให้นายสถานีดู เค้าบอกว่าคุณมารอผิดชานชาลา

ก็เลยต้องเดินไปอีกชานชาลาปรากฏว่า รถไฟขากลับออกไปแล้ว

(´゚д゚`) (´゚д゚`) (´゚д゚`) (´゚д゚`) (´゚д゚`)

นายสถานีที่ชานชาลา เค้าก็เลยเปลี่ยนตั๋วเป็นรถไฟรอบถัดไปให้

ก็เลยได้นั่งรถไฟขบวนถัดไปกลับมาที่สถานี SHINJUKU

หลังจากนั้นเปลี่ยนขบวนรถไฟต่อไปยังที่สถานีแถวๆโรงแรม

และก็อาบน้ำเข้านอน พร้อมกับความเหนื่อยของวันนี้ และคำพูดในใจที่ว่า ปวดหลัง . . .ไม่ไหวเลี้ยว!

(。´-д-) (。´-д-) (。´-д-) (。´-д-) (。´-д-) (。´-д-) (。´-д-)

tonabhs.a

 วันพฤหัสที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 00.21 น.

ความคิดเห็น