นิวออลีนส์
New Orleans, Louisiana
ข้อเท็จจริงที่ว่านิวออลีนส์ ไม่ได้ดังจากไก่!! หากพูดถึง New Orleans Legacy แล้ว คน(เมกัน)มักจะนึกถึงดนตรี Jazz, และความอุดมสมบูรณ์ของ Seafood
สิ่งที่ทำให้เราเลือกที่จะไปเที่ยวที่นี่ในช่วงเบรคจากการเรียนสั้นๆ คือ ความไม่เหมือนใครของเมืองนี้ เพราะมีความยุโรปสูงมาก เนื่องจากเคยเป็นอาณานิคมเก่าของฝรั่งเศสมาก่อน (จริงๆ คือตั๋วเครื่องบินถูกพอดีค่ะ แหะ) แล้วก็เป็นเมืองเล็กๆ เที่ยวง่าย เหมาะสำหรับ Backpacker/Solo Traveler หรือคนที่ไม่ใช้รถเดินทางเอง
NOLA เป็นชื่อเล่นสั้นๆ ที่คนทั่วไปมักจะรู้กันว่าหมายถึง New Orleans รัฐ Louisiana
.
Day 1 French Quarter - Frenchmen St.
ทริปนี้เราบินถึงนิวออลีนส์ตอนตีหนึ่งกว่าๆ รอบนี้พัก hostel กัน เพราะ Airbnb หายากมาก ส่วนโรงแรมเป็น luxury hotel ซะเยอะ Garden District House ตั้งอยู่ในแถบ residential หน่อยๆ เงียบสงบและเดินทางเข้า Downtown ไม่ลำบากเท่าไหร่ ถ้าไปถึงเลทแบบนี้ ต้องแจ้ง staff ล่วงหน้า โดยที่นี่เขาจะเสียบซองกุญแจไว้หน้ารั้วเลย พอไปถึงก็เข้าห้องพัก นอนเก็บพลังไว้เดินในวันถัดไป
ตารางวันแรกเราเน้นเดินเที่ยวเลยไม่รีบมาก ทานอาหารเช้า(ทำเอง)ที่ที่พักเตรียมไว้ให้ แล้วก็ออกไป French Quarter กัน เขตเมืองเก่านี้เต็มไปด้วยร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ โบสถ์ ซอยร้านบาร์แจ็ส
แวะไปที่ Jackson Square ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่ก่อน
จัตุรัสนี้ตั้งแต่อยู่หน้า St.Louis Cathedral ส่วนอีกด้านของสวนอยู่เกือบติดแม่น้ำ Mississippi ว่ากันว่าบริเวณนี้เคยเป็นที่ประหารของนักโทษสมัยก่อนเลิกทาส
กลางจัตุรัสเป็นที่ตั้งรูปปั้นของนายทหาร Andrew Jackson (ปธน. คนที่ 7 ของอเมริกา)
แถวนี้นักท่องเที่ยวเยอะมากกกกจริงๆ มีรถม้าให้บริการด้วย (ไม่ฟรี) เราเดินรอบๆ ชมสถาปัตยกรรมก็ว่าคุ้มมากแล้ว จะเห็นว่าตึกรามบ้านช่องที่นี่ไม่มีความอเมริกันเลย มาเมืองนี้ตรงไหนก็ดูเป็นยุโรปไปหมด มีคนบอกว่าตึกส่วนใหญ่เป็นสถาปัตกรรมจากทางสเปน (เคยตกเป็นอาณานิคมสเปนอยู่แปปนึง) แม้ว่าช่วงเวลาส่วนใหญ่แล้วจะถูกปกครองโดยฝรั่งเศส แต่อาคารที่สร้างสมัยฝรั่งเศสมายึดโดนเผาไปเยอะ
ถึงจะกินมื้อเช้าแล้ว แต่ก็ไม่พลาด Cafe Du Monde ร้านดังของเมืองนี้ ร้านตั้งอยู่ติด Jackson Square พอดี ขาย Beignet กับชากาแฟ เป็นร้านที่ดักนักท่องเที่ยวที่แท้ เพราะเป็นร้าน original สำหรับ Beignet และราคาค่อนข้างถูก คิวยาวมาก แต่ไม่ได้รอนาน เพราะโต๊ะเยอะ ให้อดทนใจเย็นๆ นิดนึงงง
Beignet มาจากภาษาฝรั่งเศสอ่านว่า เบน-เย่ย์ น้องเป็นเบเกอรี่คล้ายซาลาเปา(แป้งปาท่องโก๋)ทอดบ้านเรา โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง กินกับกาแฟดีมากๆๆ
เดินย่อยต่อ เราเดินไปเรื่อยๆ ถึง Frenchmen Street เป็นย่าน Nightlife ที่ดังมากอีกย่านนึง แต่เพราะเราไปตอนกลางวัน ร้านเลยยังปิดซะส่วนใหญ่
ในบริเวณ French Quarter มีตรอกซอกซอยเยอะมากๆ มีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ หลายที่ จัดแสดงงานศิลปะ หรือไม่ก็เป็นบ้านเก่าของบุคคลสำคัญซักคน เราเข้าไปที่นึง แต่ไม่ตรงกับรอบที่เขานำทัวร์ (พิพิธภัณฑ์ในอเมริกา ถ้าเป็นบ้านเก่าของบุคคลสำคัญ มักจะจัดเป็นกรุ๊ปทัวร์ เข้าเป็นรอบๆ และมีไกด์บรรยายให้ฟังตลอด) ต้องรอเป็นชั่วโมง เลยตัดใจไม่เข้าก็ได้
ถนนใน French Quarter ค่อนข้างแคบ แต่ก็ไม่ค่อยมีรถผ่านเข้ามา เพราะมีคนเดินเยอะ เมื่อถนนว่าง ก็จะมีดนตรีแจ๊สฟรีๆ แบบนี้มาเล่นตั้งแต่กลางวัน เดินเจอหลายวงเลย อยู่คนละซอย 55 (ถ้ากลางคืนจะเยอะกว่านี้มากกกก)
แถวนี้มีร้านอาหาร Seafood เยอะ หลายร้านจัดโปร Happy Hour มื้อเย็น แต่เวลาเรายังเหลือๆ แล้วก็ยังไม่ได้กินมื้อเที่ยง เลยเสาะหาร้านที่จะกินกัน จนเสิร์ชร้านไก่ทอด ซึ่งที่นิวออลีนส์ไก่ทอดฮิตมาก ฮิตที่สุด ไม่ใช่ปีกไก่นิวออลีนส์ เราได้พิกัดร้านดังที่จะไป Willie Mae's Scotch House เชื่อว่าลูกค้าหลายคนน่าจะตามรีวิวใน Yelp หรือ Tripadvisor มา คนเยอะอีกเช่นเคย รอนานเป็นพิเศษ (โอบาม่าก็เคยมาร้านนี้)
จากที่หงุดหงิดที่ต้องรอ รอมันทอดไก่เนี่ยแหละ ทำสดใหม่แน่นอน พอได้กินก็ฟินมาก จานเคียงสามารถเลือกเป็นข้าวในน้ำเกรวี่ต้มถั่วแบบต่างๆ อร่อยมาก สุดท้ายเขายังให้ส่วนลดเพิ่มอีก (ที่ไม่รู้ให้อยู่แล้วทุกโต๊ะรึป่าว 55) เลยหายโกรธที่ต้องรอนานละ
กินร้านนี้เสร็จก็บ่ายๆ เย็นๆ พอดี อ้าว ถึงเวลา Happy Hour แล้วนี่ เราเลยตรงกลับไปที่ French Quarter เพื่อกินต่อ วันแห่งการเดินและเก็บร้านดังจริงๆ
ร้านที่เราเลือกไม่ใช่ร้านดังติดอันดับสูงๆ แต่อย่างใด แต่แค่เพราะเดินผ่านแล้วเห็นป้ายราคา Happy Hour หอยนางรม 12 ตัว $9 เท่านั้น!!! ถูกมากแม่ ร้านนี้คนไม่เยอะ เราจึงเข้าไปนั่งสบายๆ แถมยังได้ Happy Hour Cocktail อีก Coterie Restaurant & Oyster Bar
หอยตัวโตๆ ถูก สะอาด และสดมาก ค็อกเทลก็เริด พนักงานเทคแคร์ดีมากๆ ประทับใจ แม้เราจะยังอิ่มไก่ทอดอยู่ แต่พอมาเจอแบบนี้ก็หิวอีกก็ได้
การกินหอยนางรมที่อเมริกา ไม่เหมือนที่ไทย แม้แต่ในแถบต่างๆ ในอเมริกายังกินไม่เหมือนกันเลย สำหรับทางใต้อย่างนิวออลีนส์ จะกินกับกระเทียมบดผสมวาซาบิ ใครชอบรสจัดให้เติม Hot Sauce (เรามักจะรู้จักยี่ห้อ Tabasco) โรยด้วยเลม่อน แนะนำว่าใส่อย่างละนิดอย่างละหน่อยพอ จะได้ไม่กลบรสหวานธรรมชาติของหอย กินคู่กับแครกเกอร์ ซึ่งเป็นของที่มากับหอยอยู่แล้ว ไม่ต้องสั่งเพิ่ม กินไปกินมาก็อิ่มแหละ
กลับที่พักด้วยรถราง สัญลักษณ์อีกอย่างนึงของนิวออลีนส์ (เดี๋ยวจะแนะนำความเริดนี้ในวันถัดไป)
URExplorer
วันพฤหัสที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เวลา 21.20 น.