หมู่บ้าน ชิราคาวาโกะ ยูเนสโกประกาศให้ เป็นมรดกโลกในปี 1995 หมู่บ้านนี้มีชื่อเสียงจาก บ้านชาวนา gassho-zukuri ทรงดั้งเดิม ที่บางหลังเก่าแก่ถึง 250 ปี Gassho - zukuri มีหมายความว่า " สร้างลักษณะคล้ายมือพนมขึ้นอธิษฐาน " เป็นบ้านหลังคามุงจากที่สูงชัน มีลักษณะคล้ายกับมือของพระสงฆ์พนมมือร่วมกันในการสวดมนต์ มีการพัฒนารูปแบบสถาปัตยกรรมมาหลายชั่วอายุคน และถูกออกแบบให้หลังคาทนต่อหิมะที่ตกหนักในช่วงฤดูหนาวของภูมิภาค มีพื้นที่ห้องใต้หลังคาขนาดใหญ่ รีวิวนี้จะพาไปชมบ้าน Kanda House และ Wada House ด้วยครับ
การเดินทางไปหมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ สามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง เส้นทางที่แนะนำคือ
1. นั่งรถบัสจาก Takayama ซึ่งใช้เวลาประมาณ 50 นาที ค่าโดยสารเที่ยวละ 2,470 เยน (ไปกลับ 4,420 เยน) รถบัสเที่ยวแรกออกเวลา 07:20 น. ต้องจองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้นครับ ถ้าไม่ได้จองที่นั่งไว้มีรอบแรก 08:50 น.
2. นั่งรถบัสจาก Kanazawa ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ค่าโดยสารเที่ยวละ 1,850 เยน (ไปกลับ 3,290 เยน) รถบัสเที่ยวแรกออกเวลา 08:10 น. ต้องจองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้นครับ
สามารถใช้
Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass เดินทางฟรีครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.japan-guide.com/bus/shirakawago.html
เนื่องจากเราได้เดินทางไปหมู่บ้านนี้ 2 ครั้ง ครั้งแรกเดือน เมย. 2015 (เดินทางจาก Takayama)
ครั้งที่ 2 เดือน กพ. 2016 (เดินทางจาก Kanazawa) รีวิวจึงจะมีรูปบรรยากาศทั้ง 2 ช่วงเวลาให้ดูกันครับ
ครั้งแรก เราออกเดินทางจาก Takayama รอบ 07:50 น. มาถึง Shirakawago ประมาณ 09:00 น.
ครั้งที่ 2 เราออกเดินทางจาก Kanazawa รอบ 08:10 น. มาถึง Shirakawago 09:25 น. ตามเวลาครับ
สำหรับคนที่มีกระเป๋ามาสามารถฝากไว้ที่ตู้ locker บริเวณที่ขายตั๋วและประชาสัมพันธ์ครับ
เตรียมแผนที่มาสำรวจกันด้วยนะครับ
เดินข้ามสะพานเข้าหมู่บ้านกันเลย
ข้ามสะพานมาอีกฝั่งเดินผ่านศาลเจ้า อะคิบะ (Akiba Shine) ที่มีเสาโทอิ ตั้งอยู่
เดินตามทางมาเรื่อยๆ ไปถนน Higashi-dori Street
ระหว่างทางจะผ่าน Gest House
ไปรอบที่ 2 ร้านค้ากำลังจะเปิดร้านเอง
ถึงถนน Higashi-dori Street เดินเลี้ยวซ้ายไปรอขึ้นรถไปจุดชมวิวกัน
เดินถึงจุดรอขึ้นรถบัสไปจุดชมวิว ซึ่งมีส่วนประชาสัมพันธ์ (ยังไม่เปิด) และห้องน้ำบริการ (เปิดแล้ว)
รอบที่ 2 ที่ไปหลงไปรอจุดเดิม 5 นาที เดินไปดูป้าย เลื่อนจุดจอดรถออกไปที่ Wada House เดินต่อไป
เลยลานหิมะนี้ก็ ถึงจุดรอรถบัสขึ้นจุดชมวิวในรอบที่ 2 แล้วครับ มองเห็นจุดชมวิวไกลๆ
ตารางรถบัสขึ้นจุดชมวิว ค่าบริการผู้ใหญ่ 200 เยน เด็กต่ำกว่า 6 ปี 100 เยน ต่อเที่ยวครับ
เนื่องจากกว่าจะเดินมาถึงรถออกไปก่อนหน้าประมาณ 5 นาที ผมจึงเดินขึ้นไปแทน ให้แม่กับแฟนรอขึ้นรถบัส
เดินเก็บรูประหว่างทางเดินขึ้นครับ
ครั้งที่สองนี่ผมเดินถึงจุดชมวิวก่อนแม่กับแฟนขึ้นรถบัสมาอีกครับ มาดูวิวที่จุดชมวิวกัน
ระหว่างทางเดินลงไปถ่ายจุดชมวิวอีกจุดด้านล่างครับ
วิวจากจุดชมวิวอีกจุดด้านล่างลงไปหน่อยครับ
ครั้งหลังแม่กับแฟนรอนั่งรถกลับลงด้านล่าง ตารางรถขาลง ครับ
ผมเดินลงไปจุดนัดพบที่จอดรถด้านล่างระหว่างทางแวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆครับ
เดินถึงด้านล่างแล้ว
ครั้งหลังเดินเลี้ยวขวาไปที่จุดจอดรถ ระหว่างรอเดินลุยหิมะไปถ่ายกระท่อมใกล้ๆมา
ระหว่างทางเดินไปชมบ้าน Wada House ซึ่งอยู่ใกล้จุดที่รถจอด
แวะเข้าบ้าน Wada House ค่าเข้าชม 300 เยนครับ เปิด 09:00 - 17:00 น.
บริเวณชั้นล่างของตัวบ้าน
ขึ้นไปดูชั้นบนกันหน่อย บันไดชันนะครับ ระวังลื่นด้วย
มีบันไดให้ขึ้นไปชมห้องใต้หลังคา แต่ปิดไม่ห้เดินด้านบน ได้แค่ถ่ายรูปเท่านั้นครับ
ที่ชั้นสองสามารถเปิดหน้าต่างเพื่อถ่ายวิวได้ด้วย
เดินจากบ้าน Wanda House ตัดออกทุ่งนาที่มีแต่หิมะไปทางบ้าน Kanda House
ในครั้งแรกเมื่อเดินลงเขามาแล้วเดินตรงตามถนนไปยังบ้าน Kanda House ครับ
บ้าน Kanda House เราได้เข้าไปชมกันในครั้งแรกที่มา ผมชอบที่นี่มากกว่านะ
บ้าน Kanda House ค่าเข้าชม 300 เยน เปิด 09:00-17:00 น.
ภายในบ้าน Kanda House ครับ ลุงเจ้าของต้อนรับดีมาก อาสาถ่ายรูปคู่ให้ด้วย และบอกว่าสามารถนั่งดืมน้ำชาได้ฟรีด้วย
ลงชื่อเข้าเยี่ยมชม
ดื่มน้ำชาอุ่นๆกันก่อน
ภายในบ้าน จะมี 3 ชั้น สามารถเดินขึ้นชมได้ทุกชั้น
ห้องใต้หลังคา ที่นี่สามารถขึ้นไปได้ด้วยครับ
วิวจากชั้นบนของบ้าน Kanda House
ออกจากบ้าน Kanda House มาจุดที่ 33 ในแผนที่ มาครั้งแรกเป็นจุดเดียวที่มีหิมะเหลืออยู่ครับ
ระหว่างทางเดินไปวัด Myozenji temple
หอระฆังวัด Myozenji temple
วัด Myozenji temple
ครั้งแรกมีเวลาเหลือเดินไป Shirakawa hachiman Shine
ฝั่งตรงข้ามถนน คือ Nodaniya
ใช้เวลาเดินเล่นที่ Shirakawako 3 ชั่วโมงเต็ม เราเดินกลับมาที่จุดนัดพบบริเวณท่ารถเวลา 12:00 น. ยังมีเวลาเหลือเดินเล่นรอรถ เดินดูร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก ตอนเช้ามายังไม่เปิด
จบ Trip เที่ยว Shirakawako แล้วครับ รอรถมาแล้วไปต่อกันที่ Kanazawa
รีวิว เที่ยว Kenrokuen Garden สวนสวยหนึ่งในสามของญี่ปุ่นที่ Kanazawa ครับ
ขอบคุณครับ
รีวิวที่ไปครั้งที่ 1 เป็นส่วนหนึ่งของทริปกำแพงหิมะครับ การเดินทางโดยสายการบิน AirasiaX
วันที่ 1 ถึงสนามบินนาริตะเวลา 19:00 น. เราส่งกระเป๋าบางส่วนไป Takayama และคืนนี้พักกันที่ Narita airport resthouse
วันที่ 2 ไปแลกตั๋วรถไฟที่สถานี Tokyo แล้วไปขึ้นรถบัสที่ Shinjuku เพื่อไปพักและเที่ยวปราสาท Matsumoto
วันที่ 3 เราไป Japan Alpine กันแต่เช้า เที่ยวเขื่อน ขึ้นกระเช้าไปกำแพงหิมะกันทั้งวัน แล้วไปนอนที่ Toyama
วันที่ 4 ตอนเช้าเที่ยว ปราสาท Toyama บ่ายไป Hida Furukawa เย็นไปพักและขี่จักรยานเที่ยว Takayama
วันที่ 5 ตอนเช้าเราไปเดินป่ากันที่ Kamikochi แล้วกลับมานั่งรถและเดินเที่ยวกันต่อที่ Takayama
วันที่ 6 ออกแต่เช้าไปเดินเที่ยว Shirakawako กันครึ่งวัน ช่วงบ่ายไปเที่ยวกันต่อที่ Kanazawa
โดยเราไปที่ Higashi Chaya Districs แล้วไป พิพิธภัณฑ์ 21st Century Museum of Contemporary Art
วันที่ 7 ช่วงเช้าเที่ยว สวน Kenrokuen และ ปราสาท Kanazawa ตอนบ่ายเดินทางไป Osaka
วันที่ 8 ช่วงเช้าเที่ยว Nara กัน ตอนบ่ายกลับมา Shopping กันที่ Osaka ก่อนกลับคืนนี้ครับ
รีวิวที่ไปครั้งที่ 2 นี้เป็นส่วนหนึ่งของทริปตะลุยแดนหิมะ ซึ่งผิดหวังจากเส้นทางบินไป Saporo ของ AiraisaX ที่ถูกยกเลิกไป เราจึงเปลี่ยนมาลงที่สนามบินนาริตะ แล้วหาที่เที่ยวที่มีหิมะแทน โดยทริปนี้เราเดินทางกันดังนี้
วันที่1 หลังจากลงเครื่องตอนเช้า เราไป
Taishakuten Daikyoji Temple กัน แล้วนั่งรถไฟไปนอนที่ Yamagata
วันที่ 2 ช่วงเช้าเราไปเที่ยวและแช่เท้าที่
Ginzan Onsen กัน ช่วงเย็นไปเดินเล่นที่ปราสาท Kaminoyama Castle
วันที่ 3 ช่วงเช้าไปขึ้นกระเช้าดูปิศาจหิมะที่ Zao Onsen Town ช่วงบ่ายไปออกกำลังขา ปีนบันไดพันขั้นที่ Yamadera
วันที่ 4 เราเดินทางไป Kanazawa เก็บของเข้าที่พักแล้วไปเที่ยว พระใหญ่ปรางนั่งสมาธิอันดับที่ 3
Takaoka Daibutsu
วันที่ 5 ช่วงเช้าเราไปเที่ยวหมู่บ้านมรดกโลก
Shirakawako ช่วงบ่ายกลับมาเดินชมสวนสวยหนึงใน 3 ที่ Kenrokuen
วันที่ 6 เรานั่ง Shizansen กลับไปสถานีโตเกียวแล้วไปต่อที่ Echigo-Yuzawa เพื่อเที่ยว
NASPA กับ YUZAWA-KOGEN
วันที่ 7 เราเที่ยว
GALA-YUZAWA ก่อนเดินทางกลับในคืนนี้
Wit Sil
วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 19.04 น.