DAY 1 น่านเนิบเนิบ รู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ "น่าน"

สวัสดีค่ะ นี่ก็เข้าหน้าหนาวแล้ว หลายๆคนคงมีแพลนที่จะไปเที่ยวภาคเหนือ เพื่อสัมผัสอากาศหนาวกันใช่มัยคะ ใช่ค่ะ ป่านก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ต้องการสัมผัสอากาศหนาวที่มีน้อยนิดของเมืองไทย ว่าแล้วอย่าช้า จองตั๋วกันเลยค่ะ!!!! รอบนี้ป่านเลือกที่จะเดินทางไปยังจังหวัด”น่าน” ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีประชากรหนาแน่นน้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย(อ้างอิง https://bit.ly/2PpnsXh) จากที่ไปอ่านรีวิวตามเว็บต่างๆ เอาดีๆเป็นจังหวัดนึงที่หารีวิวแต่ละที่ค่อนข้างยากเลยทีเดียว ดังนั้น เราจึงตัดสินใจโดยใช้สัญชาตญาณและสมอง 2 ก้อน ช่วยกันคิดแพลนการเดินทางเพื่อให้คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เราจะเสียไป!!!

Day 1 ขอขอบคุณที่เช้าวันนั้นที่มีหมอก [กรุงเทพฯ-บ่อเกลือ]

เราเริ่มเดินทางออกจากกรุงเทพโดยใช้บริการของสายการบินหางแดง ที่มุ่งตรงไปยังจังหวัดน่านโดยใช้เวลาอันน้อยนิด แถมยังราคาถูกมาก!!! ป่านได้ตั๋วไป-กลับในราคา 854.90 บาท เท่านั้น!!! แต่แลกมาด้วยการจองล่วงหน้าที่ค่อนปี ในตอนแรกเราไปสนามบินช้ามากก เนื่องจากลืมเผื่อเวลาว่าเอ้ออ รถติด สรุปเวลาที่ถึงสนามบินคือ 10 นาทีก่อนเครื่องออก และตอนนั้นเพิ่งวิ่งไปถึงจุดตรวจสัมภาระ ในใจคือ กูตกแน่ๆ กูตกแน่ๆ แต่ก็วิ่งไปเรื่อยๆ จนถึงเกท ไอเราก็เห็นว่าเกทปิดแล้ว ตอนนั้นใจเสียมาก แต่ก็ตัดสินใจเดินไปถามพี่ๆพนักงานว่า "ไปน่านยังทันมั้ยคะ?" สิ่งที่ตอบกลับมาคือทำให้ใจชื้นมากกก “อ่อ ที่น่านสภาพอากาศไม่อำนวยค่ะ เครื่องเลท 20 นาทีนะคะ” ตอนนั้นคือเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ขอบคุณที่แต้มบุญยังถึง วันนี้นึกย้อนกลับไป แม่งงตลกดี

เมื่อเราถึงจังหวัดน่านแล้ว เราใช้บริการเช่ารถยนต์กับ รถเช่าน่านชัย เร้นท์อะคาร์ พี่เค้าน่ารักและเป็นกัน เองมากๆ ไอเลิ้บ รถก็สภาพดีมากๆๆ ประทับใจ หลังจากเช็ครถเสร็จเรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกที่เราทำนั่นก็คือ ทานข้าวซอย ร้านต้นน้ำ ซึ่งเป็นร้านที่ใครๆก็บอกว่าต้องมา ว่าแล้วอย่าช้า ไหนขอลอง ข้าวซอยเนื้อ หน่อยสิ้

สรุป หมดครับผมมม อิ่มท้องแล้ว ก็ move กันไปต่อ เราเดินเล่นแถวๆละเเวกนั้น อารมณ์แบบจตุรมิตรเวอร์ชั่นที่เป็นวัดแทน ตรงนั้นเป็น 4 แยกที่รายล้อมไปด้วยวัด เมืองน่านคงเป็นอีกเมืองที่สายบุญน่าจะเลิ้บ เพราะวัดเยอะมากกกก อันดับแรกเราแวะไปสักการะ ศาลหลักเมืองกันก่อน สถาปัตยกรรมของที่นี่ ถูกทาทับด้วยสีขาว มองแล้วรู้สึกถึงความคลีน ความสบายตา ตัดกับท้องฟ้าที่ไร้เมฆ

ไปกันต่อที่วัดภูมินทร์ สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้นั่นก็คือ พระอุโบสถจตุรมุข นั่นก็คือไม่ว่าคุณจะเข้าประตูไหนจาก 4 ทิศ ก็จะพบพระพุทธรูปที่ประดิษฐานเอาไว้ทั้ง 4 ทิศเช่นเดียวกัน และยังมีภาพวาดจิตรกรรม ปู่ม่านย่าม่าน กระซิบรัก ภาพชื่อดังของจังหวัดน่านอีกด้วย

ข้ามไปอีกฝั่งถนนก็จะเจอพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ที่มีซุ้มลีลาวดีชื่อดัง และใช่ค่ะทุกคน เราใช้แต้มบุญหมดไปกับเครื่องบินแล้ว ดังนั้น เราจึงไม่เห็นดอกลีลาวดีสักดอกเดียว เห็นแค่กิ่ง แต่ก็สวยไปอีกแบบ//ปาดน้ำตา55555

พอกรุบกริบติดเที่ยงแล้ว เราออกจากตัวเมืองน่าน มุ่งหน้าสู่ อำเภอบ่อเกลือ ผ่านทางถนนลอยฟ้า 1081 ซึ่งเป็นถนนลอยฟ้าสมชื่อ วิวคือดือมากก แต่ทางค่อนข้างโหดเช่นเดียวกัน ด้วยสภาพที่ต้องขับรถไต่เขาขึ้นไปเรื่อยๆ ลงบ้าง ขึ้นบ้าง กว่าจะถึงก็คือเหงื่อออกเท้า

ระหว่างทางมีจุดแวะชมวิว วัดต่างๆ และร้านกาแฟที่จำนวนพอๆกัน ใช่ค่ะ เราแวะที่ร้าน “เดอะวิว@กิ่วม่วง” นั่งจิบชากาแฟเบาๆ กับวิวราคาหลักล้าน บรรยากาศชวนนั่งพูดคุยจนพระอาทิตย์ตกดิน

แต่!!! ไม่ได้จ้ะ เราต้องไปกันต่อ ขับไปเรื่อยๆใช้เวลาเกือบ 2 ชม ตอนนี้เราก็ถึงบ่อเกลือกันแล้วว เราเลือกไปพักที่หมู่บ้านสะปัน สิ่งแรกที่เราทำคือ เข้าไปเช็คอินกับที่พัก ที่ อุ่นไอมาง สะปัน ที่พักชิวๆ ที่โอบล้อมไปด้วยวิวขุนเขา และแม่น้ำสะปัน บรรยากาศที่พักคือชิวมากกก ไอเลิ้บบ และยังมีสมุนน้อยๆอีก 3 ท่าน

ทางที่พักมีจักรยานไว้ให้ปั่นเล่นภายในหมู่บ้าน วางสัมภาระแล้ว ก็ลุยกันต่อ

เราปั่นจักรยานไปยังน้ำตกสะปัน และเดินเท้าต่อไปอีก เดินไปเรื่อยๆ ก็พบน้ำตกระดับต่างๆ แนะนำว่าให้เดินไปตามทางเรื่อยๆ มันอาจจะเหนื่อยหน่อย แต่ป่านว่ามันคุ้มที่ได้ลอง ได้สัมผัสกับธรรมชาติจริงๆนะคะ มันคือความสวยงามที่ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรเลย เราหลงอยู่ในอาณาจักรของน้ำตกสะปันไปเกือบ 2 ชม.จะว่าได้

พอปั่นออกมา ก็ไม่รู้จะไปที่ไหนกันต่อ เลยเลือกที่จะถามวัยรุ่นแถวๆนั้นว่ามีที่เที่ยวที่ไหนใกล้ๆนี้บ้าง น้องๆตอบกลับมาว่า “มีสะพานพี่ ทางนู้น” รอช้าอยู่ใย ปั่นไปสิครับ ปั่นไปเรื่อยๆ อื้อหื้ออ สวิสเซอร์แลนด์เหอะ สวยมากก ฟินมากก เท่ห์มากก บวกกับลมเย็นๆ ความชิวๆของเมืองนี้ แบบเหมือนจะไหลตายตรงนั้น ทางเราจำไม่ได้ว่าเราหลงและใช้เวลา ณ ที่ตรงนั้นไปนานเท่าไหร่ เพราะแม่ง ฟินจริง

shot by @lumprun.f

หลังจากสัมผัสได้ว่า เอ้อ ควรหิวได้แล้วแหละ เราก็กลับมายังที่พัก เพราะทางที่พักได้จัดเตรียมมื้อเย็นไว้ให้กับทางเรา(รวมอยู่ในค่าที่พัก)

ทานเสร็จก็พักผ่อน ใช้เวลาส่วนตัวเคลียร์ร่างกาย นั่งชิวๆ และเตรียมตัวออกล่า ทางช้างเผือก!!! เราออกมาตามหาช้าง ที่สะพานที่เดิมที่เรามาเมื่อตอนเย็น คือแบบทุกคนนน ดาวคือเว่อร์มากก เหมือนฝัน คือมันเยอะมากๆ ถือว่าเป็นการปิดแรกวันที่สวยงาม