안녕하세요~ อันนยองฮาเซโย .. ขอเปิดการทักทายเป็นภาษาเกาหลี เพราะ บันทึกการเดินทางนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวเกาหลีกันจ้า แต่ก่อนจะไป เรามีคำถาม .. เคยคิดอยากไปเที่ยวคนเดียวบ้างไหม ? เบื่อไหมกับการที่ต้องรอคนอื่นหรืออยากไปในที่ๆเราอยากไปได้อย่างอิสระไม่ต้องรอถามใคร ทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ .. เราคือหนึ่งในนั้นที่อยากลองเที่ยวคนเดียวดูบ้าง .. จึงเป็นเหตุผลที่บันทึกการเดินทางนี้จะพาทุกๆคนไปเที่ยวเกาหลีกับคอนเซป ‘ผู้หญิงคนเดียว ลุยเดี่ยว เที่ยวเกาหลี’
![](/f/29655/5e114b8e7ff28d5e08b0c0f3.jpg)
ทริปนี้ เราเลือกไปที่กรุงโซล (Seoul) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเกาหลีใต้ (South Korea) ที่มีความหลากหลายของวัฒนธรรม เทคโนโลยี ประเพณี รวมถึงธรรมชาติที่สวยงาม ที่ผสมผสานอยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ให้เราแวะเวียนไปชม ตามที่เห็นจากซี่รี่ย์ดังๆอยู่หลายเรื่อง รวมถึง แหล่งช้อปปิ้งเอาใจขาช้อปแบบเรา บอกได้คำเดียว จบ ครบ ในแหล่งเดียว
NOTE !!
* เราจองโปรแกรมทัวร์ 4 วัน 3 คืน มาในราคา 11,111 บาทกับบริษัททัวร์แห่งหนึ่ง เพราะ เป็นการเดินทางไปต่างประเทศคนเดียวครั้งแรก เลยคิดว่า ไปเปิดโลกทรรศ์กับทัวร์จะง่ายและสะดวกสบายในเรื่องของการเดินทางที่สุดค่ะ
** บันทึกการเดินทางนี้เราตั้งใจทำเพื่ออยาก support เพื่อนๆที่มีแพลนหรืออยากไปเกาหลีจริงๆ ถึงเราจะไปกับบริษัททัวร์แต่บันทึกนี้คน Backpack ไปด้วยตัวเองก็สามารถมีข้อมูลไป support การเดินทางของตัวเองได้ ขอให้ลองเปิดใจอ่านดูหน่อยนะคะ (สนับสนุนให้คนไทยอ่านหนังสือเกิน 2 บรรทัด)
Place to Visit :
- Anyang Art Park (안양예술공원)
- Soyanggang Sky Walk (소양강 스카이워크)
- เกาะนามิ (남이섬 종합휴양지)
- ป้อมปราการฮวาซอง (수원 화성)
- สวนสนุก Everland (에버랜드)
- N Seoul Tower (엔 서울타워)
- พระราชวังคยองบกกุง (경복궁)
- ย่านเมียงดง (명동)
- ย่านฮงแด (홍대)
Day 1
การเตรียมตัวและการเดินทาง
ผู้หญิงที่เริ่มต้นออกเดินทางคนเดียวในปัจจุบันเริ่มมีมากขึ้น แต่หลายคนยังติดกับคำว่า ‘กลัว’ กลัวเหงา กลัวหลง กลัวนั่นกลัวนี่เต็มไปหมดก็เลยไม่ได้ออกเดินทางคนเดียวสักที สิ่งสำคัญในการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง นั่นคือ ‘การหาข้อมูล’
1. วีซ่า : ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยไม่ต้องขอวีซ่า โดยสามารถพำนักอยู่ที่ประเทศเกาหลีได้ 90 วัน
2. เวลา : เร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง
3. สกุลเงิน : สกุลเงินของประเทศเกาหลี คือ วอน (won,₩) วิธีคำนวนเงินวอนอย่างง่ายๆ คือ นำเงินวอนคูณด้วยเรทอัตราแลกเปลี่ยนได้เลย เช่น 1,000 วอน เป็นเงินไทยประมาณ 1,000 X 0.026 = 26 บาท (เรทอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 19/11/19 เท่ากับ 0.0258)
4. กระแสไฟฟ้า : ประเทศเกาหลีใช้กระแสไฟฟ้าแรงดัน 220V เหมือนประเทศไทย ปลั๊กจะเป็นแบบกลม 2 หรือ 3 ขา ควรมีปลั๊กหรือ Adapter ติดตัวไปด้วย โรงแรมส่วนใหญ่จะมีให้เช่าอยู่นะคะ ประมาณ 1,000 ₩
5. สภาพภูมิอากาศ : ประเทศเกาหลีมี 4 ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค - พ.ค.) อุณหภูมิเฉลี่ย 14 องศา , ฤดูร้อน (มิ.ย. - ส.ค.) อุณหภูมิเฉลี่ย 27 องศา , ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.- พ.ย.) อุณหภูมิเฉลี่ย 14 องศา , ฤดูหนาว (ธ.ค. - ก.พ.) อุณหภูมิเฉลี่ย 7 องศา
6. ภาษา : ภาษาที่ใช้เป็นภาษาเกาหลี ภาษาอังกฤษใช้ได้ตามสถานที่ท่องเที่ยว
7. ซิมการ์ด : sim2fly ของ Ais ซื้อครั้งแรก 399 บาท ได้ 4 GB นาน 8 วัน
8. Travel Card : เราเลือกใช้ของ Planet SCB เราสามารถใช้บัตรนี้รูดกับทุกสกุลเงินทั่วโลกโดยไม่ชาร์จ 2.5% และสามารถแลกเงินได้ง่ายผ่านแอปของ SCB ตลอด 24 ชั่วโมง
การเดินทางระหว่างสนามบินนานาชาติอินชอน - กรุงโซล
สามารถซื้อตั๋วตรงหน้าทางเข้าหมายเลข 4,9 ภายในอาคารผู้โดยสารที่ 1 ชั้น 1 และหน้าประตูหมายเลข 4,6,7,8,11,13 ภายนอก , ป้ายรถเมล์ 9C / Terminal รถเมล์ชั้นใต้ดินชั้น 1 ศูนย์การขนส่ง อาคารผู้โดยสารที่ 2 ส่วนจุดขึ้นรถจะอยู่ที่ ป้ายรถเมล์ ชั้น 1 ทางเข้าอาคารผู้โดยสารที่ 1 3B~6B , 10A~13A , ใต้ดินชั้น 1 ทางเข้าผู้โดยสารที่ 2
บัตร T-money
บัตรเดบิตที่สามารถใช้ได้ทั้งรถบัสสนามบิน รถบัสกรุงโซล รถไฟฟ้าใต้ดิน รถแท็กซี่ รวมถึงร้านสะดวกซื้อ โทรศัพท์สาธารณะ ตู้รับฝากสัมภาระ ฯลฯ เวลาขึ้นรถบัส อย่าลืมแตะบัตรตอนลงรถด้วยจึงจะได้รับส่วนลด สามารถหาซื้อได้ตามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงโซลและร้านสะดวกซื้อที่มีเครื่องหมาย T-money ค่าบัตร 2,500 ₩ เติมเงินได้ตั้งแต่ 1,000 ₩ ขึ้นไป หากมีเงินเหลืออยู่ในบัตรสามารถทำเรื่องขอคืนได้ โดยสามารถติดต่อที่ ร้านสะดวกซื้อ GS25 ได้ไม่เกิน 20,000 ₩ ร้านสะดวกซื้ออื่นๆ ได้ไม่เกิน 30,000 ₩ และเคาน์เตอร์บริการ TMC ได้ไม่เกิน 50,000 ₩
บัตร MPASS
บัตรโดยสารแบบเหมาจ่ายสำหรับชาวต่างชาติ สามารถใช้ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงโซลและปริมณฑล และรถบัสในกรุงโซลได้ ซึ่งสามารโดยสารได้มากสุด 20 ครั้งต่อวัน บัตรนี้มี Funtion ของบัตร T-money อยู่ด้วย จึงสามารถเติมเงินและนำไปใช้แบบบัตร T-money ได้เช่นกัน สามารถหาซื้อได้ที่สนามบินนานาชาติอินชอน ประตู 5 และ 10 ในพื้นที่ผู้โดยสารขาเข้า ราคาแตกกต่างกันตามจำนวนวัน ตั๋วสำหรับ 1 วัน 15,000 ₩ ตั๋วสำหรับ 2 วัน 23,000 ₩ ตั๋วสำหรับ 3 วัน 30,500 ₩ ตั๋วสำหรับ 5 วัน 47,500 ₩ ตั๋วสำหรับ 10 วัน 64,500 ₩ มีค่ามัดจำบัตร 5,000 ₩ เมื่อคืนบัตรจะได้รับค่ามัดจำคืน 4,500 ₩
บริการรับฝากสัมภาระสำหรับนักท่องเที่ยว
- สามารถใช้บริการที่เก็บสัมภาระภายในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญได้ ค่าบริการ ขนาดเล็ก 2,000 ₩ , ขนาดกลาง 3,000 ₩ , ขนาดใหญ่ 4,000 ₩ (4 ชั่วโมง)
- สารมารถใช้บริการในศูนย์ให้บริการข้อมูลท่องเที่ยวมยองดง ค่าบริการ ขนาดเล็ก 1,000 ₩ ขนาดใหญ่ 2,000 ₩ (12 ชั่วโมง)
ณ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ
19.30 น. เป็นเวลาที่บริษัททัวร์นัดมาเจอที่อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 6 เคาน์เตอร์ M เพื่อเตรียมความพร้อมในเรื่องของเอกสารต่างๆ และเชคอินที่เคาน์เตอร์ก่อนปล่อยตามอัธยาศัยและมาเจอกันที่ Gate อีกที ตอนเวลา Boading
![](/f/29655/5e114b8e7ff28d5e08b0c0f0.jpg)
ทริปนี้ เราใช้บริการของสายการบินอีสตาร์เจ็ท เที่ยวบิน ZE512 เครื่องออกเวลา 23.05 น. ตามเวลาในประเทศไทย ใช้เวลาบินประมาณ 5.30 น. - 6.00 น. ก็มาถึงจุดหมายปลายทางที่สนามบินนานาชาติอินชอน ประเทศเกาหลีใต้
Day 2
20 พฤศจิกายน 2562
ณ สนามบินนานาชาติอินชอน
06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง) เราก็ได้เหยียบพื้นแผ่นดินเกาหลีเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ เราเตรียมตัวมาหนาวเต็มที่ อุณหภูมิแรกที่เจอ -3 เบาๆ
![](/f/29655/5e114b8b7ff28d5e08b0c0ed.png)
มาถึงจุดตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลี เค้าว่าโหดนักโหดหนา ได้มาลองของสักที เชื่อไหมว่า ไม่เคยตื่นเต้นกับการผ่าน ตม. ที่ไหนเท่ากับที่นี้เลย .. ก่อนมาเราทำการบ้านพอสมควรเกี่ยวกับการเตรียมตัวผ่าน ตม. เกาหลี เตรียมเอกสารรับรองการทำงานมาเผื่อไว้ด้วย .. ขออนุญาติเล่าประสบการณ์การผ่าน ตม. เกาหลีของเรานะ ก่อนอื่นบอกก่อนเลย Passport เราไม่ขาว เรายังเจอคำถามรั่วๆไป 4 คำถาม
ตม. : มาเกาหลีกี่วันคะ ?
เรา. : 4 วันค่ะ
ตม. : ไปที่ไหนบ้าง ?
เรา. : เมียงดง ฮงแด อันยางพาร์ค นามิ (ตอบตามที่นึกได้)
ตม. : มาคนเดียวหรอ ?
เรา : เดินทางมาคนเดียวค่ะแต่จองมากับทัวร์
ตม. : กลุ่มนี้ทัวร์ของคุณหรอ คนไหนหัวหน้าทัวร์
เรา : (ชี้ไปที่หัวหน้าทัวร์เลยค่ะ)
สุดท้ายเค้าก็ปล่อยผ่านแต่โดยดี คือ อยากจะบอกว่า ตม.จะเข้มงวดกับคนที่มาคนเดียวกับหน้า Passport ขาวนะเท่าที่เห็น ถ้าเราพอสื่อสารได้ ไม่ตอบตะกุกตะกักหรือทำตัวมีพิรุท รับรองผ่าน!! สรุปเอกสารที่เตรียมมาไม่ได้ใช้เลยค่ะ เป็นประสบการณ์ที่ดี ผ่าน ตม.เกาหลีไม่ยากอย่างที่คิด เรามาเที่ยวจริงๆอย่าได้ไปกลัว .. ตม.เกาหลีไม่มีการปั้มบนเล่ม passport แล้วนะ เขาจะให้เป็นกระดาษแผ่นเล็กๆมาแทน หลังจากผ่าน ตม. มาเรียบร้อยแล้ว เราต้องขึ้นรถไฟมาอีกอาคารเพื่อมารับกระเป๋าเดินทางและล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนชุด แต่งหน้า เตรียมพร้อมในการเที่ยวเกาหลี
![](/f/29655/5e114b8b7ff28d5e08b0c0eb.jpg)
สถานที่แรกที่ไป ก็คือ Anyang Art Park (안양예술공원) ซึ่งอยู่ห่างจากโซลประมาณ 40 นาที เป็นสวนศิลปะในหุบเขา มีจุดถ่ายภาพที่แต่ละจุดมีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัวทั้งหมด 25 จุด
![](/f/29655/5e114b897ff28d5e08b0c0e9.jpg)
รถของเรามาจอดส่งด้านในสุดของสวน ซึ่งเป็นจุดไฮไลต์กับผลงานที่มีชื่อว่า Linear Building Up In The Trees เป็นอุโมงค์ทางเดินทอดยาว ที่มีโครงหลังคาหุ้มด้วยแผ่นคล้ายๆ PVC สีฟ้า ปลายทางของอุโมงค์จะเจอกับลานกิจกรรม ดูไกลๆเป็นเหมือนกับเกลียวคลื่น ..
![](/f/29655/5e114b907ff28d5e08b0c0f4.jpg)
![](/f/29655/5e114b907ff28d5e08b0c0f7.jpg)
![](/f/29655/5e114b907ff28d5e08b0c0f5.jpg)
![](/f/29655/5e114b8e7ff28d5e08b0c0f1.jpg)
![](/f/29655/5e114b8e7ff28d5e08b0c0f2.jpg)
นอกจากนั้น เดินย้อนกลับขึ้นมาเรื่อยๆก็จะเจอกับผลงานชิ้นเอกอื่นๆอีกมากมาย เช่น Dimensional Mirror Labyrinth เขาวงกตที่ทำจากแผ่นอลูมิเนียมเงา , Anyang Crate House-Dedicated to the Lost (Pagoda) งานชิ้นนี้สร้างจากลังส่งเบียร์หลากสีของเยอรมันที่นำมาวางซ้อนกัน , Re. Vol. Ver ผลงานชิ้นนี้ตั้งอยู่ในจุดที่เคยเป็นที่ตั้งกองทัพญี่ปุ่น เมื่อครั้งเข้ามายึดครองประเทศเกาหลีใต้ และยังเป็นที่ตั้งของกองทัพของสหรัฐหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 , Paper Snake ได้รับแรงบันดาลใจจากการพับ origami , Anyang Peak Observatory ทางเดินวนขึ้นไปจนถึงยอดสูงสุดจัดทำขึ้นเพื่อเป็นหอชมวิว เป็นต้น .. แต่เรามีเวลาไม่พอที่จะชมศิลปะอื่นๆ จึงเก็บได้แค่จุดไฮไลต์เท่านั้น
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : ขึ้น Seoul Subway มาลงสถานี Gwanak (P146) ทางออก 2 แล้วต่อรถบัส สาย 51, 5624, 5625, 5626, 5530 หรือ 5713 จากนั้น เดินอีกประมาณ 5 นาที หรือจะเรียกรถแท็กซี่ ราคาไม่เกิน 4,000 ₩
เสร็จจากที่แรกเรานั่งรถต่อไปยัง Soyanggang Sky Walk (소양강 스카이워크) สะพานกระจกใสที่ยาวที่สุดในเกาหลี สะพานแห่งนี้ก่อสร้างเสร็จ ปี 2016 ตั้งอยู่เหนือทะเลสาบเอียมโฮ (Uiamho Lake)
![](/f/29655/5e114b927ff28d5e08b0c0fb.jpg)
![](/f/29655/5e114b977ff28d5e08b0c103.jpg)
![](/f/29655/5e114b967ff28d5e08b0c101.jpg)
![](/f/29655/5e114b977ff28d5e08b0c105.jpg)
เวลาเดินบนสะพานกระจกเราต้องสวมถุงผ้าหุ้มรองเท้าไว้เพื่อไม่ให้พื้นกระจกเป็นรอยขีดข่วน
![](/f/29655/5e114b967ff28d5e08b0c102.jpg)
ตรงปลายสุดทางเดินจะเจออนุสาวรีย์ปลาซูการี (Mandarin fish) เป็นปลาที่มีชื่อเสียงในเมืองนี้ค่ะ
![](/f/29655/5e114b977ff28d5e08b0c106.jpg)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 2,000 ₩ วัยรุ่น 1,500 ₩ เด็ก 1,000 ₩ หากเข้าชมเป็นหมู่คณะ 20 คนขึ้นไป ผู้ใหญ่ 1,600 ₩ วัยรุ่น 1,200 ₩ เด็ก 800 ₩ สำหรับเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปและผู้พิการ เข้าชมฟรี
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Gyeongchun ลงสถานี Chuncheon ทางออก 1 แล้วข้ามถนนมายังฝั่งตรงข้ามเพื่อต่อรถบัส สาย 11 ลงป้าย Soyanggang Maid แล้วเดินต่อประมาณ 200 เมตร
สำหรับอาหารมื้อแรกที่ประเทศเกาหลี เราได้ไปทานเมนูไก่บาร์บีคิวผัดซอสเกาหลี หรือที่เรียกว่า Dakkalbi อาหารเลื่องชื่อที่นำไก่บาบีคิว มันหวาน กะหล่ำปลี ต้นกระเทียม ซอส และข้าว มาผัดคลุกเคล้ารวมกันในกระทะแบนๆสีดำ ทานคู่กับเครื่องเคียงต่างๆและผักกาดเกาหลี
![](/f/29655/5e114b977ff28d5e08b0c104.jpg)
![](/f/29655/5e114b997ff28d5e08b0c109.jpg)
![](/f/29655/5e114b9a7ff28d5e08b0c10a.jpg)
จากนั้น เราก็ไปยังท่าเรือเฟอร์รี่เพื่อเดินทางสู่เกาะนามิ (남이섬 종합휴양지) .. การข้ามฟากไปยังเกาะนามิ มี 2 วิธีด้วยกัน คือ
เรือข้ามฟาก มีให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.30 น. – 21.45 น.ออกเดินทางทุกๆ ครึ่งชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 – 7 นาที ค่าบัตรเข้าชมเกาะรวมค่าเรือข้ามฟากไป-กลับ ประมาณ 8,000 ₩
โหนสลิง สำหรับผู้ที่ชอบความตื่นเต้นและไม่กลัวความสูง ต้องไปขึ้นสลิงที่ตึก Zip Wire สำหรับวิธีนี้ จะมีค่าบริการโหนสลิงขาไปกับค่าเรือเฟอร์รี่ขากลับ เมื่อรวมกับค่าเข้าชมเกาะนามิแล้วเป็นเงินทั้งหมด 38,000 ₩ กิจกรรมโหนสลิงนี้เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 9.00 – 18.00 น
![](/f/29655/5e114b987ff28d5e08b0c107.jpg)
![](/f/29655/5e114b997ff28d5e08b0c108.jpg)
เกาะนามิ เป็นเกาะขนาดเล็ก ตั้งอยู่กลางทะเลสาปชองเพียง (Cheongpyeong Lake) ในเขตเมือง Chuncheon จังหวัด Gangwon-do อยู่ห่างจากกรุงโซลไปทางทิศตะวันออกประมาณ 63 กิโลเมตร เกาะแห่งนี้ได้รับความนิยมมากจากกระแสความโด่งดังของซี่รีย์เกาหลีเรื่อง “เพลงรักในสายลมหนาว” (Winter Sonata) ที่ใช้เกาะแห่งนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำฉากสำคัญๆต่างๆ และมีชื่อเสียงในด้านทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม จนกระทั่งในปี 2010 เกาะนามิได้รับเลือกเป็น UNICEF Child Friendly Park ซึ่งเป็นสถานที่แรกของเกาหลีใต้ที่ได้รับเลือก และยังเป็น 1 ใน 14 แห่งของโลกอีกด้วย
![](/f/29655/5e114b9b7ff28d5e08b0c10c.jpg)
![](/f/29655/5e114b9a7ff28d5e08b0c10b.jpg)
![](/f/29655/5e114b9c7ff28d5e08b0c10f.jpg)
เกาะนามิ เป็นเกาะที่เที่ยวได้ทุกฤดู แต่ในช่วงที่เราไปเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงถือเป็นช่วง High Season ของที่นี่ เป็นช่วงที่เกาะนามิสวยที่สุด เพราะ เป็นช่วงของใบไม้เปลี่ยนสี
![](/f/29655/5e114b9b7ff28d5e08b0c10d.jpg)
สัญลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์นึงของเกาะนามิ ที่ใครๆที่มาเที่ยวที่นี่ต้องมาแช๊ะภาพด้วย นั่นคือ รูปปั้นโลหะขนาดเท่าตัวจริงของเบยองจุน (Bae Yong Joon) และแชงจีอู (Choi Ji Woo) คู่พระ-นางจากซี่รี่ย์เพลงรักในสายลมหนาว
![](/f/29655/5e114b9d7ff28d5e08b0c110.jpg)
การเดินทาง :
1. รถบัสให้บริการประจำเส้นทาง (Nami Island Shuttle Bus) มีให้บริการทุกวัน วันละ 1 เที่ยว ดังนี้
- จากสถานี Insa-dong รถออกเวลา 09.30 น.
- จากสถานี Namdaemun รถออกเวลา 09.30 น.
- จากสถานี Myeong-dong รถออกเวลา 09.45 น.
ค่าโดยสารแบบไป-กลับสำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ราคา 15,000 ₩ เด็ก 13,000 ₩ ส่วนตั๋วเที่ยวเดียวสำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ราคา 7,500 ₩ เด็ก 6,500 ₩
2. รถโดยสารประจำทาง จาก Dong Seoul Bus Terminal มาลงที่ Gapyeong Bus Terminal ใช้เวลาราว ๆ 1 ชั่วโมง 20 นาที ค่าโดยสาร 6,400 ₩
3. การเดินทางด้วยรถไฟแบบธรรมดา สาย Gyeongchun สาย 7 สีเขียว ไปลงที่สถานี Gapyeong ค่าโดยสารประมาณ 2,250 ₩ ใช้เวลาเดินทางตั้งแต่ 1 ชั่วโมงครึ่ง - 2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับว่าเริ่มต้นที่สถานีไหน
4. เดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง ITX เป็นรถไฟสายพิเศษ จะเร็วและใหม่กว่ารถไฟธรรมดา แต่ก็ราคาแพกว่าด้วยเช่นกัน โดยมีสถานีต้นทางในโซลอยู่ 2 สถานี ดังนี้
- สถานี Cheongnyangni สาย 1 สีน้ำเงิน เป็นสถานีที่คนนิยมมาขึ้นกันมากที่สุดเพราะเป็นทางไปเกาะนามิและอยู่ไม่ไกลกับแหล่งท่องเที่ยวหลักๆของเมืองโซล จากสถานี Cheongnyangni ไปลงที่สถานี Gapyeong ใช้เวลาแค่ 40 นาที ราคา 4,000 ₩ (ถ้าเป็นรถไฟธรรมดา 66 นาที ราคา 2,300 ₩)
- สถานี Yongsan สาย 1 สีน้ำเงิน เป็นอีกสถานีที่สามารถนั่ง ITX ได้เช่นกัน นั่งไปลงที่สถานี Gapyeong ใช้เวลา 55 นาที ราคา 4,800 ₩ (ถ้าเป็นรถไฟธรรมดา 86 นาที ราคา 2,400 ₩
มื้อค่ำของเราเป็นสุกี้สไตล์เกาหลี ประกอบด้วย หมูสไลด์ เห็ดและผักสดนานาชนิด เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปร้อนๆ อากาศหนาวๆกับซุปอุ่นๆ เป็นอะไรที่ลงตัวมากก
![](/f/29655/5e114b9c7ff28d5e08b0c10e.jpg)
ที่พักคืนแรกของเรา คือ JM Hotel เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว ตั้งอยู่ที่เมือง Suwon ในช่วงฤดูหนาว โรงแรมจะเปิดฮีทเตอร์แทนการเปิดแอร์ หากต้องการอากาศเย็น สามารถเปิดหน้าต่างรับลมได้ .. หากใครต้องการเช่า Adaptor สามารถเช่าได้ที่ Reception อันละ 1,000 ₩
![](/f/29655/5e114b9d7ff28d5e08b0c112.jpg)
![](/f/29655/5e114b9d7ff28d5e08b0c111.jpg)
หลังจากที่เข้าที่พักเรียบร้อยก็จะเป็นช่วงฟรีสไตล์ของเรา เราจึงออกมาเดินเล่นแถวๆโรงแรม ในย่านนี้ค่อนข้างครึกครื้นเลยค่ะ มีทั้ง Bar, ร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อทั้ง 7-11, GS25, Cu เยอะแยะเต็มไปหมด
![](/f/29655/5e114b9e7ff28d5e08b0c113.jpg)
![](/f/29655/5e114ba07ff28d5e08b0c116.jpg)
กิจกรรมแรกที่เรามาพบโดยบังเอิญ คือ การคีบตุ๊กตา ขอเล่นสักหน่อยอยู่ไทยเล่นไม่เคยจะได้ ลงทุนไป 5000 ₩ ได้ Moshimoro มา 1 ตัว ^^
![](/f/29655/5e114b9f7ff28d5e08b0c115.jpg)
![](/f/29655/5e114ba07ff28d5e08b0c117.jpg)
และมาจบที่ร้านอาหารที่มีตู้ปลาตั้งหน้าร้าน โดยเมนูที่เลือกก็คือ ซันนักจี (산낙지) หรือเจ้าปลาหมึกดิ้นๆ ที่ต้องกินตอบดิบๆ จำได้ว่าครั้งแรกที่เห็น คือ ในภาพยนตร์เรื่องกวนมึนโฮ และตั้งใจไว้เลยว่าถ้ามาเกาหลีจะมาลองกินให้ได้เลย
![](/f/29655/5e114ba17ff28d5e08b0c119.jpg)
คำเตือน : ซันนักจี เป็นเมนูที่อันตราย ห้ามกลืนจนกว่าจะเคี้ยวให้ละเอียด มิฉะนั้น ปุ่มตรงหนวดหมึกจะดูดติดปากหรือคอทำให้ไอหรือสำลักได้จนถึงแก่ชีวิตได้
Day 3
21 พฤศจิกายน 2562
ในวันนี้พี่ไกด์นัดเราแบบ 6-7-8 นั่นคือ 6 โมงตื่น 7 โมงกินข้าว 8 โมงคือออกเดินทาง .. มีบริการ Morning Call โทรปลุกด้วยจ้า เอ้า! ลุก ลุยกันต่อวันที่ 3 กับอุณหภูมิเช้านี้อยู่ที่ -3 องศาเซลเซียส
![](/f/29655/5e114b9f7ff28d5e08b0c114.jpg)
![](/f/29655/5e114ba27ff28d5e08b0c11a.jpg)
โดยที่แรกของวันนี้ คือ ป้อมปราการฮวาซอง (수원 화성) เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ตั้งแต่สมัยยุคโซซอน กำแพงของป้อมปราการมีความยาวถึง 5.5 กิโลเมตร มีประตู 4 ประตูในแต่ละทิศ มีเชิงเทินอยุ่ 48 หลัง ด้านในมีศาลา ชื่อว่า Hwahongmun ที่รูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่และงดงามมาก
![](/f/29655/5e114ba17ff28d5e08b0c118.jpg)
![](/f/29655/5e114ba27ff28d5e08b0c11b.jpg)
![](/f/29655/5e114ba37ff28d5e08b0c11c.jpg)
ป้อมบนกำแพงเมือง เป็นพื้นที่สำหรับทหารรักษาการณ์ เฝ้าระวัง สังเกตการณ์ และที่ใช้ในการหย่อนหิน โยนลูกไฟ เทน้ำมันร้อน หรือยิงธนูใส่ศัตรูที่อยู่ด้านล่าง และที่นี่ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรมโดยองค์กรยูเนสโก ในปี ค.ศ. 1997 อีกด้วย
![](/f/29655/5e114ba37ff28d5e08b0c11d.jpg)
![](/f/29655/5e114ba47ff28d5e08b0c11f.jpg)
![](/f/29655/5e114ba47ff28d5e08b0c11e.jpg)
ตรงประตูเมืองทางทิศตะวันออก Changnyongmun Gate (창룡문) จุดนี้จะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและกิจกรรมยิงธนูให้นักท่องเที่ยวได้ฝึกความแม่นยำ ในราคา 2,000 ₩ ยิงได้ 10 ดอกด้วยค่ะ
![](/f/29655/5e114ba57ff28d5e08b0c120.jpg)
ถ้าหากใครมีเวลาและไม่อยากเดินสามารถมาซื้อตั๋วรถรางชมเมือง (Hwaseong Royal Car) ได้ จุดขายบัตรมีเพียง 2 แห่ง คือ Yeonmudae Post และ Paldalsan Mountain สามารถขอแผนที่ได้ตรงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
![](/f/29655/5e114ba57ff28d5e08b0c121.jpg)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,000 ₩ , วัยรุ่น 700 ₩ , เด็ก 500 ₩
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟใต้ดิน Suwon Station สาย Seoul Subway 1 ให้ต่อรถบัสสาย 2, 7, 7-2, 8, หรือ 13 แล้วลงที่ป้าย Jongno 4-geori (intersection)
🎶 .. ขอพื้นที่เล็กๆให้ยังเป็นเด็กอยู่ได้ไหม .. 🎶 เพลงนี้มาเพื่อให้เข้าบรรยากาศที่เราจะพาไปสวนสนุก Everland (에버랜드) กันต่อเลยน้า .. ถึงเกาหลีจะไม่มี Disneyland แต่สวนสนุก Everland ก็ไม่น้อยหน้านะ เป็นสวนสนุกระดับแถวหน้าของเกาหลีที่เต็มไปด้วยความสุข สนุกสนาน มีการจัดเทศกาลหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามฤดูกาลตลอดทั้งปี .. ทัวร์ปล่อยให้เราฟรีสไตล์อยู่ที่นี่ประมาณ 3 ชั่วโมง คนต้องรีบทำเวลากันหน่อย
![](/f/29655/5e114ba67ff28d5e08b0c123.jpg)
![](/f/29655/5e114ba57ff28d5e08b0c122.jpg)
![](/f/29655/5e114ba77ff28d5e08b0c126.jpg)
ไกด์พาเรานั่งเคเบิ้ลคาร์ หรือ Sky Cruise ลงมายังสวนสนุก ช่วยเปิดโอกาสให้เราได้ชื่นชมทิวทัศน์อันสวยงามของทั้งสวนสนุกจากมุมสูงโดยไม่ต้องเดินให้เมื่อย!
![](/f/29655/5e114ba87ff28d5e08b0c128.jpg)
![](/f/29655/5e114ba87ff28d5e08b0c127.jpg)
![](/f/29655/5e114ba77ff28d5e08b0c125.jpg)
ภายในสวนสนุก Everland ประกอบไปด้วยโซนต่าง ๆ 5 โซน คือ American Adventure, Zoo Topia, Global Fair, Magic Land และ European Adventure อย่าลืมตรวจสอบตารางเวลาเปิดทำการของแต่ละเครื่องเล่นด้วยนะ
![](/f/29655/5e114ba77ff28d5e08b0c124.jpg)
ม๊ะ! มาเริ่มกันที่โซนแรก หลังจากผ่านประตูมา คุณจะได้พบกับโซน Global Fair เป็นด่านแรก โซนนี้จะมี Magic Tree ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่เป็นเหมือนจุดแลนด์มาร์คสำหรับนักท่องเที่ยว และสถาปัตยกรรมต่างๆของบริเวณโดยรอบเป็นแบบวิกตอเรีย, ตะวันออก และอินเดียผสมผสานกัน
![](/f/29655/5e114ba97ff28d5e08b0c129.jpg)
ต่อมา โซนที่สองเป็นโซนที่มีชื่อว่า American Adventure เป็นโซนที่เราชอบมากๆ เพราะ เป็นโซนที่ทำให้หัวใจเรามีเลือดสูบฉีดไปทั่วร่างกาย เพราะ ที่นี่รวบรวมเครื่องเล่นต่าง ๆ เอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรือไวกิ้ง, Herricane, Double Rock Spin และที่ขาดไม่ได้เลยคือ T-Express รถไฟเหาะสุดระทึกบนรางไม้ที่เร็วที่สุดและมีระยะเวลาในการวิ่งนานที่สุดในเอเชีย ที่จะทำให้คุณต้องหวาดเสียวสุดๆ รางมีความชันถึง 77 องศา ด้วยความเร็ว 104 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
![](/f/29655/5e114ba97ff28d5e08b0c12b.jpg)
![](/f/29655/5e114ba97ff28d5e08b0c12a.jpg)
โซนที่สาม Magic Land เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัว หรือมีเด็ก ๆ เดินทางมาด้วย
![](/f/29655/5e114bab7ff28d5e08b0c12d.jpg)
โซนที่สี่ European Adventure หากใครอยากถ่ายรูปกับสวนสวนๆกับสถาปัตยกรรมสไตล์ฝรั่งเศส เชิญทางนี้! และใครเป็นสายเจ้าหญิงอย่าลืมมาแวะโพสท่างามๆที่ม้าหมุนยักษ์ได้เลย .. แต่เสียดายเวลาที่เราไปยังไม่เปิดเลยได้แค่ยืนถ่ายหน้าม้าหมุนไปก่อน
![](/f/29655/5e114baa7ff28d5e08b0c12c.jpg)
![](/f/29655/5e114bac7ff28d5e08b0c130.jpg)
![](/f/29655/5e114bad7ff28d5e08b0c132.jpg)
และโซนสุดท้าย Zootopia เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบเล่นเครื่องเล่น ที่โซนนี้จะเนรมิตสวนสนุกให้กลายเป็นสวนสัตว์ ที่จะทำให้เราได้ใกล้ชิดกับเหล่าสัตว์ป่า, ชมการแสดงจากสัตว์ต่างๆ และนั่งรถซาฟารีชมรอบๆ และสิ่งที่เป็นไฮไลท์ของโซนนี้ ก็คือ เจ้าไลเกอร์ สัตว์พิเศษที่มีแค่ที่เอเวอร์แลนด์ ประเทศเกาหลีใต้ที่เดียวในโลกเท่านั้น เป็นสัตว์ลูกผสมระหว่างเสือกับสิงโต และยังมีโซนหมีแพนด้าอย่าง Panda World ได้ชมความน่ารักของเจ้าแพนด้าอีกด้วย
![](/f/29655/5e114bac7ff28d5e08b0c131.jpg)
![](/f/29655/5e114bab7ff28d5e08b0c12e.jpg)
![](/f/29655/5e114bac7ff28d5e08b0c12f.jpg)
![](/f/29655/5e114bae7ff28d5e08b0c135.jpg)
![](/f/29655/5e114bae7ff28d5e08b0c133.jpg)
![](/f/29655/5e114bae7ff28d5e08b0c134.jpg)
ขากลับกระเช้าเปิดพอดี เราเลยนั่งกระเช้าที่เชื่อมระหว่าง zootopia ขึ้นมายัง global fair เห็นห้อยขาแบบนี้ไม่ต้องกลัวมีเข็มขัดนิรภัยป้องกันเราตกอยู่ด้วยจ้า
![](/f/29655/5e114baf7ff28d5e08b0c137.jpg)
ค่าเข้าชม : แบบ 1 วัน - ผู้ใหญ่ 52,000 ₩ , เด็ก 41,000 ₩
แบบช่วงกลางคืน (17:00 จนปิด) - ผู้ใหญ่ 43,000 ₩ , เด็ก 34,000 ₩
แบบ 2 วัน - ผู้ใหญ่ 81,000 ₩ , เด็ก 64,000 ₩
การเดินทาง :
- รถไฟฟ้าใต้ดิน เดินทางไปลงที่สถานี Jeondae Everland ของสาย Yongin Ever สายสีเขียวอ่อนทางออกที่ 3 และต่อ shuttle bus ไปยัง Everland
- Shuttle bus ขึ้นรถบัสหมายเลข 5002 ที่สถานี Gangnam Station Exit 10 หรือ รถบัสหมายเลข 5700 ที่สถานี Jimsil Station Exit 6
หลังออกจากสวนสนุกเพียงไม่นานเราก็มาถึงร้านอาหารกันแล้ว มื้อเที่ยงนี้เราทานเมนูหมูย่างเกาหลี โดยนำหมูส่วนที่ติดกับกระดูกไปน่างบนเตา เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงและซุปสาหร่าย
![](/f/29655/5e114bb07ff28d5e08b0c138.jpg)
![](/f/29655/5e114bb17ff28d5e08b0c13a.jpg)
ไปกันต่อที่ศูนย์เครื่องสำอางค์ ที่นี่มีกฏเหล็ก คือ ห้ามถ่ายรูป เราเลยไม่มีรูปสถานที่นี้มาให้ดูนะคะ .. เราได้มารู้จักกับสินค้าแบรนด์ DEWINS เป็นเวชสำอางที่การันตีโดยบริษัทซัมซุง พี่ๆเค้าจะให้เราทดลองสินค้า ไม่ว่าจะเป็นครีมหอยทาก, ครีมน้ำแตก Aqua Intensive gel cream,Bubble O2 , Solf peeling ใครชอบตัวไหนสามารถช้อปกลับไปได้เลย
จากนั้นเราไปต่อกันที่ศูนย์สาหร่าย หนึ่งในของฝากที่มีชื่อเสียงของเกาหลี ซึ่งมีให้เลือกหลายรสชาติให้เราเลือกซื้อไปเป็นของฝากได้ แล้วเรายังได้เรียนรู้และได้ลองทำคิมบับหรือข้าวห่อสาหร่าย และกิจกรรมสุดท้ายของที่นี่เรายังได้ลองสวมชุดฮันบกซึ่งเป็นชุดประจำชาติเกาหลีถ่ายรูปเล่นอีกด้วย
![](/f/29655/5e114bb27ff28d5e08b0c13b.jpg)
![](/f/29655/5e114baf7ff28d5e08b0c136.jpg)
![](/f/29655/5e114bb37ff28d5e08b0c13d.jpg)
สำหรับอาหารมื้อเย็นของเราเป็นไก่ตุ๋นโสม เป็นอาหารบำรุงสุขภาพยอดฮิตในวังหลวง ในตัวไก่จะมีข้าวเหนียว รากโสม พุทราแดง เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงที่เรียกว่า กักตุกี คือเส้นขนมจีน หากใครไม่ชอบซุปจืดๆ สามารถเพิ่มรสชาติได้โดยปรุงด้วยพริกไทยดำและเกลือตามชอบ
![](/f/29655/5e114bb07ff28d5e08b0c139.jpg)
![](/f/29655/5e114bb27ff28d5e08b0c13c.jpg)
สถานที่ท่องเที่ยวสุดท้ายของเราในวันนี้ เราได้มาเดินย่อยอาหารกันที่ N Seoul Tower (엔 서울타워) หรือ Seoul Tower (서울타워) ตั้งอยู่บนยอดเขานัมซาน จึงทำให้เป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า Namsan Tower (남산타워) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ .. Seoul Tower ได้รับการปรับปรุงและเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น N Seoul Tower ตัวอักษร N มีความหมายมาจากคำ 3 คำ คือ New (ใหม่), Natural (ธรรมชาติ) และ Namsan (นัมซาน)
![](/f/29655/5e114bb37ff28d5e08b0c13e.jpg)
![](/f/29655/5e114bb47ff28d5e08b0c140.jpg)
![](/f/29655/5e114bb47ff28d5e08b0c13f.jpg)
เราจะสามารถชมวิวทิวทัศน์และทัศนียภาพรอบๆกรุงโซลได้ทั้งยามกลางวันและยามค่ำคืน ความสวยงามของวิวก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ฤดูกาลและช่วงเวลา
![](/f/29655/5e114bb67ff28d5e08b0c144.jpg)
โดยจุดไฮไลต์ที่เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว ก็คือ การคล้องกุญแจ เชื่อว่าคู่รักที่มาคล้องกุญแจที่จะมีความรักที่ยืนยาวไปตลอดกาล
![](/f/29655/5e114bb57ff28d5e08b0c142.jpg)
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชั้นชมวิว ผู้ใหญ่ 9000 ₩ เด็ก 7000 ₩
ค่าเข้าชมพิพิธภัณท์ ผู้ใหญ่ 12000 ₩ เด็ก 6000 ₩
แพคเกจผู้ใหญ่ (N Seoul Tower + พิพิธภัณฑ์ ALIVE MUSEUM) 15,000 ₩
แพคเกจเด็ก (N Seoul Tower + พิพิธภัณฑ์ ALIVE MUSEUM) 11,000 ₩
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 10.00 น. - 23.00 น. ยกเว้นวันเสาร์ จะปิด 24.00 น.
การเดินทาง :
1. Namsan Sunhwan Shuttle Bus No. 02 เวลาทำการ 07:00 น. – 23:30 น. *รถออกวิ่งทุกๆ 15 นาที
- Chungmuro Station (Seoul Subway Line 3 หรือ Line 4) ทางออกที่ 2 จากนั้นขึ้นรถที่ป้ายจอดด้านหน้าโรงภาพยนตร์แดฮัน (Daehan Cinema)
- Dongguk University Station (Seoul Subway Line 3) ทางออกที่ 6
ค่าโดยสาร เงินสด 1,200 ₩ หรือบัตรโดยสารสาธารณะ 1,100 ₩
2. Namsan Sunhwan Shuttle Bus No. 03 เวลาทำการ 07:30 น. – 23:30 น. *รถออกวิ่งทุกๆ 20 นาที
- Hangangjin Station (Seoul Subway Line 6) ทางออกที่ 2
- Itaewon Station (Seoul Subway Line 6) ทางออกที่ 4
- Seoul Station, Seoul Square (Seoul Subway Line 1, 4) ทางออก 9
ค่าโดยสาร เงินสด 1,200 ₩ หรือบัตรโดยสารสาธารณะ 1,100 ₩
3. Namsan Sunhwan Shuttle Bus No. 05 เวลาทำการ 07:30 น. – 23:30 น. *รถออกวิ่งทุกๆ 15 นาที
- Chungmuro Station (Seoul Subway Line 3 หรือ Line 4) ทางออกที่ 2 จากนั้นขึ้นรถที่ป้ายจอดด้านหน้าโรงภาพยนตร์แดฮัน (Daehan Cinema)
- Myeong-dong Station (Seoul Subway Line 4) ทางออกที่ 3
ค่าโดยสาร เงินสด 1,200 ₩ หรือบัตรโดยสารสาธารณะ 1,100 ₩
4. เคเบิ้ลคาร์
- Myeong-dong Station (Seoul Subway Line 4) ทางออกที่ 3
จากนั้นเดินประมาณ 7-8 นาที โดยเดินไปตามถนนด้านขวาของโรงแรมแปซิฟิก (Pacific Hotel) จนถึงสถานีขึ้นรถกระเช้า (Cable Car Station) ซึ่งอยู่ที่ด้านบนของเนินเขาใกล้กับสถานกงสุลจีน
- Myeong-dong Station (Seoul Subway Line 4) ทางออกที่ 4
จากนั้นเดินมุ่งหน้าไปยังสี่แยก Hoehyeon (ทางไปยังห้างสรรพสินค้า Shinsegae) แล้วเลี้ยวซ้ายที่สี่แยก และเดินตรงไปประมาณ 5 นาที และขึ้นลิฟท์ Namsan Ohreumi/Incline Elevator เพื่อไปสถานีขึ้นรถกระเช้า (Cable Car Station) ซึ่งอยู่ที่ด้านบนของเนินเขาใกล้กับสถานกงสุลจีน
ถึงเวลาเข้าที่พักกันแล้ว เราจะพักอยู่ที่นี่ 2 คืนด้วยกัน โรงแรมที่เรานอนมีชื่อว่า Kyungnam Tourist Hotel เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว มีห้องพักทั้งหมด 103 ห้อง ห้องพักขนาดกว้างขวาง พักผ่อนสบายดี หน้าต่างเปิดโล่ง มองเห็นวิวภายนอกได้อย่างชัดเจน
![](/f/29655/5e114bb57ff28d5e08b0c141.jpg)
![](/f/29655/5e114bb67ff28d5e08b0c145.jpg)
![](/f/29655/5e114bb87ff28d5e08b0c148.jpg)
ตามสเตปเดิมเมื่อเข้าถึงที่พักเรียบร้อย เราต้องออกมาเดินสำรวจบริเวณรอบๆโรงแรม ดึกๆแบบนี้จะทำอะไรได้นอกจากหาของกินยามค่ำคืน โดยร้านแรกที่รีวิวแนะนำมา คือ ร้านปูดอง เข้าไปแล้วแต่สู้ราคาไม่ไหวเพราะกินคนเดียว ขอถอยดีกว่า เดี๋ยวกลับมาทาน nice to meet you ที่ไทยก็ได้
![](/f/29655/5e114bb77ff28d5e08b0c146.jpg)
สุดท้าย เราซื้อแบบ Take Away มากินบนห้องซะเลย หนึ่งในเมนูที่ชอบเห็นในซี่รี่ย์เกาหลีหลายๆเรื่องเลย คือ ไก่ทอดกับเบียร์ เลยได้ร้านแถวๆโรงแรมนั่นแหละ ราคา 9000 ₩ ส่วนเบียร์มาซื้อที่ร้านสะดวกซื้อ GS25 เอา และอีกอย่างที่ซื้อมาทาน คือ แกงส้มกิมจิ หรือเรียกว่า กิมจิชีเก, Kimchi-jjigae (김치찌게) คล้ายๆซุปกิมจินั่นแหละ เสริฟ์พร้อมข้าวร้อนๆ ในราคา 15,000 ₩ มื้อนี้กินในอิ่มแปล๋กันไปเลย แต่เราถูกใจแกงส้มกิมจิมาก อร่อยจนหยุดทานไม่ได้เลยจริงๆ
![](/f/29655/5e114bb87ff28d5e08b0c147.jpg)
Day 4
22 พฤศจิกายน 2562
วันนี้ก็ตื่นเฉกเช่นเดียวเมื่อวาน แต่อุณหภูมิเช้านี้อุ่นขึ้นมาหน่อยอยู่ที่ 1 องศาเซลเซียส .. โดยโปรแกรมวันนี้ช่วงเช้าทั้งหมดจะเป็นร้านช้อปตามโปรแกรมทัวร์ ..
![](/f/29655/5e114bb57ff28d5e08b0c143.jpg)
เริ่มต้นจากศูนย์โสมเกาหลี .. โสมเป็นสิ่งที่ขึ้นชื่อของเกาหลี โสมอายุ 6 ปี ถือว่าเป็นโสมที่มีคุณภาพดีที่สุด เพราะ มีสารจินเซงโนซาย 32 ชนิดซึ่งมากที่สุดในโลก ช่วยในการปรับสมดุลภายในร่างกายทั้งหมด สังเกตได้ว่าคนเกาหลีส่วนใหญ่ผิวค่อนข้างดี เพราะ เค้ารณรงค์ให้ประชาชนบริโภคโสมตั้งแต่อายุ 8 เดือนเป็นต้นไป .. เราสามารถซื้อโสมเป็นของฝากญาติผู้ใหญ่ที่นี่ได้ มีผลิตภัณฑ์โสมหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น โสมสกัด, โสมผง, โสมแคปซูล, โสมอบน้ำผึ้ง, โสมตากแห้ง ฯลฯ
![](/f/29655/5e114bb87ff28d5e08b0c149.jpg)
![](/f/29655/5e114bb97ff28d5e08b0c14a.jpg)
ไปต่อกันกับสถานที่บังคับที่ที่สอง ศูนย์สมุนไพร ฮอกเกนามู เป็นสมุนไพรที่มีคุณภาพดีที่สุดในการบำรุงตับ เป็นสมุนไพรที่หายากในปัจจุบัน ช่วยขับสารพิษตกค้างต่างๆ ออกจากตับ ช่วยลดอาการเมาค้าง ต้านอนุมูลอิสระ และช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินออกมาเสมือนหนึ่งเป็นการทำดีท็อกซ์ของเสียออกจากร่างกาย
![](/f/29655/5e114bba7ff28d5e08b0c14b.jpg)
สถานที่ที่สาม ศูนย์น้ำมันสนเข็มแดง ผลิตจากใบสนเข็มแดงในประเทศเกาหลีซึ่งจะใช้ต้นสนเข็มแดงจากยอดเขามาผลิตโดยใช้เทคโนโลยีพร้อมกับการวิจัยออกมาเป็นน้ำมันสนเข็มแดง สามารถช่วยในการลดระดับไขมันในเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี ที่นี่เค้าจะมีให้เราตรวจสุขภาพเส้นเลือดได้ด้วย ว่าเรามีความเสี่ยงอะไรบ้าง
![](/f/29655/5e114bba7ff28d5e08b0c14c.jpg)
และสถานที่บังคับที่สุดท้ายของวันนี้ คือ ศูนย์เจียระไนพลอยแอมมาทิส ชาวเกาหลีนิยมพลอยสีม่วง พลอยนี้สวมใสแล้วจะทำให้สุขภาพดีและมีโชคลาภ ที่นี่เป็นศูนย์เจียระไน เราสามารถเลือกซื้อเครื่องประดับที่ทำจากพลอยนี้ได้ราคาขึ้นอยู่กับพลอยและความยากง่ายของงานชิ้นนั้นๆ .. สำหรับคนงบน้อยอย่างเรา ของเลือกซื้อเป็นจี้ห้อยโทรศัพท์ (สามารถเปลี่ยนมาเป็นจี้ห้อยคอได้) ตกอันละ 300 บาท สามารถเลือกลายจี้ได้
![](/f/29655/5e114bba7ff28d5e08b0c14d.jpg)
![](/f/29655/5e114bbc7ff28d5e08b0c14e.jpg)
มื้อเที่ยงของวันนี้เราทานเมนูปลาย่างเตาถ่าน ปลาเนื้อแน่นๆ ออกรสเค็มนิดๆ หอมถ่านที่ใช้ในการย่าง ทานกับข้าวร้อนๆพร้อมเครื่องเคียงที่หลากหลาย อร่อยเหาะไปเลยจ้า
![](/f/29655/5e114bbc7ff28d5e08b0c150.jpg)
ตามโปรแกรมทัวร์เราจะต้องไปย่านอีแด (이대) และ ewha womans university กันก่อน แต่เวลาวันนี้เหมือนจะไม่พอ เลยตัดโปรแกรมนี้ออกไปค่ะ แต่ไปเพิ่มเวลาที่เมียงดงแทน ..
![](/f/29655/5e114bbc7ff28d5e08b0c14f.jpg)
![](/f/29655/5e114bbd7ff28d5e08b0c151.jpg)
เพราะฉะนั้น สถานที่ต่อไปเราไปสถานที่ทางประวัติศาสตร์จของประเทศเกาหลีกัน นั่นคือ พระราชวังคยองบกกุง (경복궁) เป็นวังหลวงที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าแทโจแห่งราชวงศ์โชซอน
![](/f/29655/5e114bbd7ff28d5e08b0c153.jpg)
![](/f/29655/5e114bbd7ff28d5e08b0c152.jpg)
เมื่อเดินผ่านประตูแรกเข้ามา ก็จะมาเจอกับท้องพระโรงที่กษัตริย์ใช้ออกว่าราชการ ที่เรียกว่า Geunjeongjeon และใช้สำหรับการรับรองทูตจากต่างประเทศ .. ด้านในห้องไม่สามารถเดินเข้าไปชมได้ แต่สามารถยืนถ่ายรูปตรงประตูได้
![](/f/29655/5e114bbe7ff28d5e08b0c155.jpg)
![](/f/29655/5e114bbf7ff28d5e08b0c156.jpg)
![](/f/29655/5e114bc07ff28d5e08b0c158.jpg)
![](/f/29655/5e114bc07ff28d5e08b0c15a.jpg)
เดิมทีนั้นภายในพระราชวังมีอาคารและตำหนักต่างๆมากมาย แต่เมื่อมีการรุกรานของญี่ปุ่น พระตำหนักส่วนใหญ่ก็ได้ถูกทำลายลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่หลัง
![](/f/29655/5e114bc07ff28d5e08b0c159.jpg)
เราเดินต่อเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนพระตำหนักต่างๆ เดินชมแล้วเหมือนได้ย้อนยุคกลับไปในสมัยก่อนเลยค่ะ
![](/f/29655/5e114bc07ff28d5e08b0c157.jpg)
![](/f/29655/5e114bc17ff28d5e08b0c15b.jpg)
ตรงนี้เป็นจุดไฮไลต์อีกแห่งหนึ่ง คือ ศาลากลางน้ำ หรือ Gyeonghoeru เป็นห้องโถงที่ใช้จัดงานเลี้ยง หรืองานพระราชพิธีต่างๆ
![](/f/29655/5e114bc27ff28d5e08b0c15d.jpg)
![](/f/29655/5e114bc27ff28d5e08b0c15c.jpg)
เราโชคดีที่มาทันในช่วงพิธีเปลี่ยนเวรยามรักษาการณ์ของทหารประจำพระราชวังพอดี จะใช้เวลาประมาณ 20 นาที มี 2 รอบ คือ 10.00 น. และ 14.00 น. และการเดินตรวจเวรยาม ก็มี 2 รอบเช่นกัน คือ 11.00 น. และ 13.00 น. บริเวณลานหน้าประตู Gwanghwamun (광화문) พระราชวังปิดวันอังคารและไม่มีการจัดกิจกรรม
![](/f/29655/5e114bc37ff28d5e08b0c15f.jpg)
![](/f/29655/5e114bc47ff28d5e08b0c160.jpg)
![](/f/29655/5e114bc37ff28d5e08b0c15e.jpg)
![](/f/29655/5e114bc57ff28d5e08b0c162.jpg)
![](/f/29655/5e114bc57ff28d5e08b0c163.jpg)
ค่าเข้าชม :
- ผู้ใหญ่ (อายุ 19-64 ปี) : 3,000 ₩ / คณะ (มากกว่า 10 คน): 2,400 ₩
- เด็ก (อายุ 7-18 ปี): 1,500 ₩ / คณะ (มากกว่า 10 คน): 1,200 ₩
- เด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบและผู้ใหญ่อายุมากกว่า 65 ปี เข้าชมฟรี
- หากสวมชุดฮันบก (ชุดประจำชาติ) สามารถเข้าชมพระราชวังได้ฟรี
- สามารถเข้าชมพระราชวังได้ฟรีใน “วันวัฒนธรรม (Culture day/ 문화가 있는 날)” ทุกวันพุธสุดท้ายของเดือน
วันและเวลาทำการ :
เวลาเปิดให้บริการเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศในแต่ละเดือน ดังนี้
- มีนาคม - พฤษภาคม : 09.00 น. - 18.00 น.
- มิถุนายน - สิงหาคม : 09.00 น. - 18.00 น.
- กันยายน - ตุลาคม : 09.00 น. - 18.00 น.
- พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ : 09.00 น. - 17.00 น.
* เปิดให้เข้ารอบสุดท้าย 1 ชั่วโมงก่อนเวลาปิด
การเดินทาง :
รถไฟฟ้าใต้ดิน
- สถานี Gyeongbokgung Palace สาย 3 ทางออก 5 ออกมาจะเห็นพระราชวังทันที
- สถานี Gwanghwamun สาย 5 ทางออก 2 เดินตรงมาเรื่อยๆจะเห็นทางเข้าพระราชวัง หากลงที่สถานีนี้สามารถชมจตุรัสควังฮวามุนได้
ต่อไปเราจะได้ไปช้อปปิ้งกันที่ Shinsegae Duty Free เป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่อยู่ไม่ไกลจากย่านเมียงดง จำหน่ายสินค้าแบรนด์ชั้นนำต่างๆ และสินค้าปลอดภาษี ในชั้นที่ 8 ถึงชั้นที่ 12 อีกด้วย ของที่นี่ราคาเป็นดอลล่านะคะ แต่เราจ่ายเงินวอนได้ค่ะ
![](/f/29655/5e114bc47ff28d5e08b0c161.jpg)
การเข้าชม : เปิดทุกวัน
วันจันทร์-พฤหัสบดี 10:30 - 20:00
ศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดต่างๆ 10:30 - 20:30
ศูนย์อาหาร(Food Court) 11:00 - 21:30
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟใต้ดิน Hoehyeon Station สาย Subway Line 4 ให้ออกที่ทางออก Exit 7 แล้วเดินต่ออีกประมาณ 100 เมตรก็ถึง
และที่ช้อปปิ้งที่สุดท้ายของวันนี้ เรามีเวลาอยู่ที่นี่ 4 ชั่วโมงเต็มๆ เรามาอยู่ที่ย่านเมียงดง (명동) เป็นแหล่งรวมแฟชั่นของวัยรุ่นเกาหลี ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า และแบรนด์เครื่องอำอางค์อย่าง Etude, The Face Shop, Skin Food, The Saem, Nature Republic, Innisfree ราคาขายถูกกว่าในไทย แถมได้ของแถมต่างๆเยอะแยะเลย เพราะฉะนั้น ขนกลับสิค่ะ
![](/f/29655/5e114bc67ff28d5e08b0c164.jpg)
![](/f/29655/5e114bc67ff28d5e08b0c165.jpg)
แบรนด์ดังรองเท้าก็มีหลายยี่ห้อ ทั้ง Fila, Adidas, Nike, Vans, Converse ให้เลือก หรือจะเลือกซื้อจากร้านที่รวมหลายๆยี่ห้อ อย่าง ABC Mart, Folder, LesMore ก็จัดโปรโมชั่นแข่งกันอย่างไม่มีใครยอมใคร สุดท้าย ก็เจ้าร้านนั้นออกร้านนี้เช็คราคากันไป ได้คู่ที่ถูกใจ ราคาที่รับได้ ก็เสียเวินกันไปค่ะ กับคำว่า ‘ซื้อที่นี่ถูกกว่าซื้อที่ไทย’ ฮ่าๆๆ
![](/f/29655/5e114bc77ff28d5e08b0c166.jpg)
![](/f/29655/5e114bc77ff28d5e08b0c167.jpg)
![](/f/29655/5e114bc87ff28d5e08b0c16a.jpg)
นอกจากนี้ ช่วงเย็นๆ จะมีของกิน Street Food ตลอดทุกซอกทุกซอยให้เราลองทาน ไม่ว่าจะเป็น Eomuk , Egg Bun, Bungeo-ppang, Tteok-bokki
![](/f/29655/5e114bc87ff28d5e08b0c169.jpg)
![](/f/29655/5e114bc87ff28d5e08b0c168.jpg)
![](/f/29655/5e114bca7ff28d5e08b0c16c.jpg)
![](/f/29655/5e114bc97ff28d5e08b0c16b.jpg)
![](/f/29655/5e114bca7ff28d5e08b0c16d.jpg)
มีอีกหนึ่งร้านที่อยากแนะนำเป็นไอศครีมกุหลาบจากร้าน ‘Milky Bee’ เราเลือก No.D เป็น Strawberry+Yogurt ลดราคาจาก 5,500 ₩ เหลือ 3,800 ₩ เท่านั้นเอง .. ที่อยากไปร้านนี้ไม่ใช่อะไร คือ อยากถ่ายรูปลง IG ล้วนๆเลยค่า
![](/f/29655/5e114bcb7ff28d5e08b0c16f.jpg)
ชานมไข่มุกก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมไม่เว้นแม้แต่ประเทศเกาหลี เราก็เป็นหนึ่งในสาวกชานมไข่มุก เดินๆอยู่เราก็เจอเข้ากับร้าน 'Heuk Hwa Dang' เจ้าดังจากไต้หวันที่มาเปิดสาขาที่เมียงดง ไม่รอช้า ตรงดิ่งเจ้าไปสั่งเลยค่ะกำลังกระหายน้ำพอดี เราลองตัวออริจินัล Brown Sugar Bubble Tea ราคา 4,800 ₩
![](/f/29655/5e114bcc7ff28d5e08b0c170.jpg)
การเดินทาง :
รถไฟใต้ดิน
1.รถไฟใต้ดินสาย 2 สถานี Euljiro 1-ga Station ทางออก 5,6,7
2.รถไฟใต้ดินสาย 4 สถานี Myeongdong Station ทางออก 5,6,7,8
รถบัส
1.รถลีมูซีนบัสสนามบิน(Airport Limousine Bus)
- รถบัสหมายเลข 6001 และ 6015 (มุ่งหน้าไปสนามบินอินชอน-Incheon International Airport) จอดที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงแรมเซจอง(Sejong Hotel) ใกล้ทางออก 10 ของรถไฟใต้ดินสาย 4 สถานี Myeongdong Station
- รถบัส Kal Limousine Bus จอดหน้าโรงแรมลอตเต้(Lotte Hotel)
2. รถซิตี้ทัวร์บัส
- จอดป้ายด้านข้างโรงแรมพริ๊นซ์(Prince Hotel) ใกล้ ทางออก 2 รถไฟใต้ดินสาย 4 สถานี Myeongdong Station
สำหรับมื้อเย็นมื้อนี้ให้หาทานเองจากที่ปล่อยฟรีสไตล์ที่เมียงดง แต่เราเลือกที่จะมาหาทานแถวๆโรงแรม .. คืนนี้ เราเดินไกลออกมาอีกหน่อย ข้ามถนนไปร้านที่อยู่อีกมุมหนึ่งของหัวถนนไม่รู้ว่าร้านอะไร แต่เป็นร้านขายของราคาไม่แพงมาก คล้ายๆกับร้าน Daisa, Miniso เราเลยได้มาม่าเกาหลีมาทานที่โรงแรมเป็นเมนูมื้อเย็นของวันนี้ค่ะ (เริ่มจนจากการช้อปปิ้งวันนี้) .. คร่อก ~ z Z
Day 5
23 พฤศจิกายน 2562
ตื่นเช้ากันวันสุดท้ายสำหรับทริปเกาหลี เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิวันนี้จะเป็นวันที่อุ่นที่สุดในทริปตลอด 5 วัน 3 คืน เริ่มต้นอยู่ที่ 4 องศาเซลเซียส บ่ายๆก็จะอุ่นขึ้นมาตามลำดับ ..
![](/f/29655/5e114bca7ff28d5e08b0c16e.jpg)
สถานที่แรกที่เราจะไปในวันนี้ นั่นก็คือ ย่านฮงแด (홍대) หรือบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยฮงอิก (Hongik University) ที่นี่จะเริ่มเปิดสาย ๆ ตอนที่ไปประมาณ 10:30 น. ร้านค้าเพิ่งเริ่มทะยอยเปิด ถือเป็นแหล่งรวมวัยรุ่นเด็กแนวเกาหลี .. ใครรับหิ้วของแล้วยังไม่ครบสามารถมาเก็บตกที่นี่ได้นะคะ
![](/f/29655/5e114bcc7ff28d5e08b0c171.jpg)
![](/f/29655/5e114bcd7ff28d5e08b0c174.jpg)
เดินฝั่งนี้จนทั่วแล้วข้ามมาอีกฝั่งนึง ฝั่งนี้จะเน้นร้านอาหารซะส่วนใหญ่ แถมจะมีเด็กมาทำการแสดงเปิดหมวกให้ดูเป็นระยะๆ นับว่าเป็นถนนสายอาร์ตจริงๆ หลังจากเดินไปเดินมาขอแวะดื่มชานมไข่มุกร้าน Tiger Sugar ในราคา 4,900 ₩ สักหน่อยก่อนจะเดินกลับไปยังจุดนัดพบ (ขออภัยภาพโฟกัสผิดจุด แหะๆ)
![](/f/29655/5e114bcd7ff28d5e08b0c172.jpg)
การเดินทาง :
- รถไฟใต้ดินสาย 2 (สีเขียว) สถานี Hongik University Station ทางออก 8,9 และ
- รถไฟฟ้าใต้ดินสาย 6 (สีน้ำตาล) สถานี Sangsu ทางออกที่ 1,2
สำหรับมื้อสุดท้ายในประเทศเกาหลี เป็นเมนูที่ชื่อว่าไก่อบซีอิ๋ววุ้นเส้น หรือภาษาเกาหลีเรียกว่า จิมดัก (찜닭) เป็นเมนูอาหารเกาหลีพื้นเมืองดั้งเดิม เป็นที่นิยมในหมู่คนไทย โดยนำไก่มาผัดรวมกับวุ้นเส้น มันฝรั่ง แครอท พริก และซอสดำ รสชาติคล้ายๆไก่พะโล้สูตรเกาหลี ทานคู่กับข้าวและเครื่องเคียง
![](/f/29655/5e114bcd7ff28d5e08b0c173.jpg)
พออิ่มแล้ว ไม่ใกล้ไม่ไกลเดินถัดมาอีกหน่อยจะเป็นร้านซุปเปอร์มาเก๊ต หรือเรียกว่า ร้านละลายเงินวอน เป็นการช้อปเก็บตกก่อนกลับไทยด้วยค่ะ สินค้าที่น่าซื้อก็จะเป็นพวกมาม่าเกาหลี, นมกล้วย, Honey Butter Chip, Pepero เป็นต้น พยายามใช้เศษเหรียญให้เหลือน้อยที่สุดนะคะ เพราะ เราไม่สามารถนำมาแลกคืนเป็นเงินไทยได้ ..
![](/f/29655/5e114bce7ff28d5e08b0c176.jpg)
หลังจากนั้น เราก็เดินทางสู่สนามบินนานาชาติอินชอน เช็คอินรับ boarding passและทำเรื่อง Tax Refund เราเดินทางกลับสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินอีสตาร์เจ็ท เที่ยวบินที่ ZE511 เครื่องออกเวลา 17.05 น. ตามเวลาท้องถิ่นและถึงประเทศไทยเวลา 21.35 น. ตามเวลาในประเทศไทย
![](/f/29655/5e114bce7ff28d5e08b0c175.jpg)
![](/f/29655/5e114bcf7ff28d5e08b0c177.jpg)
ทริปเกาหลีของเราตลอด 5 วัน 3 คืนก็สิ้นสุดลงแล้วค่ะ .. ‘ประเทศเกาหลี’ จากเดิมไม่มีแพลนเลยว่าอยากจะมา แต่ตอนนี้ความคิดเราเปลี่ยนไป เราชอบประเทศนี้และถ้ามีโอกาสจะกลับมาอีก ยังมีอีกหลายต่อหลายที่ที่เราอยากจะไป มาครั้งหน้าเราจะลอง Backpack มา เก็บตังค์ๆๆ สุดท้ายนี้ ขอกล่าวคำว่า 감사합니다 ~ คัมซาฮัมนีดา ที่อ่านมาจนจบนะค่าา
ขอบคุณ SONY A6500 + Lens 16-70mm F/4 และ Iphone 11
ที่ทำให้เราได้ภาพสวยๆตลอดทริปนี้
แต่งภาพโดยโปรแกรม Lr
ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตาม หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ยินดีน้อมรับทุกคำติชม
สามารถติดตามการเดินทางของเราได้อีกหนึ่งช่องทาง
PAGE : https://www.facebook.com/KeepGoingThailand
และฝากกด LIKE และกด SUBSCRIBE เพื่อเป็นกำลังใจให้การทำวีดีโอการเดินทางของเราในครั้งต่อๆไปด้วยนะคะ
YOUTUBE : https://www.youtube.com/channel/UC8BYq-uSUDO23GYAQ-Ck3kQ
.. เจอกันการเดินทางครั้งต่อไป ..
In My Eye
วันเสาร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.16 น.