สวัสดีครับ... ทริปนี้ผมจะพาไปเที่ยวกันที่เมือง "มัณฑะเลย์" ประเทศพม่า ครับ และ จะต่อไปหนาวกันที่ เมือง "พิล อูล วิน" ซึ่งถือว่าเป็นความตั้งใจหลักที่จะไปเยือนทริปนี้เลยครับ

เนื่องจากเวลาจำกัด โปรแกรมการเดินทางของผมทั้งหมด 3 วัน 2 คืน คร่าวๆ ดังนี้ คือ
วันแรก - เดินทางถึงมัณฑะเลย์ เดินทางต่อไปพิล อูล วิน (นอนที่นี่)
วันที่สอง - เที่ยวพิลอูลวิน บ่ายๆ เดินทางกลับมัณฑะเลย์ ไปชมวิวยามเย็นที่ สะพานไม้อูเบ็ง (นอนมัณฑะเลย์)
วันที่สาม - ตื่นไปชมพิธิล้างหน้าพระมหามัยมุนี และเที่ยวในเมืองมัณฑะเลย์ ก่อนเดินทางกลับ

ออกเดินทางไปกับเพื่อนร่วมทริปทั้งหมด 3 ท่าน เป็นทริปสั้นๆ สบายๆ ครับ ว่าแล้ว...อย่าเสียเวลา เก็บกระเป๋าออกไปนั่งรถม้าเที่ยวกันดีกว่าครับ...!!


เริ่มออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ด้วยตั๋วโปรโมชั่น จากแอร์เอเชีย เช่นเคยครับ FD 2760 ออกเดินทางเวลา 10.55 น.

มานั่งรอที่ Gate ครับ วันนี้นักท่องเที่ยวเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติครับ วันนี้ ตารางการบินดีเลย์กันเยอะครับ เนื่องจากมีการซ้อม แอร์โชว์ ที่จะแสดงในวันเด็ก เที่ยวบินนี้เลยช้าไปครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว


ได้เวลาออกเดินทางแล้วครับ พร้อมออกไปเยือน "มัณฑะเลย์"


สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบท่องเที่ยวแบบประหยัด แวะมาทักทาย ติดตามกันได้นะครับ

CHAILAIBACKPACKER : https://www.facebook.com/chailaibackpacker


เนื่องจากเที่ยวบินนี้ บินเวลาทานอาหารเที่ยงพอดี ก็ต้องจัดสักหน่อยครับ "Nasi Lemak" และ ผู้โดยสารเที่ยวบินนี้ก็ซื้ออาหารกันเยอะมากเลยครับ แทบจะทุกคนเลย

สักพักแอร์สาวสวย ก็เดินแจกใบกรอกผ่านแดนครับ กรอกข้อมูลนิดๆหน่อยๆ รวมทั้งสิ่งของต้องสำแดง

ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง เครื่องเริ่มลดระดับลง เห็นทิวเขาของประเทศพม่าดูสวยงาม

แล้วเราก็เดินทางมาถึง "มัณฑะเลย์" อย่างปลอดภัย มี Bus มารอรับเข้าตัวสนามบิน บรรยากาศสนามบิน "มัณฑะเลย์" ดูแห้งแล้งๆ หน่อยนะครับ

Bus แนวๆ...เปิดแอร์ธรรมชาติ พาผู้โดยสารเที่ยวบินนี้ เข้าสู่อาคารสนามบิน

เข้าสู้อาคารผู้โดยสารแล้ว ก็ต้องมาต่อคิวตรวจสัมภาระ สิ่งของต้องสำแดง และ ต่อคิว ตม. ครับ ซึ่งวันนี้ แถวยาวมากๆ


จากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองมัณฑะเลย์

สำหรับ ผู้โดยสารแอร์เอเชีย สามารถใช้บริการรถฟรี บริการรถรับ – ส่ง สำหรับผู้โดยสารแอร์เอเชีย กรุงเทพฯ - มัณฑะเลย์
หรือ มัณฑะเลย์ – กรุงเทพฯ จาก สนามบินนานาชาติมัณฑะเลย์ ซึ่งการเข้าสู่ตัวเมืองมัณฑะเลย์นั้น มีระยะทางทั้งสิ้นรวม 45 กิโลเมตร

ขาไป
สนามบินมัณฑะเลย์ ► เมืองมัณฑะเลย์ (ถนน 79 ข้างพระราชวังมัณฑะเลย์ ระหว่างถนน 26 และ 27)
มี 2 เที่ยว คือ 12:45 น. และ 13:00 น.

ขากลับ
เมืองมัณฑะเลย์ (ถนน 79 ข้างพระราชวังมัณฑะเลย์ ระหว่างถนน 26 และ 27) ► สนามบินมัณฑะเลย์
มี 2 เที่ยว คือ 09:00 น. และ 09:15 น.

แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ผมอดใช้บริการรถฟรี เนื่องจากต้องรอเพื่อนบินตามมาสมทบอีก 1 คน ด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์
จึงทำให้ต้องนั่งรอที่สนามบินอีก 1 ชม. และ สนามบินมัณฑะเลย์ ยังมี Free wi-fi ให้เล่นด้วยนะครับ ต่อเล่นได้เลยทันที เยี่ยมมาก!!

ผู้ร่วมทริปเดินทางมาสมทบ ครบทริปนี้ 3 คน ได้เวลาออกเที่ยวพม่ากันแล้ว..

จัดการแลกเงินจ๊าดของพม่า ที่เคาเตอร์ที่ให้บริการ เรียงราย มีทั้งบริการรถเช่าพร้อมคนขับ แท๊กซี่ รถรับ-ส่ง ต่างๆ เราแลกเงิน USD มาจากที่ไทยแล้ว จากนั้นจึงมาแลกเงินจ๊าด ที่นี่ครับ แนะนำให้แลกไปจากสนามบินเลยครับ ได้แบงค์ใหม่ ไม่เก่า
แลกไว้แค่พอประมาณครับ ใช้สำหรับซื้อของ จ่ายตลาด ส่วนเงิน USD เราสามารถใช้จ่ายค่า โรงแรม หรือ ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ที่จ่ายเป็น USD ได้ครับ

จากแผนตอนแรกที่จะนั่งรถเข้าเมือง แล้วหารถต่อไป "พิล อูล วิน" ตามที่ตั้งใจ

ก็เลยคิดว่า ขอเหมาจากสนามบินยิงยาวไป "พิล อูล วิน" เลยดีกว่าครับ และไม่เสียเวลาด้วย
ซึ่งถ้าไม่ได้ใช้บริการรถฟรีของแอร์เอเชีย ก็สามารถนั่งรถรับ-ส่ง เข้าเมืองก็ได้ครับ คนละ 5 USD เป็นแชร์แท็กซี่ครับ

ส่วนเราเหมาจากสนามบินยาวไป "พิล อูล วิน" เลย คิดเป็นเงินไทย 1200 บาทครับ (40USD)
ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1.30 ชม. ครับ

จาก มัณฑะเลย์ สามารถเดินทางไป พิล อูล วิน สามารถไปได้หลายทาง
- รถโดยสาร เดินทาง 2 ชั่วโมงกว่า 5000 จ๊าด (150 บาท)
- รถแท็กซี่แชร์ เดินทาง 1.30 ชั่วโมง 7000 จ๊าด (210 บาท)
- รถไฟ เดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง

เดินทางออกจากสนามบิน รถแท็กซี่อย่างดีติดแอร์ แต่ไม่เปิดแอร์ครับ.. --" เปิดกระจกตลอดทางครับ ซึ่ง... ปัญหา ที่สำคัญของที่นี่ ก็คือ ฝุ่น ครับ...ฝุ่นเยอะมากๆ... แนะนำมาเที่ยวที่นี่ ซื้อที่ปิดจมูก ติดกระเป๋ามาก็ดีครับ..

เรากำลังจะไปหนาว..ที่ "พิล อูล วิน" รถค่อยๆ เข้าสู่เขตภูเขา ไต่ระดับตามแนวเขาไปเรื่อยๆ อากาศก็เริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ ครับ เมือง "พิล อูล วิน" จะอยู่ห่างจาก "มัณฑะเลย์" ประมาณ 60 Km.

แต่...ระหว่างทางยังอุดมไปด้วยฝุ่น อยู่... ทางก็คดๆ เคี้ยวๆ ถ้าต้องเดินทางไกลกว่านี้ ก้คงแย่เหมือนกันนะครับ..เนี่ย --"

นั่งรถมาเกือบ 2 ชม. ก็มาถึง "พิล อูล วิน" แท็กซี่ ถามว่า "จะให้ไปส่งที่โรงแรมไหน?" ซึ่งเราก็ยังไม่รู้จะไปพักที่ไหน กะว่าจะมาหา Walk in เอาดาบหน้า.. ก็เลยให้แท็กซี่มาปล่อยไว้ที่ "หอนาฬิกา" แลนด์มาร์ค ของที่นี่ละกัน..

เมือง พิน อูล วิน (Pyin Oo Lwin) เป็นเมืองตากอากาศที่มีบรรยากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เราจึงพบเห็นอาคารบ้านเรือนภายในเมืองมีความโดดเด่นตามแบบเมืองอาณานิคมของอังกฤษ และระดับความสูงของที่ตั้งเมืองที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1000 กว่าเมตร ช่วยทำให้เมืองมีสภาพอากาศของเมืองเหมาะแก่ การปลูกดอกไม้เมืองหนาวเป็นอย่างมาก เดินเที่ยวเล่นในเมืองนี้ เหมือนมาเที่ยวยุโรปเลยก็ว่าได้

ความสวยงามของอาคารบ้านเรือน

หอนาฬิกาเพอร์เซลล์ (Purcell Tower) สัญลักษณ์อันโดดเด่นของ....เมืองพินอูลวิน

หลังจากลองเดินหาที่พัก มาสักพักใหญ่ๆ พบว่า ถ้าไม่ใช่รีสอร์ทราคาแพงไปเลย โรงแรมที่พักในราคาที่พอรับได้ ส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรมจะค่อนข้างเก่า ถึง เก่ามากๆ ครับ ถ้าจะมาพัก ต้องลองขอดูห้องก่อนครับ บางที่พักราคา คนละ 10 USD แต่สภาพห้องนี่เก่าสุดๆ ครับ จนมาได้ที่นี่ครับ Grace II Hotel คิดราคาต่อคน ราคาคนละ 10 USD (300 บาท) ดูสภาพห้องแล้วถูกใจ และยังมี Wifi ใช้ด้วยครับ เดินมาจากหอนาฬิกาเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น..

สภาพห้องเพิ่งทาสีใหม่เลยครับ ได้กลิ่นสีใหม่เลยทีเดียว รับประกันความใหม่แน่นอน.. สภาพโรงแรมกำลังปรับปรุงใหม่เลยครับ ดูสะอาดตาดี คงเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่กำลังจะเพิ่มขึ้นครับ เป็นห้องนอน 3 คนพอดีครับ ไม่มีแอร์ มีแต่พัดลม แต่ก็คงไม่ได้เปิดครับ เพราะอากาศเย็นมากๆ...

มีแปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ ให้ครับ พร้อมกาน้ำร้อน เอาไว้ไปขอชาร้อนใส่ได้ครับ

ห้องน้ำทำใหม่ สะอาดตา และยังมีน้ำร้อนอาบด้วย สำคัญเลย ^^

เก็บของเรียบร้อย เตรียมออกไปเดินเล่นครับ แดดร่มลมตกพอดี

แผนที่ พิน อูล วิน คร่าวๆ...ครับ โปรแกรมต่อไป..จะไปเดินตลาดกันครับ เริ่มหิวกันแล้ว..

ตอนเย็น คนเริ่มเยอะขึ้นครับ ออกมาซื้อของ จ่ายตลาดกัน..

มีบริการให้เช่ามอเตอร์ไซค์ กับ จักรยานปั่นด้วยครับ เผื่อคนที่สนใจ...

เดินมาแป้บเดียวก็เข้าดงตลาดแล้วครับ เห็นควันลอยมาส่งกลิ่นหอมฉุย คงได้เวลาอาหารเย็นกันแล้วล่ะครับ

..อาหารมีขายแทบทุกมุมถนนกันเลย..

ร้านนี้น่าสนใจ .. ลองเข้าไปชิมกันครับ..

เมนูนี้.. คล้ายปอเปี๊ยะทอด บ้านเรา

ลองสั่งมาชิมก่อนหนึ่งอัน อันละ 100 จ๊าด (3บาท) ตัดมาพอดีคำ โรยด้วยผักสด พร้อมน้ำจิ้ม และ น้ำซุปร้อนๆ เซตนี้ 3 บาท แป้งกรอบๆ ทอดร้อนๆ ไส้ข้างในเป็นผัก และถั่วงอก ถือว่าอร่อยใช้ได้ ครับ..


เมนู.. เส้นๆ ผัดๆ ก็จานละประมาณ 10 บาทครับ

มีอีกหนึ่งเมนู อันนี้เคยเห็นบ่อยๆ ในพม่าครับ คล้ายข้าวขาหมู

แต่... เขาเอามายำให้ครับ ก็เลยลองดู 20 บาท รสก็ออกเปรี้ยวๆ หวานๆ..

อยากสั่งอะไรเพิ่ม อยากลองทานอะไร ก็ชี้ๆ ภาษามือสั่งได้เลยครับ

แอบมองร้านข้างๆ สังเกตได้ว่าขายไอ้เจ้า 3 เมนูนี้เหมือนกันเลยครับ ร้านอื่นๆ ก็เช่นกัน..

อิ่มแล้ว..ก็เดินย่อยครับ มื้อนี้หมดไปไม่กี่บาทเอง สุดคุ้ม อิอิ..เดินผ่านโรงหนังของที่นี่ครับ คลาสสิค..

ลองเดินเข้าไปในซอยนี้บ้าง (ใกล้หอนาฬิกา) ร้านอาหารเยอะมากๆ

เดินมาเจอขนมครกพม่า..หลากลาย หน้า ชวนให้ลอง..

"สนนราคา 8 ฝา 3 บาท"

ลองชิมดูแล้ว...รสออกจะเลี่ยนๆ ไปหน่อยครับ..

ลองมาชิมอะไรร้อนๆ ดูบ้างครับ..เส้นๆ น้ำซุปร้อนๆ..

ราคา 12 บาท รสมันๆ เลี่ยนๆ แบบฉบับพม่าครับ ต้องโรยพริก บีบมะนาวหน่อย ก็พอโอเคขึ้นมาหน่อยครับ

บรรยากาศยามค่ำคืน อากาศหนาวเย็นมากๆ ครับ

พออาทิตย์ลับขอบฟ้า ความเย็นก็ทวีมากขึ้นเป็นเท่าตัวเลยครับ

เราก็ยังเดินเล่น สำรวจเมืองกันครับ ตระเวณราตรี..ชมเมือง..

แล้วก็เดินมาถึง ร้าน Pensi ครับ เป็นร้านอาหาร มีคนมาใช้บริการเยอะมาก เลยลองเข้าไปดูครับ วัยรุ่น และ คนที่นี่มานั่งกันเยอะครับ ส่วนใหญ่มาจิบน้ำชา ชาร้อน ทานโรตี ครับ อากาศหนาวๆ นั่งจิบชาร้อน นี่เยี่ยมเลยครับ ราคาอาหารถูกมากครับ..น่าสนใจ !!

อากาศหนาวๆ...จิบชาร้อนๆ.. ที่สำคัญ ร้านนี้มี Free Wi-Fi ครับ..!!!

นั่งจิบชาร้อน(ฟรี) ฮ่าๆ..จนจุกแล้ว ก็ได้เวลาเดินกลับโรงแรม ครับ อากาศหนาวๆ กับ บรรยากาศ หอนาฬิกายามค่ำคืนครับ แถวนี้ร้านรวงต่างๆ จะปิดเร็วครับ ตั้งแต่หัวค่ำ..



เช้าวันใหม่ที่ พิล อูล วิน.. เช้านี้ อาบน้ำได้อย่างทรมาณสุดๆ.. อากาศยามเช้า ดีมากๆ เลยครับ สงบ และ ปลอดโปร่ง

รถม้า "ซินเดอเรลล่า" มีให้เห็นผ่านไป ผ่านมา..

ที่ โรงแรม Grace II ที่เราพัก มีอาหารเช้าบริการ ด้วยนะครับ เป็น ออมเลต ขนมปัง กล้วย ง่ายๆ ทานตอนเช้าครับ แล้วก็ออกมาเดินเล่นเรื่อยเปื่อย ครับ..

"อากาศค่อนข้างหนาว" จึงเห็นคนที่นี่มายืนจับกลุ่มคุยกัน กลางแดดครับ คลายหนาว

"....บรรยากาศยามเช้า...."

โปรแกรมเช้านี้..เราจะไป สวนพฤกษศาสตร์กันดอว์จี กันครับ.. เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจ ของ พิน อูล วิน เราจะออกเดินทางไปด้วย รถม้าซินเดอเรลล่า คันนี้ครับ..

รถม้าจะค่อยๆ วิ่งไปอย่างช้าๆ ครับ นั่งชิลล์ๆ ชมเมืองไปเรื่อยๆ ครับ ราคาค่าบริการรถม้าชมเมือง ชม.ละ 100 บาท ต่อคนครับ สวนพฤกษศาสตร์กันดอว์จี อยู่ห่างจากตัวเมืองพิน อูล วิน ประมาณ 4 Km. ซึ่งก็ขอจบ Review ตอนแรก EP.1 Pyin Oo Lwin เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ ซึ่งในตอนหน้า EP.2 เราจะพานั่งรถม้าไปชม สวนพฤกษศาสตร์กันดอว์จี ของเมือง "พิน อูล วิน" กันต่อครับ

[EP.2 Mandalay] ชมกันต่อได้ที่นี่ครับ >> https://th.readme.me/p/3063


การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER

FanPage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker

Instagram : CHAILAIBACKPACKER

Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9

ความคิดเห็น