ลุยโลกกว้างที่ดานัง (ตอนที่ 7)

highlights:

  • Marble mountain
  • บรรยากาศในถ้ำครั้งแรกในชีวิต
  • ป้ายรถเมล์

---------------------------------------------------------------------------------

หลังจากตอนที่แล้ว [ลุยโลกกว้างที่ดานัง (ตอนที่ 6)] ที่โคโค่จอดให้เราลงแบบไกลลิบไกลโล่ เราก็เดินกันมาเรื่อยๆ พอใกล้ถึงลิฟท์มากเท่าไหร่เราจะเห็นร้านค้าขายของฝากที่เป็นหยกเป็นหินเยอะมาก แล้วราคาก็ไม่ได้แพงเท่าไหร่ แต่ประเด็นคือซื้อแล้วจะเอาไปทำไรฟะ เราก็เลยไม่ได้ซื้ออะไรมา

แล้วใกล้ๆ กันก็จะมีตู้ขายตั๋วอยู่ อันนี้ซื้อล่วงหน้าไม่ได้นะ เราเลยต้องมาซื้อเอาหน้างาน เราซื้อมา 2 อย่างคือ ตั๋วค่าเข้า 40.000 VND และตั๋วขึ้นลิฟท์ 15.000 VND คือลิฟท์อะเราจะขึ้นหรือไม่ขึ้นก็ได้นะเพราะมันมีบันไดให้เดินขึ้นข้างตู้ขายตั๋ว แต่เราแนะนำให้ขึ้นนะเพราะวิวมันสวยมากกกกกกกกกกกก

สูงเสียดฟ้าไปเลยจ้าาาาาาาาา ขอบคุณนวัตกรรมนี้ทำให้เราไม่ต้องปีนขึ้นอะ 5555

ดูวิวนั่นสิ มันสวยมากกกกกกกกกก ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า บ้านเมืองก็ไม่สูงแข่งกัน มันดีมากกกกกกก มนุษย์เราผู้ซึ่งกลัวความสูงหายกลัวไปเลยอะ แค่อย่ามองลงไปก็พอ 5555

พอเราขึ้นมาถึงข้างบนหันหน้าออกจากลิฟท์ตรงขวามือ จะเห็นว่าจุดที่โคโค่จอดให้เราลงคือตรงตึกที่กำลังสร้างอยู่เลย ประมาณสองสามร้อยเมตรแหละมั้ง ซึ่งที่นี่จะอยู่ระหว่างป้ายจอดโคโค่ 2 ป้าย คือไม่ว่าจะป้ายไหนก็ไกลทั้งคู่อะนะ เวลาจะมาก็เผื่อเวลาเดินกันดีๆ นะจ๊ะ

ส่วนวิวอีกด้านของลิฟท์ก็เป็นวิวธรรมช๊าติธรรมชาติ เรามาตอนประมาณสี่ห้าโมงเย็นกำลังดีเลย สวยยย

แล้วที่สำคัญการมาที่นี่ไม่ได้มีแค่ขึ้นลิฟท์มาแล้วก็หมดเลยนะ เรายังสามารถปีนภูเขาขึ้นไปชมวิวเมืองได้อีก หนทางยังอีกยาวไกล แล้วขั้นบันไดก็เยอะมาก เพื่อนเราก็เลยบอกว่า เดี๋ยวจะนั่งเล่นเน็ตรอตรงนี้นะ แล้วเราก็ทำการเทเพื่อนแล้วออกไปผจญภัยต่อแบบไม่มีเน็ต อย่าไปหลงเขาก็พอ 55555

เดินขึ้นเขาตามทางไปเรื่อยๆ เราก็เห็นว่าตรงถ้ำมีคนเดินออกมาเต็มเลย แล้วเราก็ไม่เคยเห็นถ้ำหรือเข้าถ้ำมาก่อนในชีวิต ก็เลยลองเดินเข้าไปดูบ้าง ทางเข้าแรกๆ ก็ดูกว้างเดินง่าย มีไฟตลอดทาง 

แต่พอเราเดินเข้าไปลึกขึ้นๆ ทางก็เริ่มแคบลงจนสวนทางกันไม่ได้เลย บวกกับเพลงที่เปิดคลออยู่ในถ้ำ หยั่งหลอนอะ ทั้งแคบทั้งหลอน เราก็เริ่มใจเสีย คือเรากลัวที่แคบ แคบแบบมีช่องว่างให้ใหล่เรานิดเดียวเอง พอยิ่งแคบเราก็ยิ่งกลัว แล้วตอนนั้นก็ไม่มีใครปีนตามหลังเรามาสักคน เราเลยไปถึงแค่โถงถ้ำแล้วออกมาเลย ให้รู้ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตมาแล้วก็พอ

พอออกมาจากถ้ำเราก็เดินสำรวจไปเรื่อยๆ มองเห็นลิบๆ ว่ามีศาลาอยู่ เราก็เลยลองขึ้นไปดูว่ามันมีอะไร

เฮ้ยแกรรรรรรรรร วิวแจ็คพอตมาก มันสวยมากกกกกกกกก ลมเย็นสบาย เหมือนเป็นรางวัลแห่งการเปิดโลกกว้างจริงๆ ถ้าใครมีโอกาสมาอยากให้มาลองปีนภูเขานี้ดู คุ้มค่าเหนื่อยแน่นอน ฟิตร่างกายมาดีๆ หารองเท้าเดินทนๆ

มัวแต่เดินเพลิน เวลาก็ผ่านไปเยอะแล้ว เดี๋ยวเราจะไปไม่ทันโคโค่รอบถัดไป เราก็รีบเดินกลับไปหาเพื่อนที่นั่งรออยู่ ระหว่างทางที่จะเดินลง เราก็แอบเห็นว่ามีคนเขาเดินขึ้นมาเองด้วย OMG!!! สุดยอดมากกกก

เพราะบันไดที่มีมันไม่ได้น่าเดินขึ้นสักนิดเดียว ขนาดเราแค่เดินลงยังกลัวเข่าเสื่อมเลย สูงอะไรขนาดนั้นอะ 55555

แล้วเราก็เดินออกมาจาก Mable mountain ฝั่งตรงข้ามกับขามาที่ไกลมากเหมือนกันเพื่อมารอโคโค่ ป้ายรถเมล์ตรงนี้ดีหน่อย มีที่ให้นั่งด้วยแล้วก็มีป้ายโคโค่ชัดเจนมาก เราก็ค่อนข้างจะอุ่นใจนิดนึง 

นั่งรอกันไปเรื่อยๆ รอแล้วรอเล่าโคโค่ก็ยังไม่มาสักที สงสัยเราจะตกรอบก่อนหน้านั้นไปแล้วมั้ง จนหกโมงกว่าๆ อะโคโค่ถึงจะมา

และเพราะเราพลาดโคโค่รอบก่อนหน้านี่แหละ ทำให้ตอนต่อไปเราวายป่วงขึ้นมาทันที 555555555 ส่วนจะวายป่วงท่าไหนยังไง ติดตามใน [ลุยโลกกว้างที่ดานัง (ตอนที่ 8)] หรือติดตามการเดินทางอื่นๆ ของเราได้ที่ เพจ "Try to Try ก็แค่ออกไปลอง" แล้วจะรู้ว่าการก้าวออกจาก Comfort zone ของตัวเองมันสนุกแค่ไหน 

Try to try ก็แค่ออกไปลอง

 วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 17.52 น.

ความคิดเห็น