ลุยโลกกว้างที่ดานัง (ตอนที่ 12)

highlights:

  • ห้างที่ใหญ่ที่สุดในดานัง
  • ตามหาตู้ ATM
  • วิวลิฟท์แก้ว

---------------------------------------------------------------------------------

หลังจากตอนที่แล้ว [ลุยโลกกว้างที่ดานัง (ตอนที่ 11)] ที่เราสู้แดดที่ฮอยอันไม่ไหว เราก็เลยหนีร้อนมาพึ่งเย็นกันที่ห้าง "Vincom Plaza" เป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดในดานัง แล้วห้างนี้ก็มีลิฟท์แก้วด้วย *0* เรามาถึงกันตอนบ่ายโมงครึ่ง ซึ่งมีเวลาอีกเยอะมากกกกกที่จะอยู่ที่นี่เพราะไฟลท์กลับของเราคือ 18.10 ดังนั้นก็อยู่ห้างนี้กันไปยาวๆ เลยจ้ะ

แต่ก่อนอื่นเลยเราต้องหาที่ฝากกระเป๋าภาระของเราก่อน ถ้าเดินทั้งกระเป๋าหนักๆ แบบนี้ตายแน่นนอน ก็เลยไปถามยามว่ามีที่ฝากกระเป๋าตรงไหนไหม ยามบอกว่ามีอยู่ที่ชั้น 2 ตรงบันไดเลื่อน แล้วความดีงามของที่นี่คือฝากกระเป๋าฟรีด้วยจ้าาา แถมข้างๆ กันยังเป็น Supermarket ด้วย เดี๋ยวตอนใกล้จะกลับค่อยมาช้อปปิ้ง

ด้วยความที่เราจ่ายค่า Grab กันไปเกือบหมดตัว เพื่อนก็เลยอยากหาตู้ ATM กดเงิน คือตู้ ATM บ้านเราจะมีอยู่ข้างในห้างใช่ไหม หรืออยู่ทั่วๆ ไปในห้างเลย แต่ที่นี่เรามองหาไม่เจอ ดูจากป้ายรู้แค่ว่าอยู่ชั้น 1

สุดท้ายก็ต้องไปถามยาม (อีกแล้ว) ว่าตู้ ATM อยู่ที่ไหน ยามก็บอกว่าเดินออกไปนอกห้างอยู่ขวามือ ห๊ะ นอกห้าง เราก็เข้าใจว่าออกไปปุ๊ปก็คงจะเจอตู้เลย ไม่จ้ะ เจอแต่ป้ายเหลืองอ๋อยเลยเนี่ย แล้วตู้อยู่ตรงไหนนนน

สักพักก็มีคนเดินออกมา เราก็เลยเดินไปดูว่าที่ที่คนเดินออกมามันมีอะไร มันมีตู้ ATM จ้ะ อยู่เป็นห้องเลย ลึกลับซับซ้อนสุดๆ มีอยู่สองสามตู้ ก็เลือกตู้ที่มันรับบัตรเครดิตได้อะนะ ความดีงามของตู้ที่เลือกมานางมีภาษาไทยด้วยจ้าาา >///<

พอเรามีตังกันแล้วก็ไปที่ชั้น 4 ที่ป้ายบอกว่ามีศูนย์อาหาร ออกจากลิฟท์มาปุ๊บ เฮ้ยยยยย ห้างนี้มี Ice skate ด้วย ไฮโซสุดๆ แล้วข้างในก็มีแต่เด็กๆ เล่นกัน ไม่เห็นผู้ใหญ่เลย

แต่ความสนใจเราอยู่ที่ของกินจ้ะ 5555 มาถึงเวียดนามเพื่อมากินชาไข่มุก!!!!! เพื่อนบอกเขาไม่ถามความหวาน_ูสักคำ 55555555 ความดีงามของร้านนี้นอกจากมีที่ให้นั่งแล้ว ยังมีปลั๊กไฟด้วยจ้าาา เราก็ลงหลักปักฐานกันที่นี่เลย แถมห้างนี้ยังมี Wi-fi ฟรีอีกด้วย ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว >///<

นั่งเล่นเน็ตและชาร์ตแบตกันจนเบื่อแล้วเราก็ย้ายร้านมาหาอะไรกินกันต่อที่ KFC แบบเวียดนามสไตล์ คือแต่ละอย่างที่เลือกมาเนี่ยนะ ที่เมืองไทยไม่มีกินใช่ไหมมม 55555

ก็ไม่รู้จะเลือกเซ็ทไหนดีก็เลยเลือกเซ็ท 139.000 VND มากินด้วยกัน เพราะเรายังอิ่มของที่กินเมื่อเช้าอยู่เลย

พอได้ของครบแล้ว แต่เอ๊ะมันยังไม่มีหลอด แล้วความภาษาอังกฤษอ่อนแอของเราอะไม่รู้ว่าหลอดภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร ง่าววววขนาด 55555 แต่เราเคยรู้มาว่าคนลาวเรียกหลอดว่าท่อก็เลยคิดว่าภาษาอังกฤษน่าจะเรียกว่าท่อเหมือนกัน 55555 

เราก็เลยถามพนักงานไปว่ามี "tube" ไหม พนักงานก็อ๋อออทิชชู่ TT^TT แล้วสุดท้ายก็ไม่ได้หลอดมา คือตอนนั้นโคตรอายอะศัพท์พื้นฐานทำไมไม่รู้ฟะ พอกลับมาเมืองไทยอิคำว่า "หลอด" นี่เป็นปมชีวิตเราเลย จำจนต้องไปค้นมาว่าหลอดภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า "Straw"

พอเรากินกันเสร็จปุ๊ป เราก็มานับๆดูเงินเวียดนามว่าถ้าหักค่า Grab ไปสนามบินแล้วเหลือเงินเท่าไหร่ ซึ่งเหลือเกือบสองแสนเจ็ด เราจะต้องใช้เงินให้หมด เพราะถ้ามันเหลือ เวลาเราแลกคืนเราจะขาดทุนมากกกกกก และแลกได้เฉพาะแบงค์ใหญ่ๆ ทางเดียวที่ทำได้คือ ใช้!! ให้!!! หมดมือ!!!! ชอบเลยยย 555555

เราก็ไปละลายทรัพย์ที่ Vinmart Supermarket ที่เล็งไว้ตั้งแต่ทีแรก แล้วมันก็มีประเด็นอีกแล้วจ้าาาาาา 5555 ขยันหาประเด็น คือไอ้กาแฟสองชิ้นล่างอะ ตอนที่เราไปซื้อจะมีพนักงานยืนแนะนำอยู่ แล้วเขาก็บอกว่ากาแฟที่เราจับๆ อยู่มีกลิ่นด้วยนะ เราก็หรอๆ ไหนๆ ลองดมดู เออๆ หอมดี แล้วฉันก็ซื้อเลยจ้ะ ไม่ได้มีสติดูว่ามันไม่ใช่ผงกาแฟสำเร็จรูป มันคือกาแฟดริปที่จะต้องมีที่กรองเวลากินอะจ้ะ อยากจะบ้าตาย 55555 พอมาถึงเมืองไทยก็ต้องมาเดือดร้อนหาที่กรอกอี๊กกกก 55555 บ้าบอที่สุด ซื้อของไม่เคยจะดูอะไรให้รอบคอบเล๊ยยยย อิชาข้างบนก็ดันเข้าใจว่าชาดอกบัว โอ๊ยยยยมหาจำเริญจริงๆ ฉัน

หลังจากที่เราอยู่ห้างนี้กันมาเกือบสามชั่วโมง ก็ได้เวลาที่เราควรจะไปสนามบินได้แล้ว ไม่งั้นอาจจะเกินอีเว้นท์ตกเครื่องนี่จะงานใหญ่เลยนะ 5555 เราก็เลยได้ลงลิฟท์แก้วกันสักที แต่วิวลิฟท์แก้วอันนี้ไม่สวยเท่าที่ Marble mountain แถมยังเตี้ยกว่าด้วย 

ส่วนตอนหน้าเป็นตอนสุดท้ายแล้วน้าาา เราจะมีอีเว้นท์อะไรอีกไหม โปรดติดตามตอน [ลุยโลกกว้างที่ดานัง (ตอนที่ 13 จบ)] หรือติดตามการเดินทางอื่นๆ ของเราได้ที่ เพจ "Try to Try ก็แค่ออกไปลอง" แล้วจะรู้ว่าการก้าวออกจาก Comfort zone ของตัวเองมันสนุกแค่ไหน

ความคิดเห็น