ลุยโลกกว้างที่ดานัง (ตอนที่ 11)

highlights:

  • วายป่วงด้วยการลบรูปไปหมดเกลี้ยงเลย
  • อาหารที่ฮอยอัน
  • ฮอยอันกลางวันไม่สนุกอย่างที่คิด

---------------------------------------------------------------------------------

จากตอนที่แล้ว [ลุยโลกกว้างที่ดานัง (ตอนที่ 10)] เราได้ดื่มด่ำบรรยากาศของฮอยอันตอนกลางคืนกันไป วันนี้ DAY 4 เป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ที่เวียดนามและมีเวลาอยู่ที่ฮอยอันประมาณครึ่งวัน 

เราตื่นมากันเช้ามากกกก กะว่าจะไปเดินชมเมืองกันตอนที่ยังไม่ค่อยมีคนแล้วก็จะไปชิมกาแฟที่ร้าน Cộng Cà Phê สาขาฮอยอันด้วย อยากรู้ว่ากาแฟจะเหมือนที่สาขาดานังไหม แต่ยังไม่ทันไปถึงไหนพอเราออกมาจากซอยปุ๊ป สิ่งที่ทำให้เราช็อคคือแดดจ้ะแมรรร่ ยังไม่ทันเจ็ดโมงเลย แดดอยู่บนหัวแล้วอะ OMG!! แดดที่นี่โหดเกิ๊น ฉันยังไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะเจอแดดแบบนี้ 55555

เราก็เดินกันไปจนถึงร้านและ ยังไม่เปิดเลยจ้าาาา มาเช้าไป เราก็เลยไปหากาแฟที่เปิดกินก่อนแล้วกัน เดี๋ยวตาย 5555 ก็ไปเจอร้านแถวๆ ริมน้ำเป็นร้านเล็กๆ ราคาถูกมาก 20.000 VND เอง รสชาติก็หวานเหมือนเดิมอะ ภาษาอังกฤษตอนนั้นก็อ่อนแอสั่งแบบหวานน้อยไม่เป็น

กินกาแฟเสร็จเราก็ถ่ายรูปเล่นกันไปเรื่อย แล้วฟ้าสวยมากกกกกก เราก็ไปถ่ายเล่นกันแถวสะพานญี่ปุ่น คือสวยมากกกกกกกกกกกกกก ยังไม่มีนักท่องเที่ยว ยังไม่มีคนเก็บตั๋ว เดินข้ามได้สบายๆ เลย บวกกับฟ้าสวยๆ อื้อหืออออออ ถ้าได้เห็นรูปนะกรี๊ดแน่นอน 555555

พอถ่ายรูปเล่นกันจนพอใจแล้วเราก็กลับที่พักไปกินอาหารเช้ากัน ป้าแกจะมีเมนูมาให้เราเลือกอยู่ 6 อย่าง ห้าอย่างเป็นอาหารฝรั่งพวกขนมปัง แล้วก็ไข่ออมเล็ต แต่เราเห็นอันนึงเขียนว่า "PHO" โอ๊ะ *0* ป้ามีเฝอด้วยยย เราก็เลยสั่งเฝอมาด้วยความคาดหวังว่ามันน่าจะเหมือนที่ดานัง 5555555 ป้าก็หายไปพักนึง เราก็เลยนั่งตรงเก้าอี้ไม้ด้านนอกรับลมรอไปพลางๆ 

แต่ประเด็นมันอยู่ตรงนี้แหละจ้ะ คือตอนที่เราออกไปถ่ายรูปกันเมื่อกี้โทรศัพท์เรามันขึ้นแจ้งเตือนมาว่าเมมเต็ม แล้วพอตอนรอป้ามันก็ขึ้นแจ้งเตือนว่าเมมเต็มอีก เราก็เลยจะลบไฟล์ขยะออกก่อน ไม่อยากลบรูปในมือถือ แต่ทีนี้ด้วยความเบลอ มีไฟล์นึงชื่อว่า "DCIM 10 รายการ" เราก็คิดว่าคงไม่ใช่ไฟล์รูปหลักเราหรอก มันจะมีสิบรายการได้ไง เราถ่ายมาเป็นพันๆ รูป 

เราก็กดลบไปปุ๊ปด้วยความชินมือที่ลบไฟล์ขยะบ่อยๆ ไม่ได้อ่านข้อความที่มันขึ้นมาว่า "ถ้าลบแล้วไม่สามารถกู้คืนได้นะ" พอลบเสร็จเรากะว่าจะมาเช็ครูปที่ถ่ายไป อ้าววววเฮ้ยยยยย รูปหายไปไหนหมดดดดด วินาทีนั้นคือช็อคไปแล้วจ้าาาาา พยายามเปิดปิดเครื่องใหม่ พยายามค้นหาวิธีกู้รูป แล้วแบบแกรรร มือมันสั่น น้ำตามันคลออออ คือมันหายไปหมดเลยอะแกรรรทั้งอัลบั้ม นี่ฉันถ่อมาถึงเวียดนามเพื่อมากดลบรูปทิ้งเอาวันสุดท้ายหรอออ

เพื่อนก็ช็อคไปด้วยว่า "_ึงกดลบรูปไปหมดเลยหรอ" อื้อหมดเลยยย แล้วคือเราเป็นคนชอบถ่ายรูปใช่มะ เราก็จะถ่ายตลอดเวลา เพื่อนเราก็จะไม่ค่อยได้ถ่าย แล้วเมื่อคืนที่สวยๆ เพื่อนยังพูดอยู่เลยว่าจะมาขอรูปจากเรา หายเกลี้ยงเลยจ้ะแมรรรร่ ฮรือออออออออ ขนาดตอนที่เขียนนี้ยังรู้สึกเจ็บจี๊ดดดดดดดที่ใจอยู่เลย TT^TT มันเป็นเซ็ทที่สวยที่สุดแล้วนะ ฮอยอันตอนฟ้ามืดสนิทจนถึงฮอยอันตอนเช้าก่อนแปดโมง ฮรืออออออ

ระหว่างนั้นป้าก็เอาเฝอมาให้ แล้วเฝอในรูปกับในความเป็นจริงต่างกันลิบลับ เพราะเฝอของป้าคือมาม่าเส้นเล็กต้มอะจ้ะ ที่มันไม่อร่อยอะจ้ะ ฮรือออออ มาพร้อมกับผลไม้หนึ่งจาน กับน้ำส้มอีกหนึ่งแก้ว ณ จุดนั้นหดหู่เกินกว่าจะหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปแล้ว ของที่ป้าเอามาให้ก็กินไม่ลงเพราะช็อคอยู่ ฮรืออออออออ รูปที่สวยที่สุดในทริปของฉันนนน TT^TT

นั่งหดหู่อยู่พักใหญ่เลย ก็นึกได้ว่าตัวเอง Back up รูปไว้หนิ ก็เลยลองเปิดดู ช็อคกว่าเดิมอี๊กกกกกกกกก รูปมันถูก Back up ไว้ถึงแค่รูปโคมไฟตอนฟ้ามืดสนิทแค่รูปเดียวเท่านั้น ล่องลงล่องเรืออะไรหายหมด ฮรือออออ ดังนั้นรูปที่เป็นฮอยอันตอนกลางคืนจะมาจาก IG เราที่ลงไว้ แล้วมันไม่ใช่รูปที่สวยที่สุดด้วยนะ เพราะเรากะว่าคัดรูปเสร็จค่อยลงอันที่สวยที่สุด ฮรืออออออออออออ ไม่เหลืออะไรเลยจ้ะ แล้วรูปแรกของบทความนี้ก็หลงเหลือมาจาก FB เรา น้ำตาจะไหลลล ทำไมฉันไม่รู้จักลงรูปสวยๆ ไว้บ้างนะ 

คือที่มันอัพรูปไม่เสร็จน่าจะมีบางช่วงที่ Wi-fi หายไปตอนนอน รูปมันก็เลย Back up ฮอยอันตอนกลางคืนไม่เสร็จ แล้วตอนเช้าตื่นมาเราก็ไม่ได้เช็คให้ดีๆ เหมือนที่ดานัง ว่ามัน Back up ยังไม่ครบอะ แต่ก็ยังดีที่มันหายไปแค่บางส่วน เราคิดถูกแล้วแหละที่ Back up ไว้ตลอดไม่งั้นช็อคกว่านี้อีก 5555555 เดี๋ยวจะกลายเป็นทริปต่างประเทศครั้งแรกที่ไม่มีรูปมาเก็บไว้เป็นที่ระลึก 5555555

เรานั่งหดหู่นานเกิดไป เพื่อนก็ชวนออกไปชมเมืองกัน ตอนเมื่อกี้เราไปลองเดินกันมาและ แต่ถ้าให้เดินทั้งเมืองก็ไม่น่ารอด ก็เลยถามป้าว่าค่าเช่าจักรยานเท่าไหร่ ขี่ได้นานแค่ไหน ป้าบอกคันละสามหมื่นขี่ได้ทั้งวัน เราก็เลยเช่ามาคนละคันกับเพื่อน

ขี่มาถึงตรงสะพานฮอยอันที่เก่า ด้วยความที่เราหดหู่เกินกว่าที่จะยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเหมือนมันหมดความหวังในชีวิตไปแล้วอะ เราก็เลยยกมือถือขึ้นมากดถ่ายส่งๆ เลยได้รูปนี้มาให้เจ็บใจเล่นว่าท้องฟ้าวันนี้มันสวยแค่ไหนอะ ตอกย้ำตัวเองวนไปจ้ะ ฮรืออออออ

แล้วด้วยความที่เราก็ไม่รู้จะไปไหนก็เลยยกแผนที่ขึ้นมาดู ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าจะไปไหน แต่เราจำได้รางๆ ว่ามันจะมีเกาะอันนึงที่เป็นเกาะสวยๆ แต่มันอยู่ไกลมากกกก เลยสะพานที่อยู่ขวามือของแผนที่ไปอีกสะพานนึง เราจะไปกันไหม เพื่อนว่าไปเราก็ไปจ้ะ

เราก็ปั่นจักรยานกันมาไกลมากกกกกก ถึงตรงสะพานทางขวามือของแผนที่ ผ่านทั้งถนนที่มีรถยนต์วิ่ง ผ่านตลาด ข้ามสะพานก็ยังจะไม่ถึง เราก็เลยพักกันตรงสะพานก่อนแปปนึง วิวสวยม๊ากกกกกกก

แล้วเรากับเพื่อนก็ดั้นด้นไปจนถึงสะพานที่สาม ณ จุดนั้นคือเพื่อนเป็นลมแดดไปแล้วจ้ะยังดีว่าตรงนั้นมีร่มและที่ให้นั่งพัก ตอนเก้าโมงเช้าแดดแรงมาก แล้วไปถึงเข้าไม่ได้ด้วยนะแม้แต่ข้ามสะพานไปก็ไม่ได้เพราะเขาบอกว่าที่นี่เปิดห้าโมงเย็น โอ้แมรรร่ แล้วฉันปั่นจักรยานมาทำบ้าอะไรตั้งไกลแถมยังทำเพื่อนเป็นลมอี๊ก 

เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่าเที่ยวแบบไม่มีแพลนก็จะวายป่วงอย่างงี้แหละจ้ะ TT^TT แล้วแถมตอนขากลับเรากลับทางริมแม่น้ำทูโบน ตรงที่มันผ่านตลาดคนเยอะมากกกก มีบางช่วงที่เราต้องจูงจักรยาน หยั่งลำบากอะ จนในที่สุดก็ไปส่งเพื่อนจนถึงที่พักได้สำเร็จ แดดรุนแรงมากจริงๆ ไม่น่าคบหาเหมือนเมื่อคืนเลย 

จากนั้นเราก็ออกมาปั่นจักรยานชมเมืองคนเดียว ปั่นวนไปวนมาอยู่นั่นแหละการมีแผนที่ก็ไม่ค่อยจะช่วยอะไรเท่าไหร่ 5555555 ปั่นจนมาเจอตลาดเราก็เลยเอาจักรยานไปจอดไว้สักที่แถวข้างตลาด แล้วก็กลัวทำจักรยานหายด้วยกลัวลืมที่จอดเพราะเราเป็นคนจำอะไรเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ไม่ได้เลย แต่ก็จอดไว้ก่อนแล้วกันเอาขวดน้ำใส่ไว้ในตะกร้าหน้ารถจะได้จำได้เพราะไม่มีเพื่อนมาช่วยจำ ภาวนาว่ามันจะไม่หายนะ 55555

ในตลาดมันจะมีสามโซนใหญ่ๆ คือมีโซนของฝาก โซนของกิน แล้วก็โซนของสด เราก็ต้องเลือกโซนของกินอยู่แล้ว มาเวียดนามก็จะต้องมากินอาหารพื้นถิ่นสิ

เราก็เลือกๆ นั่งสักร้านนึง ป้าก็หยิบเมนูมาให้ดู เฮ้ยยยยไม่แพงหนิ กินอะไรดีนะที่ยังไม่เคยกิน แล้วเราติดใจแป้งห่อเวียดนามที่กินร้านเมื่อคืนก็เลยสั่ง "บันแซ่ว" กับ "บันโบ๋" มาสองอย่าง อย่างละสามหมื่น อร่อยมากกกกก ชอบบบบ คือราคามันไม่ได้แพงอะ อยากกินไรก็กิน แล้วร้านนี้ป้าก็จะมีน้ำชาให้กินอีกแล้วจ้าาาา แก้วก็เป็นแก้วเวียนเหมือนเดิม 5555  

กินอิ่มเราก็ไปปั่นจักรยานชมเมืองกันต่อ ตอนนี้ทำใจเรื่องรูปได้แล้ว 55555 ตั๋วที่เราซื้อมาเมื่อวานก็ได้เวลาเอาออกมาใช้สักที ไม่รู้จะไปไหนเลย ตอนดูรีวิวเขาไปบ้านโบราณกัน เราก็เลยไปบ้านโบราณมาสองหลัง แล้วก็เข้าไปที่ไหนสักอย่างอีกที่นึงเป็นสามที่เพราะสะพานญี่ปุ่นเราไปเดินข้ามมาแล้วตอนเช้ายังไม่มีคนมาเก็บตั๋ว โคตรจะใช้ไม่คุ้มอะ ดังนั้นอันนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อก็ได้

หลังที่หายากที่สุดคือ Tan Ky นี่แหละ ปั่นจักรยานวนสามสี่รอบก็ไม่เจอ ระหว่างปั่นๆ ไปได้ยินเสียงไกด์สักคนแถวนั้นพูดภาษาไทยเลยถามเขาไปว่าบ้านอันนี้อยู่ตรงไหน พอไกด์บอกเราว่ามันเป็นบ้านกำแพงสีเหลืองอยู่ริมน้ำเราก็อ๋อเลยยย เพราะเราผ่านตรงนั้นมาเกินห้ารอบแล้ว 55555 หยั่งเซ่ออะ

แล้วสภาพฮอยอันตอนกลางวันไม่ได้น่าคบหาเท่าตอนกลางคืนสักนิดเดียว ดูแดดสิบโมงนี้สิจ้ะ โหดร้ายเกินไปแล้วววว หมวกเวียดนามที่เราซื้อมาก็มีประโยชน์ตอนนี้แหละ กันแดดก็ได้ เอามาพัดก็ได้ 

เราก็ปั่นจักรยานวนไปวนมาทุกซอยของเมืองเก่าแล้ว จนมาเจอร้านน้ำดอกบัว *0* ไหนชิมสิ๊เหมือนสองร้านที่เคยลองไหมนะ ร้านนี้ราคา 15.000 VND แพงสุดที่ลองมากแล้ว รสชาติอันนี้กลิ่นขิงรุนแรงมาก แต่มันหวานๆ เปรี้ยวๆ เจออากาศร้อนๆ แล้วมากินอันนี้ช่วยได้เยอะเลย

หลังจากที่เราปั่นจักรยานครบทุกซอยในฮอยอันแล้ว และไม่รู้จะไปไหนอีกเราก็กลับไปถึงที่พักตอนสิบเอ็ดโมงเพื่อเก็บของเตรียม Check out แล้วก็ถามเพื่อนว่าเราจะไปไหนดี เวลาเราเหลือเยอะมากนะกว่าจะต้องไปสนามบิน ไปไหนกันดี เพื่อนก็บอกว่าไหนที่ไหนก็ได้ที่เย็นๆ และถูกๆ เพราะเราเหลือเงินเวียดนามกันไม่เยอะแล้ว 

เงินจะพอค่า Grab กลับดานังไหมเถอะ 55555 แล้วจะไปส่วนไหนของดานังนั่นแหละประเด็น เราก็นั่งเคว้งคว้างอยู่หน้าที่พักนานมากกกกก จนในที่สุดก็ตัดสินใจว่าเราจะไปห้างที่ใหญ่ที่สุดในดานังแล้วกัน แถมอยู่ไม่ไกลสนามบินด้วย

เราก็เลยลองเช็คราคา Grab ตอนที่ดูมันเกือบสามแสนแปด โอ้วววววแมร่ จากรีวิวเค้าบอกว่ามีรถราคา 250.000 VND ด้วยแต่เราหาไม่เจอ TT^TT สุดท้ายเราก็เรียก Grab ตอนเที่ยงครึ่ง ราคา 353.000 VND ระยะทางแค่สามสิบโลเกือบชั่วโมงอะแมรรร่ ไปไหนมาไหนก็เผื่อเวลากันด้วยนะจ๊ะ

ไปแล้วนะฮอยอัน แดดร้อนมากกกกฉันอยู่ไม่ไหวแล้ววว

ส่วนห้างที่ใหญ่ที่สุดในดานังจะศิวิไลซ์แค่ไหนโปรดติดตามใน [ลุยโลกกว้างที่ดานัง (ตอนที่ 12)] หรือติดตามการเดินทางอื่นๆ ของเราได้ที่ เพจ "Try to Try ก็แค่ออกไปลอง" แล้วจะรู้ว่าการก้าวออกจาก Comfort zone ของตัวเองมันสนุกแค่ไหน

Try to try ก็แค่ออกไปลอง

 วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 21.27 น.

ความคิดเห็น