เที่ยวน่าน 2 วัน 1 คืน ที่หมู่บ้านสะปันและบ่อเกลือ 

กับรายละเอียดการเดินทาง


คลิปวิดีโอ รายละเอียดการเดินทาง

►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►



ฝากติดตามเพจด้วยครับ

facebook fanpage : https://goo.gl/Fumgyi [เกรียนแบกเป้เที่ยว]

อย่าลืมกดLike กดShare และ subscribe ด้วยนะครับ
YouTube
►► https://bit.ly/2yFR22w





ในการเดินทางครั้งนี้ เรานั่งเครื่องบินจาก ดอนเมือง 



เที่ยวบินเวลา 9.00 น. มาถึงจังหวัดน่าน เวลา 10.20 น.

จากนั้นก็เช่ารถยนต์จากสนามบิน เพื่อมุ่งไปยัง อ.บ่อเกลือ 

การเช่ารถ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือ รถมอเตอร์ไซต์ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก

ที่ผู้คนนิยมกัน แต่สำหรับใครที่ต้องการไปด้วยรถโดยสาร 

สามารถมาขึ้นรถ สองแถว ที่ศาลา หน้าสนามบิน จ.น่านได้ 


โดยขึ้นรถสองแถวสายน่าน-ปัว แล้วลงที่อำเภอปัว  ราคา 52 บาท

รถสองแถวคันสีน้ำเงิน

รอรถสองแถวที่หน้าสนามบินได้เลย 



จากนั้นก็ต่อรถสายปัว-บ่อเกลือ


คิวรถสองแถวจะอยู่บริเวณหน้าสนามกีฬาพญาผานอง


คุณลุงได้บอกว่า

"รถไป อ.บ่อเกลือ มีรอบตั้งแต่กี่โมง"

"มี 7.30, 9.30, 11.30 น."

"นั่งสองแถวประมาณกี่ชั่วโมง"

"ถ้าคนเยอะก็ 2 ชั่วโมง"

"ถ้าคนไม่เยอะก็ 1 ชั่วโมงครึ่ง"

"ราคาขั้นต่ำ 800 บาท"

"5 คน ก็หารกัน 800 บาท"



ถ้า 8 คนขึ้นไป คนละ 80บาท

จอดถึงไหนของ อ.บ่อเกลือ

เลยป้อมตำรวจไปเล็กน้อย

ก่อนที่เราจะมุ่งหน้าไป อ.บ่อเกลือ ผมได้แวะเข้าไปในตัวเมือง 


เพื่อไปสักการะ ประดิษฐานองค์พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ 4 องค์ 4 ทิศ ในวัดภูมินทร์ 



วัดเก่าแก่ชื่อดังคู่เมืองน่าน 





โด่งดังไปทั่วโลกกับภาพจิตรกรรมฝาผนัง “กระซิบรักบันลือโลก”


จากนั้นได้เดินทางต่อไปที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เพื่อถ่ายรูปกันที่ซุ้มลีลาวดี



อีกหนึ่งจุดเช็คอินยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป

จากนั้นเราก็ขับรถออกนอกเมือง ไปสักการะ พร้อมกับชมวิวเมืองน่านจากมุมสูง 180 องศา


จากนั้นเราก็ขับรถออกนอกเมือง ไปสักการะ พร้อมกับชมวิวเมืองน่านจากมุมสูง 180 องศา 


กับพระพุทธรูปปางประทานพรนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร

 

ที่ "วัดพระธาตุเขาน้อย" ตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย


โดยอยู่ทางอยู่ทิศตะวันตกของตัวเมืองน่าน

ทางขึ้นยอดเขาค่อนข้างลาดชัน ต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร

แต่เพื่อนๆสามารถขับรถเก๋งขึ้นไปได้

จากนั้นได้เดินทางต่อ เพื่อไป อ.บ่อเกลือ ผ่าน อ.ปัว

อยุ่ห่างจาก ตัวเมืองน่านประมาณ 60 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมง

ที่นี่เป็นพื้นที่สีเขียวที่มองแล้วสบายตาสบายใจสุดๆ

เป็นที่อยู่ของผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งคนไทลื้อ ชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง เมี่ยน และลัวะ 


แต่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทลื้อที่มีประเพณีและ

วัฒนธรรมเป็นของตนเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการแต่งกายแบบพื้นบ้าน

การเดินทางจาก อ.ปัว มาสู่ อ.บ่อเกลือ 


โดยใช้ถนนสาย 1256 ผ่านอุทยานแห่งชาติดอยภูคา

ขับไปตามเส้นทางมุ่งหน้าสู่ อ.บ่อเกลือ

ตลอดการเดินทางนั้น ดูเหมือนฟ้าฝนจะไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ 

ทำให้เราไม่ได้ชื่นชมความสวยงามของถนนลอยฟ้า

ที่สวยในประเทศไทย

ขับมา 1 ชั่วโมง เราก็จะถึง อ.บ่อเกลือ

ผู้ที่นั่งสองแถวก็จะมาลงบริเวณนี้ 

คิวรถสามแยกห้อมตำรวจ หรือสามแยกบ่อเกลือ

และถ้าจะต้องต่อรถไปสะปัน ประมาณ 200 บาท 

ถ้าไปกันเยอะก็หารถูกลงมาเรื่อยๆ


จาก อ.บ่อเกลือ มาที่ หมู่บ้านสะปัน เป็นระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร 

ใช้เวลาเดินทาง 12-15 นาที

หมู่บ้านสะปัน

เป็นชุมชนเล็กๆ ที่แสนสงบ ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาและธารน้ำไหลผ่าน



ในช่วงฤดูฝน เพื่อนๆยังสามารถชมวิวความสวยงามของนาข้าวเขียวขจีอีกด้วย


วัดสะปันเป็นจุดหนึ่ง

ที่เราสามารถเดินเล่น ดูวิวหมู่บ้านสะปันพร้อมทุ่งนาสวยๆ

และนอกจากนี้ ยังมีบริเวณลานกางเต็นท์ ให้สำหรับผู้ที่ชอบการตั้งแคมป์อีกด้วย

มีห้องน้ำด้วย

หมู่บ้านสะปันได้จัดตั้งมาหลายร้อยปี โดยการนำของเจ้าพ่อพญาตึ๋น

เหตุที่ชื่อว่าสะปัน เพราะมีแม่น้ำปันไหลผ่าน

หลังจากที่ได้เราชมความสวยงามของหมู่บ้านสะปันเสร็จแล้ว

ในช่วงเย็นเราก็มุ่งหน้าไปยังที่พัก

อาโปเดอมาง ซึ่งจะเป็น ที่พักของเราในค่ำคืนนี้

ทางเข้าของอาโปเดอมาง อยู่ทางเดียวกับ ภูผิงหมอก โฮมสเตย์


โดยเราจะผ่านสะพานแคบๆแห่งนี้ (กระบะผ่านได้)

อาโปเดอมาง อยู่ในท่ามกลางขุนเขา ของอำเภอบ่อเกลือ 


เป็นที่พักบรรยากาศดี 

ติดริมแม่น้ำมาง


แถมยังมีสะพานไม้ไผ่และชิงช้า ให้เพื่อนๆได้เดินเล่นและถ่ายรูปอีกด้วย

บ้านพักมีทั้งแบบเป็นหลัง (ที่มีห้องน้ำในตัว และเต็นท์กระโจมสีขาวริมลำธาร

ด้านในเต็นท์มีทั้งที่นอน ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว สบู่ แชมพู หมวกคลุมผม ปลั๊กไฟใช้


ราคาเริ่มต้นที่ 1500 บาท รวมอาหารเช้า 

ส่วนห้องอาบน้ำจะเป็นห้องรวม แยกชายและหญิง เดินไม่ไกลจากเต็นท์เท่าไหร่

สำหรับใครที่เดินทางด้วยรถยนต์. ที่อ.บ่อเกลือ 


จะมีปั้ม ปตท อยู่ห่างจาก สามแยกบ่อเกลือ

 

ประมาน 6.9 กิโลเมตร เดินทางกระมาน 8-10 นาที

วันที่สองเราตื่นแต่เช้า กินอาหารเช้าเสร็จ ก็เช็คเอาท์ จากอาโปเดอมาง แล้ว 


เราเดินทางไปยังบ่อเกลือสินเธาว์

ปัจจุบันชาวบ้านยังคงผลิตแกลือด้วยวิธีการแบบดั้งเดิมโดยจะตักน้ำ

จากบ่อส่งผ่านมาตามลำไม้ไผ่สู่บ่อพัก การผลิตเกลือ 



แล้วนำมาต้ม ในกระทะประมาณ 4-5ชั่วโมง ให้น้ำระเหยแห้ง 

จากนั้นก็จะนำไม้พายมาตักเกลือใส่ตะกร้าที่แขวนไว้เหนือกะทะเพื่อให้น้ำไหล 

ลงมาในกะทะทำอย่างนี้ไปเรื่อย

เมื่อได้เกลือ แล้ว ก็จะใส่ถุงวางขายที่หน้าบ้าน เกลือเมืองน่าน 

ไม่มีไอโอดีนเหมือนเกลือทะเลจึงต้องมีการเติมสารไอโอดีนก่อนถึงมือผู้บริโภค

ปัจจุบัน ถนนหนทางสะดวกมากขึ้น ชาวบ้านจึงได้นำเกลือจากที่นี่

ออกไปจำหน่ายยังหมู่บ้านต่าง ๆ นอกจากนี้ยังได้มีการนำแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ

เช่น เกลือสปาขัดผิว เกลือแช่เท้า สบู่ดอกเกลือ ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อหากลับบ้าน

เมื่อเราแวะชมเสร็จแล้ว


เราก็ขึ้นรถกลับไปยังสนามบินน่าน เพื่อให้ทันเที่ยงบิน 15.40 น.




ยิ้มแบกเป้เที่ยว RoamingYim

 วันพฤหัสที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.32 น.

ความคิดเห็น