ไปเที่ยวเชียงราย | หมู่บ้านลอบือ 101 (ตอนที่ 4)
highlights:
- บรรยากาศหมู่บ้านลอบือ
- บรรยากาศข้างทางของช่วง บ้านลอบือ-ดอยบ่อ
---------------------------------------------------------------------------------
จากตอนที่แล้ว [ไปเที่ยวเชียงราย | หมู่บ้านลอบือ 101 (ตอนที่ 3)] ที่เราบอกว่าครูอาสาก็ต้องไปทำงานเหมือนกัน และงานของเราก็ไม่ได้อยู่ในหมู่บ้าน ดังนั้นครูอาสาก็เลยพากันถืออุปกรณ์เดินตามๆ กันไป
มีธรรมชาติระหว่างทางให้ดูไปเรื่อยๆ เห็นเมื่อก่อนเขาว่ากันว่า แถวนี้เคยเป็นเขาหัวโล้น ทำไร่เลื่อนลอยและปลูกฝิ่นกันเป็นงานหลัก
แต่พอมีสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงดอยบ่อเข้ามาให้ความรู้ต่างๆ กับชุมชนทำให้การทำไร่เลื่อนลอยและการปลูกฝิ่นค่อยๆ หายไป ดังนั้นพื้นที่เดิมก็เลยถูกแทนที่ด้วยการเกษตรแบบยั่งยืน รวมไปถึงมีการนำชาวบ้านไปฝึกอบรมเพื่อเอาความรู้นั้นกลับมาทำการเกษตรในพื้นที่ของตัวเอง
ทำให้ความเป็นอยู่ของชาวบ้านค่อยๆ เริ่มดีขึ้นจากเมื่อก่อน แต่ก็ยังเทียบกับความเจริญหรือความสะดวกสบายต่างๆ แบบในเมืองไม่ได้เลย ทิ้งกันจนไม่เห็นฝุ่น
ซึ่งปัญหาหลักๆ ของที่นี่ก็น่าจะเป็นในเรื่องของถนน คือหมู่บ้านนี้มีถนนก็จริง รถยนต์ มอเตอร์ไซค์หรือยานพาหนะอื่นๆ วิ่งได้ก็จริง แต่ถนนที่ว่าดันเป็นถนนดินแดงที่ช่วงฤดูฝนทุกยานพาหนะไม่สามารถสัญจรไปมาได้เลย
จนมีเหตุการณ์อันน่าเศร้าหลายๆ อย่างที่คนเมืองแบบเราไม่เคยได้รู้ ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน นั่นก็คือ เวลาที่ชาวบ้านเจ็บป่วยแบบกระทันหัน และด้วยหนทางที่ไม่สะดวกรวมถึงใช้ระยะเวลาที่อยู่บนถนนนานเกินไป ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิตระหว่างทางไปคนแล้วคนเล่า คนแล้วคนเล่า
ดังนั้นค่ายครูบ้านนอก รุ่น 235 ของมูลนิธิกระจกเงา เลยเล็งเห็นความสำคัญของการมาสร้างถนน เพื่อช่วยให้ชาวบ้านออกจากหมู่บ้านไปถึงมือหมอได้เร็วขึ้น
ระหว่างที่เดินไป ก็เจอครูชัยขี่มอเตอร์ไซค์ไปรับเด็กๆ ที่วิ่งไปกับกลุ่มครูอาสา พาไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน เด็กที่นี่วิ่งบนเขากันเก่งม๊ากกกก
พื้นที่ที่เราจะไปทำถนนกันก็อยู่นอกอยู่บ้านออกไปประมาณ 2 กิโลดอยได้ล่ะมั้ง แอบไกลอยู่
ทางที่จะไป ต้องเดินผ่านลำธารเล็กๆ ที่แบบใครใส่รองเท้าผ้าใบมา ไม่สามารถเดินลุยไปได้ ต้องไปเดินอีกทางนึง
ก็คือทางนี้จ้าาา ขายาวๆ อย่างครูพี่เอ็มก้าวข้ามไปได้แบบชิวๆ เลย ตัดภาพมาที่เรา ที่อ้วน เตี้ย แถมยังขาสั้นอีกต่างหาก ก็ข้ามไปอย่างทุลักทุเลและทุเรศพอควร 55555555
แต่วิวก็ดีม๊ากกกกกกก เป็นลำธารน้อยๆ ในหุบเขา >///<
ผ่านลำธารมาก็ยังจะต้องเดินต่อกันอีกไกลเลยยย กิโลดอยอะเนอะจะไปเหมือนกิโลเมืองได้ยังไง
ระหว่างทางก็มีมุมสวยๆ ให้เก็บรูปกันเพียบเลย ถ้าใครเบื่อเมือง โหยหาธรรมชาติ แนะนำให้มาที่นี่ ทั้งคนน้อย ใกล้ธรรมชาติ สัมผัสวิถีชุมชนแบบกลุ่มชนเผ่า ตัดขาดจากโลกภายนอกที่วุ่นวาย มันเหมือนเป็นการ refresh ตัวเองได้อีกครั้งจริงๆ
ถ้าใครจะมาที่นี่ติดต่อได้โดยตรงกับครูชัยเลย [นายสิทธิชัย ปะบือ 323 หมู่ 13 บ้านลอบือ ตำบล แม่ยาว อำเภอ เมือง จังหวัด เชียงราย 57100 โทร 0979273904 ติดต่อได้ทั้งที่พักและการบริจาคสิ่งของต่างๆ ให้กับเด็กๆ ในหมู่บ้าน]
ในขณะที่ครูคนอื่นเขาเดินกันไปไกลมากแล้ว เราผู้ซึ่งมัวแต่ถ่ายรูปอยู่นั่นแหละ ก็ได้เป็นผู้โชคดีได้ขึ้นรถไปยังจุดที่เราจะทำถนนกัน ตอนแรกที่เห็นน้องๆ โบกไม่คิดว่ารถจะจอดให้เราจริงๆ พอเขาจอดจริงก็รีบขึ้นกันเลยจ้าาา 55555555
นี่คือวิวที่ถ่ายได้ตอนอยู่บนรถ สวยม๊ากกกกกกกกกกก เห็นชัดเลยว่าหมู่บ้านลอบือเป็นหมู่บ้านที่อยู่ในหุบเขาจริงๆ นับถือใจคนสมัยก่อนที่อพยบกันมาอยู่ที่นี่ ที่ลงทุนปีนเขาที่สูงม๊ากกกกกแล้วลงมาตั้งรกรากอยู่ในหุบเขาแห่งนี้
ถนนบางช่วงก็มีปูนบ้างแล้วแหละ แต่ก็อย่างที่เห็น เวลาเข้าฤดูน้ำหลาก มันก็จะกัดเซาะดินไปด้วยทำให้ถนนมันพังเร็ว TT^TT
นี่ละมั้งที่ทำงานของพวกเรา มีถุงๆ อะไรไม่รู้วางรออยู่เต็มเลย ความตลกของค่ายนี้ก็คือทางมูลนิธิเขาตั้งงบไว้ 30,000฿ แต่มีคนสมทบทุนมาให้เพิ่มอีกเท่านึง จนพี่ที่มูลนิธิพูดกันเล่นๆ ว่าถ้าปูนไม่หมดไม่ต้องลงจากเขา 5555 งานใช้แรงงานทาสก็มาแมรรร่ 55555
นี่คือโฉมหน้าผู้แข็งแกร่งที่เดินขึ้นมาถึงก่อน 55555
และจุดนี้คือจุดเริ่มต้นของครูอาสาที่จะมาทำถนนต่อจากของเดิมที่เคยทำไว้ วิวดีมากแมรรร่
ส่วนตอนหน้าเราจะลำบากลำบนทำถนนกันท่าไหน โปรดติดตามตอน [ไปเที่ยวเชียงราย | หมู่บ้านลอบือ 101 (ตอนที่ 5)] และสามารถติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราได้ที่ [https://th.readme.me/id/JKtrytotry] หรือพูดคุยกันได้ในเพจ "Try to Try ก็แค่ออกไปลอง" แล้วจะรู้ว่าการก้าวออกจาก Comfort zone ของตัวเองมันสนุกแค่ไหน
Try to try ก็แค่ออกไปลอง
วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 17.09 น.