หลงรักเลย ภูกระดึง
![](/f/36284/5ffb1648c1f3bc450a487406.jpg)
ด้วยความสวยงาม และสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ภูกระดึง จึงเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยว ปรารถนาที่จะเป็นผู้พิชิตดูสักครั้งในชีวิต เรื่องราวมากมายกับทริปเดินป่า เที่ยวภูระดึงจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามชมได้เลยครับ
วันที่ 1 เดินทางไปยังจุดหมาย
![](/f/36284/5fea067bc1f3bc450a484d39.jpg)
ผมออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD3548 มาถึงท่าอากาศยานเลยในเวลาประมาณ 17:15 น. ซึ่งถึงเร็วกว่าตารางบินปกติ ประมาณ 15 นาที แต่ก็ไม่สามารถให้ผมต่อรถไปที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึงได้เลยในวันนั้น จึงต้องต่อรถสองแถวเข้าตัวเมืองเลย แล้ววันรุ่งขึ้นค่อยหารถไปที่ภูกระดึงกัน
![](/f/36284/5fea06c724192c18c78604a6.jpg)
![](/f/36284/5fea06ef24192c18c78604a7.jpg)
![](/f/36284/5fea06f024192c18c78604a8.jpg)
ดวงอาทิตย์กำลังตกบรรยากาศจึงเต็มด้วยแสงสีทองที่สาดส่องมาจากดวงอาทิตย์ในตอนเย็น อากาศกำลังเย็นสบายมากๆ สำหรับการเดินทางจากท่าอากาศยานเลยเข้าเมืองเลย จะมีรถสองแถวมาจอดรออยู่แล้วตรงทางออก สามารถนั่งรถตรงเข้าเมืองได้เลย ค่ารถคนละ 20 บาท ผมพักโรงแรมเลยเรสซิเดนซ์ ซึ่งอยู่ตรง บขส.เลย ที่เลือกที่นี่เพราะราคาถูก และการเดินทางต่อรถไปที่ต่างๆง่ายดาย และเนื่องจากวันรุ่งขึ้นต้องตื่นแต่เช้าเพื่อนั่งรถไปที่ภูกระดึง ที่นี่จึงเหมาะที่สุดสำหรับการใช้เป็นที่พักแรมในระยะเวลาแค่ 1 คืน
วันที่ 2 จุดเริ่มต้นของผู้พิชิต
![](/f/36284/5fea0941c1f3bc450a484d3d.jpg)
บรรยากาศยามเช้าที่ บขส.เลย หนาวมากๆ ถือว่าเป็นช่วงบรรยากาศที่ดีกับการเดินทางในวันนี้ ผมมาที่บขส. ตามคำแนะนำของพนักงานโรงแรมซึ่งได้บอกว่าการเดินทางไปภูกระดึงให้ไปขึ้นรถสาย ขอนแก่น-เมืองเลย ซึ่งมีรถออกทุกๆ 15 นาที ซึ่งเวลาที่เหมาะสมคือนั่งรถเที่ยว 07:15 น.แล้วให้ไปลงที่เสงี่ยมฟาร์มเพื่อต่อรถสองแถวแดงไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อเราไปถึงจะเป็นช่วงเวลาที่อุทยานฯเปิดทำการพอดี
![](/f/36284/5fea099324192c18c78604b0.jpg)
แต่เมื่อมาดูตารางเดินรถก็พบว่า ช่วงวันที่ผมเดินทาง รถรอบ 07:15 ได้ควบเที่ยวรถไปพร้อมกับรอบ 08:45 น. ซึ่งทำให้เสียเวลาไปอีกเกือบชั่วโมงกว่าๆเลย ตอนนั้นได้ไปถามราคาแท็กซี่เหมาไปภูกระดึงซึ่งถ้าไปแท็กซี่จะต้องจ่าย 900 บาท ในราคาเหมา แต่โชคดีที่มีคุณป้าใจดีท่านหนึ่งแนะนำให้ไปขึ้นรถของบริษัทนครชัยขนส่ง จำกัด รอบ 07:30 แล้วไปลงที่ผานกเค้า แล้วค่อยต่อรถสองแถวแดงไปที่ทำการอุทยานฯ
![](/f/36284/5fea0bce24192c18c78604b9.jpg)
บริษัท นครชัย ขนส่ง จะอยู่เยื้องๆกับ บขส. มีป้ายบอกชัดเจน สามารถซื้อตั๋วรถได้เลย บอกเจ้าหน้าที่ขายตั๋วว่าไปลงผานกเค้า ราคาคนละ 53 บาท
![](/f/36284/5fea0c8624192c18c78604c1.jpg)
นั่งรถมาไม่ต้องกลัวว่าคนขับจะลืมเรา เนื่องจากผานกเค้าเป็นจุดแวะพักรถจุดหลัก เพื่อให้ผู้โดยสารได้เข้าห้องน้ำ และรับประทานอาหาร ซื้อของฝากกัน และแน่นอนที่นี่เปรียบเสมือนท่ารถสำคัญสำหรับของนักเดินทางที่จะไปพิชิตยอดภูกระดึง
![](/f/36284/5fea0d44c1f3bc450a484d42.jpg)
![](/f/36284/5fea0d45c1f3bc450a484d43.jpg)
ลงจากรถก็ไม่รอช้าหาข้าวเช้ากินก่อนเลย 555 กินข้าวให้อิ่มเพื่อจะได้มีแรงในการเดิน ที่นี่มีร้านค้าหลายร้าน ร้านที่โด่งดังขายของหลากหลาย เปืดมานานแล้ว ต้องยกให้ร้านเจ๊กิมเจ้านี้เลยครับ
![](/f/36284/5fea0e0924192c18c78604c4.jpg)
![](/f/36284/5fea0e0a24192c18c78604c5.jpg)
และนี่คือมื้อเช้ามื้อแรกที่เลย กินข้าวกลางแดดครั้งแรก เนื่องจากอากาศยามเช้าที่นี่หนาวมากๆ อุณหภูมิประมาณ 10 องศา
![](/f/36284/5fea0e8f24192c18c78604c6.jpg)
![](/f/36284/5fea0eae24192c18c78604c7.jpg)
![](/f/36284/5fea0eaf24192c18c78604c8.jpg)
และนี่คือเจ้ารถสองแถวแดง ที่จะพาเราไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง แบกเป้ เสื้อผ้า หมวก ไหมพรม ถุงมือ รองเท้า ใจพร้อม กายพร้อมก็ออกเดินทางกันเลย คุณป้าขับรถพูดจาดีมากๆ เป็นกันเองสุดๆ
ราคาเหมา 300 บาท แต่ถ้ามีนักท่องเที่ยวเยอะๆก็สามารถแชร์หารค่ารถกันได้นะ
![](/f/36284/5fea0fbfc1f3bc450a484d44.jpg)
![](/f/36284/5fea0fc0c1f3bc450a484d45.jpg)
อากาศหนาว ประกอบกับนั่งรถลมพัดยิ่งหนาวไปอีก บรรยากาศนั่งรถสองแถว เบื่องหลังภูเขาสูงๆก็คือ ผานกเค้า นั่นเองครับ
![](/f/36284/5feb2dd724192c18c7860551.jpg)
![](/f/36284/5feb2dd924192c18c7860552.jpg)
รถสองแถวจะพามาจอดตรงหน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จากนั้นให้เราไปลงทะเบียนเข้าพื้นที่อุทยานฯ เนื่องจากสถานณการณ์โรคระบาด ทางอุทยานแนะนำให้นักท่องเี่ยวให้จองคิวผ่านแอพพลิเคชั่น QUEQ มาล่วงหน้าเนื่องจากการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละวัน
ค่าเข้าอุทยาน คนละ 40 บาท และนักท่องเี่ยวทุกคนต้องจ่ายค่าประกันอุบัติเหตุคนละ 10 บาท
สำหรับการจองเต็นท์สามารถจองล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ https://nps.dnp.go.th/reservat... หรือมาจองได้ที่ทำการอุทยานฯที่นี่ก็ได้ครับ แต่สำหรับผมแล้วแนะนำให้จองมาล่วงหน้าดีกว่า เผื่อกรณีวันที่มาพักนักท่องเที่ยวเยอะเต็นท์อาจจะเต็มได้ แต่ก็ไม่ต้องกังวลเพราะสามารถจองเต็นท์เอกชนได้เหมือนกัน
ราคาเต็นท์ ขนาด 2-3 คน ราคา 225 บาท ต่อ คืน
หมอนใบละ 10 บาท
แผ่นรองนอน 20 บาท ต่อ คืน
ถุงนอน 30 บาท ต่อ คืน
ผ้าห่ม 50 บาท ต่อ คืน (ผืนเล็ก 30 บาท ต่อ คืน)
![](/f/36284/5feb3100c1f3bc450a484e92.jpg)
![](/f/36284/5feb3101c1f3bc450a484e93.jpg)
จากนั้นผมเดินต่อไปยังจุดที่ 4 เพื่อทำการจ้างลูกหาบ สำหรับท่านใดที่ต้องการชาร์ทโทรศัพท์มือถือ ก็สามารถแวะจุดที่ 3 เพื่อทำการชาร์ทแบตโทรศัพท์ได้ ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายในการรับบริการ สำหรับผม ชาร์ทแบตมือถือมาเต็มที่เลย เดินไปที่จุดที่ 4 สำหรับจ้างลูกหาบ ซึ่งเป็นจุดรับ-ส่งสัมภาระ
ค่าบริการลูกหาบ อยู่ที่กิโลกรัมละ 30 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้แท็กกระเป๋าให้เราเขียนชื่อและเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ติดต่อรับกระเป๋าบนยอดภูกระดึง
![](/f/36284/5feb3217c1f3bc450a484e96.jpg)
เมื่อทำการจ้างลูกหาบเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาพิชิตยอดภูกระดึงกัน เดินผ่านป้ายนี้ก็ขอเก็บภาพไว้ก่อน
![](/f/36284/5feb327c24192c18c7860557.jpg)
จุดเริ่มต้นของการเดินเท้าขึ้นภูกระดึงก็ได้เริ่มต้นขึ้น ณ จุดนี้ (น่าจะเป็นจุดที่ใครหลายๆคนเก็บภาพไว้นะ)
![](/f/36284/5feb32ddc1f3bc450a484e97.jpg)
มองดูป้ายระยะทางสู่ยอดเขาแล้ว ได้แต่บอกตัวเองให้ฮึดสู้ เอาวะ ครั้งหนึ่งในชีวิต
การเดินขึ้นภูกระดึงแนะนำให้เดินตั้งแต่เช้าเนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่ร้อน ระยะทางจากศรีฐาน(ที่ทำการอุทยานฯ) ไปหลังแป 5.5 กม และต้องเดินเท้าไปยังลานกางเต็นท์(วังกวาง) อีก 3.5 กม. รวมระยะทางการเดินวันนี้มากกว่า 9 กม.
![](/f/36284/5feb3432c1f3bc450a484e98.jpg)
![](/f/36284/5feb3434c1f3bc450a484e99.jpg)
และนี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินป่าพิชิตยอดภูกระดึงก็ได้เริ่มต้นขึ้น
![](/f/36284/5feb349cc1f3bc450a484e9a.jpg)
![](/f/36284/5feb349ec1f3bc450a484e9b.jpg)
เดินขึ้นมาได้หน่อยนึง ยังไม่ถึง 1 กิโลฯด้วยซ้ำ อาการเริ่มมา 555
![](/f/36284/5feb3527c1f3bc450a484e9c.jpg)
![](/f/36284/5feb3529c1f3bc450a484e9d.jpg)
เดินมาจุดแรก คือ ปางกกค่า เหมือนเป็นจุดรับน้อง ซึ่งเป็นจุดที่มีความลาดชันมากๆ เปรียบเสมือนเป็นจุดวัดใจว่าเราจะไปต่อ หรือหันหลังกลับ แต่ในเมื่อใจมันมาแล้วก็ต้องสู้จนถึงเป้าหมายที่วางไว้
![](/f/36284/5feb3d14c1f3bc450a484e9e.jpg)
ซำแฮก เป็นจุดพักจุดแรกที่มีร้านอาหาร ร้านน้ำดื่มคอยบริการอยู่ คำว่า แฮก นักท่องเที่ยวทั่วไปมักล้อเลียนว่ามีความหมายถึงอาการหอบ (ซึ่งคนเรามักจะออกเสียง แฮกๆ) แต่ในความเป็นจริงแล้ว คำว่า แฮก นี้หมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในภาษาท้องถิ่น ระยะทางที่ต้องเดินจากที่ทำการมายังซำแฮกยาวประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ทำให้เหนื่อยหอบจริงๆ เนื่องจากเป็นทางลาดชัน ลองลิ้มรสแตงโมที่นี่ดูนะ แล้วจะรู้ว่าเป็นแตงโมที่มีรสชาติอร่อยที่สุด ลองดูนะ
![](/f/36284/5feb3fe1c1f3bc450a484ea0.jpg)
ร้านค้า ร้านอาหาร ที่ซำแฮก
![](/f/36284/5feb402d24192c18c786055b.jpg)
แนะนำให้พกเจ้านี่มาด้วยนะครับ ช่วยได้เยอะเลย 555
![](/f/36284/5feb409fc1f3bc450a484ea1.jpg)
ระหว่างทางเดินจากซำแฮกไปสู่ซำบอนจะมีลักษณะเป็นทางลาดเอียงเล็กน้อย เดินไม่เหนื่อยเท่าไหร่
![](/f/36284/5feb4184c1f3bc450a484ea2.jpg)
ต่อมาก็คือ ซำบอน ซึ่งหมายถึงบริเวณที่ต้นบอนขึ้นเยอะ ระยะทางที่ต้องเดินจากซำแฮกไปยังซำบอนยาวประมาณ 700 เมตร จุดนี้ไม่มีร้านค้าบริการ แวะถ่ายรูปแล้วเดินต่อไป
![](/f/36284/5feb423324192c18c786055c.jpg)
เดินมาสักพักจะถึงซำกกกอก ซึ่งที่ได้ชื่อว่าซำกกกอกก็เพราะว่า บริเวณนี้มีต้นมะกอกขึ้นเยอะ
![](/f/36284/5feb43f6c1f3bc450a484ea3.jpg)
![](/f/36284/5feb4438c1f3bc450a484ea4.jpg)
จากซำกกกอกถึงซำกอซาง ระยะทางแค่ 200 เมตร ถึงระยะทางใกล้กัน แต่ลักษณะทางเดินนั้นลาดชัน จึงทำให้เหนื่อยเช่นกันนะ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะซำกอซางมีร้านอาหารครับ แวะเติมพลังแล้วเดินต่อไปชิวๆ
![](/f/36284/5feb457b24192c18c786055d.jpg)
![](/f/36284/5feb457c24192c18c786055e.jpg)
![](/f/36284/5feb457e24192c18c786055f.jpg)
ระหว่างทางซำกอซาง ผมมาเจอลูกหาบกำลังเดินขึ้นไปสู่ยอดภูกระดึง ได้สอบถามลูกหาบท่านหนึ่งว่าครั้งนี้หาบกี่กิโล พี่เขาตอบมาว่า 81 กิโลกรัม ทำให้ผมอึ้งถึงความแข็งแรงของพี่ลูกหาบ และลูกหาบคนอื่นๆก็เช่นกัน นี่คงเป็นอีกเสน่ห์ สีสัน วิถีชีวิตที่ภูกระดึง
![](/f/36284/5feb4688c1f3bc450a484ea6.jpg)
เดินผ่านพร่านพรานแป ดมยาดมมาตลอดทางเลย ฮ่าๆๆ
![](/f/36284/5feb475dc1f3bc450a484ea7.jpg)
ซำกกหว้า หมายถึง บริเวณที่ต้นหว้าขึ้นเยอะ มุ่งหน้าเดินต่อไปสู่จุดต่อไป
![](/f/36284/5feb489f24192c18c7860560.jpg)
ซำกกไผ่ ที่ได้ชื่อซำกกไผ่ก็เพราะว่าบริเวณนี้มีต้นไผ่ขึ้นเยอะ สังเกตุได้จากมีกอไผ่อยู่หลังป้ายนั่นเองครับ
![](/f/36284/5feb496a24192c18c7860561.jpg)
ซำกกโดน เป็นอีกหนึ่งจุดแวะพักรับประทานอาหาร ดื่มน้ำเติมพลังกัน
![](/f/36284/5feb4addc1f3bc450a484ea8.jpg)
![](/f/36284/5feb4adec1f3bc450a484ea9.jpg)
นอกจากนี้ที่ซำกกโดนยังเป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งที่มีทัศนียภาพสวยงาม นั่งกินข้าว ชมวิวไปก็ช่วยคลายเหนื่อยไปได้เยอะเช่นกันนะ
![](/f/36284/5ff7072fc1f3bc450a486857.jpg)
ซำแคร่ เป็นจุดพักก่อนเดินขึ้นสู่หลังแป ที่นี่มีร้านอาหารและห้องน้ำให้บริการ
![](/f/36284/5fedd36124192c18c7860791.jpg)
ระหว่างซำแคร่จบถึงหลังแปจะมีลักษณะทางที่แคบกว่าและสูงชัน มีบันไดช่วยให้การปีนง่ายขึ้น แต่ต้องใช้กำลังขาเยอะ นับว่าเป็นจุดที่เหนื่อยอีกจุดก่อนถึงหลังแป
![](/f/36284/5fedd3e824192c18c7860792.jpg)
ในที่สุดก็เดินทางมาถึงหลังแปจนได้ครับ จุดนี้จะต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อย ว่าครั้งหนึ่งเราเคยขึ้นมาแล้วนะ ยอดภูกระดึง แต่ภาระกิจและเป้าหมายของเราจริงๆอยู่ที่ลานกางเต็นท์วังกวาง ซึ่งต้องเดินเท้าไปอีกกว่า 3 กิโลเมตร
![](/f/36284/5fedeb5024192c18c7860793.jpg)
ระยะทางจากหลังแปไปยังจุดต่างๆ ซึ่งเราต้องเินไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หรือ จุดกางเต็นท์ อีก 3,526 เมตร
![](/f/36284/5feded1324192c18c7860794.jpg)
![](/f/36284/5feded32c1f3bc450a484fb7.jpg)
ต้นไม้แห่งความทรงจำ เพราะเป็นจุดที่ต้องเดินผ่านทั้งไป และ กลับ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะถ่ายรูปกัน
![](/f/36284/5fedede324192c18c7860796.jpg)
![](/f/36284/5fedede424192c18c7860797.jpg)
วันนี้อากาศไม่ร้อน เดินสบายๆ ลมพัดเย็นๆ แต่แดดเมืองไทยยังคงแรงเหมือนเดิม
![](/f/36284/5fedeec9c1f3bc450a484fb8.jpg)
![](/f/36284/5fedeecbc1f3bc450a484fb9.jpg)
เดินมาถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวละครับ ขาอ่อนแรงเลย 555
![](/f/36284/5fedef21c1f3bc450a484fba.jpg)
![](/f/36284/5fedef22c1f3bc450a484fbb.jpg)
และนี่คือที่พักของเราคืนนี้ครับ การจองเต็นท์สามารถจองล่วงหน้าได้ไม่เกิน 60 วันในเว็บไซต์ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ https://nps.dnp.go.th
![](/f/36284/5fedf15cc1f3bc450a484fbe.jpg)
จุดรับสัมภาระจากลูกหาบ ซึ่งเราจะจ่ายเงินค่าจ้างหาบกันที่นี่ โดยลูกหาบจะเอากระเป๋ามาตั้งรวมกันไว้ ณ จุดนี้ หากเราไม่สามารถจำกระเป๋าของเราได้ให้สอบถามลูกหาบ โดยลูกหาบจะเช็คกับเลขแท็คกระเป๋าที่เราได้มา
![](/f/36284/5fedf215c1f3bc450a484fbf.jpg)
เสร็จสิ้นภาระกิจส่วนตัว จัดกระเป๋า จัดของเข้าเต็นท์ ไม่รีรอช้าก็เดินไปชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก ระหว่างทางจะเจอกับต้นเมลเปิ้ลใบสีแดงสดใส
![](/f/36284/5fedf285c1f3bc450a484fc0.jpg)
![](/f/36284/5fedf2a524192c18c786079e.jpg)
ระยะทางจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไปผาหมากดูดทั้งหมด 2,037 เมตร
![](/f/36284/5fedf2e924192c18c786079f.jpg)
![](/f/36284/5fedf2ea24192c18c78607a0.jpg)
บรรยากาศสองข้างทางช่วงไปผาหมากดูก อากาศช่วงเย็นๆจะเริ่มหนาว
![](/f/36284/5fedf378c1f3bc450a484fc1.jpg)
![](/f/36284/5fedf379c1f3bc450a484fc2.jpg)
![](/f/36284/5fedf37ac1f3bc450a484fc3.jpg)
![](/f/36284/5fedf37cc1f3bc450a484fc4.jpg)
![](/f/36284/5fedf37dc1f3bc450a484fc5.jpg)
บนยอดภูกระดึงจะเป็นป่าสน หากมาในช่วงฤดูหนาว จะได้ฟีลบรรยากาศฤดูใบไม้ร่วงในต่างประเทศ
![](/f/36284/5fedf44dc1f3bc450a484fc6.jpg)
![](/f/36284/5fedf44fc1f3bc450a484fc7.jpg)
![](/f/36284/5fedf48cc1f3bc450a484fc9.jpg)
![](/f/36284/5fedf48ec1f3bc450a484fca.jpg)
![](/f/36284/5fedf48ec1f3bc450a484fcb.jpg)
![](/f/36284/5fedf639c1f3bc450a484fcc.jpg)
ผาหมากดูก เป็นผาที่มีลานหินกว้างขวาง เป็นผาสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกในระหว่างเดือน พฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์
![](/f/36284/5fedf90d24192c18c78607a1.jpg)
![](/f/36284/5fedf93ac1f3bc450a484fd2.jpg)
![](/f/36284/5fedf95bc1f3bc450a484fd3.jpg)
บรรยากาศช่วงเดินกลับเต็นท์เอาขาไปพัก พร้อมลุยในวันพรุ่งนี้
![](/f/36284/5fedf9efc1f3bc450a484fd4.jpg)
![](/f/36284/5fedfa9bc1f3bc450a484fd8.jpg)
ตรงบริเวณลานกางเต็นท์มีร้านอาหารให้บริการ ไม่ต้องกลัวอดเลยครับ 555
![](/f/36284/5fedfb2724192c18c78607a4.jpg)
หมูกระทะ ของอร่อยที่ต้องกินบนภูกระดึง อากาศหนาวกับหมูกระทะร้อนๆช่างเข้ากันได้ดี
วันที่ 3 ดูพระอาทิตย์ขึ้น เดินป่าภูกระดึง
![](/f/36284/5fedfbf124192c18c78607a5.jpg)
วันนี้ตื่นมาจั้งแต่เช้าตรู่ เจ้าหน้าที่อุทยานจะนำพาเราไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น การไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นจะต้องให้เจ้าหน้าที่อุทยานนำทางไป เนื่องจากทางไปเราอาจจะเจอสัตว์ป่าที่จะทำร้ายเราได้ ระยะทางจากศุนย์บริการนักท่องเที่ยวถึงผานกแอ่นอยู่ที่ประมาณ 2 กิโลเมตร
![](/f/36284/5fedfdd7c1f3bc450a484fdd.jpg)
![](/f/36284/5fedfe5c24192c18c78607a9.jpg)
ผานกแอ่น เป็นลานหินเล็กๆ มีสนขึ้นโดดเด่นริมหน้าผาต้นหนึ่ง เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามยิ่ง อากาศก็สดชื่นเย็นสบาย มองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างเป็นท้องทุ่งและเทือกเขา เห็นผานกเค้าได้ชัดเจน ริมทางเดินใกล้ผานกแอ่นเป็นสวนหินมีดอกกุหลาบป่าขึ้นอยู่เป็นดงใหญ่ จะบานสะพรั่งเต็มต้นในเดือนมีนาคม - เมษายน
![](/f/36284/5fee01d8c1f3bc450a484fe3.jpg)
![](/f/36284/5fee01dac1f3bc450a484fe4.jpg)
ลานวัดพระแก้ว หลังจากชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นแล้ว สามารถเดินไปลานวัดพระแก้วซึ่งอยู่ห่างไปเพียง 500 เมตร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2463 บริเวณลานหินที่กว้างขวางมีพรรณไม้ดอกพวกดุสิตา เอื้องม้าวิ่ง ขึ้นอยู่ทั่วไป
![](/f/36284/5fee025bc1f3bc450a484fe5.jpg)
![](/f/36284/5fee025cc1f3bc450a484fe6.jpg)
![](/f/36284/5fee025ec1f3bc450a484fe7.jpg)
หยาดน้ำค้างตอนเช้า และกาน้ำร้อนโบราณตามที่ป้าเจ้าของร้านได้บอกไว้ รับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ผมก็เตรียมความพร้อมสำหรับการเดินในวันนี้ เพราะจะเดินอีกหลายกิโลเมตรเลยแหละ
![](/f/36284/5fee0338c1f3bc450a484fe8.jpg)
![](/f/36284/5fee033ac1f3bc450a484fe9.jpg)
![](/f/36284/5fee033bc1f3bc450a484fea.jpg)
จุดแวะแรก คือ น้ำตกวังกวาง เป็นน้ำตกอยู่ใกล้กับที่พักมากที่สุดในบรรดาน้ำตกบนภูกระดึง ระยะทางเพียง 750 เมตร จากจุดเริ่มต้นตรงบริเวณบ้านพัก ลักษณะน้ำตกเป็นผาหินสูง 7 เมตร แต่ครั้งนี้ที่มา น้ำน้อย เลยดูเหมือนลำธารมากกว่า 555
![](/f/36284/5fee04c8c1f3bc450a484feb.jpg)
![](/f/36284/5fee04c9c1f3bc450a484fec.jpg)
หากใครเดินทางนี้ต้องระวังช้างป่าด้วยนะครับ โดยเราจะเจอป้ายเตือนช้างป่าตามข้างทาง ช้างที่นี่จะออกหากินหลัง 15:00 น. เพราะฉะนั้นหลังเวลาบ่าย 3 ห้ามเดินมาทางนี้เด็ดขาด
เดินมาสักพักจะเจอป้ายบอกทาง เห็นระยะทางแล้วห้ามท้อ เฮ้อ....
![](/f/36284/5fee0612c1f3bc450a484fed.jpg)
ทำตัวให้กลมกลืนกับธรรมชาติ เหมือนไหม??
![](/f/36284/5fee065f24192c18c78607ab.jpg)
แดดแรง แต่อากาศเย็นสบาย
![](/f/36284/5fee069524192c18c78607ac.jpg)
หลักฐานชัดเจนที่น้องช้างฝากไว้ระหว่างทาง
![](/f/36284/5ff2968cc1f3bc450a4852bc.jpg)
![](/f/36284/5ff2968dc1f3bc450a4852bd.jpg)
อ้าแขนรับความสดชื่น หนทางยังอีกยาวไกล จุดมุ่งหมายของเราวันนี้คือ ผาหล่มสัก
![](/f/36284/5ff29767c1f3bc450a4852be.jpg)
![](/f/36284/5ff29768c1f3bc450a4852bf.jpg)
เดินมาสักพักก็จะพบกับ น้ำตกเพ็ญพบใหม่ เกิดจากลำธารกว้าง อยู่ห่างจากน้ำตกวังกวางประมาณ 1.6 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่ไหลผ่านผาหินรูปโค้ง ด้วยความสูง 8 เมตร ลงสู่แอ่งน้ำด้านล่าง
![](/f/36284/5ff299c324192c18c78658f1.jpg)
![](/f/36284/5ff29926c1f3bc450a4852c0.jpg)
ถ้ามาช่วงหน้าหนาวจะได้พบใบเมเปิ้ลในช่วงนี้ ใบเมลเปิ้ลที่อยู่บริเวณริมน้ำตกจะร่วงหล่นลอยไปตามผิวน้ำ ทำให้น้ำตกแห่งนี้มีสีสันขึ้นมา
![](/f/36284/5ff29c6624192c18c78658f2.jpg)
![](/f/36284/5ff29c6824192c18c78658f3.jpg)
![](/f/36284/5ff29c6a24192c18c78658f4.jpg)
![](/f/36284/5ff29c6b24192c18c78658f5.jpg)
![](/f/36284/5ff29c6d24192c18c78658f6.jpg)
![](/f/36284/5ff29c6f24192c18c78658f7.jpg)
![](/f/36284/5ff29c7024192c18c78658f8.jpg)
![](/f/36284/5ff29c7124192c18c78658f9.jpg)
![](/f/36284/5ff29c7224192c18c78658fa.jpg)
![](/f/36284/5ff29c7424192c18c78658fb.jpg)
![](/f/36284/5ff29c7424192c18c78658fc.jpg)
จากน้ำตกเพ็ญพบใหม่ ผมเดินต่อมุ่งหน้าไปที่จุดไฮไลท์อีกจุดหนึ่ง นั่นก็คือน้ำตกถ้ำใหญ่ ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกับใบเมลเปิ้ลกัน ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อย และจะผ่านน้ำตกต่างๆ เช่น น้ำตกโผนพบ น้ำตกเพ็ญพบ เป็นต้น
![](/f/36284/5ff29e8bc1f3bc450a486508.jpg)
![](/f/36284/5ff29e8cc1f3bc450a486509.jpg)
![](/f/36284/5ff29e8ec1f3bc450a48650a.jpg)
และเราก็มาถึงน้ำตกถ้ำใหญ่ ซึ่งห่างจากน้ำตกเพ็ญพบประมาณ 1 กิโลเมตร ในเส้นทางนี้มีทางเดินบางช่วงที่เลียบข้างลำห้วยเล็กๆ มีต้นเมเปิ้ลอยู่เป็นระยะๆ หากช่วงหน้าหนาว เส้นทางนี้จะแดงฉานด้วยใบเมเปิ้ลที่ร่วงหล่นเกลื่อนพื้นป่า
![](/f/36284/5ff2b6bcc1f3bc450a4865e9.jpg)
![](/f/36284/5ff2b6bdc1f3bc450a4865ea.jpg)
![](/f/36284/5ff2b6bfc1f3bc450a4865eb.jpg)
![](/f/36284/5ff2b6c1c1f3bc450a4865ec.jpg)
![](/f/36284/5ff2b6c2c1f3bc450a4865ed.jpg)
![](/f/36284/5ff2b6c4c1f3bc450a4865ee.jpg)
![](/f/36284/5ff2b6c5c1f3bc450a4865ef.jpg)
![](/f/36284/5ff2b6c7c1f3bc450a4865f0.jpg)
ความสวยงามของน้ำตกถ้ำใหญ่จะแปลกตาด้วยโขดหินมหึมาวางทับซ้อนไม่เป็นระเบียบ ลำธารนี้ขนาบข้างด้วยต้นเมเปิ้ล ยามใบเมเปิ้ลแดงล่วงหล่น ขัดสีให้ลำธารหินเขียวสวยงามมีสีสันและมีชีวิตชีวาขึ้นมามาก
![](/f/36284/5ff2b87124192c18c786591d.jpg)
![](/f/36284/5ff2b87324192c18c786591e.jpg)
ทุ่งหญ้าแห้ง ระหว่างทางน้ำตกถ้ำใหญ่ไปผาหล่มสัก
![](/f/36284/5ff6ed7924192c18c7865b38.jpg)
![](/f/36284/5ff6ed7a24192c18c7865b39.jpg)
![](/f/36284/5ff6ed7b24192c18c7865b3a.jpg)
![](/f/36284/5ff6ed7c24192c18c7865b3b.jpg)
ผืนป่าบนยอดภูกระดึงส่วนใหญ่เป็นป่าสนสองใบ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่อีกโลกหนึ่งเลย เหมือนยุคไดโนเสาร์ไหม 555
![](/f/36284/5ff6f03024192c18c7865b3c.jpg)
![](/f/36284/5ff6f03124192c18c7865b3d.jpg)
เดินมาสักพักก็จะถึงสระอโนดาต เป็นสระน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ที่แวดล้อมไปด้วยต้นสนสีเขียวขจีสะท้อนกับน้ำเป็นแนวที่สวยงาม
![](/f/36284/5ff6f17ac1f3bc450a486841.jpg)
มาเจอป้ายระวังน้องช้างอีกแล้ว นักท่องเที่ยวห้ามเข้าบริเวณสระอโนดาตหลังเวลา 16:00-07:00 นะเพราะน้องช้างจะออกหากินช่วงเวลานี้
![](/f/36284/5ff6f239c1f3bc450a486842.jpg)
บรรยากาศอันสดชื่น แต่เมื่อยขามากๆ
![](/f/36284/5ff6f332c1f3bc450a486843.jpg)
ถึงสักที ผาหล่มสัก เดินเอาซะเมื่อยขาไปหมด
"ใจมันบอกว่าไหว แต่ขาบอก ไม่ไหวแล้ววว"
![](/f/36284/5ff6f563c1f3bc450a486844.jpg)
![](/f/36284/5ff6f4fd24192c18c7865b3e.jpg)
![](/f/36284/5ff6f4fe24192c18c7865b3f.jpg)
ผาหล่มสัก เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาให้ได้ เนื่องจากที่นี่กลายเป็นสัญลักษณ์ของภูกระดึงไปแล้ว เป็นอีกหนึ่งในจุดชมวิวชื่อดังภายในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ลักษณะของผาหล่มสัก เป็นลานหินกว้างและมีสนต้นหนึ่งขึ้นชิดริมผาใกล้กับชะง่อนหินที่ยื่นออกไปตรงหน้าผา ด้วยลักษณะแผ่นหินแปลกตากับโค้งกิ่งสนที่รองรับกันพอดิบพอดีเช่นนี้ นักท่องเที่ยวจึงนิยมจะใช้เป็นจุดชมวิว ดูดวงอาทิตย์ตกดิน บริเวณผาหล่มสักนี้มองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาสลับซับซ้อนในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์
![](/f/36284/5ff6f7acc1f3bc450a486845.jpg)
![](/f/36284/5ff6f7acc1f3bc450a486846.jpg)
![](/f/36284/5ff6f7aec1f3bc450a486847.jpg)
![](/f/36284/5ff6f7aec1f3bc450a486848.jpg)
![](/f/36284/5ff6f7afc1f3bc450a486849.jpg)
![](/f/36284/5ff6f7b1c1f3bc450a48684a.jpg)
แต่ผมไม่ได้อยู่รอจนพระอาทิตย์ตก เนื่องจากต้องเดินทางกลับเต็นท์ ซึ่งมีระยะทางอีกประมาณ 9 กิโลเมตรเลยได้แค่เก็บบรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ระหว่างทาง
จากผาหล่มสักไปลานกางเต็นท์เราจะผ่านหน้าผาต่างๆ เช่น ผาแดง ผาเหยียบเมฆ ผานาน้อย ผาหมากดูก เป็นต้น ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่ผมไม่สามารถเก็บรวบรวมภาพบรรยากาศหน้าผาเหล่านี้ได้เนื่องจากมืดค่ำเสียก่อน
ผมเดินถึงเต็นท์พักประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ เอาเป็นว่ามาถึง ขาถึงกับอ่อนแรงเลยทีเดียว ประกอบกับอากาศที่หนาวเหน็บจึงทำให้ความปวดเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมที่ครั้งหนึ่งในชีวิตเราเคยมาเที่ยวภูกระดึง เป็นหนึ่งในผู้พิชิตยอดภูกระดึงแห่งนี้
วันที่ 4 ความทรงจำ
![](/f/36284/5ff70074c1f3bc450a486852.jpg)
วันนี้เป็นวันที่ต้องโบกมือลาภูกระดึง ผมตื่นแต่เช้า รับประทานอาหารเช้า ทำธุรส่วนตัว แล้วเก็บของใส่กระเป๋า เก็บเครื่องนอนต่างๆคืนให้กับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จากนั้นก็ไปจ้างลูกหาบอีกรอบ และเตรียมพร้อมสำหรับการเดินลงจากภูกระดึง ระหว่างทางเราก็จะเจอกับนักท่องเที่ยวต่างๆที่ร่วมกันเดินลงพร้อมๆกัน ต่างคนมีสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความอิ่มเอิบใจที่ผสมผสานไปกับความรู้สึกเหนื่อยล้าบ้างสลับกันไป แต่สิ่งที่รู้สึกได้คือความภาคภูมิใจของทุกคนเมื่อลงมาถึงจุดเริ่มต้นของเราในวันแรก ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง(ศรีฐาน)
![](/f/36284/5ff7027dc1f3bc450a486853.jpg)
เก็บภาพรองเท้าที่ระลึกกับการเดินทั้ง 3 วัน (ขออภัยด้วยนะครับหากภาพไม่มีความเหมาะสม)
![](/f/36284/5ff702d1c1f3bc450a486854.jpg)
ผมนั่งรถสองแถวจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง มาลงที่เสงี่ยมฟาร์มเพื่อต่อรถสาย ขอนแก่น-เมืองเลย และลงที่ท่าอากาศยานเลย ขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพมหานคร
![](/f/36284/5ff7043bc1f3bc450a486855.jpg)
นับว่าเป็นการเดินทางที่ทรหดอดทนที่สุดในบรรดาการเดินทางท่องเที่ยวที่ผ่านมาในชีวิต ผมใช้ระยะทางทั้งสิ้น 3 วัน 2 คืน กับการเดินตั้งแต่วันแรกของการขึ้นภูกระดึง การเดินท่องเที่ยวบนยอดภูกระดึงและวันที่เดินลงจากภูกระดึง รวมระยะทางในการเดินกว่า 50 กิโลเมตร
ขอบคุณสำหรับการรับชมครับ แล้วเจอกันทริปต่อไปนะ
ข้อควรรู้ก่อนเที่ยวภูกระดึง
![](/f/36284/5ff816eec1f3bc450a487230.jpg)
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จะเปิดเฉพาะหน้าหนาวเท่านั้น โดยจะเปิดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 31 พฤษภาคมของทุกปี โดยจะเปิดให้ขึ้นภูกระดึงได้ในช่วงเวลา 07:00 น. -14:00 น. เพื่อให้นักท่องเที่ยว นักเดินทางทั้งหลายเดินทางไปถึงที่พักบนยอดภูกระดึงก่อนที่จะค่ำซะก่อน ซึ่งแต่ละช่วงจะมีบรรยากาศที่แตกต่างกัน
- เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ปลายฤดูฝน น้ำตกบนภูกระดึงจะงดงามมากๆ เพราะมีปริมาณน้ำเยอะ ต้นไม้ต่างๆรวมถึงใบเมลเปิ้ลจะเขียวขจี
- เดือนธันวาคม-มกราคม อากาศหนาว ใบเมเปิลจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสดใส
- เดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ช่วงดอกไม้กำลังบานสะพรั่ง ท้องทุ่งบริเวณนี้ จะขาวไปด้วยกุหลาบขาวกลีบบาง บานเต็มท้องทุ่ง จะมีดอกเอื้องและกล้วยไม้ป่า พากันอวดโฉมให้นั่งท่องเที่ยวไ้รับชม
![](/f/36284/5ff82531c1f3bc450a487237.jpg)
การเดินทางโดยเครื่องบิน
ปัจจุบันมีเที่ยวบินตรงมาเลยจากท่าอากาศยานดอนเมือง และ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
จากท่าอากาศยานดอนเมือง มี 2 สายการบินที่ให้บริการ ได้แก่ สายการบินแอร์เอเชีย และ นกแอร์
จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มี 1 สายการบินให้บริการ ได้แก่ สายการบินไทยสมายล์
สามารถดูรายละเอียดข้อมูลเที่ยวบินและสำรองที่นั่งได้ที่เว็บไซต์ของสายการบิน
แอร์เอเชีย https://www.airasia.com
นกแอร์ https://www.nokair.com
ไทยสมายล์ https://www.thaismileair.com
นั่งเครื่องบินมาลงสนามบินจังหวัดเลย รอรถฝั่งตรงข้ามสนามบิน หรือนั่งรถสองแถวจากสนามบินไปลงที่บขส.เลยแล้วนั่งรถทัวร์จากบขส.เมืองเลย มาลงเสงี่ยมฟาร์ม หรือลงที่ผานกเค้าแล้วต่อรถสองแถวเข้าตัวอุทยานแห่งชาติภูกระดึง
บขส. เลย ไป เสงี่ยมฟาร์ม ให้นั่งรถสาย ขอนแก่น-เมืองเลย
บขส.เลย ไป ผานกเค้า ให้นั่งรถสาย เลย-นครราชสีมา ของบริษัท นครชัยขนส่ง จำกัด
การเดินทางโดยรถทัวร์
รถทัวร์สายกรุงเทพ-เมืองเลย ลงรถที่ผานกเค้า หรือสถานีขนส่งอำเภอภูกระดึงแล้วต่อรถสองแถวเพื่อเดินทางไปยังที่ทำการอุทยาน มีบริษัทให้บริการได้แก่ บริษัท ขนส่งจำกัด แอร์เมืองเลย ภูกระดึงทัวร์ ขอนแก่นทัวร์ ศิขรินทร์ทัวร์ และชุมแพทัวร์
การเดินทางโดยรถส่วนตัว
- เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี เพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก หล่มเก่า ด่านซ้าย ภูเรือ และอำเภอเมืองเลย เลี้ยวเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 (เลย-ขอนแก่น) และเลี้ยวเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2019 เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
- ใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสระบุรี นครราชสีมา จนถึงจังหวัดขอนแก่นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ผ่านอำเภอภูผาม่าน และตำบลผานกเค้า เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
- เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 201 ผ่านจังหวัดชัยภูมิ อำเภอภูเขียว แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพ จากนั้นใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสระบุรี นครราชสีมา จนถึงจังหวัดขอนแก่นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ผ่านอำเภอภูผาม่าน และตำบลผานกเค้า เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
![](/f/36284/5ff8324b24192c18c78678fc.jpg)
![](/f/36284/5ff8331bc1f3bc450a487239.jpg)
![](/f/36284/5ff8332c24192c18c78678fd.jpg)
- กางเกงขายาว กางเกงขายาวใส่สบายและไม่เป็นกางเกงยีนส์ ผ้าเบากันน้ำหรือแห้งง่ายก็จะดี
- เสื้อแขนยาว หรือ ปลอกแขน เพื่อป้องกันการขีดข่วน และป้องกันแมลงต่าง ๆ
- เสื้อกันหนาว อากาศบนภูกระดึงถือว่าค่อนข้างหนาว ต้องเตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปให้พร้อม
- รองเท้า ผ้าใบที่กันลื่นได้ และคล่องตัว ใส่สบายเหมาะกับการเดินเยอะๆ
- ถุงเท้าหรือถุงกันทาก เพื่อป้องกันทากไม่ให้มาเป็นอุปสรรค์การผจญภัยของเรา
- เต็นท์ ถุงนอน เครื่องนอนต่างๆ ที่จำเป็นและคิดว่าจะทำให้นอนสบายมากขึ้น แต่ทางอุทยานแห่งชาติภูกระดึงก็มีให้เช่าเหมือนกัน
- เสื้อกันฝน พกติดไปด้วยในกรณีที่อยู่ ๆ ฝนก็เทลงมา เทลงมา จะได้ไม่เศร้าเดินเที่ยวต่อได้
- รองเท้าแตะ เอาไปเปลี่ยนเวลาที่อยู่บนยอดแล้ว เดินเล่นชิล ๆ พักผ่อนเท้าสักนิดหลังจากเดินทางไกลขึ้นเขามา
- ไฟฉาย จำเป็นที่สุดในตอนกลางคืน
- พาวเวอร์แบงค์ เพื่อความสะดวกไม่ต้องตามหาปลั๊กให้วุ่นวาย
- ขวดน้ำดื่มส่วนตัว รักษาความสะอาด และสะดวกอีกด้วย ตรงลานกางเต็นท์มีตู้กดน้ำราคาถูกด้วย ประหยัดได้อีกนะเพราะน้ำดื่มบนยอดภูกระดึงราคาค่อนข้างสูง
- ยาประจำตัว หรือยาสามัญ ใครเป็นโรคประจำตัวก็ต้องพกไปด้วย
- สเปรย์กันแมลง ป้องกันแมลงกัดต่อย
ที่ตั้งและช่องทางการติดต่อ
- อุทยานแห่งชาติภูกระดึง หมู่ที่ 1 บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย 42180
- โทรศัพท์ 0-4281-0833 หรือ 0-4281-0834
- E-mail: [email protected]
- เว็บไซต์ http://park.dnp.go.th
go see write เล่าเรื่องเที่ยว
วันเสาร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2564 เวลา 21.55 น.