โควิดกลับมาอีกรอบ ทำให้หลายคนไปไหนไม่ได้
วันนี้ กานต์•เดิน•ทาง เลยขออาสาพาทุกคน เที่ยวทิพย์ไปกับคลิปของเรา
ทริปนี้เราไปกันที่ภูเก็ต-พังงา เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน ในช่วงวันจักรี ระหว่าง 3-6 เมษา 64
จุดหมายหลักๆคือการไปดำน้ำ one day trip ที่หมู่เกาะสิมิลัน กับ Love Andaman
เราเลือกเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชีย ถึงสนามบินภูเก็ตประมา 9 โมงเช้า
จากนั้นก็เลือกเช่ารถยนต์จาก drivehub.com ได้ราคาวันละ 650 บาท
และร้านแรกสำหรับทริปนี้ ที่เราเลือกเป็นมื้อเที่ยงก็คือ ร้านหมี่ต้นโพธิ์
กับเมนูหมี่ฮกเกี้ยน ของขึ้นชื่อภูเก็ต
นอกจากหมี่ฮกเกี้ยน อีกเมนูที่โต๊ะไหนก็สั่ง นั่นก็คือหมูสะเต๊ะ
ส่วนเมนูที่เราชอบมากก กว่าหมี่ฮกเกี้ยนสะอีกก็คือ หมี่แห้งต้มยำ ใครมาร้านนี้อยากให้ลองสั่งเลยค่ะ
ทานคาวเสร็จก็ต่อหวานกันสักหน่อย ก่อนที่จะเข้าพังงาในช่วงบ่าย กับร้านไอศกรีมขึ้นชื่อ อย่าง Torry
เมนูเด็ดของที่นี่ก็คือ ไอศกรีม หลากหลายรสชาติ เราเลือกรสโอ้วเอ๋ว ที่เสิร์ฟมาพร้อมวุ้นโอ้วเอ๋ว
กับอีกหนึ่งเมนูคือ ไอศกรีมงาดำ ที่เสิร์ฟมาพร้อมขนมงาขี้ม่อน อันนี้อร่อยมากๆ
ส่วนเมนูนี้ คือที่สุด ครัวซองค์กรอบมากๆ ไอศกรีมรสสับปะรด คือเหมือนทานสับปะรดสดๆ
เราเดินทางออกจากภูเก็ต ขับไปยังพังงาในช่วงบ่าย ที่แรกที่เราจะพาทุกคนไปเที่ยวในพังงา
นั้นคือกิจกรรมทางน้ำอย่างการล่องแพไม้ไผ่ ที่น้ำตกเวียงเคียงคู่ ที่ Komol Corner
เราจองล่วงหน้าผ่านทาง FB page ของโกมลคอนเนอร์ ราคา 500 บาทนั่งได้ 2 คน
เจ้าของอัธยาศรัยดี และบริการดีมาก
เวลาในการล่องประมาณ 30-45 นาที มีจุดแวะให้เล่นน้ำได้ บางช่วงของการล่องแพมีน้ำแรง และเบาๆสลับกัน แนะนำให้ใส่เสื้อผ้าที่พร้อมเปียกมาด้วย เพราะก้นเปียกแน่นอน และบางช่วงเห็นงู ตามกิ่งไม้ด้วย
ใครมาล่องแพที่โกมล คอร์เนอร์ สามารถทานข้าวที่นี่ได้เลยนะคะ แต่เรายังไม่หิวเลย
เลยมุ่งตรงไปยังที่พัก แถวหาดทรายดำ กับ To Zleep Hotel ในราคาไม่ถึง 500
ใครที่หาที่พักถูกๆ ไม่ไกลจากท่าเรือทับละมุแนะนำเลยค่ะ ขับรถไปอีก 15-20 นาทีเท่านั้น
หลังอาบน้ำเสร็จ เราก็ไม่พลาดที่จะไปพระอาทิตย์ตกที่หาดทรายดำ หรือหาดนางทองนั่นเอง
ทรายเป็นสีดำ สวยมากๆๆๆๆ แนะนำมาก่อนพระอาทิตย์ตกสักหน่อย จะสวยมาก
ด้านซ้ายมือมีประภาคารด้วย ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเตือนภัยสึนามิ
สำหรับมื้อเย็นวันแรกเราเลือกมากินที่ร้านชื่อดัง ไม่ไกลจากที่พัก กับร้านที่มีชื่อว่าครัวหลวงเทน
ตอนไปถึงคิวยาวมากกก คนต่อคิวรอยาว เราใช้เวลารอ 1 ชม.ได้ แต่ทุกคนก็ยืนรอ
ยิ่งทำให้เราอยากจะลอง ซึ่งบอกเลยว่าคุ้มค่ากับการรอคอยมาก
เมนูน้ำพริก ทางร้านให้ทานฟรีๆ ส่วนเมนูที่ชอบที่สุดคือ ต้มหนางหมู ซึ่งหาทานได้ยากมาก
ทานข้าวเสร็จ เราก็กลับไปนอนเอาแรง เพราะพรุ่งนี้ต้องไปขึ้นเรือดำน้ำแต่เช้า..
สำหรับวันที่ 2 เราตื่นแต่เช้าเพื่อมายังท่าเรือของ Love Andaman ตอน 8.00 น.
สำหรับใครที่จะมาดำน้ำที่หมู่กาะสิมิลัน กับหมู่เกาะสุรินทร์ ของเลิฟอันดามันจะต้องมาขึ้นเรือที่นี่
ถ้าพักที่เขาหลักจะมีรถรับ-ส่งฟรี แต่ถ้าพักที่ภูเก็ต จะมีค่ารถรับ-ส่ง 300/คน
มาถึงก็เข้าไปเช็คอิน ทานอาหารเช้า ชา-กาแฟรอเวลาขึ้นเรือ ใครเมาเรือก็มียาแก้เมาให้ด้วย
และนี่ก็คือตาราง one day trip จาก Love Andaman ค่ะ
เรานั่งเรือมาสักชั่วโมงก็มาถึงจุดหมายแรกของเรา เกาะ 8 หรือ เกาะสิมิลันนั่นเอง
มองไปเห็นหินเรือใบด้วย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเกาะ 8 นั่นเอง
เราสามารถเดินขึ้นไปชมวิวมุมสูงได้ด้วย ใช้เวลาเดินขึ้นไปประมาณ 5 นาที
วิวจากมุมสูง เห็นน้ำทะเลเป็น 2 สีเลยย
เราใช้เวลาอยู่ที่เกาะ 8 เกือบๆชั่วโมง จึงไปกันยังเกาะที่สอง คือ เกาะ9 จุดนี้ปลาเยอะมากๆๆค่ะ
แต่ปะการังใต้น้ำส่วนใหญ่ จะเป็นปะการังฟอกขาว
ตามแพลนตอนแรกเราต้องไปดำน้ำกันต่อที่เกาะ 7 แต่เนื่องจากบริเวณนั้นมีแมงกะพรุนเยอะมาก
ทำให้เราต้องเปลี่ยนแพลนมากินข้าวเที่ยงที่เกาะ4 กันก่อน แล้วค่อยไปดำน้ำ
บนเกาะ 4 จะมีที่นั่งไว้สำหรับทานอาหาร ซึ่งเลิฟอันดามัน ได้จัดข้าวไว้เป็นกล่องๆให้เราแล้ว
อาหารเยอะมากๆ แถมรสชาติอร่อยด้วยคร่าาา
ทานข้าวเสร็จเราก็ไปเดินเล่นถ่ายรูป มีโอกาสแชะภาพกับไกด์ชือ สเตฟานนี่ เป็นคนตลกมาก
และก็ได้เวลามาดำน้ำกันที่จุดสุดท้ายแล้วค่ะ เนื่องจากเกาะ7 แมงกะพรุนเยอะมาก
สุดท้ายเราก็มาดำน้ำกันที่ท้ายเกาะ 4 หรือเกาะเมียงแทน จุดนี้เราได้เห็นปลานีโม่ด้วย
เราจบ one day trip ราวๆห้าโมงกว่า ถ้าใครไม่รีบกลับ ขับรถมาเองแบบเรา สามารถกินอาหารที่ เลิฟอันดามันก่อนกลับได้ มีให้เลือกหลายอย่างทั้งผัดซีอิ้ว มะม่วงน้ำปลาหวาน ไอศกรีมกะทิ แต่เรามีร้านในใจที่อยากจะไป คือร้านเรอดังซีฟู้ด เราเลยชิมแค่ไอศกรีมกะทิ ซึ่งอร่อยมาก อยากให้ลองชิม 555
และนี่คือหน้าตาอาหารมื้อค่ำคืนที่สองจากร้านเรอดังซีฟู้ด อร่อยไม่แพ้เมื่อคืนเลย รสชาติใต้แท้ๆ
หลังกินข้าวเสร็จเราก็มาเช็คอินที่ Kalima Khaolak ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านอาหาร
เราจองมาในราคา 1,6xx เอง แต่ห้องสวยมาก กว้างมากๆ แถมมีอ่างน้ำด้วย
ไฮไลท์อีกอย่างของคาลิม่า เขาหลักก็คือ สระดาว นั่นเองงง ซึ่งอยู่ติดกับร้านอาหารเย็น
เช้าวันที่3 หลังจากเราทานอาหารเช้าเสร็จ เราก็เดินไปสำรวจที่หน้าหาดกัน
ซึ่งทางรีสอร์ท มีให้พายเรือคายัคและเล่นซับบอร์ดฟรีด้วย แต่ช่วงเช้าน้ำจะยังน้อย
เราชอบตรงป่าสนมาก ซึ่งเป็นทางระหว่างไปหน้าหาด
ช่วงเช้าๆหน้าหาดเงียบสงบมาก และเป็นส่วนตัวสุดๆ
กานต์เดินทาง
วันเสาร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 17.38 น.