Pullman Bangkok King Power เป็นโรงแรมกึ่งรีสอร์ตกลางกรุงเทพฯ ทีได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวฮ่องกง และ สิงคโปร์ ด้วยทำเลสะดวกสบาย ใจกลางกรุงเทพฯ ในซอยรางนํ้าที่เต็มไปด้วยร้านอาหารขึ้นชื่อมากมาย แถมด้วย King Power : King of Duty Free ในอาคารรูปโดมแก้ว เด่นสง่า สถานที่ช้อปปิ้ง และศูนย์รวมอาหารสตรีทฟู้ดส์ชื่อดัง

ในช่วงการระบาดของ Covid - 19 นักท่องเที่ยวต่างชาติหายเกลี้ยง จึงมีโปรฯ ออกมาแทบทุกเดือน - ผมเลยรีบจองสิครับ เพราะปกติราคาของที่นี่ไม่เคยตํ่ากว่าคืนละสามพัน - จองไปได้ไม่กี่วัน ก็มีโปร "เราเที่ยวด้วยกัน" ออกมาอีก 

ภาพในรีวิวนี้ เป็นช่วงเดือน กรกฏาคม 2563  - ไปชมรีวิวกันดีกว่าครับ 

การเดินทางมาที่ Pullman Bangkok King Power ง่ายมากครับ - ลง BTS สถานี อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

จากนั้น เดินเข้าซอยรางนํ้ามาประมาณ 800 เมตร

*ถ้าลงที่สถานี BTS พญาไท ระยะทางเดินประมาณ 700 เมตร

** รีวิวนี้ ผมจ่ายค่าที่พักเอง ทำรีวิวเองนะครับ

บรรยากาศโอ่อ่า อลังการ หน้าโรงแรม

lobby ของ Pullman Bangkok King Power โอ่อ่า อลังการ

Welcome Drink เป็นนํ้าองุ่น

บริเวณล็อบบี้ที่กว้างขวางโอ่อ่า ยังเป็นที่ตั้งของ The Junction ซึ่งเป็น Co Working Space - ช่วงกลางวัน ขาย กาแฟ ชา Snack และ เครื่องดื่มต่างๆ

*โปรดสังเกต ว่า ฉากสีม่วงในภาพนี้ มีลักษณะเป็นกล่อง สี่เหลี่ยม ช่วงเย็นจะถูกเลื่อนออก เปลี่ยนจากกล่องเหลี่ยม เป็น Pop Up Bar

The Junction - Co Working Space ที่มีทั้งวิวสวนตรงกลาง และ สระนํ้ากลางห้อง

เก้าอี้ของที่นี่ โดเด่นตรงที่มี hood กั้นช่วงบน เพิ่มความเป็นส่วนตัว

ช่วงกลางคืน The Junction จะปรับเปลี่ยนเป็น Pop Up Bar โดยการเลื่อนฉากสีม่วง จัด space ใหม่ ให้เข้ากับแสงไฟ ยามคํ่า

*แต่บังเอิญผมมีนัดออกไปข้างนอก กลับมา ก็ดึกแล้วครับ เลยไม่ได้เก็บภาพช่วงกลางคืน 🙂

ห้องพักแขก จะอยู่ชั้น 7 - 21

ชั้น 20 เป็น Executive Lounge สำหรับสมาชิก Accor Plus ระดับ Platinum (ช่วงนั้น - ผมยังเป็นแค่ Silver  )

ได้ห้องพัก ชั้น 9

เลขที่ออก 937 วิวสระว่ายนํ้า ตามที่ request ไป - ผมไปเช็คอินที่นี่ 2 ครั้ง (ในช่วง 2 เดือน) ได้ห้องเดิมทั้ง 2 ครั้ง

*ที่นี่พิถีพิถัน เรื่องความสะอาดมากครับ ตั้งแต่ช่วงเช็คอินแล้ว ทุกอย่างต้องผ่านการฆ่าเชื้อด้วย UV lamp ในลิฟท์ยังมีกระดาษชุบนํ้ายาฆ่าเชื้อ (disinfectant) และถังขยะระบบ touchless อีกต่างหาก

ห้องพัก กว้างขวาง โอ่อ่า ตามประสา รร. 5 ดาว

นอกจาก Key Card และ บัตรแลกเครื่องดื่ม Welcome Drink ยังมีคูปองส่วนลด เมื่อซื้อสินค้าที่ King Power Duty Free ด้วยครับ

ที่พิเศษมากในช่วง Covid - 19 คือ Alcohol Hand Spray

สเปรย์แอลกอฮอล์ในตลับแบๆพกสะดวก แจกฟรีครับ (y)

ข้าวของเครื่องใช้เกือบทุกอย่างบรรจุในถุงพลาสติก

* เท่าที่เข้าเช็คอินโรงแรมต่างๆ มาไม่ตํ่ากว่า 20 แห่ง ในช่วง Covid ขอยกนิ้วเรื่องการดูแลเอาใจใส่เกี่ยวกับความสะอาดให้ Pullman King Power มาเป็นอันดับ 1 ครับ

**เครื่องดื่มในตู้เย็นไม่ฟรีนะครับ 🙂

City View และ สระว่ายนํ้า (y)

ห้องนํ้ามีบานเลื่อน เปิดให้ connect กับห้องนอนได้

อ่างอาบนํ้าขนาดใหญ่

*ผ้าเช็ดตัว, พรมเช็ดเท้าก็บรรจุในถุงพลาสติก

Amenities ในห้องนํ้า และ เสื้อคลุม

ลงมาดู Spa และ Fitness ชั้น 4

ผ้าขนหนูก็ห่อพลาสติก

เดินจาก fitness ขึ้นไปนิดหน่อย จะพบกับวิวสระว่ายนํ้า infinity pool

*ภาพล่าง คือ สระว่ายนํ้า ที่มี Jacuzzi นํ้าแรงใช้ได้เลย (y)

Club House ของสระว่ายนํ้า

City View

สระว่ายนํ้าใหญ่มาก น่าจะยาวประมาณ 20 เมตร

กดลิฟท์ลงมาที่ชั้น 2 เป็นห้องอาหารญี่ปุ่น Tenshino

ตรงกลางสวนชั้นล่าง ก็มีร้านอาหารญี่ปุ่น Tenko Omagase

รอบๆร้าน Tenko Omagase เป็นสวนที่จัดไว้ดีมาก เขียวชอุ่ม

มีลำธาร เลี้ยงปลาคาร์พ ตัวเบ้อเริ่ม (y)

อาหารเช้าที่ Cuisine Unplugged ครับ

ชอบภาพวาดนี้มาก งามจริงๆ (y) อยู่ตรงทางเลี้ยว ก่อนถึง Cuisine Unplugged

Cuisine Unplugged ห้องรับประทานอาหารเช้า - บรรยากาศโอ่อ่า กว้างขวาง และ แน่นอน อุปกรณ์เครื่องใช้ในการรับประทาน ได้รับการบรรจุไว้ในถุง ดูสะอาดสะอ้าน (y)

เป็นบรรยากาศบุฟเฟ่ต์ ที่แปลกไปจากเดิมมากๆ 🙂

รู้สึกอึดอัดนิดหน่อย ที่ไม่สามารถตักอะไรได้เอง เพราะทาง รร.จะเตรียมไว้ให้ เป็นส่วนใหญ่

ไลน์ก๋วยเตี๋ยว ข้าวต้ม โจ๊ก ออมเล็ตต์ ติ่มซำ ครบ

*มี pizza corner ด้วย แต่ต้องสั่ง และจ่ายเพิ่ม

Bakery มีน้อยไปหน่อยนะ ผมว่า

และที่พลาดไม่ได้ เมื่อมาพักที่นี่ คือ King Power : King of Duty Free

*ปกติ ข้าพเจ้าไม่ใช่ขาช็อป ไปเที่ยวต่างประเทศ ก็ไม่ค่อยได้ซื้ออะไร แต่เห็นโดมแก้วโคตรเท่นี้มานานแล้ว อยากรู้เหมือนกันว่าข้างในเป็นอย่างไร 🙂

โดมแก้วแสนสวย

ภายในโดมแก้ว คือ ร้านกาแฟ และ บันไดเลื่อน

บรรยากาศข้างใน คือ ห้างสรรพสินค้าแบรนด์เนม

ที่ชอบมากๆ คือ ศูนย์อาหาร Street Foods ชั้น 3 ที่รวมอาหารจานเด็ดทั่วกรุงเทพฯมาไว้ที่นี่ ทั้งของหวาน และอาหารจานหลัก

เลยได้มีโอกาสลอง ผัดไทยทิพย์สมัย ประตูผี ที่ไม่เคยได้กินเพราะขี้เกียจเข้าคิว - เป็นผัดไทยแบบใส่ซ้อสสีแดงที่ปรุงสำเร็จนะครับ รสชาติคล้ายๆผัดไทยภูเก็ต

บริเวณรับประทานอาหาร

ขอปิดท้ายด้วยภาพนี้นะครับ