นอกจากความหน้าเหมือนคนไทยแล้ว ผมแทบไม่รู้จักประเทศฟิลิปปินส์ (Philippines) เลย ทั้งๆที่ประเทศนี้เป็นหนึ่งในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ฉะนั้นผมจึงไม่รอช้าที่จะตอบรับคำชวนจากเพื่อนเก่าที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ ม.1 ในการไปเยือนประเทศนี้ แม้ว่าจุดประสงค์ในการไปของเราจะต่างกันก็ตาม

“เอ๋ ขอบใจมากนะที่รับคำชวนของเรา นี่เราชวนเพื่อนเกือบครบทุกคนแล้ว ไม่มีใครสนใจไปฟิลิปปินส์กับเราเลย”

“เช่นกัน จุ๋ย ฟิลิปปินส์ก็อยู่ในแผนของประเทศที่เราจะไป เหมือนกันเลยชวนใครก็ไม่มีใครสนใจ ทุกคนตอบกลับมาว่าจะไปดู จะไปเที่ยวอะไรที่นั่น”

“ใช่ๆ เราว่าประเทศนี้มีศักยภาพนะ อีกไม่กี่ปีเศรษฐกิจจะโตอย่างก้าวกระโดดเลย เราว่าจะไปดูช่องทางการลงทุนที่นั่น”

“อะไรนะ จะไปดูการลงทุนหรอ นึกว่าชวนไปเที่ยวเสียอีก”

“ก็เที่ยวด้วยไง เที่ยวไป ดูช่องทางการลงทุนไป ที่นี่ทะเลสวยมากนะ มีดำน้ำดูฉลามวาฬด้วย”

“จะสวยสู้ทะเลอันดามันของเราหรอ แต่ประเทศนี่เป็นเกาะ ถ้าไปแล้วไม่ได้เที่ยวทะเลก็คงแปลกๆ อ้าว เที่ยวไปดูช่องทางการลงทุนไปก็ได้ แปลกดี ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน แต่เราก็อยากดูวิถีชีวิตของผู้คนด้วยนะ เราว่าประเทศนี่ แม้จะอยู่ใกล้ไทย แต่คนไทยน้อยคนที่จะเดินทางไป น่าจะมีอะไรให้ค้นหาอยู่นะ”

นั่นคือบทสนทนาของผมกับเพื่อนเก่าที่ชักชวนกันไปประเทศฟิลิปปินส์ หนึ่งในประเทศเพื่อนบ้าน ที่ดูห่างไกลจากการรับรู้ของคนไทยเหลือเกิน

“จะไปด้วยกันได้หรอ เอ๋ มันติดดินจะตาย เที่ยวแต่ละที เดินกันขาลาก กินแต่อาหารข้างทาง มันบอกว่าได้ดื่มด่ำกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นมากกว่า ส่วน จุ๋ย ก็แสนจะเป็นคุณชายไฮโซ กินแต่ร้านหรู เดินแต่ห้าง รถเมล์ไม่เคยนั่ง ร้านอาหารข้างทางกินไม่เป็น ดูเถอะ ไปด้วยกันเดี๋ยวได้ทะเลาะกันตาย” นั่นคือสิ่งที่เพื่อนๆเม๊าท์กัน เมื่อรู้ว่าผมกับจุ๋ยจะเดินทางไปฟิลิปปินส์ด้วยกัน

ไม่ใช่จุดหมายเท่านั้นที่ต่างกัน แต่รูปแบบการใช้ชีวิตของเรายังต่างกันแบบสุดขั้ว แล้วอย่างนี้เราจะเดินทางด้วยกันได้ไหม การประนีประนอมคือสิ่งที่ผมท่องอยู่ในหัวตลอดการเดินทาง แต่เอาเข้าจริงทริปนี้เป็นการชิงไหวชิงพริบ ในการชักจูงอีกคนให้ใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองเป็นอย่างสุดโต่ง

กระทิงเปลี่ยวเที่ยวโลกกว้าง

 วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 13.17 น.

ความคิดเห็น