อย่างที่บอกว่าโรงแรมที่เราพัก แม้ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าในระยะเดินพอเหนื่อย แต่ก็สุดแสนจะใกล้กับอ่าวมะนิลาเพียงแค่ช่วงตึก เช้านี้จึงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการเดินทอดน่องรับลมเย็นบนเส้นทางเลียบอ่าวมะนิลาที่สร้างเป็นทางเดินอย่างสวยงามเลียบไปตามแนวอ่าว พร้อมด้วยต้นไม้ให้ความร่มรื่นตลอดเส้นทาง

ไม่ใช่แค่เราที่กำลังเดินรับลมเย็นที่พัดมาจากทะเล แต่ในเวลานี้ชาวฟิลิปิโนจำนวนมากก็พาชีวิตมาใช้บนเส้นทางเดินนี้ บ้างก็วิ่ง บ้างก็ปั่นจักรยาน บ้างก็เต้นแอร์โรบิก หากวิ่งจนเหนื่อย ปั่นจนล้า หรือเต้นจนเอวบิดก็มีบริการนวดกันริมทะเล จะนวดทั้งตัวหรือเฉพาะฝ่าเท้าก็มีให้บริการ นวดไป ชมวิวทะเลไป ท่าจะเพลินอยู่ไม่น้อย หรืออยากกินไอศครีม หม่ำขนมก็มีขาย ให้ครอบครัวเล็กๆที่หอบลูกจูงหลานมานั่งรับลม กินขนมกันอย่างมีความสุข

แต่ก็มีบางคนเลือกจะลงไปว่ายน้ำ หรือนั่งตกปลาอย่างเงียบๆ ได้ปลาบ้าง ไม่ได้ปลาบ้าง แต่ก็ดูสุขใจดี ที่นี่จึงเป็นเหมือนสวนสาธารณะที่มากไปด้วยวิถีชีวิตของผู้คน

เราเดินเลียบอ่าวมะนิลาไปเรื่อยจึงสังเกตว่าตลอดแนวอ่าวนั้นเรียงรายไปด้วยอนุสาวรีย์ของบุคคลสำคัญ อนุสาวรีย์ของบุคคลที่สำคัญที่สุดเห็นจะเป็น รามอน เดล เฟอโร แมกไซไซ (Ramon Del Fierro Magsaysay) ชื่อแมกไซไซนี้คนไทยส่วนใหญ่รู้จัก ในฐานะรางวัลแมกไซไซ แต่ไม่ค่อยมีใครรู้ที่มาของรางวัลนี้ การมาเดินริมอ่าวมะนิลาจึงได้ความรู้ว่า รางวัลแมกไซไซนี้มีที่มาจาก รามอน เดล เฟอโร แมกไซไซ ผู้เป็นประธานาธิบดีของประเทศฟิลิปปินส์ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 1953 ถึง 17 มีนาคม 1957 แม้จะกินเวลาแค่ 3 ปีเศษในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เพราะเหตุเครื่องบินตกทำให้เสียชีวิต แต่เขาก็ได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศมากมายตั้งแต่สมัยที่ยังไม่ได้เป็นประธานาธิบดี ที่โดดเด่นที่สุดคือการปราบพวกฮุคส์ ซึ่งเป็นขบวนการชาวนาต่อต้านชาติ วิธีปราบปรามของเขาไม่ใช่การใช้กำลังทหารเข้าโจมตี แม้ว่าในขณะนั้นเขาจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมก็ตาม แต่เป็นการแก้ไขที่สาเหตุ โดยการเร่งพัฒนาชนบทเพื่อแก้ไขความยากจนของชาวนา ภายหลังที่เขาเสียชีวิต ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งอยู่ในฐานะประเทศมหาอำนาจที่หนุนหลังประเทศฟิลิปปินส์อยู่ในขณะนั้นจึงจัดตั้งมูลนิธิแมกไซไซขึ้น เพื่อมอบรางวัลแมกไซไซให้กับนักพัฒนาทั่วโลก

อนุสาวรีย์ของ รามอน เดล เฟอโร แมกไซไซ อยู่ในท่ายืน เอามือซ้ายขึ้นบังแสง เพื่อทอดสายตาไปยังอ่าวมะนิลา ประหนึ่งกำลังมองอนาคตของประเทศที่เขารัก

กระทิงเปลี่ยวเที่ยวโลกกว้าง

 วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 16.24 น.

ความคิดเห็น