ระหว่างเดินกลับโรงแรม เราผ่านร้านตัวแทนจำหน่ายตั๋วเรือไปเกาะโบโฮลจึงเข้าไปจองตั๋วไป-กลับสำหรับการเดินทางในอีก 2 วันข้างหน้า ซึ่งในเวลานั้นเราไม่รู้เลยว่าเรามีโอกาสได้ใช้ตั๋วเรือที่จองไว้เพียงแค่ขาเดียวเท่านั้น

หลังจากจองตั๋ว จุ๋ยสอบถามถึงทัวร์ในการไปชมฉลามวาฬที่ Oslop ซึ่งชายตามองหาร้านเอเจนซี่ทัวร์มาตลอดทาง แต่ก็ไม่พบสักร้าน น้องคนขายตั๋วเรือก็สุดแสนใจดี แม้ตัวเองจะไม่ได้ขาย แต่ก็อุตส่าห์โทรไปสอบถามคนรู้จัก ได้ความว่าบริษัทเอเจนซี่ทัวร์ไปดูฉลามวาฬตั้งอยู่บริเวณแมเจลแลนส์ ครอส ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางย่านเมืองเก่าซีบู โดยเขียนชื่อเอเจนซี่ทัวร์ พร้อมเบอร์โทรไว้บนกระดาษแผ่นน้อยให้เรา

ด้วยเหตุที่เป็นจุดหมายสำคัญในการมาฟิลิปปินส์ของจุ๋ย เขาจึงไม่รอช้าที่โบกแท็กซี่เพื่อไปยังแมเกลแลนส์ ครอสโดยไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น

แม้แมเจลแลนส์ ครอส สถานที่สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของเมืองซีบูจะตั้งอยู่ตรงหน้า แต่ในเวลานี้ในหัวของจุ๋ยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นนอกจากการเดินหาร้านเอเจนซี่ทัวร์ เดินวนหาโดยรอบก็ไม่พบร้านดังกล่าว พบแต่อาคารในสมัยยุคอาณานิคมสเปน ที่ปัจจุบันเป็นหน่วยงานราชการ อาคารสำคัญคือที่ว่าการเมืองซีบู อาคาร 2 ชั้นสีเหลือง ที่ยังคงสวยงามและอบอวลไปด้วยเรื่องราวแห่งอดีต

จุ๋ยไม่ลดความพยายามไปง่ายๆ เขาเดินเข้าไปสอบถามตำรวจท่องเที่ยว ที่ตั้งป้อมอยู่ในบริเวณนั้น นายตำรวจให้บริการอย่างเต็มที่ ด้วยการโทรไปสอบถามเอเจนซี่ทัวร์ตามเบอร์โทรศัพท์ที่เขียนไว้บนกระดาษ ได้ความว่าเอเจนซี่ไม่ได้ตั้งอยู่บริเวณแมเจลแลนส์ ครอสตามที่น้องขายตั๋วเรือบอก แต่อยู่ที่ตลาดรามอส แล้วตลาดรามอสอยู่ที่ไหน ?

ไหนๆก็มาถึงย่านเมืองเก่าแล้ว ก่อนที่จะไปตลาดรามอสซึ่งก็ไม่รู้ว่าตั้งอยู่ตรงไหน ผมจึงชวนจุ๋ยให้เข้าไปชมความงามของแมเจลแลนส์ ครอส (Magellan’s Cross) อาคารหินอ่อนทรงแปดเหลี่ยมที่ขนาดไม่ได้ใหญ่โตอะไรนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ตั้งของไม้กางเขนของเฟอร์ดินันด์ แมเจลแลน (Ferdinand Magellan) ชาวสเปนผู้เดินทางมาสำรวจเกาะซีบู เมื่อปีค.ศ.1521 อันเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการลงหลักปักฐานที่มั่นคงของศาสนาคริสต์บนเกาะแห่งนี้

ภายในอาคารทรงแปดเหลี่ยม เพดานด้านบนเป็นภาพวาดสีแสดงเรื่องราวการเดินทางมาสำรวจเกาะซีบูของเฟอร์ดินันด์ แมเจลแลน ในตำแหน่งจุดศูนย์กลางของอาคารเป็นที่ตั้งของไม้กางแขนสีดำขนาดใหญ่ ซึ่งไม้กางเขนนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่แทนไม้กางเขนเดิมของแมเจลแลนที่ถูกทำลายลงในวันที่เขาถูกสังหาร หน้าประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้ว่าแมเจลแลนได้ถูกลาปูลาปูหัวหน้าเผ่าของเกาะแมกตันสังหาร เพื่อรักษาเกาะไว้ไม่ให้สเปนครอบครอง ลาปูลาปูจึงกลายวีรบุรุษของชาวแมกตัน ในขณะที่กลายเป็นกบฏในสายตาของชาวสเปน สำหรับแมเจลแลนก็ได้กลายเป็นชาวสเปนคนแรกที่นำกองเรือมาสำรวจดินแดนตะวันออก โดยเกาะซีบูเป็นเกาะแห่งแรกที่ชาวสเปนก้าวเท้าลงจากเรือเพื่อมาสำรวจ จนหมู่เกาะฟิลิปปินส์ทั้งหมดได้ตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของสเปนในเวลาต่อมา

ชมแมเจลแลนส์ ครอสเสร็จ จุ๋ยก็ไม่รอช้าที่จะโบกรถแท็กซี่เพื่อให้พาไปยังตลาดรามอส (Ramos Market) ซึ่งเป็นตลาดท้องถิ่นที่ค่อนข้างเงียบ ร้านค้าก็มีไม่เท่าไหร่ จึงน่าแปลกใจว่าจะมีร้านเอเจนซี่ทัวร์ตั้งอยู่ในย่านนี้จริงๆหรอ เพราะไม่น่าจะเป็นย่านที่มีนักท่องเที่ยวย่างกายเข้ามาถึง แต่เมื่อเดินหาอยู่สักพักก็เจอร้านเอเจนซี่ทัวร์จริงๆ ในเวลานี้จุ๋ยดีใจจนเนื้อเต้นว่าจะได้ไปดูฉลามวาฬที่ Oslop ตามที่ตั้งใจไว้ ซึ่งเขาก็มีทัวร์ไปดูฉลามวาฬ แต่เป็นทัวร์แบบหารค่าทัวร์ตามหัว นั่นหมายความว่ายิ่งมีคนเดินทางไปเยอะค่าทัวร์ก็จะถูก แต่นี่เรามีกันแค่ 2 คนค่าทัวร์จะเท่าไหร่นะ

เจ้าหน้าที่บอกว่าสำหรับการไปดูฉลามวาฬในวันพรุ่งนี้ยังไม่มีลูกทัวร์เลย หากเราไปกันแค่ 2 คนก็ 8,000 เปโซ หาร 2 ก็คนละ 4,000 เปโซ อะไรนะ 4,000 เปโซ พูดผิดพูดใหม่ได้นะ เพราะนี่ราคาเกือบ 3 พันบาทต่อคนเลยนะ จุ๋ยคิดหนักว่าจะไปดีใหม่ ส่วนผมคิดในใจโดยไม่ต้องไตร่ตรองใดๆว่า แพงขนาดนี้ตรูไม่ไป ในเวลานั้นจึงซื้อใจเพื่อนร่วมทางว่าจะตัดสินใจอย่างไร สุดท้ายจุ๋ยก็พูดขึ้นมาเองว่า แพงขนาดนี้คงไม่ไป

เพื่อนร่วมทางของผมเดินคอตกออกมาจากร้านเอเจนซี่ทัวร์ เพราะอุตส่าห์พยายามหาร้านจนเจอ แต่สุดท้ายก็อดไปดูฉลามวาฬตามที่หวังไว้ ทีแรกเราคิดจะเรียกแท็กซี่เพื่อพากลับโรงแรม แต่เมื่อผมเปิด Google Map จึงได้รู้ว่า ตลาดรามอสนี้อยู่ใกล้โรงแรมที่เราพักแค่ 2 ช่วงตึกเท่านั้น ในเวลานี้จึงได้แต่บ่นน้องคนขายตั๋วเรือว่าบอกตำแหน่งที่ตั้งผิด ทำให้เราต้องนั่งแท็กซี่วนไปวนมา เพราะร้านเอเจนซี่ทัวร์ร้านนี้อยู่บนถนนหลังร้านขายตั๋วเรือนั่นเอง

เดินซึมคอตกได้ไม่กี่นาที จุ๋ยก็กลับมาเริงร่าอีกครั้ง เมื่อเราเดินมาถึงห้างโรบินสันส์ ฟูเอนเต้ มื้อค่ำนี้เราเลือกที่จะฝากท้องกับร้าน Chowking หนึ่งใน Chain restaurant ที่มีหลายสาขาในประเทศฟิลิปปินส์ จุดเด่นอยู่ที่การผสมผสานอาหารจีนเข้ากับอาหารฟิลิปปินส์ได้อย่างลงตัว ภายใต้การขายแบบโมเดิลฟาสท์ฟู้ด บรรดาแผ่นป้ายโฆษณาหน้าร้านจึงเป็นรูปสาวสวยหน้าตาหมวยยิ้มหราโชว์เมนูอาหาร มื้อนี้เราสั่งเป็นเซ็ทซึ่งมีทั้งข้าวผัด หมี่ผัด ไก่ทอด ขนมจีบ พร้อมด้วยฮาโลฮาโลคนละถ้วย แถมยังเป็นช่วงโปรโมชั่นที่มีซาลาเปาไส้ช็อคโกแล็ตแถมอีก 3 ลูก แค่อาหารที่สั่งก็กินแทบไม่หมดแล้ว จึงต้องเก็บซาลาเปา 3 ลูกกลับโรงแรม

เมื่อถึงห้องพักเราจึงได้รู้ว่านอกจากตำแหน่งที่ตั้งที่อยู่ในย่านการค้าอย่างฟูเอนเต้แล้ว การนอนที่โรงแรม abc ยังได้เห็นการเล่นแสงสีของอาคาร Crown Regency Hotel อาคารที่สูงที่สุดของซีบูเป็นของแถมอีกด้วย คืนนี้ผมจึงได้มองความสวยงามของแสงหลากสีอยู่นานกว่าจะตัดใจเข้านอน

กระทิงเปลี่ยวเที่ยวโลกกว้าง

 วันพฤหัสที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 11.44 น.

ความคิดเห็น