แล้วก็ได้เวลาอาหารเที่ยง มื้อเที่ยงวันนี้เราไม่ได้กินกันอย่างเดิมๆ เพราะเราจะกินบนเรือ ล่องเรือชมความงามของแม่น้ำลอบ็อค (Loboc) ไป ทานอาหารไป ช่างรื่นรมย์ยิ่งนัก

แม่น้ำลอบ็อคนี้เป็นเหมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงและให้ความชุ่มชื่นแก่เกาะโบโฮ จุดล่องเรืออยู่ฝั่งตรงข้ามโบสถ์ลอบ็อค (Loboc Church) หรือชื่อเต็มๆคือ โบสถ์แซนเปโดร อโพสทอล ปาริช (San Pedro Apostol Parich Church) โบสถ์เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองลอบ็อค สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1602 โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก แต่น่าเสียดายที่เมื่อปีค.ศ. 2013 ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.2 ริกเตอร์ ส่งผลให้โบสถ์งามหลังนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก

แม่น้ำลอบ็อคสีเขียวมรกรตทอดตัวไหลลึกไปในแนวป่า เป็นทางสายยาวให้เรือหลายลำแล่นเข้าไป นอกจากความสวยงามและร่มรื่นแล้ว ยังมีเสียงเพลงจากนักร้องพร้อมเล่นกีต้าร์สดๆบรรเลงระหว่างการทานอาหาร

อาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ต์มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งปู ไก่สะเต๊ะ ไก่ทอด แต่รสชาติไม่อร่อยสักเท่าไหร่ จะมีก็แต่ขนมที่น่าสนใจ โดยขนมเหล่านี้มีหน้าตาและรสชาติไม่ต่างจากขนมไทย ทั้งกล้วยบวชชี กล้วยต้มโรยมะพร้าว และวุ้นกะทิ

สุดเส้นทางของการล่องเรือ เป็นแพการแสดงของหญิงชาวบ้าน ทั้งวัยสาวจนถึงรุ่นคุณยายที่ต่างร้องเพลงประกอบการเล่นอูคูเลเล่ พร้อมกับชวนนักท่องเที่ยวลงจากเรือมาร้องรำทำเพลงด้วยกัน จบด้วยการเล่นลาวกระทบไม้อย่างสนุกๆ พร้อมบทเพลงอำลา Bye Bye Love Bye Bye Happiness ...

ขึ้นจากเรือ คนขับรถพาเรากลับทางเดิน โดยแวะชมโบสถ์บาเคลยอน (Baclayon Church) ที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในเกาะโบโฮล ตั้งอยู่ริมถนนเลียบชายทะเล โบสถ์นี้สร้างตั้งแต่ปีค.ศ.1596

นอกจากเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะโบโฮลแล้ว ยังมีความพิเศษที่สร้างขึ้นจากหินประการัง อันเป็นเอกลักษณ์ของการสร้างแบบดั้งเดิมของอาคารต่างๆทั้งบนเกาะโบโฮลและเกาะซีบู เช่นเดียวกับโบสถ์ลอบ็อค โบสถ์บาเคลยอนแห่งนี้ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาเป็นมรดกโลก และได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อปีค.ศ.2013 แต่ไม่หนักเท่า เพราะตัวโบสถ์ด้านหน้ายังสามารถใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ แต่สำหรับส่วนที่อยู่ลึกเข้าไปอยู่ระหว่างการบูรณะให้กลับมางดงามเหมือนเดิม

การท่องเที่ยวบนเกาะโบโฮลของเราจบลงที่ Blood Compact อนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ที่ชาวสเปนเดินทางมาสร้างความสัมพันธ์กับชาวเกาะโบโฮลเมื่อครั้งอดีต โดยสร้างเป็นรูปหล่อของนักสำรวจชาวสเปนกับหัวหน้าเผ่าที่ปกครองเกาะโบโฮลรวมทั้งหมด 5 คน ซึ่งตำแหน่งนี้เป็นจุดแรกที่ชาวสเปนเดินทางขึ้นมาเยียบแผ่นดินเกาะโบโฮล แต่ปัจจุบันตำแหน่งนี้ถือเป็นจุดชมวิวที่ดีจุดหนึ่งในการชมทัศนียภาพของท้องทะเลที่สวยงามโดยเห็นเกาะพังเลาอยู่ไม่ไกล

กระทิงเปลี่ยวเที่ยวโลกกว้าง

 วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 12.59 น.

ความคิดเห็น