สะปัน มีโค้ง มีเขา มีเรา….
ขณะที่กำลังนั่งดูการเคลื่อนตัวแบบละมุนของกลุ่มหมอกขาว ไหลระเรื่อ ไปตามทิวเขา ที่โอบล้อม สะปัน สวยงามสะกดใจ อากาศเย็นสบายๆใกล้เคียงกับคำว่าหนาว แต่ไม่ถึงคำนั้น ถ้าจะแปลความก็ประมาณ จะหนาวแล้วนะ ความรู้สึกนึกคิด ล่องลอยไปกับอากาศและกลุ่มก้อนควันสีขาว อยู่ๆไอเจ้าเหมียวก็กระโดดมานอนในตักซะงั้น แล้วยังไงละที่นี้ นอนนิ่งซะด้วยซิ……ไปเริ่มต้น เรื่องราวของเรากับสะปัน กันดีกว่า
ตีห้าของเช้าวันจันทร์ต้นเดือนพฤศจิกายน เราเริ่มออกเดินทางจาก แม่กลอง(จังหวัดสมุทรสงคราม) มุ่งหน้าสู่เป้าหมาย สะปัน จังหวัดน่าน ด้วยระยะทางค่อนข้างไกล และตั้งใจจะไปให้ถึงจุดหมายปลายทางในวันนี้เลย ก็เหนื่อยหน่อยเนาะผ่านกรุงเทพ อยุธยา อ่างทอง…นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก……น่าน ถึงน่านประมาณบ่ายสามโมง ก็ทำเวลาดีอยู่นะ แต่หลังจากนี้ไปคือช่วงเวลาบันเทิงจริงๆแล้ว
อุโมงค์ต้นไม้ช่วงออกจากน่านมุ่งหน้า บ่อเกลือ…
ถนนหมายเลขสาม…
จากน่านต้องขึ้นไปอำเภอบ่อเกลือจากบ่อเกลือ ต่อไป สะปัน…กรุงเทพถึงน่าน คงไม่ต้องบรรยายอะไรมากมาย แต่จาก น่าน บ่อเกลือ สะปัน ก็มีอะไรให้พูดถึงอยู่บ้าง เกือบๆสามชั่วโมงกับระยะทางไม่ถึงร้อย กิโล ผ่านภูเขาหลายลูก ขึ้นลง ขึ้นลง เลี้ยวโค้งซ้าย เลี้ยวโค้งขวา ขึ้นลง ขึ้นลง สลับกันไป ใครเมารถ ก็น่าจะอ้วกแตก แต่ถ้าคนไม่เมา วิวสองข้างทางสวยสุดมากจริงๆ นอกจากวิวที่สุดแล้ว คาเฟ่พักรถพักคน ก็มีให้เห็นอยู่เยอะเลย เพียงแต่เราเองไม่มีเวลามากพอ ขอแวะจุดเดียวเลย คือ ถนนหมายเลยสาม…
หนุกหนานกันอยู่พักใหญ่…
ถนนหมายเลขสาม เป็นส่วนเว้าโค้ง ที่มองจากจุดหนึ่งแล้วจะเห็นเป็นเลขสาม มาถึงแล้วต้องแวะถ่ายรูปเก็บไว้เลย คนคิดคนเห็นคนแรกคือ เฉียบมาก…เสียเวลาไปเกือบชั่วโมง อย่าบอกว่าเสียเวลาซิ เพลิดเพลินอยู่เกือบชั่วโมงที่หมายเลยสาม ได้เวลาเดินทางต่อ
มองสะปันยามค่ำคืน…
ขับมาอีกชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงอำเภอบ่อเกลือ จากบ่อเกลือ อีก เก้ากิโล นิดเดียวเอง ถึงแล้ว สะปัน…หกโมงกว่าๆที่สะปัน คือมืดมากแล้ว ค่ำเลยละ เราพักที่ มองว้าโฮมสเตย์ ที่มีมีอาหารเช้ากับเย็นรวมอยู่ในค่าที่พัก ถึงที่พักขนสัมภาระเข้าที่พักเสร็จ ที่พักเป็นกระโจมกางบนแคร่ไม้ท่ามกลางทุ่งนา น่ารักดี จากนั้นไปทานมื้อเย็นเรียบร้อย ต้องพักผ่อนแล้ว ต้องบอกว่าวันนี้เหนื่อยมากมายขอนอนก่อนนะ พรุ่งนี้ค่อยเจอกัน สะปัน…
ค่ำคืนที่ผ่านมา หลับสบายกับอากาศเย็นแต่ยังไม่ถึงคำว่าหนาว น่าจะเพลียจัด คือ อากาศดีเลย
สะปัน คือพื้นที่เล็กที่โดนโอบล้อมด้วยขุนเขาใหญ่น้อย สลับซับซ้อนกันไป มันดูละมุนอบอุ่นในห้วงเวลา ที่อุณหภูมิกำลังเย็นสบาย ถ้ามีใครถามว่า สะปัน มีอะไร เราจะตอบว่า สะปัน ไม่มีอะไรเลย แล้วจะมา สะปันทำไม ก็ไปตามหาสิ่งที่เรียกว่า สะปันไง….
ค่อยๆเช้า ค่อยๆสว่าง…
มองว้าโฮมสเตย์…
อากาศเย็นสบายๆมาก…
ดูบรรยากาศ ดูหมอกกันเพลินเพลิน…
เช้าวันนั้น เราใช้เวลากินข้าวต้มมื้อเช้ายาวๆ และอีกเกือบครึ่งวันที่เรา นั่งดูเมฆ ดูหมอก ดูเขา ดูมันไหลมาไหลไป ทำไมมันรู้สึกเต็มดีจัง สิ่งที่เราทำที่สะปัน คือ อยู่เฉยๆ นั่งนิ่งๆ มองไปรอบๆ แค่นี้พอแล้ว
ดูหมอกกันให้จุกๆไปเลย…
ถึงแม้วันนี้จำนวนที่พักที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างเยอะ จะไปบดบังวิวทิวทัศน์ ความสวยงามของสะปันไปบ้าง ก็พยายามมองข้ามๆไปบ้างก็ได้เนอะ เมื่อความต้องการเพิ่มมากขึ้นการรองรับก็ต้องเพิ่มตามเป็นไปตามวัฏจักร….
ด้วยแพลนที่เตรียมตัวมาเที่ยวครั้งนี้ ก็ถึงเวลาที่ต้องลา สะปัน แล้วนะ เราออกจากมองว้าโฮมสเตย์ แวะขึ้นไปที่วัดสะปัน ก่อนกลับ ไปนั่งกินชาเขียวที่ หยุดเวลาคาเฟ่ ร้านขายขนมเครื่องดื่มมุมมองโคตรดี เรื่องรสชาติของกินคือดี แต่ที่ดีมากมายคือ วิวทิวทัศน์ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ดีหมดจด
ภาพจากวัดสะปัน คือ มุมดีมากอ่ะ…
หยุดเวลา คาเฟ่ บรรยากาศ อาหาร การจัดวางจุดถ่ายภาพ จ๊าบมาก…
ต้องบอกว่า ด้วยพื้นที่ขนาดเล็กของ สะปัน ไม่ว่าเราจะไปอยู่ตรงจุดไหนในพื้นที่ตรงนี้ มันจะมีความสวยงามอยู่รอบตัวเราตลอดเวลาจริงๆ
กลับจริงๆแล้วนะ มีครั้งแรกคงต้องมีครั้งต่อไปแน่นอน หลงรักสะปันแล้วล่ะ
ออกจากสปันมีนัดที่ดอยสกาด เร็วๆนี้ ตามกันมาด้วยนะ……
คน ฟ้า ป่า น้ำ
วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 17.01 น.