วันนี้เราเดินทางจากที่พักที่ Sasebo มาลงสถานี Nagasaki
ณ สถานี Nagasaki Station เรามาถึงแต่เช้า ติดต่อซื้อตั๋ว daypass กันที่สถานี (เดินออกมาจากช่องทางเข้าจะอยู่ขวามือ)
มองตรงไปจะเห็นที่ฝากกระเป๋า ถ้าที่ฝากจุดนี้เต็ม เลี้ยวซ้ายออกไปทางไปขึ้นรถราง จะมีที่ฝากกระเป๋าอยู่ซ้ายมืออีกจุดครับ (ฝากกระเป๋า อย่าลืมเก็บ Slip ไว้ จะมีรหัสเพื่อกดเอากระเป๋าออก)
แผนที่รถรางที่วิ่งให้บริการในเมือง
เดินข้ามสะพานลอยไปขึ้นรถรางหมายเลข 1 หรือหมายเลข 3 ไปลงที่สถานี Hamaguchi-Machi (หมายเลข 20)
ลงรถรางแล้วเดินไปทางขวามือ ข้ามถนนไปก็จะเจอบันไดขึ้นไป Peace Park แต่ละจุดในแผนที่ประกอบด้วย
1. Peace Statue 2. Fountain of Peace 3. Atomic Bomb Hypocenter 4. Nagasaki Atomi Bomb Museum
บันไดขึ้นไป Peace Park ซึ่งจะมีทั้งบันไดเลื่อน และบันไดธรรมดาและบันไดเลื่อนให้เลือกใช้บริการได้ตามสะดวก
Peace park สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1955 สิบปีให้หลังจากเหตุการณ์ที่ถูกทิ้งระเบิดปรมาณูใส่
1. Peace Statue รูปปั้นที่มือขวายกขึ้นสื่อถึง ระเบิดปรมาณูที่ตกลงมาจากฟ้า มือซ้ายเปรียบเสมือน ความสงบสุขตลอดกาล ใบหน้าที่ผ่อนคลายและดวงตาที่หลับลง หมายถึง การสวดภาวนาให้กับผู้เคราะห์ร้าย จากเหตุการ์ณในครั้งนั้น ขาข้างขวาทำท่าขัดสมาธิ และ ขาข้างซ้ายที่ยืน หมายถึง การยื่นมือเข้าช่วยทุกคนบนโลกใบนี้ และที่ด้านหน้าของรูปปั้น จะมีหินอ่อนสีดำที่สลักชื่อของผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
2. Fountain of Peace น้ำพุถูกออกแบบเป็นรูปปีกนก
จุดนี้มีคนญี่ปุ่นมาสักการะ
เดินย้อนกลับมาที่จุดที่ 3. Atomic Bomb Hypocenter
ถาเดินลงบันไดไปจะเห็น ซากที่หลงเหลือจากการระเบิด
ลงเดินริมคูน้ำไปขึ้นอีกด้านครับ เก็บภาพน้ำใส ๆ ไว้หน่อย
เดินผ่านรูปปั้น เด็กหญิงซาดาโกะ
เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ที่จุดที่ 4. Nagasaki Atomi Bomb Museum ค่าเข้าชม 200 เยน ครับ
เปิดบริการ 8:30 น. ถึง 17:30 น. (ปิดให้เข้าชมเวลา 17:00 น.)
เว็บไซต์ :
http://nagasakipeace.jp/english/abm/exhibition.htm...
บริเวณทางเข้าจะมี นาฬิกาที่หยุดเดิน เวลา 11:02 น.ของวันที่ 9 สิงหาคม 2588
เมือง Nagasaki ก่อนถูกระเบิด
จุดสีฟ้า คือจุดที่ระเบิดปรมาณู Fat Man ถูกปล่อยลงมา และระเบิดที่ระดับความสูง 500 เมตรเหนือพื้นดิน
ระเบิดปรมาณูที่ใช้ที่ Nagasaki
The Nagasaki Atomic Bomb (Fat Man)
ระเบิดปรมาณู Fat Man ที่ทิ้งที่ Nagasaki เป็นระเบิดขนาดใหญ่กว่า ระเบิดปรมาณู Ebola ที่ทิ้งที่ Hiroshima
ภาพหลังเหตุการณ์ระเบิด
นาฬิกาที่หยุดเดิน เวลา 11:02 น.ของวันที่ 9 สิงหาคม 2588
นั่งรถรางหมายเลข 3 ย้อนกลับไปลง สถานี 39 Suwa Shrine แล้วข้ามฝั่งต่อรถรางหมายเลข 4 หรือ 5 ไปลง สถานี 37 HIGIWA IBASHI เพื่อเดินไปยังสะพานแว่นตา (Meganebashi)
สะพานแว่นตา (Megane Bridge) สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1634 ข้ามแม่น้ำ Nakashima จุดเด่นคือ เงาของสะพานในแม่น้ำจะสะท้อน ทำให้ดูเหมือนกับแว่นตา
สะพานนี้ วงละอองฟองเคยมาถ่ายทำ MV เพลง คิด (Miss)
กลับมานั่งรถรางหมายเลข 5 นั่งต่อไปลงที่สถานี 50 OURATEHSHUDO-SHITA เพื่อเดินไปยังสวน Glover Garden
ระหว่างทางเดินไป Glover Garden
โบสต์คาทอลิคโออุระ Oura Catholic Church ที่อยู่ก่อนถึงทางขึ้น Glover Garden
โบสต์คาทอลิคโออุระ สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ.1865 เพื่อเป็นการระลึกถึงมิชชันนารีและชาวคริสต์ญี่ปุ่นที่ถูกตรึงกางเขนทั้ง 26 คน เมื่อสมัยเอโดะด้วยทางการญี่ปุ่นกลัวการโค่นล้มอำนาจจากชาวญี่ปุ่นที่หันไปนับถือศาสนาคริสต์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น
Glover Garden สวนที่อยู่บนเนนเขา มีบ้านเก่าๆสมัยที่ฝรั่งเข้ามาทำการค้าขายกับญี่ปุ่นที่เมืองนะงะซะกิ
เนื่องจากเราต้องเดินทางต่อไป Saga จึงไม่ได้เข้าไปที่สวน แค่เดินดูบรรยากาศรอบๆแล้วนั่งรถรางกลับ
นั่งรถรางหมายเลข 4 กลับไปลงที่สถานี 31 แล้วต่อรถรางหมายเลข 1 กลับไปยังสถานีรถไฟ Nagasaki Station
รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของทริปคิวชูตอนเหนือครับ
เริ่มวันแรกช่วงเช้าหลังลงเครื่องเราไปเที่ยวกันที่ Nanzoin Temple ช่วงบ่ายเราเดินทางไปเที่ยวและพักที่ Kumamoto
วันที่ 2 เราเดินทางไปเที่ยว บ่อนรกทั้ง 8 ที่ Beppu คืนนี้เราพักที่นี่เพื่อที่จะได้อบทรายร้อนในเช้าวันรุ่งขึ้นก่อนคนอื่น ๆ
วันที่ 3 หลังจากอบทรายร้อน เราเดินทางไปเที่ยว Yufuin กัน ตอนเย็นวันนั้นเรานั่ง Yufuin no mori ไปพักที่ Sasebo
วันที่ 4 เราไปเที่ยว Huis ten bosch แล้วกลับมาพักที่ Sasebo ที่เดิม เนื่องจากใช้เวลาเดินทางเพียง 30 นาที
วันที่ 5 ช่วงเช้าเราไปเที่ยวที่ Nagasaki ช่วงบ่ายเราไปเที่ยววัดที่ Saga แล้วกลับไปพักที่ Hagata เพื่อเตรียมเดินทางกลับ
Wit Sil
วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 13.45 น.