Huis Ten Bosch เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักกันดีของเมือง Nagasaki

เป็นสถานที่ชมดอกทิวลิป และ การแสดงแสงสีเสียงในยามค่ำคืน รวมถึงมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกอีกด้วย

การเดินทางมาที่นี่ผมเดินทางมาจาก SASEBO ทางรถไฟลงที่สถานี HUIS TEN BOSCH เลยครับ

เดินผ่านชานชาลาขึ้นไปด้านบน ข้ามสะพานก็จะเห็นโรงแรมที่พัก ยังไม่ทันจะเข้าไปด้านในก็มีวิวให้ถ่ายรูปแล้ว

เดินข้ามสะพาน มาถึงหน้าโรงแรม เห็นแล้วน่าพักจัง

ด้านล่างโรงแรมมี Family Mart ด้วย เผื่อใครจะตุนน้ำหรืออาหารเข้าไป ไม่มีตรวจกระเป๋าครับ แต่อาหารด้านในก็ไม่ได้แพงมาก

ด้านหน้าโรงแรมมีรถสองชั้น LONDON จอดไว้ด้วย

ถัดจากโรงแรมก็เป็นประตูทางเข้าครับ " Welcome to Huis Ten Bosch "

ถ้าใครมาก่อนเวลาเปิด 10:00 น. มีนกฮูกให้ชมด้วย แต่ต้องจ่ายค่าเข้าด้วยครับ 600 เยน


เรามาถึง หน้าประตูทางเข้าประมาณ10:30 น. ไปซื้อตั๋วกันเลย

ค่าตั๋ว 1 day passport ราคา 6,500 เยน สามารถใช้บริการรถบัส เรือ ชมการแสดง และเล่นเครื่องเล่นได้

เข้าพิพิธภัณฑ์ Palace Huis Ten Bosch ไม่ได้นะครับ ถ้าจะเข้าต้องเสียเงินเพิ่ม

บางเครื่องเล่นจะจำกัดให้เล่นได้แค่ครั้งเดียว เมื่อเล่นแล้วจะมีการประทับตราไว้ที่บัตร ถ้าจะเล่นอีกเสียเงินเพิ่มครับ

ซื้อบัตรแล้วเดินผ่านช่องข้างๆที่ซื้อบัตรไปที่ประตูตรวจตั๋วกัน วันนี้คนไม่เยอะครับ มีทิวลิปตั้งแต่ทางเข้าเลย

วันนี้มีงานหรือปาตี้ สวมหน้ากาก หรือว่าเป็นปกติ ไม่ทราบครับ เจ้าหน้าที่แต่งชุดออกงาน ใส่หน้ากากมาต้อนรับกัน

ผ่านประตูตรวจตั๋วก็แวะถ่ายรูปกันอีกแล้ว กว่าจะได้เข้าไปด้านใน

ถ่ายรอบการแสดงเก็บไว้ก่อนดีกว่า แต่ถึงเวลาจริงก็ไม่ได้เปิดออกมาดู เพราะเดินยังไม่ทั่ว เล่นยังไม่ครบเลยครับ

เลี้ยวซ้ายไปก็เห็น กังหันทุ่งดอกไม้ "ฟลาวเวอร์โรด" จุดที่จะไปถ่ายรูปทิวลิปแล้ว

เดินข้ามสะพานเข้าด้านในกันเลย

ข้ามสะพานมามีจุดให้เก็บรูปอีกแล้ว

ด้านในเป็น Teddy Bear Kingdom เราไม่เสียเวลากับที่นี่ จึงเดินผ่านไปที่ กังหันทุ่งดอกไม้ "Flower Road"

ก่อนเดินข้ามสะพานมา เห็นจุดจอดเรือ ผมขอแยกตัวไปนั่งเรือก่อนละ คนน้อยดี เก็บบรรยากาศระหว่างนั่งเรือไว้

เรือมาจอดใกล้ๆกับ Domtoren ซึ่งเป็นหอคอยสูง 105 เมตร

มีห้องดูวิวที่ชั้น 5 ความสูง 80 เมตร และที่ชั้น 4 ความสูง 65 เมตรด้วย


ขึ้นไปชมวิวกันก่อนครับ วิวเหนืออ่าว Omura bay

ลงจากหอคอย เดินข้ามสะพานแล้วเลี้ยวขวาไปทาง Harbor Town เห็นป้าย ตกปลา ลองไปเล่นก่อนดีกว่า

เกมส์นี้จะมีคันเบ็ดให้เรา เหวี่ยงลงไปแล้วหมุนเหยื่อให้วิ่งเข้าหาปลา ในรูปแบบดิจิตอล

เมื่อปลากินเหยื่อต้องรีบหมุนสาวเพื่อดึงปลาเข้ามาแล้วจะได้คะแนนครับ เกมส์นี้เล่นได้แค่ครั้งแรกครั้งเดียว *** แนะนำ ***

ออกจากเล่นเกมส์ตกปลา เดินไป Harbor Gate ใช้บัตรสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อเข้าไปในส่วนของ Harbor Town

ออกจากประตูเดินผ่าน Harbor Square มองไปจะพบกับเรือ De Liefde เป็นเรือชาวดัตช์ ในศตวรรษที่ 17

ขึ้นไปปีนเรือเล่นกันดีกว่า


ลงจากเรือมองข้ามไปอีกด้านเห็น Game Museum เข้าไปชมด้านใน มีเกมส์ทั่วๆไป กับคนเล่นไพ่อยู่
ผมไม่ค่อยสนใจเกมส์เท่าไร จึงเดินออกมา แล้วมองไปฝั่งตรงข้ามเห็นคนต่อแถวเล่น Go & Go Sniper Gamez
ไปต่อแถวรอประมาณ 30 นาที เนื่องจากให้เข้าไปยิงได้ครั้งละ 5 คนเท่านั้น (รอบละ 10 นาที)
ใช้บัตร 1 Day pass ยิงได้เฉพาะปืนพกเท่านั้นครับ

เป้ายิงอยู่ปรัมาณ 30 เมตรเอง ยิงได้ง่ายหน่อย เข้าตรงกลางหลายนัดเลยครับ

ออกจากเรือเดินผ่านเข้าไปที่ Fisherman 's Square มีร้านอาหารและของขาย

เดินไปเกือบสุดทางด้านในทางขวามือจะพบกับ พิพิธภัณฑ์ เครื่องลายคราม (Porcelain Museum)

เดินออกมาทางด้านหลัง Game Museum เดินไปเล่น Real Monster Battle เกมส์นี้สนุกครับ *** แนะนำ ***

เจ้าหน้าที่จะแนะนำวิธีการเล่น เราต้องสวมปลอกแขนพลัง และใส่แว่นสวมศีรษะเพื่อให้เห็นภาพ

ถ้าต้องการปล่อยพลังยิงสัตว์ประหลาด (มังกรไฟ) ให้ยกแขนขึ้นแล้วยื่นไปด้านหน้าเหมือนชกมวยแต่ช้าหน่อย

เมื่อมีสี่เหลี่ยมพลังตก เราต้องวิ่งเข้าไปเก็บ เมื่อมีพลังเยอะจะสามารถเสยหมัดขึ้นปล่อยพลังได้ แต่ถ้ามังกรพ่นไฟมาต้องนั่ง

เล่นเกมส์นี้เสร็จแล้ว ยังมีให้ขี่หลังสัตว์ แล้วสวมแว่นสามมิติ วิ่งเหมือนจริงมาก รู้สึกขึ้นลงหรือตกลงจากที่สูงเลยครับ

เล่นเกมส์นี้เสร็จ โทรหาเพื่อนบอกว่าอยู่แถวโซน Advenceture ผมจึงเดินไปขึ้นรถ Bus ที่ Amsterdam City

เพื่อไปลงแถวกระเช้า กะเดินตัดไปที่ Adventure Park แต่เห็น Dome Shooting 360 เข้าไปเล่นก่อนดีกว่า

เข้าไปจะเป็นเก้าอี้นั่ง มีปืนเลเซอร์วางอยู่บนที่นั่ง เราต้องนั่งตามหมายเลขที่ได้ เปิดสวิทซ์ที่ปืนให้เลเซอร์ทำงานด้วย

เมื่อเริ่มเล่นจะมีเป้าขึ้นมาที่หน้าจอ 360 องศา เราเล็งไปที่เป้าแล้วกดยิงอย่างเดียวครับ *** แนะนำครับ ***

(กว่าจะหาสวิทซ์เปิดเลเซอร์ที่ปืนเจอ เขาเล่นไปกันแล้ว ยิงไม่ทันได้คะแนนน้อยสุดเลย ก็เล่นพูดภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียว)

วิดีโอที่คนอื่นเอาลง Youtube ไว้ครับ

ออกจาก Dome Shooting 360 เดินไป Adventure Park รถไฟวิ่งผ่านมาพอดี เก็บภาพซะหน่อย

มองสะพานอีกด้านหนึ่งเป็นสวนทิวลิป Flower Road จุดนั้นเดินยังไม่ทั่วเล่น ไว้ขากลับแล้วกัน


เดินข้ามสะพานไป Adventure Park ต่อคิวเพื่อเลือกว่าจะเล่นอะไร ต่อครั้งหนึ่งเลือกเล่นได้แค่ 1 อย่าง
ถ้าจะเล่นอีกต้องมาต่อแถวใหม่ ครั้งแรกผมเลือกเล่น Sky Castle เล่นฟรีแค่ความสูง 3 เมตรนะครับ
เมื่อได้บัตรแล้ว ต้องนำของไปฝากที่ locker เสียค่าฝาก 200 เยน แล้วไปต่อคิวหมายเลข 1
เจ้าหน้าที่จะมาเรียกไปสวมเข็มขัดรัดเอวกันตก แล้วไปนั่งคอยฟังอธิบาย (ของผมให้ไปยืนอ่านป้ายภาษาอังกฤษแทน)
ข้อบังคับมี ห้ามปีนไปโซนเดียวกันเกิน 2 คน สวมหมวกและอุปกรณ์ตลอดเวลา อ่านเสร็จ รับหมวกสวนขึ้นเลยครับ
รูปไม่มีคนถ่ายให้ เอามือถือถ่ายคนอื่นแทนระหว่างปีนแล้วกัน

ปีนเสร็จแล้วคืนหมวกและอุปกรณ์ ไปต่อแถวซึ่งไม่มีคิวพอดี รับบัตรเพื่อประทับตรา เข้าไปเล่น The Maze (ฟรีครั้งแรก)

ใช้รูปภาพในเว็บ Huis Ten Bose ประกอบครับ ไม่ได้ถ่ายรูปมา

ที่นี่ใช้เวลาในการหาทางเดินประทับตราให้ครบนานพอสมควรครับ เดินขึ้นลงหายรอบกว่าจะได้ครบ

โทรเช็คเพื่อนพบว่าไปอยู่โซน Thriller City แล้ว เดินตามไปบ้าง แต่กลับไปติดกับดักที่ Attraction Town

ที่ Attration Town มีโซนหนึ่งนำลูกโป่งมาผูกแขวนไว้ มีร้าน Chocolate House ด้วย ซึ่งเรากลับมาเข้าไปกันตอนมืด

ที่ Attraction Town ผมได้ไปดูหนังที่ Future Cast Theater (Grand Odyssey) โดยเราต้อง Scan หน้าตัวเองก่อนเข้าไป

เมื่อ scan หน้าเสร็จแล้วเราจะไปเป็นตัวละครหนึ่งในหนังที่เราดูครับ (เวลาสแกนห้ามยิ้มนะครับ)

ออกจากดูหนังไปเล่น ONE PIECE Ride Cruise ซึ่งจะให้เราเข้าไปดู Title แล้วให้เดินไปขึ้นเรือที่แขวนแบบ Monorail
เรือจะพาเราไปเรื่อยๆ ชมบรรยากาศ ตัวละคร จนถึงจุดสุดท้ายจะให้ยิงปืนเลเซอร์ไปที่เป้าตรงเรือ ถ้ายิงถูกไฟที่เรือจะดับ
ที่นี่ผมเล่นคนเดียวรอบหนึ่ง ตอนมืดพาเพื่อนมาเล่นอีกรอบหนึ่งครับ ไม่จำกัดจำนวนรอบเล่น

ใช้รูปภาพในเว็บ Huis Ten Bose ประกอบครับ ไม่ได้ถ่ายรูปมา

ออกมาเดินเข้า Horizon Adventure Plusเลยครับ เป็นการนั่งชมหนัง มีบรรยากาศของพายุ ฝนตก ** แนะนำครับ **
ที่นี่ผมนั่งด้านหน้าเลย ได้บรรยากาศเต็มๆ

ใช้รูปภาพในเว็บ Huis Ten Bose ประกอบครับ ไม่ได้ถ่ายรูปมา

วิดีโอที่หาเจอในเว็บครับ

เดินเข้าไป MUSE HALL ต้องตีตั๋วยืนเพราะที่นั่งเต็ม และรออีกประมาณ 5 นาที ผมเห็น IFX Theater Kirara ว่าง

ออกไปดูหนังที่ IFX Theater Kirara ก่อนดีกว่า

ที่นี่เป็นหนังเกี่ยวกับ ความสำคัญของการปกป้องสภาพแวดล้อม โดยมีเสียง และภาพ CG ประกอบสวยงาม

ใช้รูปภาพในเว็บ Huis Ten Bose ประกอบครับ ไม่ได้ถ่ายรูปมา

วิดีโอที่หาเจอในเว็บครับ

ออกมาเดินไปด้านข้างตึกเดียวกัน มีให้ยิงปืนลมอีกครับ Ranger Boot Camp
คราวนี้ ปืนเสียศูนย์ หรือคนยิงเล็งผิด แทบไม่เข้าเป้าเลย

กลับออกมาเห็นการแสดงและร้องเพลง ที่ MUSE HALL แต่ผมไม่สนใจเท่าไร เดินเลยไป Thriller City ต่อ

ไปต่อแถวเล่น 3D Projection Mapping - Drum Master แต่เห็นเพื่อนต่อแถว Ghost Wedding จึงออกไปด้วย
Ghost Wedding เดินเข้าไปมืดมาก เดินเกาะกำแพงตามไปเรื่อยๆ ผมเฉยๆกับที่นี่ครับ ไม่ตื่นเต้นเท่าไร

ไปเข้าศาลเจ้า ที่นี่ต้องเข้าไปเป็นคู่ชายหญิงเท่านั้นครับ ให้ถอดรองเท้า และให้เขียนคำอธิฐาน

มื่อเดินถึงศาลเจ้าก็จะผูกคำอธิฐานไว้ หลังจากนั้นก็เดินออกมา ไม่มีอะไรมาก

แต่ก่อนออกจะให้มีกดปุ่มเป่าลมแกล้งคนที่เดินตามมาครับ (ไม่มีรูป)

ไปต่อแถวเล่น 3D Projection Mapping - Drum Master ที่นี่จะคล้ายกับที่ Real Monster Battle
แต่เปลี่ยน ปล่อยพลังเป็นกวาดมือลง และให้วิ่งเข้าไปใช้ไหล่แท็กเก็บพลังครับ (ไม่มีรูป)

จุดที่น่าสนใจเข้าไปเล่นของโซนนี้คือ Digital Horror House จะมีให้ถือ tablet PC เล่น

มาที่ Thriller City อย่าลืมเข้าห้องน้ำนะครับ โดยเฉพาะห้องน้ำหญิง (เพื่อนบอกมา)

ออกจาก Thriller Ciy ไปต่อกันที่ Amsterdam City เก็บรูปมาฝากครับ

เดินมาที่นี่จะพบกับ Floral Clock นาฬิกาดอกไม้

ทางขวามือจะเป็น Amsterdam Square ซึ่งมีงานเต้นรำใส่หน้ากากครับ ต้องมีหน้ากากถึงจะเข้างานได้

อยู่จนเริ่มเปิดกันไฟแล้ว


จุดนี้ในเว็บระบุว่าเป็น ภูเขาไฟฟูจิทิวลิป (Tulip Mt. Fuji)

เดินกลับมาที่ท่าเรือ ใกล้ๆกับ Domtoren อีกแล้ว

ผมขึ้นไปชมวิวเหนืออ่าว Omura bay บน Domtoren อีกรอบ ระหว่างรอเพื่อไปตกปลา

เดินกลับไปคอยเพื่อนครับ เปิดไฟแล้ว เก็บภาพไว้ก่อน

ยังไม่ลงมากันเลย กินซาลาเปาร้านนี้คอยก่อนครับ ลูกละ 200 เยน (ทางไป Harbor Gate)

เดินไป Harbor Town ถ่ายรูปเรือตอนกลางคืน และแวะกิน แฮมเบอร์เกอร์+มันฝรั่ง+โค้ก ที่นี่ครับ (1,000 เยน)

กินเสร็จเดินกลับ ผ่าน Domtoren เปิดไฟแล้ว

ภูเขาไฟฟูจิทิวลิป (Tulip Mt. Fuji) ก็เปิดไฟด้วย

Floral Clock นาฬิกาดอกไม้ ตอนเปิดไฟ

ระหว่างนั้นมีขบวนมาพอดีครับ

เดินกลับมา Thriller City เพื่อเล่นสิ่งนี้ครับ ตีกลองตามจังหวะเพลง ชอบมาก

จังหวะตีถูกผิด คะแนนจะไปแสดงที่ผนังตึกฝั่งตรงข้ามครับ เพลงเสียงดังมาก ใครคะแนนเท่าไรเห็นกันหมดเลย

หลังจากนั้นผมแวะเข้าโรงพยาบาลคุมขัง (Detention Ward) คนเดียว น่ากลัวตรงที่มืด และมีกลิ่นของยาด้วย

ออกมาไปเดินชมไฟกันครับ




มีเวลาเหลือเดินกลับไปที่ Attraction Town เพื่อไปเล่น ONE PIECE Ride Cruise อีกรอบ
ถนนที่แขวนลูกโป่งจะเปิดเพลง และมีแสงสีสลับไปตามจังหวะเพลงด้วย

ไปเข้า Chocolate Museum ที่นี่มีให้ทำ Chocolate ด้วย แต่เราไปปิดแล้ว

ถ่ายรูปเล่น หน่อย

แวะเข้าร้าน Chocolate House

เข้าไป SMTOWN THEATRE HUIS TEN BOSCH รอบสุดท้ายก่อนกลับ
ที่นี่จะเป็นการแสดงคอนเสิร์ต ศิลปินญี่ปุ่น 2 วง วงละ 2 เพลง โดยสร้างภาพเหมือนจริงด้วย Polagram

จบคอนเสิร์ตแล้วออกไปถ่ายทิวลิปตอนกลางคืนก่อนกลับครับ

ลากันด้วยภาพทิวลิปเรืองแสงครับ

ข้อมูลต่างๆ สามารถดูได้ที่เว็บ HUIS TEN BOSH ได้เลยครับ มีภาษาไทยด้วย

http://thailand.huistenbosch.co.jp/

วันพรุ่งนี้เราไปเที่ยวกันต่อที่ เมือง Nagasaki ก่อนกลับครับ ตามไปชมกันได้

รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของทริปคิวชูตอนเหนือครับ
เริ่มวันแรกช่วงเช้าหลังลงเครื่องเราไปเที่ยวกันที่ Nanzoin Temple ช่วงบ่ายเราเดินทางไปเที่ยวและพักที่ Kumamoto
วันที่ 2 เราเดินทางไปเที่ยว บ่อนรกทั้ง 8 ที่ Beppu คืนนี้เราพักที่นี่เพื่อที่จะได้อบทรายร้อนในเช้าวันรุ่งขึ้นก่อนคนอื่น ๆ
วันที่ 3 หลังจากอบทรายร้อน เราเดินทางไปเที่ยว Yufuin กัน ตอนเย็นวันนั้นเรานั่ง Yufuin no mori ไปพักที่ Sasebo
วันที่ 4 เราไปเที่ยว Huis ten bosch แล้วกลับมาพักที่ Sasebo ที่เดิม เนื่องจากใช้เวลาเดินทางเพียง 30 นาที
วันที่ 5 ช่วงเช้าเราไปเที่ยวที่ Nagasaki ช่วงบ่ายเราไปเที่ยววัดที่ Saga แล้วกลับไปพักที่ Hagata เพื่อเตรียมเดินทางกลับ



Wit Sil

 วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.38 น.

ความคิดเห็น