- EP. 11 บันทึกการเดินทางเที่ยว เบตง ดินแดนใต้สุดแห่งสยาม -

ดินแดน 3 จังหวัดเป็นที่ ใครได้ยินชื่อก็เอาแต่ถามว่า “ ไม่กลัวหรอ ”
มันน่าแปลกมากที่หลายคนต่างเกรงกลัวในสิ่งที่เราไม่เคยไปสัมผัส
ศาสนา ผู้คน เชื้อชาติ ความขัดแย้ง ที่ทุกคนปั้นเป็นทฤษฎีขึ้นมา
แล้วถ่ายทอดสู่โลกภายนอก ขอบอกก่อนว่าตัวเราไม่ได้เสพข่าวอะไรมา
เราแค่ได้ยิน เห็นคนพูดถึง แต่ไม่รู้ประวัติความเป็นมา
และสิ่งที่เรารู้ก่อนที่จะไปคือ ที่นี่มันไม่สงบนะ มีชาวมุสลิมเยอะนะ
มีกองกำลังทหาร ยะลาคือใต้สุดของประเทศ พูดถึงเบตงต้องไปกินไก่
นี่เลยรู้แค่นี้เลย

seq9w5m9v89g

มันเลยเกิดความสงสัยว่า “ ทำไมวะ? ”
ทำไมคนถึงกลัวที่นี่ ? ทำไมชาวมุสลิมเค้าเป็นยังไง ?
ทำไมเบตงต้องกินไก่ ? (ตอนแรกคิดว่าเพราะมุสลิมไม่กินหมู ไก่เลยฮิต)
ทำไมต้องมีทหาร ? แล้วอะไรคือสาเหตุของความขัดแย้งนี้ ?
การเดินทางไปเบตงรอบนี้บอกเลยว่า ตื่นเต้นที่สุดตั้งแต่ไปเที่ยวมา
ความรู้สึกมันเหมือนตอนเด็กที่วันพรุ่งนี้เรากำลังจะได้ไปทัศนศึกษา
ทำให้ในหัวเอาแต่คิด จินตนาการ ทำให้เรานอนไม่หลับเลยล่ะ


- เส้นทางการเดินทางไปเบตง 3 วัน 2 คืน -

กรุงเทพ - สนามบินหาดใหญ่ - ขนส่งหาดใหญ่ - รถตู้ไปเบตง - เบตง
- ด่านชายแดนไทย~มาเลเซีย - ประกายทิพย์แคมป์ปิ้ง - ฆูนุงซีลีปัต
- น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 - สะพานโต๊ะปูแช - บ่อน้ำร้อนบ้านนากอ
- เมืองเบตง - หาดใหญ่ - กรุงเทพ

lmb2z102a18f

ถ้าเปรียบความอยากการรู้ตัวว่าตัวเองจะได้ไปเที่ยวเบตง มันคือความอยากขั้นสุดที่เราเคยรู้สึกเลย การเดินทางครั้งนี้ก็ไปกับน้องชาย 2 คน และจู่ๆก็มีเพื่อนทักมาหลังจากเห็นสตอรี่ ig ที่ไปเที่ยวระนองของเรา “ ฟ้า ” เพื่อนที่วิศวะฬ รู้จักกันตั้งแต่ค่ายลำปาง หลังจากนั้นเราก็เจอกันเรื่อยๆอิท่าไหนไม่รู้ฟ้าบอกอยากไปด้วย แล้วจองตั๋วตามทันที เลยกลายเป็นเที่ยวกัน 3 คนแบบ งงๆ

การไปเบตงจากกรุงเทพด้วยวิธีที่เราไม่มีรถส่วนตัว เห็นว่าจะมี 2 ทาง
ทางแรกก็นั่งเครื่องไปลงเบตงเลย (แต่เราไม่มีตังค้าบ)
ส่วนอีกทางก็คือนั่งรถตู้ที่ บขส.หาดใหญ่ไป (ลองไปหารีวิวกันดูนะ)

gmv2vty1yy17

หลังไปถึงบขส.หาดใหญ่ สิ่งแรกที่เราแอบสังเกตได้คือ คนขับรถของบขส.ที่นี่
ปกติเราลงรถที่ขนส่งทีไรจะมีคนเดินปรี่เข้ามาหา ถามไปไหนน้อง
แบบแย่งกันจะเอากูไปให้ได้เลย
แต่ที่หาดใหญ่ให้ความรู้สึกเบานะ เข้ามาถามแบบน่ารักๆ เป็นอาบังซักคน
มาถามแบบแนะนำจริงๆ น้ำเสียงคนใต้อะ ฟังแล้วรู้สึกเพราะ น่าจะเป็นความชอบส่วนตัว แล้วเราก็เดินไปที่ท่ารถตู้ที่หาเบอร์แล้วได้จองเอาไว้เป็นของเบตงโพธิ์ทอง


- เข้าสู่ 3 จังหวัด -

หลังจากนั่งหลับไปเกือบ 1 ชม ก็เริ่มเข้าสู่เขตแดนปัตตานี หลังจากนั้นบอกเลย นอนไม่หลับอีกเลย มันรู้สึกแบบตื่นเต้น อยากเห็นเลยถ้ำๆมองๆข้างทาง จะมีด่านตั้งกั้นถนนแบบซิกแซ็กให้รถชะลอตัว
เรียงแถวเข้าไป แล้วลดกระจกเจอเจ้าหน้าที่ แรกๆก็รู้สึกกลัวนะ จะโดนเรียกไปตรวจอาวุธป่ะวะ ไรงี้
แต่ผ่านไปหลายๆครั้งเข้า ก็เริ่มชิน มันไม่มีไรนี่นา ><

f1xs4egazdvv

ระหว่างทางเราหาเรื่องชวนลุงคนขับรถคุยตลอดเลย ลุงน่ารักมาก การได้นั่งคุยกับเค้าทำให้รู้สึกถึงเสน่ห์การพูดของคนใต้มากๆเลย พูดเร็ว แต่อินเนอร์คือพูดจากใจมันบอกไม่ถูก ถามอะไรก็พยายามตอบเต็มที่ น่ารักอ่ะ และเราก็ได้ไปกับลุงทั้งขาไปและกลับเลย เราก็คุยกันตลอดทางกลับอีกด้วย

0nurm2nt8zav

หลังจากนั่งรถกว่า 3 ชม. พักประมาณ 3 ปั้ม เราก็เริ่มเข้าสู่พื้นที่ป่า ธรรมลายล้อม
จุดเด่นของเบตง ที่นี่จะเรียกจำแหน่งของถนนด้วยหลักกิโลเมตร เริ่มนับ 0 จากเบตงออกมาทางยะลา ซึ่งสาเหตุที่เรียกแบบนี้เพราะ ถ้าเราจะเดินทางเข้าเบตงมีถนนเพียงเส้นเดียวที่จะพาเราไปถึงได้ โคตรเท่

8ffk72fqm1sz

หลังจากถึงเบตงเราก็ทำการหารถมอเตอร์ไซค์เช่า แน่นอนเราไปเที่ยวแบบไม่มีแผนมันก็จะเน้นถามคนแถวนั้นเอา แต่คนเบตงเนี่ยแทบจะรู้จักกันหมดเลยนะ
แค่บอกว่ามาจากนี่ ร้านนี้แนะนำมา ก็คือทั่วถึงการหาที่พัก หรือรถเช่านั้นเลยใช้เวลานิดเดียว


- ใต้สุดแดนสยาม ด่านชายแดนมาเลเซีย -

q6hs6lrajtj1

หลังจากที่พวกเรามีรถ และฝนที่ตกลงมาตลอดของเบตงทำให้เราต้องแว้นพาฟ้าฝ่าสายฝนไปให้เห็นป้ายใต้สุดแดนสยามซะหน่อย ช่วงที่ไปเป็นช่วงเย็นแล้ว
เลยไม่มีคนเลยแม้แต่เจ้าหน้าที่ยังหายหมด งงมาก แต่ก็ private ดีนะ
ได้มีเวลาสัมผัสความรู้สึกชายแดนที่ใกล้ที่สุดเท่าที่เคยไปมาเลย

ด้วยเวลาที่จำกัดที่เราต้องไปถึงทางขึ้นฆูนุงซีลีปัตที่นัดพี่ประกายทิพย์เอาไว้ก่อนมืดซึ่งห่างจากที่เราอยู่ 22 km. และด้วยสภาพอากาศที่ฝนตกเรื่อยๆทำให้การเดินทางของพวกเราต้องค่อยๆไป ทำให้ยังเหมือนมีอะไรติดค้างในใจกับที่แห่งนี้ และคิกว่าอยากกลับไปตรงนี้อีกครั้ง และได้รู้เรื่องราวของจุดๆนี้มากกว่าเดิม


- เป้าหมายที่อยากมาเบตง ทางขึ้นฆูนุงซีลีปัต -

a10wl8z3qywq

ทะเลหมอก ฆูนุงซีลีปัต ชื่อเสียงของที่นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เราตัดสินใจมาเบตง
พวกเราห็มุ่งฝ่าฝนไป เพื่อไปให้ถึงกม.22 จุดนัดพบกับรถที่จะพาขึ้นฆูนุงซีลีปัต ของประกายทิพย์แคมป์ปิ้ง ช่วงเวลานั้นฝนตกหนักจัดเลยเราใช้เวลาในการเดินทางนานกว่าเดิม 2 เท่าเพราะต้องขับช้าๆ แถมใกล้มืดแล้วอีกด้วย

หลังมาถึงทางขึ้นกม.22 บอกเลยว่าต้องสังเกตดีๆ เลยไปไกลเลย 5555
พวกเราจอดรถเช่าไว้ที่ด้านล่างซึ่งเป็นบ้านของเจ้าของแคมป์
และไม่นานก็มีรถรับ-ส่งมารับเรา เส้นทางขึ้นเขานั้นบอกเเลยว่าโคตรชัน โครตรลื่น ไม่ใช่วิบากอย่าฝืนจริงๆเพราะมันคือชีวิต ข้างๆนี่คือเหวเลย ขนาดนั่งรถ 4 wheel ที่มีที่จับดีๆยังเกือบร่วงเลยมันลื่นมากกกกก

p244v2ptn9ux

- ประกายทิพย์แคมป์ปิ้ง อีก 200 เมตรคือยอดฆูนุงซีลีปัต -

hqoifpqy0fmd
จุดกางเต็นท์ ประกายทิพย์แคมป์ปิ้ง

จากตีนเขาขึ้นไปถึงลานกางเต็นท์ประมาณ 5 km. เราไปถึงในสภาพที่เหนื่อยล้า ข้าวก็ยังไม่ได้กิน น้ำก็ไม่ได้อาบ ตัวก็เปียก แถมอากาศยังหนาวและมืดมากอีกด้วย ไอ้ตัวเรากับน้องอ่ะไม่เป็นไรหรอก ผ่านกันมาเยอะแล้ว แต่ฟ้านี่สิ โดนรับน้องแบบโหดๆแต่เริ่มเลย
สงสารฟ้ามาก เราก็พูดกับฟ้าตลอดทาง ขอโทษนะพามาลำบากชัดๆ 555555

oxhf10wsl018

หลังจากถึงที่พัก กับสภาพหิวโซ ข้าวของก็เละเทะ โชคดีพี่เจ้าของได้เตรียมหมูกระทะรอพวกเราไว้ เวลาแบบนี้หมูกระทะหน้าเต็นท์ กับอากาศหลังฝนตกชื้นๆ มันเยียวยาเราได้จริงๆ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การพักผ่อน นั่งโง่ๆ ปิ้งหมูกระทะนั่งคุยกับคนตรงหน้าเราไปเรื่อยๆ

zdsivxjk43vz

พี่เจ้าของเห็นสภาพพวกเราเหนื่อยจัดกันมา เลยมานั่งคุยด้วยอยู่พักใหญ่ ส่วนตัวเราก็เป็นคนเสือกๆ อยู่แล้วเราก็เลยคุยยาวเลยล่ะ เราได้แลกเปลี่ยนกันในหลายๆเรื่องทั้งสถานที่ต่างๆ และผู้คนของที่นี่
จริงๆแอบคาดหวังไว้อยู่แล้วว่ามาครั้งนี้เราอยากเจอผู้คน อยากแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆของที่นี่ และนี่ก็เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีสิ่งที่เราอยากรู้กับเบตงและสามจังหวัดอีกมากเลยล่ะ

l7xxaizlimfl

หลังจากเราพูดคุย กินหมูกระทะกันอิ่ม พี่ประกายทิพย์แนะนำให้เราสามารถไปดูทางช้างเผือกบนยอดฆูนุงซีลีปัต เค้าบอกว่าถ้าฟ้าเปิดแล้วฝนหยุดมันสามารถมองเห็นได้จากตรงแคมป์เลยนะ
แต่เค้าก็ไม่รับประกันนะเพราะฝนเพิ่งหยุด ท้องฟ้าน่าจะปิดมองไม่เห็นอะไร
แต่พอผมฟังเท่านั้นแหละ หันไปถามน้องชายว่า “ ยังไงติ้ง ไปมั้ย ”
แน่นอนระดับพวกเรามันต้องไปสุดอยู่แล้ว ส่วนฟ้าขอพักผ่อนเพราะวันนี้เราน่าจะเหนื่อยกันมามาก


- ท้องฟ้าที่ปิด แลกกับวิวยามค่ำคืนของฆูนุงซีลีปัต -

คำแนะนำของพี่ประกายทิพย์ ทำให้ผมกับน้องตกลงกันว่าเออไหนๆเราก็ ถ่อมาถึงนี่แล้วเราไปให้สุดเลยมั้ย
ไม่ว่าอะไรก็อยากไปดูให้หมด พวกเราจึงรอฝนหยุดประมาณ 4 ทุ่ม เด็กหนุ่ม 2 คน กับไฟฉาย 1 กระบอกเดินขึ้นเขาท่ามกลางสภาพหลังฝนตกที่ไม่รู้ทางอากาศเวลานั้นเต็มไปด้วยไอน้ำ และลมที่พัดตลอดเวลา
ระหว่างทางเป็นหินชันแคบๆมีร่องรอยคนเดินขึ้นทำให้เดินตามได้ไม่ยาก จะมีบางจุดที่ดูชันมาแต่ก็มีเชือกขึงไว้ให้ปีน

0ts7zwujl4kf

ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชม. พวกเราก็ไปถึงยอดที่มองด้วยตาเปล่าสามารถมองเห็นทะเลหมอกวิ่งอยู่ตลอดเวลาได้สวยมาก ไอน้ำที่ถูกหอบมากับสายลมปะทะเข้าที่หน้า ช่วงเวลานั้น คือพูดได้เลยว่าฟินมาก

แต่น่าเสียดายที่เมื่อฝนตก เราก็จะอดเห็นช้างเผือกวันนี้ ในใจก็แอบผิดหวังเล็กน้อยแต่ทางกลับกันเราก็ได้เห็นวิวที่สุดยอดอยู่ตรงหน้าได้ คิดซะว่ามาเปิดแมพก่อนขึ้นมาจริงๆพนแล้วกัน

ตอนนั้นผมคิดในหัวว่าน้องชายผมก็อาจจะมีความรู้สึกเดียวกัน พวกเราสองเรารับรู้ถึงความตื่นเต้นจากร่างกาย ที่จะได้เจอวิวพรุ่งนี้เช้า มันจะสวยงามขนาดไหน และตัดสินใจเดินกลับไปที่พักและอดใจรอวันพรุ่งนี้ 05:00 กับทะเลหมอกที่เค้าว่าสวยที่สุด


ติดตามต่อได้ใน EP.12 ครั้งหนึ่งพวกเราเคยพบกันที่เบตง ช่วงเวลาที่จะไม่มีวันลืม

เขียนโดย : ป.ปลาตัวกลม

ติดตามเรื่องราวของพวกเราได้ที่
Facebook :
เหนียวที่ พี่น้อง
Instagram : nt_phinong
youtube :
https://www.youtube.com/channel/UCQHYzD7wnJRAnpnlv-7jcKw
read me :
https://th.readme.me/id/ppongsakorn

ความคิดเห็น