รีวิวกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน ฉบับสายคาเฟ่ : ) ทริปนี้เป็นทริปจองแบบอาทิตย์เดียวและมาเลย เนื่องจากตั้งแต่ปีใหม่มายังไม่ได้ไปไหนจริงจัง เลยอยากไปพักผ่อนใกล้ ๆ ไม่ไกลจากกรุงเทพ และกาญก็ไม่ได้มานานแล้ว ก็เลยมาลงเอยที่กาญจนบุรีค่ะ เป็นทริปสั้น ๆ พร้อมแล้ว..ลุย!!
จากกรุงเทพมากาญจนบุรีไม่ไกลค่ะ ขับรถแค่ 2 ชั่วโมงนิด ๆ ก็ถึงกาญแล้ว ร้านแรกเรามากันที่ ร้าน Mulberry Mellow เป็นร้านที่ทำให้อยากมาเที่ยวกาญเลย เพราะบรรยากาศดีมาก เต็มสิบไม่หักเลยค่ะ ที่สำคัญคือร้านเหมาะกับยุคโควิค คือเป็นร้านที่โปร่ง โล่งสบาย เหมือนเป็นสวนปิคนิคหลังบ้าน มีระยะห่างแต่ละโต๊ะ เพราะพื้นที่กว้างมาก
เข้ามาคือร้านชิวมาก กว้างมาก สำหรับเราคิดว่าที่นี่เหมาะกับทุกวัยเลยค่ะ มาเป็นครอบครัวก็ได้ เด็ก ๆ มีพื้นที่ จะมากับเพื่อนกับแฟนก็คือได้หมดเลย โชคดีที่ตอนไปคืออากาศเย็นสบาย ยิ่งนั่งไปคือมีลมเย็น ๆ ชิวมาก คือให้นั่งทั้งวันก็ยังได้
ที่ชอบอีกอย่างคือเป็นร้านที่มีทั้งของคาวของหวาน แต่เมนูของหวานจะเยอะกว่าของคาวค่ะ เราสั่งข้าวแกงเขียวหวานไก่กรอบ อร่อยมาก ชอบมาก ไก่กรอบคือถูกต้องกรอบจริง ส่วนของแฟนสั่งสปาเกตตี้ค่ะ แฟนบอกก็อร่อยเหมือนกัน ส่วนเค้กเราสั่งชีสเค้กค่ะ อร่อยมากเหมือนกันไม่หวานกำลังพอดี ส่วนนํ้าเราสั่งนํ้ามัลเบอร์รี่โซดา ส่วนตัวคิดว่านํ้ามันจืด ๆ ไปหน่อย ไม่ค่อยถูกใจ ส่วนแฟนสั่งอเมริกาโน่ก็บอกว่ารสชาติบางๆไม่เข้มเท่าไหร่ ถ้าหักคะแนนก็คงเป็นเรื่องนํ้าค่ะ
ทั้งหมดทั้งมวลยกให้ร้านนี้เป็นร้านที่ชอบมาก เป็นคาเฟ่ที่ชิว ดูเป็นธรรมชาติ คิดว่าถ้าได้มากาญอีก คงมาที่นี่อีกแน่นอน ยังไงใครมากาญจนบุรีก็แนะนำเลยค่ะ บรรยากาศดี อาหารอร่อย ถัดมาไปร้านที่ 2 ต่อเลย คือร้าน The village farm to cafe' เป็นคาเฟ่กาญจนบุรี ที่เราเคยมาแล้ว แต่ก็มาซํ้าเพราะชอบ ขนมอร่อย พื้นที่ร้านกว้างสบาย เป็นแนวคล้าย ๆ ร้านแรก แต่ที่นี่จะมีให้ขี่จักรยานได้ด้วย คิดดูว่าพื้นที่กว้างมาก
เนื่องจากเราอิ่มจากร้านแรกเราก็สั่งเบา ๆ เป็น ไอติมเมล่อน อร่อยมาก ชอบมาก ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเมล่อนนะคะ ต้องลอง ขนมที่เป็นรูปเต่าคืออร่อยมาก แต่อื่มอยู่เลยไม่ได้กิน ส่วนแฟนสั่งอเมริกาโน่เหมือนเดิมเพราะผิดหวังจากร้านแรกนิดหน่อย มาร้านนี้เข้มถูกใจ
เคยมานานมากแล้วยังไม่มีโซน cactus แต่รอบนี้มีโซน cactus เพิ่ม สาวกใครที่ชอบน่าจะถูกใจ เข้าชมได้ฟรีเลยนะคะ และก็ถ้าใครชอบสามารถซื้อกลับบ้านได้ เค้ามีแบบใส่กระถางน่ารัก ๆ ให้พร้อมด้วย
ก็ถือว่าใครมาเที่ยวกาญจนบุรี ก็ควรแวะ The village farm to cafe' เลยค่ะ เพราะเป็นเหมือนร้านอาหาร คาเฟ่ และที่เที่ยวไปในตัวเลย เหมาะกับทุกวัยเหมือนกัน ธรรมชาติสุด ๆ เราใช้เวลาอยู่ที่นี่สักพัก ก็ไปเช็คอินเข้าที่พัก ซึ่งที่พักเราชื่อว่า Monaz river kwai kanchanaburi อยู่ไม่ไกลจากสะพานแม่นํ้าแคว ราคาที่จองมาคือ 2,900 บาท เป็นห้องธรรมดา Deluxe 1คืน ซึ่งทริปนี้เราไม่ค่อยได้ถ่ายรูปที่พักเท่าไหร่ เหมือนใช้นอนอย่างเดียว
ส่วนตัวคิดว่าราคานี้ยังไม่ค่อยคุ้มกับห้องเท่าไหร่ค่ะ แพงไปหน่อยในราคานี้ ต้องขอโทษด้วยที่ไม่มีรูปห้องให้ดูลืมถ่าย ถามว่าแย่มั้ยคือไม่ได้แย่มากแต่ราคาอาจจะแพงเกินคุณภาพไปหน่อย ข้อเสียคือประตูห้องเวลาเปิดเสียงดังมากแบบขูดไปกับพื้น เพราะที่นี่เป็นลักษณะ Loft ห้องข้าง ๆ มาเป็นแก๊งค์เปิดประตูเข้าออกคือนอนไม่ค่อยได้เลย และห้องไม่ค่อยเก็บเสียงหรือข้างห้องเสียงดังก็ไม่รู้ T^T
แต่ที่ชอบเลยคือพื้นที่ส่วนกลางสระว่ายนํ้า สวยแสงดี เป็นสิ่งที่ทำให้แฮปปี้กับที่นี่ และก็โดยรวมที่นี่เงียบสงบดี ที่พักฟีลธรรมชาติต้นไม้เยอะ พนักงานน่ารัก ส่วนอาหารเช้าก็เป็นเหมือนโรงแรมทั่วไป แต่ที่นี่ข้าวต้มอร่อย ส่วนตัวคิดว่าถ้าราคาถูกกว่านี้ ก็น่าจะแฮปปี้กว่านี้ค่ะหลังจากเก็บกระเป๋าเข้าที่พักแล้ว นอนพักเอาแรงก็เย็น ๆ พอดีเราไปกันต่อที่คาเฟ่ วอน-แด-ซอง 원 대 성 เป็นคาเฟ่เกาหลีในกาญจนบุรี มีค่าเข้าคนละ 70 บาท สามารถแลกเป็นส่วนลดนํ้าอาหาร หรือเช่าชุดฮันบกได้ค่ะ ที่นี่ค่อนข้างไกลเหมือนกัน และทางเข้าก็มีความลำบากถนนไม่ดี
ส่วนตัวเราไม่ได้กินอะไรนะคะ ซื้อตั๋วเข้าชมอย่างเดียว เพราะจะไปกินข้าวเย็นที่ร้านอาหาร เลยเดินถ่ายรูปเล่นเฉย ๆ ถ้าจะมาที่นี่แนะนำว่ามาตอนช่วงเย็น ๆ ดีกว่า กลางวันน่าจะร้อนมาก
ที่นี่สามารถเช่าชุดฮันบกให้เข้ากับบรรยากาศได้นะคะ เห็นรีวิวก่อนมาก็ถ่ายรูปออกมาสวยดี แต่สำหรับเราค่อนข้างเฉย ๆ ค่ะ ไม่ได้ว๊าวอะไรมากมาย ต้นไม้ด้านหน้าก็มีแบบแห้งเหี่ยวบ้าง มุมถ่ายรูปบางจุดถ่ายออกมาก็สวยเลย แต่บางจุดก็รู้สึกมันไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ก็เลยไม่ได้ถ่ายมา
ส่วนตัวที่นี่ถ่ายรูปออกมาก็เกาหลีเกาใจดีค่ะ เห็นคนแต่งชุดฮันบกถ่ายกันก็น่ารักดี แต่ส่วนตัวสำหรับเราก็ไม่ได้ถึงกับชอบมาก เฉย ๆ อาจจะด้วยมาไกลทางเข้าลำบากนิดนึงด้วย ยังไงใครมากาญจนบุรีก็อาจจะลองมาดูก็ได้ค่ะ พอให้หายคิดถึงเกาหลีได้บ้าง ถัดมาเรามากินข้าวเย็นกันที่ร้าน คีรีธารา ร้านอาหารร้านดังในกาญจนบุรี มองเห็นวิวสะพานแม่นํ้าแควเลย บรรยากาศดีมาก ๆ
นอกจากบรรยากาศดีที่นี่อาหารอร่อยค่ะ เรามา 2 คนสั่งมา 4 อย่างอร่อยทุกอย่าง ที่ชอบเลยถุงทอง อร่อยมาก กรอบมาก และก็ปลาจำชื่อไม่ได้แต่เป็นอาหารแนะนำของทางร้าน อร่อยมากชอบมากเหมือนกัน และก็ราคาไม่แพงค่ะ
นั่งกินไปมองวิวสะพานแม่นํ้าแควไป สามารถมองเห็นจากทางร้านได้เลย สรุปคือวิวดี อาหารอร่อยแนะนำเลยค่ะ กินเสร็จแล้วก็แวะเดินเล่นถ่ายรูปสะพานได้ ช่วงที่ไปคนไม่เยอะเท่าไหร่ แม่ค้านั่งเหงา ๆ เลย อาจจะด้วยสถานการณ์โควิค
หลังจากกินอื่มแล้วก็กลับที่พักเลยค่ะ ไม่ไปไหนต่อ ไปนอนเล่นชิว ๆ ที่โรงแรม Zzzz จบวันแรกเช้าวันที่ 2 ตื่นมากินข้าวเช้าที่โรงแรม แพลนวันนี้แวะคาเฟ่และก็กลับเข้ากรุงเทพเลยค่ะ ไม่มีอะไรมาก เมื่อวานไปเกาหลีแล้ววันนี้ไปญี่ปุ่นบ้าง ที่ Kan machi cafe เป็นคาเฟ่สไตส์ญี่ปุ่น มากาญจนบุรีเหมือนได้ไปเที่ยวต่างประเทศเลย ทั้งเกาหลีทั้งญี่ปุ่น
ใครคิดถึงญี่ปุ่นต้องมาที่นี่เลย การตกแต่งร้านรวมไปถึงอาหารคือญี่ปุ่นมาก รับรองว่าคลายความคิดถึงญี่ปุ่นได้บ้าง ถ่ายรูปออกมาน่ารักสุด ๆ และก็เมนูที่นี่เยอะเหมือนกัน มีทั้งอาหารคาวหวาน เครื่องดื่มมีหลากหลาย ขนมมีแต่น่ากิน
ส่วนตัวชอบไดฟุกุอร่อยมาก ชาเขียวร้อนใส่นมก็คือดีงาม ขนมปังปลาก็อร่อย ชาเขียวก็ดีงาม แต่ชูครีมหวานไปนิด
โดยรวมที่นี่โอเคเลยค่ะ เหมาะกับสายถ่ายรูป แต่พื้นที่ร้านไม่ได้ใหญ่มากนะคะ แนะนำมาตอนร้านเปิดคนไม่เยอะ
และนี่ก็คือทริปกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน ที่กาญจนบุรี ทริปสั้น ๆ ค่ะ เน้นเที่ยวคาเฟ่ถ่ายรูปตามสไตส์ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ หวังว่าจะชอบกัน ถ้ามีโอกาสก็อยากจะไปเที่ยวสังขละบุรีบ้าง แต่ด้วยความที่ไกลมาก ก็เลยอาจจะต้องหาเวลาก่อน ยังไงใครมีประสบการณ์ไปมาแล้วมาแชร์กันได้นะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
Puifaikamon
วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 21.10 น.